บทที่ 11 การดักซุ่มโจมตีครั้งแรก หวังปลิดชีพกลางสายฝน
เวลาผ่านไป 9 ปีไวราวกับชั่วพริบตา ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น
ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา หลู่บูเว่ยพยายามยับยั้งตัวเองอย่างมากในการแสดงเจตนาต้องการกำจัดฝูซู
ถ้าไม่ใช่เพราะมีเตียนอุยคอยปกป้องฝูซู และตัวเขาฝึกจนมีศิลปะกาารต่อสู้ที่ไว้ปกป้องตัวเองได้ เขาคงตายไปนานแล้ว
ฝูซูจำวันนั้นได้ ที่เขาถูกลอบฆ่าเป็นครั้งแรกในชีวิตได้
ในวันนั้นฝนตกปรอยๆและเป็นตลอดทั้งวัน เนื่องจากฝนตกทำให้ทหารลาดตระเวนในพระราชวังน้อยกว่าปกติมากและจำนวนรอบการลาดตระเวนก็ลดลง
ในวันนั้นเขาพาเตียนอุยและชีซีไปที่วังฮั่วหยวนอีกครั้ง แต่สิ่งที่เขาคาดคิดก็คือมีกลุ่มคมกำลังดักซุ่มอยู่บนถนน
มือสังหารจำนวน 7-8 คนเข้าไปรุมต่อสู้กับเตียนอุย มีมือสังหาร2คนไปล้อมกับชีซี
และมือสังหารอีก 2 คน คนหนึ่งได้เหวี่ยงมีดบินไปที่ฝูซูโดยตรง
เตียนอุยและชีซีไม่คิดว่ามือสังหารจะเตรียมการมารับพวกเขาอย่างดี ทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจมากเหมือนคิดถึงความหลอดภัยของเจ้านายเขา
โดยเตียนอุยเขาถืออาวุธประจำง้าวคู่กระหายเลือดไว้ในมือทั้งสองข้าง และเปิดใช้ทักษะการต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง
แต่เหล่ามือสังหารถูกฝึกมาอย่างดี ต่อสู้อย่างไม่กลัวตายและพวกเขาเมินเฉยต่ออบาดแผลบนร่างกายของพวกเขา
ชีซี ก็กำลังโกรธเช่นกันและดึงดาบที่เขาพกไว้ออกมา มันคือ ดาบจงเจิ้ง
ระบบไม่ได้มอบดาบเสียดฟ้านี้ให้ชีซี แต่ฝูซูหยิบมันมาจากคลังสมบัติของพระราชวัง
ตั้งแต่ปรากฏมาที่โลกนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ชีซีชักดาบออกมาต่อสู้และเป็นครั้งแรกที่เขาปล่อยจิตสังหารและต้องการจัดการศัตรูตรงหน้าทั้งหมด
ชีซีเริ่มใช้วิชาดาบจงเจิ้ง หวู่หลิง และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงวิชาดาบที่เขามีให้ได้รับชม
ชีซี เป็นต้นแบบของจื่อฟาง มีความสามารถในยุทธศาสตร์และวรยุทธ์และเป็นศิษย์ของสุมาเต็กโชเป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกับขงเบ้ง
วิชาดาบของชีซีเป็นเลิศด้านการป้องกัน
“แข็งแกร่งมาก”
เมื่อมองไปที่ฝีมือดาบของชีซี พวกมือสังหารรู้ว่าประเมิณความแข็งแกร่งของชีซีต่ำเกินไป
และนั่นเป็นเหตุอย่างหนึ่งในความล้มเหลวของการลอบสังหารครั้งแรกนี้
และความล้มเหลวอย่างที่สอง คือการประเมิณความแข็งแกร่งของฝูซูต่ำไป ตามรูปลักษณ์ภายนอกของเขา
เมื่อมอองไปที่มือสังหารสองคนที่เข้ามาหาฝูซูโดยสวมหน้ากากปิดบังหน้าตาไว้
ฝูซูดึงกริซที่ซ่อนไว้ในร่างกายของเขา เนื่องจากสถานการณ์ความเป็นความตายตรงหน้า เขาไม่มีทางเลือกต้องเผยความสามารถที่แท้จริงของเขาออกมา
เคล้ง! ออร่าปราณอันทรงพลังโพยพุ่งออกมาจากร่างของฝูซู และกำลังก่อตัวเป็นกำแพงบางๆรอบตัวของฝูซู
แม้ว่าคนธรรมดาจะมองไม่เห็นกำแพงบางๆนี้ แต่พวกมือสังหารรู้สึกได้อย่างชัดเจน
เพราะเม็ดฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้า กระเด็นออกจากร่างกายของฝูซูโดยไม่มีเม็ดฝน ตกไปบนร่างกายของเขา
ฝูซูจ้องมองไปที่มือสังหารทั้งสองคนและจักพรรดิมังกรแห่งจักรราศีในร่างกายของเขา ก็ปรากฏออกมาราวกับว่ามีมังกรทองกำลังปกป้องฝูซูอยู่
จักพรรดิมังกรแห่งจักรราศี มีทั้งหมด 15 ขั้น ซึ่งแบ่งเป็น12 นักษัตรและ 3อาณาจักรแห่งจักรพรรดิและมังกร
การทลายขั้นทั้งสามของจักรพรรดิและมังกรสามารถอยู่เหนือพันธนาการของโลก ทำลายโลกา ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว นิพพานทำลายชีวิตและความตาย ความความลึกลับ สีทองเป็นอมตะ
12 นักษัตรแห่งจักรราศี ได้แก่ ราศีเมษ,ราศีพฤษภ,ราศีเมถุน,ราศีกรกฏา,ราศรีสิงห์,ราศีกันย์,ราศีตุลย์,ราศีพิจิก,ราศีธนู,ราศีมังกร,ราศีกุมภ์ และราศีมีน ซึ่งมาจาก 12จักรราศี
ทุกครั้งที่ฝูซูทะลวงขั้น เขาจะได้รับพลังลึกลับบางอย่าง
ตัวอย่างเช่น ในสถานะราศีเมษพลังวิญญาณของฝูซูสามารถเพิ่มขึ้นได้ทำให้เขาไม่มีวันลืมเลือนและสถานะราศีพฤษภพลังของฝูซูสามารถเพิ่มขึ้นได้ ทำให้มีพละกำลังอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
12 นักษัตรสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งของฝูซูในทุกด้านและสร้างจักรพรรดิมังกรที่แข็งแกร่งที่สุด
และถ้าบรรลุขั้นทั้งสาม นั้นยิ่งทำให้เขาแข็งแกร่งเทียบเท่ากับบุคคลที่สร้างตำนานต่างๆในประวัติศาสตร์
ขั้นที่หนึ่งแห่งชีวิตและความตาย ขั้นที่สองเป็นอาณาจักรแห่งละซึ่งกิเลส และขั้นที่สามเป็นอาณาจักรแห่งละเว้น ปล่อยวาง
หลังจากฝึกฝนมาหลายปีฝูซูได้มาถึงจักรราศีพฤษภ เดิมที่เขาไม่มีพละกำลังมากพอจะกวัดแกว่งดาบจริงและสามารถใช้ได้แค่ดาบไม้เท่านั้น
เมื่อเขาทะลวงผ่านจักรราศีพฤษภ เขาก็สามารถถือดาบเหล็กจริงๆได้
“ฆ่า”
แม้มือสังหารทั้งสองคนจะตกใจกับออร่าและปราณที่แข็งแกร่งของฝูซู แต่พวกเขาก็ไม่สนเปรียบดั่งหน้าที่ได้รับมา สำคัญกว่าชีวิตของพวกเขา
ทั้งสองไม่มีการสื่อสารใดๆ พวกเขารีบพุ่งตรงเข้ามา ทางซ้ายคนหนึ่งและทางขวาคนหนึ่ง
“ฮึ่ม”
ดวงตาของฝูซูเฉียบคม ไม่มีความกลัวใดๆ ครั้งนี้เขาต้องการทดสอบสิ่งที่เขาได้ฝึกฝนและเรียนมารู้มาหลายปี นั้นคือ วิชาดาบสามจักรพรรดิ
เมื่อเล็งเป้าหมายที่จะโจมตีแล้ว ฝูซูก็ยกดาบยาวในมือขึ้นและพุ่งไปหาเป้าหมายที่เล็งไว้ทันที
“วิชาดาบสามจักรพรรดิ—ทักษะกวาง” ฝูซูคำรามและกวางสีทองปรากฏขึ้นข้างหลังเขา
ฟิ้ว! กระแสพลังแห่งดาบพวยพุ่งออกมาจากปลายดาบ กำลังวาดวิถีในอากาศ
“ยังไม่ดีพอ”
ฝูซูขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาพบว่าตัวเขาดูเหมือนใส่พลังมากเกินไป การโจมตีนี้ใช้ปราณจักรพรรดิราขันมังกรแห่งจักรราศีในร่างกายของเขามากเกินไป
อย่างไรก็ตามการเคลื่อนที่ของดาบ ได้รับการเสริมจากปราณภายในร่างที่ทรงพลังนั้นไม่ธรรมดาจริงๆและโจมตีมือสังการทั้งสองโดยตรงด้วยปราณ ทำให้พวกเขาไม่สามารถหลบเลี่ยงได้
ดาบยาวในมือของมือสังหารทั้งสองและระเบิดออกเป็นแสงจ้า
แม้ว่ามือสังหารจะใช้เวลาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มามานานหลายทศวรรษ
แต่ไม่อาจเทียบกับปราญจักรพรรดิมังกรแห่งจักรราศี แม้กระทั่งวิชาดาบของมือสังหารก็ไม่อาจเทีนยเท่ากับวิชาดาบสามจักพรรดิอีกด้วย แม้พวกเขาจะฝึกฝนมาหลายปีแล้ว
อาวุธของมือสังหารแตกออกเป็นเสี่ยงๆและทั้งสองก็กระเด็นออกไปและล้มลงกับพื้นอย่างแรงมากขนาดมีอวัยวะภายในร่างบาดเจ็บหนักเลยทีเดียว
ตุบ!
เมื่อมองไปที่มือสังสองคนที่ล้มลงกับพื้น ฝูซูก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่ในขณะนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรงกำลังโอบล้อมตัวเขาไว้ ฝูซูเสียวหลังวาบและรีบหลบไปด้านข้าง แต่ก็ฝูซูก็ยังเชื่องช้าไป
ฝูซูรู้สึกถูกแรงอัดที่ทรงพลังกระทบที่ไหล่ของเขา จากนั้นเขาก็กระอักเลือดออกมาและพยายามกลิ้งออกจากจุดที่อยู่
และข้างหลังฝูซูก็ปรากฏชายชราที่มีเคราแพะ ในเวลานี้ฝูซูเหลือบมองไปที่ชายชรา
“ไม่คิดว่าท่านจะส่งปรมจาร์ยมาเพื่อฆ่าฉันโดยเฉพาะ เป็นเกียรติยิ่งนัก”