ตอนที่แล้วตอนที่ 664 แผนการของถังเทียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 666 ถังเทียนปรากฏตัว

ตอนที่ 665 พรจากอูหวังไห่


หลังจากเข้าไปในภูมิภาคกระแสพลังงานใต้  ถังเทียนรู้สึกว่าสายตาของเขามืดมิด

หลายคนมีกลุ่มไฟคลุมรอบตัวพวกเขาปรากฏในสายตาของเขา  ทุกคนดูเหมือนมีท่าทีหวาดกลัว  กลุ่มแสงดูมีเสถียรภาพมาก  แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง  ถังเทียนต้องการหัวเราะ

“เมื่อพวกเจ้าแข็งแกร่งขึ้น  พวกเจ้าสามารถมาฝึกที่นี่ได้”

จู่ๆถังเทียนก็พูดคำที่เกินกว่าที่ใครจะคาดหมาย

เสี่ยวเอ้อบินออกมาจากร่างถังเทียน  เขามองรอบๆ ตัวเขาด้วยความสงสัย ครั้งสุดท้ายที่ถังเทียนเข้าภูมิภาคกระพลังงานใต้ เขากำลังฝึก  พลังงานในภูมิภาคกระแสพลังงานใต้มีความพิเศษอย่างยิ่ง ดูไปก็คล้ายกับเพลิงดำมิติว่างแต่หลากหลายมากกว่า  แต่สำหรับเขา นี่เป็นสถานที่ดีสำหรับการฝึก  เขาชักกระบี่เซียนปราบสมุทรออกมา  กระบี่เซียนปราบสมุทรบินอยู่ในกระแสพลังงานที่ยุ่งเหยิงเหมือนกับปลาได้น้ำบางครั้งก็ปล่อยเสียงร้องออกมา

กระบี่ดื่มเลือดเซียนก็เปล่งเสียงสั่นอยู่ในมือของจิ่งหาว  เหมือนกับว่ามันดูถูกกระบี่ปราบสมุทร

ศิษย์จากสามตระกูลลืมตากว้าง  พวกเขาไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นมาก่อนกระบี่ที่ดูเหมือนจะมีจิตใจเป็นของตนเองเหมือนกับว่ามันมีชีวิต

กระบี่เซียนปราบสมุทรพอถูกเย้ยหยันก็ระเบิดเพลิงดำออกมา เพลิงดำมิติว่างสีดำสนิทเปลี่ยนสภาพเป็นมังกรเพลิงดำหลายตัวซึ่งมีความดุร้ายมากกำลังเต้นไปรอบๆอย่างคึกคะนอง

รังสีฆ่าฟันครอบคลุมทุกคนไว้ทำให้หน้าของศิษย์ประจำตระกูลเต็มไปด้วยความตกใจ

เป็นไปได้ยังไงที่กระบี่ดื่มเลือดเซียนจะยอมรับเรื่องแบบนั้นได้?  โกรธเพราะถูกยั่วยุแถวตัวหนังสือสีแดงบนตัวกระบี่สีดำ “พอใจแต่เลือดเซียน” เป็นคำที่มีเสน่ห์และสว่างและในเวลาเดียวกันก็มีกลิ่นคาวเลือดเต็มไปทั่วบริเวณ เหมือนกับว่าพลังปั่นป่วนสีดำในภูมิภาคกระแสพลังใต้ถูกย้อมเต็มไปด้วยเลือด

ศิษย์ของตระกูลตกใจหน้าขาวซีดทันที พวกเขาไม่เคยเห็นกระบี่ที่ดุร้ายและรุนแรงเช่นนั้น  นอกจากนี้ยังมีถึงสอง!

เสี่ยวเอ้อมองดูกระบี่ดื่มเลือดเซียนในมือของจิ่งหาว  เขารู้ว่านั่นเป็นกระบี่ที่ข่มขวัญ แต่เขาไม่เคยคิดว่ามันจะสามารถข่มกระบี่เซียนปราบสมุทรได้  แม้ว่ามันจะวิวัฒนาการแล้วก็ตาม  แต่ถ้ามองดูอย่างระมัดระวังแล้ว ก็จะตระหนักได้ว่าที่หน้าผากมังกรบินรอบๆกระบี่เซียนปราบสมุทรมีรอยประทับสีรุ้งจางๆซึ่งนั่นก็คือเพลิงกลืนวิญญาณนั่นเอง

กระบี่ที่โหดร้ายเล่มหนึ่งกำลังจะต่อสู้กับกระบี่เดือดเลือดเซียน

เสี่ยวเอ้อฝึกกระบี่และปกติก็ชื่นชอบกระบี่ แม้ว่ากลิ่นคาวเลือดบนกระบี่จะไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบ  แต่สำหรับกระบี่ที่มีวิวัฒนาการระดับนั้นมันมีอดีตอันรุ่งเรืองอย่างแน่นอน

แต่ลักษณะของพลังงานภายในภูมิภาคกระแสพลังงานใต้มีความคล้ายคลึงกลับเพลิงดำมิติว่างและสำหรับกระบี่เซียนปราบสมุทรมันได้รับประโยชน์มากเสี่ยวเอ้อคิดได้ทันทีว่ากระบี่เซียนปราบสมุทรอาจมีวิวัฒนาการได้เป็นครั้งที่สอง

กระบี่ทำตามความคิดของเขา มังกรดำสองสามตัวรอบกระบี่เซียนปราบสมุทรอ้าปากของมัน

ซี่.....

พลังงานที่อันตรายและทรงพลังภายในพื้นที่กระแสพลังงานใต้ทะลักเข้าไปในปากมังกร  เพลิงดำมิติว่างได้รับการเสริมพลังทันทีมันมืดมนลงทันที แม้แต่ตัวกระบี่ก็ดูเหมือนจะถูกเปลวเพลิงล้อมเอาไว้

**************************

ห่างไกลออกไปในมิติของเพลิงดำมิติว่าง อูหวังไห่ลืมตาขึ้น หน้าของเขาเต็มไปด้วยอาการตกใจ

เรือนจำสมุทรดำที่อยู่ใต้ร่างของเขาถูกสร้างมาจากเพลิงดำมิติว่าง  บึ้มมมม..เสาเพลิงสีดำปรากฏด้านหลังเขายิงขึ้นไปบนฟ้า หลังจากนั้นก็มีเสาเพลิงยิงออกมาจากมิติว่าง

เหมือนกับว่าเรือนจำดำกำลังตกอยู่ในความปั่นป่วน

‘ศิษย์ข้า,  เพราะเจ้ามาถึงระดับนี้นี่เอง...’

อูหวังไห่รู้สึกสูญเสีย

กระบี่เซียนปราบสมุทรถูกชักออกมาจากคุกสมุทรดำที่กว้างไกลไร้ขอบเขต  เมื่ออูหวังไห่ได้เป็นเซียนคนหนึ่ง เขาใช้เพลิงดำมิติว่างของคุกสมุทรดำสร้างเป็นกระบี่เล่มหนึ่งมอบวิญญาณให้มันและวิญญาณของเขาเองก็จำเป็นต้องอยู่โยงปกป้องภายในคุกสมุทรดำที่ไร้ขอบเขต  เขาเรียกว่ายืนปกป้อง แต่ก็คล้ายกับการถูกจองจำ

เมื่อไม่กี่สิบปีก่อนมีใครบางคนทำลายช่องว่างและเข้ามาขอร้องเขาเพื่อหาเบาะแสการสร้างกระบี่เซียนปราบสมุทร

เขาเป็นคนที่ค่อนข้างน่าสนใจ  ดังนั้นอูหวังไห่จึงตอบตกลง

อูหวังไห่รู้ว่าคนผู้นั้นไม่เพียงแต่ขอร้องเขาเพื่อปณิธานของกระบี่เท่านั้น  เพราะภายในที่ซึ่งไม่เคยเห็นดวงตะวันแนวคิดกระบี่เซียนมากมายถูกผนึกไว้ เด็กหนุ่มที่เงียบสงบนั้นเป็นศิษย์ที่ดีมากได้รับความชื่นชอบจากอูหวังไห่ เขายังคงเป็นบุรุษหนุ่มที่น่าสงสารซึ่งแบกความรับผิดชอบรับภารกิจที่สำคัญ  ด้วยเหตุนี้เขาจึงทุ่มเทให้คำแนะนำกับบุรุษหนุ่มนี้  บุรุษหนุ่มนี้ไม่รานความคาดหวังของเขา  เขาก้าวหน้ารวดเร็วราวกับเทพยดา

มีศิษย์ที่โดดเด่นอย่างนั้นรับตกทอดมรดกวิชาของเขา พันธนาการตัวเขาเองภายในคุกสมุทรดำก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว

แต่...

เขาเงยหน้าและมองดูเพลิงดำมิติว่างที่ลุกโพลงอยู่ในท้องฟ้า  และคุกสมุทรดำที่ใต้เท้าเขาที่สูญเสียความรุนแรงลงไปบ้าง

เขามีรอยยิ้มเต็มหน้า

‘ความสำเร็จของเจ้า หรือว่าในที่สุดแล้วเจ้าก็สามารถทำลายพันธนาการของข้าภายในคุกสมุทรดำได้?  ยอดเยี่ยมมาก!’

‘พันห้าร้อยปีในความมืดมิด  พันห้าร้อยปีของความหม่นหมองและเบื่อหน่าย  ในที่สุดทายาทรับมรดกวิชาของข้าก็อยู่ที่นี่’

‘ข้ารอมานานเหลือเกินและแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว เจ้ามีศักยภาพไม่จำกัด และในฐานะที่เป็นอาจารย์ของเจ้าข้าปลื้มและภูมิใจ นี่คือความรู้สึกปลาบปลื้มใจของผู้เป็นอาจารย์’

‘ศิษย์รัก,  ให้ข้าช่วยเจ้าระเบิดพลังเป็นครั้งสุดท้ายเอง’

อูหวังไห่กางแขนของเขา  ผมของเขาพลิ้วสะบัดอยู่ในมิติว่าง  คุกสมุทรดำที่ปั่นป่วนเริ่มคลุ้มคลั่งมากขึ้น ร่างของเขาเริ่มตกลงมาด้วยความเร็วเหมือนกับกระบี่พุ่ง  เขาร่วงมาในคุกสมุทรดำ

คุกสมุทรดำที่ปั่นป่วนคลุ้มคลั่งพลันสงบทันที

****************************

กระบี่เซียนปราบสมุทรกลับดูดซับพลังงานสีดำอย่างคลุ้มคลั่ง  มันเป็นเหมือนหลุมที่ไร้ก้นมันรับเอาพลังงานรอบๆ อย่างละโมบ เพลิงสลัวพันรอบตัวกระบี่กลับกลายเป็นหนาแน่นมากขึ้น  ทันใดนั้นตาของเสี่ยวเอ้อเบิกกว้าง  เขาตั้งใจมองไปที่ปลายกระบี่

เพลิงดำซ่อนตัวอยู่เงียบราวกับว่ามันกำลังก่อตัวขึ้นในอีกปลายกระบี่หนึ่ง แต่ทันใดนั้นปลายกระบี่จางนั้นก็หายไป

‘เดี๋ยว!’

‘บางอย่างผิดปกติ!’

ปลายกระบี่อำพรางยังคงอยู่ที่นั่นแต่กลายเป็นสภาพโปร่งใส โปร่งใสเหมือนกับอากาศ ดังนั้นจึงแทบจะมองไม่เห็นเมื่ออยู่ภายในพลังงานของพื้นที่กระแสพลังใต้

เส้นสายใยความคิดอวยพรส่งมาถึงเขา  ทำให้ร่างของเสี่ยวเอ้อสั่น  เขาคุ้นเคยกับเส้นสายใยความคิดนี้มาก ภาพหลายปีที่เขาเรียนรู้วิชากระบี่ผ่านเข้ามาในดวงตาเขา  ในคืนวันที่มืดมิดและหนาวเหน็บ  ไม่มีมีความยินดีมีแต่การฝึกคร่ำเคร่งกล้ำกลืน และแต่สายใยความคิดนี้เป็นความอบอุ่นเดียวที่เขามี

นั่นคือเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้เขาเรียนวิชากระบี่เซียนปราบสมุทรได้ดีที่สุด

เขาไม่เคยพูดถึงสายใยความคิดเขาเพียงแต่รู้สึกและฟังอยู่เงียบๆ

จากตั้งแต่แรกเริ่ม เขามักคิดว่าสายใยความคิดนี้ก็คือเคล็ดวิชากระบี่เซียนปราบสมุทร

ปากของเสี่ยวเอ้อสั่น  เขาไม่พูดอะไรสักคำ  และหลังจากนั้นชั่วครู่ เขาพึมพำเบาๆ “ขอบคุณ,อาจารย์”

จิ่งหาวสังเกตเห็นกระบี่เซียนปราบสมุทรที่เบาบางและแทบจะโปร่งแสงที่ยังคงสร้างรูปร่างต่อไป กระบี่ดื่มเลือดเซียนยังคงดิ้นรนต่อไปจนเผาฝ่ามือของเขา แต่เขาก็ยังยืนนิ่งไร้ความรู้สึกราวกับว่าเขาไม่รู้สึกถึงมัน ตาของเขายังคงจับจ้องดูการถือกำเนิดของกระบี่ใหม่ภายในเพลิงดำ  ตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม เขาสามารถรู้สึกได้ถึงปณิธานกระบี่กำลังถูกส่งผ่าน นั่นคือเหตุผลที่ทำให้กระบี่ดื่มเลือดเซียนตื่นเต้นดิ้นรนมาก  เพราะมันสามารถรู้สึกได้ว่าการปรากฏของกระบี่เล่มนี้สามารถเอาชนะมันได้

กระบี่เซียนปราบสมุทรที่วิวัฒนาการสำเร็จแล้วลอยอยู่เงียบๆในอากาศ

กระแสพลังงานที่คลุ้มคลั่งและปั่นป่วนภายในพื้นที่กระแสพลังใต้เงียบสงบลงราวกับว่าหลังจากพายุสงบลงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบลง

แรงกดดันบนตัวทุกคนผ่อนคลายแต่ไม่มีใครสังเกต ทุกคนจับตามองดูกระบี่เซียนปราบสมุทรที่บางและละเอียดอ่อน มันเป็นเหมือนกระบี่อำพรางที่อยู่ในใจกลางและปกป้องพื้นที่กระแสพลังใต้

ถังเทียนมองดูเสี่ยวเอ้อโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ

วิวัฒนาการของกระบี่เซียนปราบสมุทรทำให้มีพลังงานก้าวกระโดดขนานใหญ่ราวกับเสือติดปีก  เขาสามารถรู้สึกได้ว่าเสี่ยวเอ้อมีพลังเพิ่มขึ้นมาก  แต่ถังเทียนไม่รู้สึกมีความสุขแม้แต่น้อย  เขากับเสี่ยวเอ้อมีจิตใจเชื่อมโยงถึงกัน  และเขารู้สึกได้ถึงสายใยความคิดและรู้สึกได้ถึงอารมณ์ของเสี่ยวเอ้อ

เขาก็คิดถึงผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย

เขาส่ายศีรษะและโยนความคิดโหยหาออกไปจากใจ  เขากำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว  ‘ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย  ข้าไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว  ข้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว  ข้ามีภารกิจของข้า  ข้ามีความรับผิดชอบของข้า’

‘ข้าจะทำให้ทุกคนชนะ!’

‘ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย,ข้าจะต้องทำให้ดีมากกว่าที่ท่านคิดคาดหวังได้แน่นอน!’

หัวใจของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความมาดมั่นแข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้า

ถังเทียนไม่ส่งเสียงใดๆและยังคงออกจากพื้นที่กระแสพลังใต้อย่างเงียบๆ และมองไปที่อ่าวพลังงาน

ที่นั่นการสู้รบเริ่มขึ้นแล้ว

*****************************

บึ้ม  บึ้ม บึ้ม

การโจมตีระดมใส่ม่านพลังเหมือนสายฝนทำให้ป้อมสั่นสะเทือนไม่หยุด  ปู้จื้อเฟยลอบยินดี  ศัตรูมีเรือล้อมโจมตีเพียงหกลำ  ดังนั้นความสามารถในการรุกของพวกเขามีจำกัดมาก ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะตกอยู่ในความยุ่งยากแล้ว

แต่เขารู้ว่าแม้ว่าจะไม่มีเรือรบล้อมโจมตี  แต่ก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่ป้อมจะถูกตีฝ่าได้  เรือรบระดับเงินสามลำ  เรือโจมตีเร็วระดับเงินสามลำ นี่คือกองเรือฟุ่มเฟือยที่โจรสลัดธรรมดาไม่สามารถมีได้

ปู้จื้อเฟยคาดว่าผู้บัญชาการของกองเรือจะเป็นคนที่เขารู้จัก

แต่เขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าความสามารถในการสู้รบของกองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านเป่ากวงแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาคาดไว้มากนัก หลังจากผ่านการสู้รบป้องกันอย่างยากลำบากสองครั้งในป้อมไพรกระบี่  พลังของพวกเขาก้าวหน้าอย่างมากมาย

ไม่ใช่แค่ความถี่ของการผสานพลังของพวกเขาเท่านั้น  แต่สภาวะจิตใจของพวกเขาด้วย ปู้จื้อเฟยรู้ว่าปัจจัยที่มองไม่เห็นเหล่านี้ที่เกี่ยวข้องกับการสู้รบของพวกเขามีความสำคัญเป็นอย่างมาก  การระดมยิงปืนใหญ่จากศัตรูไม่ได้ทำให้พวกเขาแตกตื่น  แต่ยังผ่อนคลายหัวเราะหยอกล้อกันได้

ท่านปิงวางแผนทางยุทธวิธีที่ตื้นสำหรับพวกเขา  และภายใต้การผสานพลังที่น่าประหลาดใจพลังที่สร้างขึ้นมานั้นโดดเด่น

ปู้จื้อเฟยรู้สึกจริงๆว่ากองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านเป่ากวงก้าวหน้าสามารถคุกคามศัตรูได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผสานพลังของพวกเขาอยู่ในระดับที่สูงมาก ซึ่งก็หมายความว่าถ้าพวกเขาสามารถรวมทหารมากขึ้น  ก็จะมีพลังโจมตีได้รุนแรงทรงพลังแน่นอน

เมื่อตระหนักถึงจุดนี้คุณสมบัติแม่ทัพระดับเงินของปู้จื้อเฟยก็ฉายแววออกมาทันที

ประการแรกเขาขอให้บุรุษห้าสิบคนร่วมกันโจมตี การโจมตีระดับนี้จะมีผลคุกคามเรือโจมตี แต่ไม่มีผลต่อเรือรบหลัง เรือโจมตีจะไม่มีทางเลือกจำต้องล่าถอยออกไป  แต่ช่วงแถวของการโจมตีของเรือโจมตีเร็วจะยังไม่ทรงพลังเท่ากับเรือรบหลัก  ซึ่งก็หมายความว่าการโจมตีของพวกเขาเบาลง  และการคุกคามของศัตรูก็จะผ่อนลงไปด้วย

แม่ทัพของฝ่ายตรงขามไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัดและรีบโต้ตอบทันที เรือรบสามลำเข้ามาเป็นโล่กำบังให้เรือโจมตีเร็วทั้งหกลำทันที

เมื่อเห็นแรงกดดันเกิดขึ้นกับศัตรู  ปู้จื้อเฟยแค่นเสียง

เพื่อให้เรือโจมตีเร็วสามารถเข้ามาถึงป้อมปราการได้  พวกเขาถึงกับแล่นเรือเข้ามาใกล้ป้อม

ภายใต้การโจมตีที่รุนแรง  ม่านพลังงานป้องกันที่ป้อมตกอยู่ในอันตราย  และการโจมตีตอบโต้ของป้อมเริ่มอ่อนกำลังลง

“คนของพวกเขาควรจะวิ่งไปรวมม่านพลังป้องกัน  ถ้าเราระดมโจมตีเต็มที่  พวกเขาจะทนอยู่ได้เพียงสามนาที”  ผู้ช่วยแม่ทัพรายงาน

“นี่ช่างง่ายดายจริงๆ”  ฝูตงคูหัวเราะ เขาสบายใจขึ้นมาก ชัยชนะรออยู่ข้างหน้าเขา ตราบใดที่ทำลายม่านพลังงาน ก็จะเป็นการเปิดประตูเข้าไปยังฐานที่มั่น

ทันใดนั้นเสียงรอยแตกดังออกมาจาก ม่านพลังงานของป้อมแตกสลาย

ฝูตงคูสีหน้าชะงักค้างหน้าเขาเปลี่ยนทันที  “แย่แล้ว!”

ปู้จื้อเฟยมองดูเวลา22 นาที  แต่เขาไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว

แววตาความมุ่งมั่นฉายอยู่ในดวงตาของเขา เมื่อเห็นการผสานพลังได้สำเร็จและลำแสงครอบคลุมตัวพวกเขาแล้ว  เขาตะโกน “เตรียมพร้อม!”

แครก!  ม่านพลังแตกสลาย!

“ฆ่า!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด