ตอนที่ 659 มีใครบอกบ้างไหมว่าเจ้าโง่?
ภายในปราสาทตระกูลเย่ว์
ด้านนอกปราสาทมีภูเขาล้อมรอบเป็นพื้นฐาน พื้นที่ราบหุบเขามีทะเลสาบ ขุดลึกลงไปเป็นวังมังกรใต้ดิน คาดกันว่าน่าจะมีศาลเจ้ามังกรอยู่ในกลางทะเลสาบ
ถ้าโครงการขนาดใหญ่นี้สร้างโดยมนุษย์ ก็คงจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายสิบปีจึงจะสำเร็จ
อย่างไรก็ตามราชินีสมุทรในหอทงเทียนชั้นสิบส่งมนุษย์เผ่าทะเลสามแสนมาช่วยสนับสนุน นอกจากนี้ยังมีกำลังเสริมจากทวีปมืดใต้พิภพ,เผ่าภูตบูรพา เผ่าเอลฟ์ทองและคนแคระ พวกเขาสามารถมาร่วมสนับสนุนโครงการ ด้วยกำลังคนจากจักรวรรดิต้าเซี่ยและเทียนหลัว พวกเขามีคนมากกว่าล้านมาช่วยก่อสร้าง แม้ว่าการก่อสร้างถูกวางแผนเอาไว้ให้สำเร็จภายในสามปี แต่ว่าแม้แต่คนตาบอดก็สามารถบอกได้ว่าด้วยกำลังคนเป็นล้านเชื่อว่าภายในปีเดียววังมังกรศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินและศาลเจ้ามังกรจะถือกำเนิดนอกปราสาทตระกูลเย่ว์
ไม่มีเหตุผลใดที่หอทงเทียนจะมีปฏิกิริยาต่อโครงการขนาดใหญ่เช่นนั้น
เป็นครั้งแรกที่ปีศาจแดนนรกผู้ต่อสู้กับทวีปมังกรทะยานมาเป็นพันปีส่งทูตสันติภาพมาเยือน
กษัตริย์แดนนรกส่งราชสาส์นมาเป็นเกียรติ
กล่าวกันว่าพวกเขาส่งองค์หญิงปีศาจมาเพื่อแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์
แน่นอนว่านี่สามารถปกปิดได้จากคนธรรมดาเท่านั้น คนที่รู้ข้อมูลภายในรู้ว่าราชาของปีศาจแดนนรกเป็นพันธมิตรกับคุณชายสามตระกูลเย่ว์และพวกแป็นพันธมิตรกันก่อนแล้วเมื่อตอนสู้กับราชาเฮยอวี้
อย่างไรก็ตามการกระทำที่น่าประหลาดใจที่ปีศาจแดนนรกส่งทูตสันติภาพมาอย่างเป็นทางการและการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ยังคงสร้างความตกตะลึงให้กับทวีปมังกรทะยาน
ปีศาจเหล่านั้นที่กินมนุษย์กลับเทิดทูนมนุษย์อย่างคาดไม่ถึงและยังจะแต่งงานกับมนุษย์?
นี่มันเรื่องอะไรกัน
นั่นก็เท่ากับบุรุษแข็งแรงที่จับบัณฑิตอ่อนแอไว้ทั้งวัน จู่ๆก็หยุดและเขาจะให้ลูกสาวของเขาแต่งงานกับบัณฑิตผอมแห้งผู้นี้ ใครจะนึกภาพออก
เป็นเวลาหลายพันปีปีศาจแดนนรกได้เป็นฝันร้ายที่น่าสะพรึงกลัว
ตอนนี้ความกลัวหายไปโดยการแต่งงานกับเจ้าหญิงเชื่อมสัมพันธ์
หายไปแล้ว!
ประชาชนชาวทวีปมังกรทะยานรู้สึกภูมิใจอย่างเหลือเชื่อ พวกเขารู้สึกถึงความเหนือกว่าที่มีต่อปีศาจ แม้ว่าเหตุผลที่ปีศาจแดนนรกจะให้เกียรติต่อมนุษย์เป็นเพราะคุณชายสามตระกูลเย่ว์ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไม่เกี่ยวกับคนธรรมดาแต่อย่างใดคุณชายสามตระกูลเย่ว์เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ไม่ใช่ปีศาจ เขามีความสามารถปราบปีศาจได้ และนั่นคือความภูมิใจของมนุษย์ แน่นอนว่าถ้าพวกทหารรับจ้างที่อยู่ในหอทงเทียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่อยู่ในชั้นที่สามจะรู้กันว่าแดนปีศาจและทวีปมังกรทะยานหยุดสู้กันแล้ว เส้นทางโชกเลือดก่อนหน้านั้น กลายเป็นช่องทางรุ่งเรืองสำหรับการค้า
เผ่าพันธุ์ปีศาจที่ชอบสู้รบที่สุดและทวีปมังกรทะยานได้หยุดสู้กันแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับกลุ่มอำนาจอื่นในหอทงเทียน
นั่นหมายความว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจหันหัวหอกไปโจมตีเป้าหมายอื่น
กองกำลังใหญ่น้อยที่ตกเป็นเป้าหมายต่างส่งทูตไปเยือนทวีปต่างๆ พวกเขาต้องการพันธมิตร ถ้าล้มเหลวในการเป็นพันธมิตร อย่างน้อยก็ต้องพยายามเอาใจหรือมีส่วนร่วมการค้า ดังนั้นเมื่อเผ่าปีศาจเริ่มรุกราน พวกเขาจะต้องแสดงความเมตตาออกมาบ้าง
แน่นอนว่าย่อมมีการยกเว้นสำหรับทุกอย่าง เช่นทวีปกวงหมิงในหอทงเทียนชั้นที่สิบ
สภากวงหมิงไม่กังวลเรื่องการรุกรานของเผ่าปีศาจ
แต่ค่อนข้ากังวลเกี่ยวกับทวีปมืดเผ่าใต้พิภพ
เมื่อพวกเขาได้รู้ว่าจักรพรรดิบาดาล (ใต้พิภพ)ฝึกปรืออย่างสันโดษเป็นเวลานานเพื่อบรรลุระดับปราณฟ้า พวกเขากลับมามีความกล้าอีกครั้ง ไม่ใช่เรื่องง่ายกับการบรรลุระดับปราณฟ้า จักรพรรดิบาดาลจะทำสำเร็จได้หรือไม่ไม่มีใครรู้ ต่อให้พวกเขาทำได้สำเร็จพวกเขาไม่กลัวพันธมิตรทหารรับจ้างในโลก วุฒิสภาของทวีปกวงหมิงมีความมั่นใจกับการฝึกฝนจักรพรรดิฟ้ารุ่นใหม่ในระดับปราณฟ้าจะมาถึงในอนาคตอันใกล้ เหตุผลเช่นนี้ก็เพราะว่าทหารรับจ้างแดนสวรรค์ได้ลงชื่อข้อตกลงลับกับพวกเขา หนึ่งในนั้นก็คือแผนระดับปราณฟ้าซึ่งจะช่วยให้ทวีปกวงหมิงพัฒนานักสู้ปราณฟ้าได้ถึงสามคน ตราบเท่าที่พวกเขาไม่เผชิญกับเย่ว์หยางคุณชายสามตระกูลเย่ว์ ทางสภาฯ จะไม่กลัวอำนาจอื่นใดอีกต่อไป ต่อให้เป็นจักรพรรดิบาดาลแห่งทวีปมืดก็ตาม และเผ่าพันธุ์ทะเลก็ลุกขึ้นมาโดดเด่นอีกครั้งเพราะคุณชายสามตระกูลเย่ว์ ยังไม่ต้องพูดถึงปีศาจแดนนรกในระดับต่ำที่สุดของหอทงเทียน
“ฮ่องเต้แห่งต้าเซี่ย! ข้าจิงอวี้เป็นทูตที่ส่งมาโดยสภาสูง” เขาเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหกมีความภูมิใจจนไม่ต้องการแม้แต่ก้มศีรษะให้จวินอู๋โหย่วผู้มีระดับต่ำกว่านักสู้ปราณก่อกำเนิด เขาหยิ่งในศักดิ์ศรียืนนิ่งอยู่กับที่อย่างชัดเจน
“บังอาจ!” ผู้บัญชาการราชองครักษ์ฟงขวงโกรธ
“ในฐานะทูต ข้ากำลังพูดกับฝ่าบาท ไม่อนุญาตให้เจ้าแม่ทัพเล็กๆสอดคำ อย่าบอกข้านะว่าสถานะของเจ้าอยู่เหนือกว่าราชสำนักต้าเซี่ย และเจ้าไม่รู้ว่าตนเองมีสถานะเช่นไร?” ทูตจิงอวี้มองทุกอย่างไม่แยแส
เขารู้สึกว่าเขาและทวีปกวงหมิงไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่น เขาลอบทำความตกลงลับกับทหารรับจ้างแดนสวรรค์ เขาต้องการแสดงท่าทีการทูตที่แข็งแกร่งแสดงเจตนาดีที่มีต่อกลุ่มทหารรับจ้างแดนสวรรค์ ไม่ต้องการทำตัวเหมือนคู่ค้า และสิ่งที่ทำให้จิงอวี้รู้สึกมั่นใจและกล้าแสดงออกก็คือพลังของเขาเองเหนือกว่ายอดฝีมือโดยรอบมาก เขารู้สึกว่าเขาควรจะเหนือกว่า ในหอทงเทียนคนที่มีพลังเหนือกว่าควรได้รับความเคารพไม่ใช่หรือ?
แต่จิงอวี้ไม่รู้ว่าแม้แต่จักรพรรดิใต้พิภพนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสิบก็ยังทักทายจวินอู๋โหย่วด้วยตัวเองและไม่กล้าดูแคลนศักดิ์ศรีพวกเขา
แล้วฟงขวงจะไม่โกรธทูตเล็กๆ ที่แสดงความเย่อหยิ่งอย่างนั้นได้ยังไง?
จวินอู๋โหย่วเป็นคนชั้นไหน?
นอกจากเป็นผู้อาวุโสของคุณชายสามตระกูลเย่ว์แล้ว เขายังเป็นพ่อตาของคุณชายสามตระกูลเย่ว์
นอกจากนี้ผู้อาวุโสและอาจารย์ของเย่ว์หยางก็คือสุ่ยตงหลิว เย่ว์ไห่เป็นปู่ของเขาและผู้อาวุโสอีกหลายคน อย่าว่าแต่ทูตเล็กน้อยนี้เลย ต่อให้เป็นจักรพรรดิผู้ทรงอำนาจก็ยังต้องแสดงความเคารพเขา
คุณชายสามตระกูลเย่ว์ในโลกนี้จะมีสักกี่คน?
คนเดียวเท่านั้น!
ถ้าเขาเป็นผู้ใหญ่ของคุณชายสามตระกูลเย่ว์อย่างนั้นยังจะมีอะไรไม่น่านับถือ?
การดูหมิ่นจักรพรรดิก็เท่ากับตอแยต้าเซี่ยทั้งหมด ทูตทั้งหมดจากกลุ่มรอบๆ แค่นเสียงเยาะเย้ย อย่าคิดว่าทวีปกวงหมิงยังคงเป็นทวีปกวงหมิงเหมือนก่อน จักรพรรดิฟ้าแปดปีกคนสุดท้ายตายไปแล้ว และทวีปกวงหมิงยังอยู่ในสภาพตกต่ำทุกคนรู้ว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์ไม่ใช่อันธพาล พวกทูตจากทวีปกวงหมิงกล้าตบหน้าจวินอู๋โหย่ว นั่นเท่ากับหาเรื่องเจ็บตัว
“ทูตพิเศษจิงอวี้ทำตัวเบ่งอยู่เหนือวังต้าเซี่ยตะคอกใส่หัวหน้าราชองครักษ์แห่งต้าเซี่ยเจ้าเป็นทูตของทวีปกวงหมิงที่เจริญแล้วประสาอะไรกัน?” โยวกุ่ยทูตพิเศษหญิงจากทวีปมืดต้องการจะหาความผิดของจิงอวี้อยู่แล้ว นางนึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าคนหยิ่งยโสผู้นี้จะทำตนให้พินาศ
“กล้าพูดกับข้าอย่างปากคอเราะร้ายต้องเป็นคนของทวีปมืดแน่” เมื่อจิงอวี้พบว่าโยวกุ่ยอ่อนแอกว่าเล็กน้อยนางช่างกล้าดีจริงๆ
“คำพูดของทูตพิเศษทวีปกวงหมิงนับว่าทำให้ข้าได้เปิดหูเปิดตายิ่งนัก” ผู้เฒ่าซิงผานแห่งเผ่าทะเลพูดท้าทายจิงอวี้
“ดูเจ้ามนุษย์นกโง่พูด” นี่เป็นคำพูดของหัวหน้ามนุษย์เผ่าหัววัวที่ไม่สนใจทวีปกวงหมิง
“เป็นคนที่น่ารังเกียจจริงๆ” ครั้งนี้เป็นกษัตริย์คนแคระพูด
“แก..เจ้าพวกหนูอ่อนแอกล้าใช้คำพูดโอหังกับข้าหรือ? เจ้ารู้ไหม ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นทูต อย่างนั้นข้าจะใช้เพียงนิ้วเดียวฆ่าเจ้าพวกมดแมลงเหล่านี้ พวกเจ้าทุกคน..ไสหัวไปซะ พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์พูดต่อหน้าข้า!” จิงอวี้โกรธ “เจ้าไม่มีแม้แต่สุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดพวกเจ้าเป็นตัวอะไร?? ถ้าไม่ใช่เพราะการทูต ข้าจะตบพวกเจ้าให้ตาย!” แน่นอนว่าเขาแค่คิดในใจมันมากเกินกว่าจะพูดออกมา
คราวนี้ แม้แต่คนเจ้าอารมณ์ที่สุดของเผ่าเอลฟ์ก็ขมวดคิ้ว
“ทูตจิงอวี้ ก่อนอื่นเลยข้าขอเป็นตัวแทนอาณาจักรต้าเซี่ยต้อนรับท่านในฐานะตัวแทนทวีปกวงหมิง อย่างไรก็ตามข้าอยากจะเตือนท่านว่านี่คือวังหลวงต้าเซี่ย ต่อให้เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด ในฐานะกษัตริย์ก็ต้องใส่ใจถึงมารยาทธรรมเนียมด้วย คำพูดและการกระทำของท่านจะเป็นตัวแทนของทวีปกวงหมิง” จวินอู๋โหย่วยิ้ม เขายังอ่อนเดียงสาทางการเมือง และจิงอวี้ต้องการจะเล่นแง่กับเขานั่นเป็นการกระทำที่ไร้เดียงสา
แน่นอนว่าเขาไม่โกรธการโอ้อวดหยิ่งยโสของจิงอวี้
เขากำลังรอโอกาส
ตราบใดที่จิงอวี้ล้มเหลวทางการทูตเมื่อนั้นเขามีแต่จะอยู่ในสภาพขี่หลังเสือ
เย่ว์หยางได้บอกเขาไว้ก่อนว่าจะดีที่สุดให้ทวีปมังกรทะยานและทวีปกวงหมิงขัดแข้งขัดขากันและฉวยโอกาสบุกทวีปกวงหมิงและสำรวจพื้นที่ลับ จวินอู๋โหย่วกำลังรอโอกาสนี้ แต่ตอนนี้เขาพบโอกาสแล้ว เขาจะไม่ปล่อยให้หลุดมือไป
ในทวีปกวงหมิง กลับกลายเป็นว่าได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง จักรพรรดิฟ้าตายไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมเข้าใจอะไรอีก ยังสร้างความขัดแย้งกับเผ่าทะเลเพื่อปลดผนึกจ้าวปีศาจโบราณ
เมื่อเย่ว์หยาง พบกับจงกวน ไป๋หม่าและเฮยถูสามคนที่พบรอยแยกพิเศษ พวกเขาตั้งใจจะสำรวจความลับนั้น
ตอนนี้เจอข้ออ้างที่ดีแล้ว
คนรุ่นหลังในทวีปมังกรทะยานจะไม่มีโอกาสได้ออกกำลัง การรบกับแดนปีศาจไม่ใช่เป้าหมายต่อไปอีกแล้ว พันปีของเผ่าพันธุ์ใต้พิภพจะไม่มีโอกาสได้แก้แค้น ไห่อิงอู่เป็นผู้นำที่มีชื่อของเผ่าทะเล และเผ่าภูตบูรพาจะได้ผลที่ดีที่สุด
ตามคำของอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า (สุ่ยตงหลิว)ความเคลื่อนไหวของเย่ว์หยางต้องการสร้างความยุ่งยากแก่ฝ่ายอื่น
ทวีปมังกรทะยานและแดนปีศาจหยุดสู้รบกันแล้ว และพวกเขาต้องมีเป้าหมายสักอย่าง
ทวีปกวงหมิงเป็นเป้าหมายที่ดีที่สุด!
“ทวีปกวงหมิงเราดำเนินการทูตสายกลาง เราถามเจ้าแต่เพียงเรื่องเป็นพันธมิตร แต่เป้าหมายโจมตีของเจ้าต้องไม่ใช่ทวีปกวงหมิงของเรา” ทัศนคติการทูตที่ติดตัวจิงอวี้เป็นส่วนสำคัญที่สภาสูงใช้ในการตัดสินใจ ถ้าจิงอวี้มีทัศนคติที่ดีก็คงไม่พูดออกมาในทำนองนั้น ตอนนี้สำเนียงที่ออกมาเหมือนแสดงว่าการคุกคามจากทวีปกวงหมิงไม่มีความเป็นกลาง
“เจ้ายังคิดว่าเจ้ามีอำนาจการตัดสินใจได้เหมือนเก่าอีกหรือ? น่าขัน!” โยวกุ่ยจากทวีปมืดแค่นเสียง
“หอทงเทียนไม่ยอมให้ทวีปกวงหมิงแบ่งออกเป็นสองหรอกนะ” ผู้เฒ่าซิงผานส่ายศีรษะปฏิเสธ
“ข้าเตือนพวกเจ้าที่นี่แล้วว่าตราบเท่าที่พวกเจ้าแทรกแซงผลประโยชน์ของทวีปกวงหมิง ความเป็นพันธมิตรระหว่างเราเป็นอันสะบั้น ถ้ารุกรานดินแดนของทวีปกวงหมิงเรา เราจะส่งกองทัพเข้าสู้โดยไม่ลังเลเลย” จิงอวี้มีแนวคิดทางการทูตที่แข็งกร้าวและยึดติดกับความคิดของตนเอง แน่นอนว่าการเรียกร้องนี้เพราะเกี่ยวกับความจริงที่ว่าพวกเขามีทหารรับจ้างแดนสวรรค์คอยสนับสนุนทวีปกวงหมิง
“ว่าไงนะ? ถ้าพวกเจ้ากล้าส่งกองทัพน่ะหรือ นี่เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน?มีใครเคยบอกเจ้าบ้างไหมว่าเจ้ามันโง่?” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังจิงอวี้