บทที่ 41 เลือกผู้โชคดีสองคน!
หญิงสาวในชุดเขียวยืนพิงต้นไม้พร้อมกับดาบยาวในอ้อมแขนของนาง
ผมของนางมัดเป็นหางม้าสูง ส่วนที่เหลือก็ปล่อยสยายลงมาข้างหู ดวงตาของนางหลุบลงและไม่มีทีท่าว่าจะสนทนากับใคร
ซ่งชิงซงมองไปที่นางและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าไม่ได้คาดหวังว่านางฟ้าเยว่จะมาด้วย ศาลาหมื่นดาบเองก็สนใจอาณาจักรลับนี้ด้วยหรือ?”
“อะไร? หรือพระราชวังเต๋าสูงสุดของเจ้ามาได้แต่ศาลาหมื่นดาบของข้ามาไม่ได้?” หญิงสาวในชุดเขียวไม่ได้เงยหน้าขึ้น และน้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความเป็นปรปักษ์
ร่องรอยของความไม่พอใจวาบผ่านดวงตาของซ่งชิงซง แต่เขายังคงยิ้มและพูดว่า “นางฟ้าเยว่ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว อาณาจักรลับเต็มไปด้วยอันตราย ดังนั้นข้าจึงรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อมีเจ้าอยู่ที่นี่”
หญิงสาวชุดเขียวไม่พูดอะไรอีก
ซ่งชิงซงเองก็ไม่มีความตั้งใจที่จะสนทนาเล็กๆน้อยๆอีกต่อไป เขาหันศีรษะไปและพูดว่า “คราวนี้ อาณาจักรลับสามารถรองรับได้มากถึงสิบคน และสิบคนก็อยู่ที่นี่แล้ว”
ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินเรื่องนี้
นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่ง พวกเขาสามารถเข้าสู่อาณาจักรลับในสภาวะที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
อาณาจักรลับเต็มไปด้วยอันตราย นอกเหนือจากการเผชิญหน้ากันโดยบังเอิญแล้ว พวกเขายังต้องระวังอันตรายที่ซ่อนอยู่อีกด้วย ไพ่ตายที่เพิ่มขึ้นหนึ่งใบจะเป็นหลักประกันเพิ่มเติมสำหรับพวกเขา
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราทุกคนที่นี่มาจากเส้นทางที่ชอบธรรม ไม่มีนิกายปีศาจอยู่ที่นี่ นับเป็นพรที่ยิ่งใหญ่จริงๆ” ซ่งชิงซงกล่าว
“ใช่แล้ว พวกเราล้าวนมาจากเส้นทางเดียวกัน”
“อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนแทงข้างหลัง”
“เราสามารถติดตามผู้นำอย่างพี่ซ่งได้อย่างสบายใจ”
“พี่ซ่งจะปกป้องทุกคนอย่างแน่นอน”
คนอื่นล้วนเห็นด้วยกับเขา
ซ่งชิงซงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ถ้าเช่นนั้นก็รอจนกว่าอาณาจักรลับจะเปิดออก...”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ พื้นดินก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ลมพัดหวีดหวิวขณะที่ต้นไม้ถูกถอนรากถอนโคน ร่างกายของทุกคนสั่นสะเทือนเล็กน้อย
“ช่างเป็นพลังวิญญาณที่ไร้ขอบเขต!” หญิงสาวในชุดเขียวเงยหน้าขึ้นทันที
ฟิ้ววว!
เงาดำปรากฏขึ้นตามด้วยลมพัดแรง
“ระวัง!”
ทุกคนรีบหลบ และเงาดำก็ตกลงบนพื้นเสียงดัง ทำให้เกิดฝุ่นจำนวนมาก
“อะไร?”
เมื่อฝุ่นผงกระจายไป เงาดำก็เผยโฉมออกมา
มันคือพยัคฆ์เพลิงอัคคี
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ร่างกายของมันหดตัวลง กระดูกของมันแตกเป็นเสี่ยงๆ และมันก็ใกล้จะถึงแก่ความตายแล้ว
“นี่คือสัตว์อสูรขอบเขตแก่นทองคำ ใครกันที่มีความแข็งแกร่งมหาศาลเช่นนี้?” มีคนพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
ซ่งชิงซงขมวดคิ้ว “เป็นไปได้ไหมว่าอาณาจักรลับได้เปิดออกแล้วและมันก็ไปกระตุ้นราชาอสูรในส่วนลึกของป่า?” สิ่งแรกที่เขาคาดเดาคือราชาอสูรเป็นคนกระทำ
ถ้าเป็นฝีมือผู้บ่มเพาะ คนๆนั้นคงจะน่ากลัวเกินไป
ขณะที่ทุกคนกำลังคุยกัน จู่ๆหญิงสาวชุดเขียวก็พูดว่า “มีใครบางคนอยู่ที่นี่”
“หือ?”
พวกเขาหันตามทิศทางของพยัคฆ์เพลิงอัคคี และเห็นคนสองคนกำลังเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
ฝ่ายชายนั้นสูงและหล่อเหลา ส่วนอีกคนถูกห่อด้วยชุดคลุมสีขาว หมวกชุดคลุมของนางถูกลดระดับลงและพวกเขาไม่สามารถมองเห็นรูปร่างหน้าตาของนางได้อย่างชัดเจน พวกเขาเพียงบอกได้จากระยะไกลว่านางเป็นสตรี
“พระเจ้า เขาเป็นคนเตะมันมาไกลขนาดนี้?”
หลี่หรานเดินไปข้างหน้าและก้มตัวลง เขายื่นมือออกไปเพื่อคว้าตัวพยัคฆ์เพลิงอัคคี
ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความกลัวขณะที่มันพยายามดิ้นรนเพื่อหลบหนี อย่างไรก็ตาม กระดูกทั่วร่างของมันแตกเป็นเสี่ยงๆและไม่สามารถออกแรงได้เลย
มันหมอบลงบนพื้นและส่งเสียงครวญครางราวกับว่ากำลังร้องขอความเมตตา มันไม่หลงเหลือท่างทางของสัตว์อสูรขอบเขตแก่นทองคำแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บของมันรุนแรงเกินไป และกลิ่นอายของมันก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ จนในที่สุดแสงก็หายไปจากดวงตาของมัน
หลี่หรานส่ายหัว “ถ้าเจ้าถอยไปก่อนหน้านี้ก็คงดีกว่าแท้ๆ?”
เมื่อเห็นฉากนี้ทุกคนก็ตื่นตระหนก
เห็นได้ชัดว่าพยัคฆ์เพลิงอัคคีตัวนี้ตายด้วยน้ำมือของเขา อย่างไรก็ตาม เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้แก่ขนาดนั้น มันเป็นไปได้อย่างไร...
“ขะ...เขาเตะมันจนตาย?” พวกเขารู้สึกหนาวเหน็บอยู่ภายใน
หลี่หรานยืนขึ้น “โอ้ ช่างมีชีวิตชีวาเสียนี่กระไร พวกเจ้าทุกคนกำลังรอเข้าสู่อาณาจักรลับใช่หรือไม่?”
หัวใจของทุกคนแทบจะกระโดดออกมาจากอก
‘เขามาเพื่อเข้าสู่อาณาจักรลับ?’
แต่พวกเขาไม่เหลือที่ว่างแล้ว!
ในขณะนั้นเอง ซ่งชิงซงก็ป้องมือของเขาและพูดว่า “ข้าเป็นศิษย์สายตรงของพระราชวังเต๋าสูงสุด ซ่งชิงซง ข้าขอทราบนามที่โดดเด่นของท่านได้หรือไม่?”
“วิหารโหยวหลัว หลี่หราน” หลี่หรานพูดอย่างสบายๆ
“อะไรนะ?”
“เจ้าคือหลี่หราน?!”
ฝูงชนเริ่มร้อนขึ้นทันทีและทุกคนก็ถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าว
แม้แต่หญิงสาวชุดเขียวที่อยู่ข้างๆก็ยังเบิกตากว้างขณะที่นางจ้องมองหลี่หราน
‘เป็นเขาจริงๆ!’
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาคือเซิงจื่อของนิกายปีศาจ ผู้มีพรสวรรค์เป็นพิเศษ
เด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดผู้มีการบ่มเพาะขอบเขตแก่นทองคำ เขาคือการดำรงอยู่ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนอันกว้างใหญ่
ทันทีที่เขาบอกว่าไม่มีใครจากนิกายปีศาจมา คนที่โหดเหี้ยมที่สุดก็ปรากฏตัวขึ้น?
“แย่แล้ว...”
ลำคอของซ่งชิงซงรัดแน่นขึ้น เขาก้าวถอยหลังและเห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการเริ่มการต่อสู้ที่นี่
หลี่หรานไม่สนใจ “ยังมีที่วางไหม?”
“ไม่...” เซียวชิงเกอที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “คราวนี้อาณาจักรลับสามารถรองรับคนได้เพียงสิบเท่านั้น แต่มีสิบสองคนอยู่ที่นี่แล้ว”
นางไม่คาดคิดเลยว่าอาณาจักรลับจะดึงดูดผู้คนมากมายขนาดนี้ และพวกเขาทั้งหมดเป็นอัจฉริยะของนิกาย!
พระราชวังเต๋าสูงสุด ซ่งชิงซง, ศาลาหมื่นดาบ เยว่เจียนหลี่, ลัทธิเต๋า มู่หรงฉวน...
โดยเฉพาะอย่างยิ่งซ่งชิงซง พวกเขาเคยเป็นศิษย์ในนิกายเดียวกัน หากสถานะปัจจุบันของนางถูกเปิดเผย นางจะประสบปัญหาใหญ่
นางรัดเสื้อคลุมให้แน่นขึ้นและก้มศีรษะลงต่ำกว่าเดิม
“นั่นเป็นเรื่องง่าย”
หลี่หรานยิ้มและพูดว่า “เลือกผู้โชคดีสองคนแล้วปล่อยให้พวกเขากลับไปที่นิกาย”
//////////