ตอนที่ 664 แผนการของถังเทียน
ฝูตงคูพยายามอดกลั้นความโกรธไว้ในใจ แม้ว่าเขาจะไม่รู้จักจอมกระบี่ที่ทรงพลังนั้น แต่การยั่วยุอย่างนั้น แสดงว่าเขาต้องมาจากทวีปซางโจวเสีย 90% เขาไม่ยอมสูญเสียความรับรู้เหตุผล ฝ่ายตรงข้ามยั่วยุเพื่อดึงดูดความสนใจของเขาและทำให้เขาฟุ้งซ่าน
เขาสูดหายใจลึกเป้าหมายหลักของเขาคือโจมตีทวีปซางโจว คู่ต่อสู้มีเพียงคนเดียวและไม่สามารถเปลี่ยนวิถีของสถานการณ์ได้ ฝูตงคูสงบใจได้ ความโกรธในดวงตาของเขาสลายหายไป เขาหัวเราะทันที ฝ่ายตรงข้ามใช้วิธีเคลื่อนไหวที่ไม่ตั้งใจแบบนั้นซึ่งพิสูจน์ได้มากขึ้นว่าพวกเขาทุ่มเทความสามารถออกมาหมดแล้ว
ถึงแม้ว่าเรือรบล้อมโจมตีจะถูกทำลาย ฝูตงคูก็ยังมีความมั่นใจในตัวเองว่ากำลังที่ยังเหลือของพวกเขาเพียงพอจะถล่มทวีปซางโจวได้
ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือจะมีแตกต่างมากกว่าเล็กน้อย
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวังวนพลังซ่อนเร้นจะเป็นมนุษย์สร้างหรือไม่, ใครจะสนใจกัน?
“เป้าหมายของเราคือปากอ่าวทวีปซางโจว!”
ฝูตงคูออกคำสั่งอย่างใจเย็นปลุกขวัญกำลังใจทหารของเขาทำให้พวกเขาสงบทันที นี่คือผู้บัญชาการที่แท้จริงซึ่งพวกเขาเชื่อถือ นี่คือจิ้งจอกบูรพาที่ไม่มีผู้ใดหยุดได้
จิ่งหาวเห็นว่ากองเรือไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อยจึงรู้สึกค่อนข้างเสียดาย เขาหันหน้าและบินไปทิศทางเดียวกันกับพวกเขา ขณะที่เขารู้ถึงสิ่งที่พวกโจรสลัดกำลังพยายามทำ
พวกโจรสลัดนี้ไม่ใช่โจรสลัดทั่วไป สามารถทนต่อการยั่วยุและสงบอยู่ได้แสดงว่าผู้บัญชาการของพวกเขาต้องเป็นคนน่ากลัวแน่นอน
‘แต่,พวกเจ้าดูถูกคนๆ เดียวเกินไปแล้ว’
จิ่งหาวเคลื่อนที่ในทะเลพลังงานอย่างเชี่ยวชาญ หน้าของเขายังสงบอย่างน่าประหลาดใจ ดวงตาที่สงบลึกของเขาดูเหมือนสะท้อนสภาพจิตใจที่เมินเฉยของเขาเพียงแต่มียิ้มเลือนรางอยู่ที่มุมปากแสดงให้เห็นความอยากรู้อยากเห็นของเขา
เขาสงสัยจริงๆ
ถังเทียนจะจัดการกับโจรสลัดเหล่านี้ยังไง?
หนุ่มถังไม่ค่อยเกี่ยวข้องใส่ใจกับการวางแผน แต่ทุกครั้งเขาจะใช้วิธีการที่แปลกประหลาด และชัยชนะที่ไม่อาจคาดเดาได้ของเขาทำให้คนตะลึงมาแล้ว และหลายครั้งชัยชนะของเขาประหลาดเสียจนแม้แต่คนรุ่นเก่าอย่างปิงก็ไม่เข้าใจ
และเรื่องที่น่ากลัวอย่างแท้จริงก็คือ เขาไม่เคยพ่ายแพ้!
‘สงสัยจริงว่าครั้งนี้เขาจะทำอะไร? ช่างทำให้ข้าสนใจได้อยู่เรื่อย!’
จิ่งหาวเริ่มเคลื่อนไหวเร็วขึ้น
ถังเทียนและพวกที่เหลือมองเห็นแสงไฟและเดาได้ทันทีว่านั่นเป็นฝีมือของพี่จิ่งหาว นี่ทำให้เขาตื่นเต้น เขารู้สึกว่าการฝึกของเขามาถูกแนวทางแล้ว ทะเลพลังงานมีหลายที่ซึ่งสามารถใช้ได้
“อย่าเพิ่งใช้สมบัติดวงดาว เราจะลงมือลอบโจมตี”
ถังเทียนห้ามศิษย์ตระกูลผู้เตรียมใช้สมบัติดวงดาวโจมตีทันที สมบัติดวงดาวจะปล่อยแสงรัศมีและจะดึงดูดความสนใจ เมื่อได้ยินว่าพวกเขาเตรียมจะซุ่มโจมตี พวกเขาหยุดทันที
ปู้จื้อเฟยที่อยู่ด้านหลังลอบส่ายศีรษะนั่นเป็นการตัดสินใจที่น่ากลัว แม้ว่าการลอบโจมตีจะทำได้อย่างคาดไม่ถึง แต่อีกฝ่ายหนึ่งมีกองเรือรบ จะใช้ร่างกายเปล่าๆ เพื่อรับมือกองเรือ ไม่มีโอกาสจะชนะเลยแม้แต่น้อย
แต่เขายังคงเงียบ เขารู้ว่าไม่ว่าเขาจะพูดอะไร นายใหญ่ก็คงไม่ฟัง และพวกมือใหม่ทุกคนก็คงเพียงแต่ฟังเขา
ถังเทียนเบียดเข้าหาทุกคน “ยังคงมีเวลา, ทุกคนมาก่อน คิดหาวิธีว่าเราจะลอบโจมตีที่นี่ยังไง?”
“เราไม่สามารถเข้าไปได้ใกล้นัก ถ้าเราเข้าไปใกล้ พวกเขาจะเตรียมพร้อมรับมือเรา
“ข้าจำได้ว่ามีสถานที่หนึ่งเต็มไปด้วยพลังงานมากมายทำไมไม่ล่อพวกเขาไปที่นั่น? จากนั้นก็ระเบิดพลังงานที่นั่น?”
“พวกเขาจะโง่ขนาดนั้นจริงๆหรือ?”
……
พวกมือใหม่ทุกคนเริ่มระดมความคิดแบบนั้นทั้งหมดทำให้ปู้จื้อเฟยไม่พอใจและผิดหวังในใจอย่างสิ้นเชิง เขาเป็นคนแรกๆ ที่คาดหวังอะไรบางอย่างว่าแม้ว่านายใหญ่จะไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้น แต่เนื่องจากเขาทำให้ท่านปิงติดตามเขาอย่างเต็มใจ เขาก็ควรจะมีความพิเศษบางอย่างบ้าง...
‘แต่ขณะนั้นผลงานของนายใหญ่ช่างสะเพร่าจริงๆ’
‘ใช่แล้ว...สะเพร่า’
หากต้องวิ่งทะเล่อทะล่าออกไปข้างนอกโดยไม่มีแผนแต่อย่างใด และยังต้องถามกลุ่มเด็กใหม่ที่ไม่รู้เรื่อง ถ้านั่นไม่ใช่ความสะเพร่า ยังจะเรียกว่าอะไร? ปู้จื้อเฟยไม่สบายใจ เขารู้สึกว่าไม่ว่าเจ้านายใหญ่จะคิดอะไรควรจะถามเขามากกว่าถามพวกมือสมัครเล่น นอกจากนี้ เขายังเป็นแม่ทัพระดับเงิน ในทวีปฝานซิงโจว เขาเป็นแม่ทัพของกองทัพใหญ่ ไม่ว่ามองจากมุมไหนเขาก็ยังน่าเชื่อถือมากกว่า
‘หรือว่าเจ้านายใหญ่มีใจลำเอียงต่อข้า?’
ปู้จื้อเฟยไม่พูดอะไร แต่เขาโยนความคิดนั้นออกไปจากใจ ‘คงจะเป็นเพราะเขาไม่คุ้นเคยกับเรา แต่พวกเขาคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น?’
ปู้จื้อเฟยขมวดคิ้วและเค้นสมอง แต่ก็พบว่าเขาคิดอะไรไม่ออกเช่นกัน ความแตกต่างระหว่างสองกลุ่มมีมากมายเกินไป และวิธีเดียวก็คือยืมพลังจากทะเลพลังงาน? แต่ทะเลพลังงานรอบๆ ทวีปซางโจวไม่มีส่วนที่อันตรายแม้แต่น้อย
ไม่มีทางอื่น
ปู้จื้อเฟยตระหนักอย่างจนใจว่าต่อให้เจ้านายใหญ่ถามเขา เขาก็คงให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ไม่ได้
ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกายทันที เขาโบกมือให้ปู้จื้อเฟย
ปู้จื้อเฟยตกใจและเข้ามาหาโดยไม่รู้ตัว
ถังเทียนถาม “ถ้าท่านนำกองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านเป่ากวงมาประจำที่ป้อมอ่าวพลังงาน พวกท่านสามารถตั้งรับได้นานเท่าใด?”
กองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านเป่ากวง? ปู้จื้อเฟยตอบ “ถ้ามีเรือล้อมโจมตี ไม่ก็ไม่เกินสิบนาที ถ้าไม่มีเรือล้อมโจมตี เราคงตั้งรับได้ครึ่งชั่วโมง”
ปู้จื้อเฟยตอบตามตรงไม่ได้กุเรื่อง เขาทำการฝึกมาบ้างแล้วไม่ต้องนับศิษย์ตระกูลใหญ่ พวกเขาไม่สามารถผสานพลังงานได้ สำหรับกองกำลังรักษาการณ์ป้องกัน พวกเขาไร้ประโยชน์ ดังนั้นตั้งแต่แรกเขาสามารถพึ่งพาได้แต่เพียงกองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านเป่ากวง
“เยี่ยม!” ถังเทียนตาเป็นประกาย “กลับไปเดี๋ยวนี้ จำเอาไว้ ท่านต้องตั้งรับให้ได้ครึ่งชั่วโมง! ส่วนพวกเจ้าที่เหลือตามข้ามา!”
พอพูดเช่นนั้นเสร็จถังเทียนก็ถลันวูบห่างออกไปสามร้อยเมตรทำให้ศิษย์สามตระกูลใหญ่ตื่นจากฝันกลางวันและตามไปทันที
ในพริบตาเหลือแต่เพียงปู้จื้อเฟยคงอยู่ในที่เดิม
‘เฮ้เฮ้ เฮ้, มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันนี่...’
ปู้จื้อเฟยตกใจ เขารับคำสั่งโดยไม่ได้ใช้สมองเลยทำให้เขาตื่นเต้น กลับไปป้องกันให้ได้ครึ่งชั่วโมง มีเหตุผลรองรับด้วยหรือ? ไม่มีเป้าหมายอะไรเลย ศัตรูมาถึงแล้วและพวกทหารยามได้แจ้งกำลังต่อสู้ของเรือรบมาแล้ว เรือรบขนาดกลางหกลำแค่ความแข็งแกร่งแค่นั้น พวกเขาก็สามารถย่ำยีทวีปซางโจวให้ราบได้แล้ว
‘ครึ่งชั่วโมงจะทำอะไรได้?’
‘ครึ่งชั่วโมงจะทำให้พวกเขาชนะได้งั้นหรือ?’
ปู้จื้อเฟยรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าขัน ‘ช่างหัวมัน, ทำไมต้องมาเสียเวลากับคนกล้าแต่เบาปัญญาและไร้ระเบียบด้วยเล่า? เนื่องจากไม่มีความหวังเหลืออยู่แล้ว ข้าควรจะหนีไปดีกว่า’
เขาเพิ่งจะก้าวไปข้างหน้าได้ แต่เมื่อดูรอบตัวเขา เขารู้สึกละอายทันที ‘โลกช่างกว้างขวางนัก ข้าจะไปที่ไหนได้? ข้าอัปยศจากการตกเป็นทหารเชลยพอแล้ว นี่ข้ายังต้องเป็นทหารหนีทัพด้วยหรือ?’
‘ไม่, ข้าไม่ยอมเป็นทหารหนีทัพ ข้าป้องกันได้ ข้าแพ้ได้ ข้าเป็นเชลยได้ ข้ายอมจำนนได้ ข้าตายได้ เพราะข้ารู้ว่าสถานการณ์เหล่านั้น ข้าพยายามอย่างดีที่สุด นั่นคือผลจากสงคราม แม้ว่าจะเป็นผลที่ไม่ดี แต่ทหารหนีทัพล่ะ? นั่นคือความขลาดเขลา ไม่มีแม้แต่ความกล้าจะต่อสู้’
‘ไม่ ข้าไม่ยอมหนี’
‘ข้าเองก็เป็นแม่ทัพคนหนึ่ง หนีจากสงครามไม่ใช่แค่ความอัปยศเท่านั้น แต่นั่นเป็นการทิ้งศักดิ์ศรีสุดท้ายของเรา’
ความมุ่งมั่นค่อยๆเต็มในดวงตาของปู้จื้อเฟย เขาลูบเสื้อผ้าเบาๆ และจากนั้นคำนับไปทางที่ถังเทียนหายไป
‘การคำนับนี้คือการถ่ายทอดปณิธานที่จะต่อสู้ การคำนับนี้ถ่ายทอดศักดิ์ศรีของข้า’
‘ครึ่งชั่วโมงใช่ไหม? อย่างนั้นข้าจะทำให้ได้ ถ้าข้าทำไม่ได้ ข้าก็ตาย ลูกผู้ชายของกองทัพตายในสมรภูมิไม่มีอะไรมากอยู่แล้ว’
เขาหันหลังและบินไปที่อ่าวพลังงานทวีปซางโจว
********
“พี่ใหญ่,เราจะไปไหน?” เย่เหล่าเอ๋อถาม
“เราจะไปที่พื้นที่กระแสพลังใต้” ถังเทียนตอบโดยไม่หันหลัง
“พื้นที่กระแสพลังใต้?” ทุกคนตะลึง
ภูมิภาคกระแสพลังใต้เป็นพื้นที่ติดกับอ่าวพลังงานทวีปซางโจว เป็นพื้นที่ซึ่งการไหลเวียนของพลังงานยุ่งเหยิงมาก ถ้าใครไม่ระวังก็จะถูกดูดเข้าไปและถึงแก่ความตาย พลังงานภายในนั้นปั่นป่วนรุนแรงมาก และขึ้นชื่อว่าเป็นพื้นที่อันตราย
“ภูมิภาคกระแสพลังใต้?”
ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา ถังเทียนสะดุ้งตกใจ แต่ก็ดีใจทันที จิ่งหาวยืนถือกระบี่อยู่ไม่ไกลยิ้มให้กับทุกคน ตอนแรกเขาต้องการกลับไปทวีปซางโจวเพื่อสนับสนุนทุกคน แต่เขาไม่คาดเลยว่าจะพบกับถังเทียนและกลุ่มตอนครึ่งทาง จึงรีบเข้ามาหา
“พี่จิ่งหาว,ท่านเพิ่งมาถึงหรือ?” ถังเทียนถามอย่างสบายใจ
จิ่งหาวพยักหน้า และบอกพวกเขาถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อได้ยินว่าเรือล้อมโจมตีเกือบจะถูกทำลาย ถังเทียนดีใจแทบคลั่งและรีบปรบมือ “นั่นเยี่ยมเลย! อย่างนั้นปู้จื้อเฟยก็สามารถทนได้มากกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว”
“ครึ่งชั่วโมง?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น จิ่งหาวรู้ว่าถังเทียนคิดอะไรบางอย่างได้แน่ “เจ้ามีแผนใช่ไหม?”
“เราสามารถรอซุ่มโจมตีที่ภูมิภาคกระแสพลังใต้” ถังเทียนอธิบาย “ศัตรูรู้ว่าเราขาดกำลังคน แต่พวกเขาไม่เคยคาดว่าเราจะแบ่งกำลังของเรา พื้นที่กระแสพลังใต้มีอันตราย ดังนั้นพวกเขาไม่คิดว่าจะมีคนซ่อนอยู่ในนั้น เราจะรอให้พวกเขาสู้กันให้เต็มที่และจะตีตลบหลังพวกเขาอย่างดุดัน นั่นจะเป็นเรื่องสนุก!”
จิ่งหาวพึมพำ “พื้นที่กระแสพลังด้านใต้ อันตรายมาก จะไม่มีปัญหาสำหรับเราทั้งสองคน แต่อาจจะมีผลต่อพวกเขา”
คำพูดของจิ่งหาวไม่มีความตั้งใจจะดูถูกพวกเขา แม้ว่าเย่เหล่าเอ๋อจะมีความหยิ่งก็ยังไม่กล้าปฏิเสธเขา แม้ว่าพวกเขาจะฝึกฝนขัดเกลาตนเองมาในทะเลพลังงานแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปในพื้นที่กระแสพลังด้านใต้
“เรามีสมบัติดวงดาว” ถังเทียนมีความคิดอย่างหนึ่ง “กุมภ์, คันชั่งและกรกฎทั้งหมดมีความเชี่ยวชาญในการป้องกัน ข้าเคยอยู่ในภูมิภาคกระแสพลังใต้มาก่อนด้วยความช่วยเหลือของสมบัติดวงดาว ข้าชื่อว่าพวกเขาสามารถอยู่ภายในได้”
จิ่งหาวพยักหน้าอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นพยักหน้า “ถ้าเป็นอย่างนั้น เราก็ยังมีความหวังอยู่บ้าง แต่เราจะทำยังไงกับเรือรบ? ความสามารถในการป้องกันของพวกเขาทรงพลังมาก พวกเขาให้ความสำคัญกับการป้องกันและผ่อนพลังรุกสู้ แม้ว่าเราจะตลบหลังเรือรบพวกเขา เราก็ยังยากจะเจาะผ่านพลังป้องกันของเรือรบ”
“ข้ามีแผนแล้ว, ข้าจะบอกให้ทราบทีหลัง” ประกายเย็นชาฉายผ่านดวงตาถังเทียน “เราเข้าไปในภูมิภาคกระแสพลังใต้กันก่อน”
ทุกคนคุ้นเคยกับพื้นที่ปากอ่าวพลังงานของทวีปชางโจว และไม่กี่นาทีต่อมาพวกเขาก็มาถึงภูมิภาคกระแสพลังใต้
ภูมิภาคกระแสพลังใต้ดูคล้ายทะเลสาบสีดำกลืนกินแสงสว่างรอบๆ พลังงานสีดำปั่นป่วนรุนแรงมีชีวิตชีวา ศิษย์จากสามตระกูลหน้าซีดเล็กน้อย พื้นที่กระแสพลังใต้ก็คือแดนสีดำของทะเลพลังงาน แม้แต่เรือรบก็ยังหวาดกลัวภูมิภาคกระแสพลังใต้
“เร็ว,ทุกคน, กระตุ้นการทำงานของสมบัติดวงดาวของพวกเจ้าแล้วค่อยเข้าไป จำไว้ใช้พลังของพวกเจ้าทุกคนกระตุ้นการทำงานสมบัติดวงดาวของพวกเจ้า!” ถังเทียนกล่าวต่อ “พี่จิ่งหาว เข้าไปก่อน และคอยดูแลพวกเขา”
จิ่งหาวพยักหน้าและนำวิ่งเข้าไปในพื้นที่กระแสพลังใต้
ทุกคนมองหน้ากันเองด้วยสีหน้าลังเล
“ถ้าพวกเจ้ากลัวกันทุกคนอย่างนี้ ต่อไปภายภาคหน้าพวกเจ้าจะล้างแค้นได้ยังไง?”
ถังเทียนตำหนิ ทำให้พวกเขาทุกคนตาแดง
“พี่ใหญ่ไม่ต้องดุว่าเราแรงๆ ก็ได้! ใครไม่ยอมเข้าไปข้างใน ถือว่าเป็นคนไร้ประโยชน์!” เย่เหล่าเอ๋อแค่นเสียงและวิ่งเข้าไปข้างใน
ศิษย์คนอื่นๆ ไล่ตามเข้าไป
เมื่อศิษย์คนสุดท้ายเข้าไปแล้ว โจรสลัดจากที่ไกลก็เข้ามาในสายตาของถังเทียน
ด้วยสายตาที่เย็นชา ถังเทียนเข้าไปในภูมิภาคกระแสพลังงานใต้โดยไม่พูดสักคำ