ตอนที่ 19-20 หัวใจที่เยือกเย็น
“ครืน...”
ลมเย็นพัดหวีดหวิว ต้นหญ้าลู่ไหวเอนไปมา
ศพของแลนเซลอตและโรแลนด์ตอนนิ่งอยู่บนพื้นไม่มีวี่แววของชีวิตเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังเป็นสุดยอดฝีมือในดินแดนของพวกเขา ยอดฝีมือระดับผู้บัญชาการที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกของพวกเขาอย่างสง่างาม! เหตุผลที่พวกเขาเข้ามาสมรภูมิมหาพิภพเพียงเพราะหวังว่าจะได้ยกระดับพลังของตนเองขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง เพื่อสะสมความดีความชอบทางทหารเอาไปแลกเปลี่ยนเป็นสมบัติมหาเทพทำให้พวกเขากลายเป็นยอดฝีมือระดับสูงในหมู่ผู้บัญชาการ
น่าเสียดาย...
เพราะบางคนประสบความสำเร็จ อีกคนหนึ่งก็ต้องล้มเหลว
ความสำเร็จของผู้บัญชาการคนหนึ่งเป็นตัวแทนของความตายของผู้บัญชาการสิบคนหรือทหารเทพชั้นสูงแสนคน! นี่คือรางวัลของความสำเร็จ! โชคร้ายที่แลนเซลอตและโรแลนด์ล้มเหลว
“ควั่บ!”
สายลมดังขึ้นและจากนั้นก็หยุดลง!
มีร่างสองร่างปรากฏภายในสมรภูมิ สองคนนี้แต่งชุดยาวเขียวและไว้ผมยาวสีเขียว แม้แต่หน้าของพวกเขาก็ยังดูน่ากลัว มองผิวเผินมีความแตกต่างระหว่างสองคนนี้คือ...คนหนึ่งมีคิ้วสีทองขณะที่อีกคนหนึ่งมีคิ้วขาว ใครที่ไม่รู้จักพวกเขาเมื่อเห็นพวกเขาจะนึกว่าทั้งสองเป็นร่างแยกของคนๆเดียวกัน
ถ้าลินลี่ย์อยู่ที่นี่ เขาคงจำสองคนนี้ได้ว่าเป็นผู้บัญชาการแฝดของโลกธาตุลมศักดิ์สิทธิ์จากในตำนานเป็นแน่
“พี่ใหญ่, ท่านเห็นไหมนั่น?” บุรุษคิ้วขาวพูดอย่างจริงจัง
ชายหนุ่มคิ้วทองตรวจดูศพทั้งสองบนพื้นเช่นกันและพยักหน้าเล็กน้อย “ข้าเห็นแล้ว, แม้ว่าข้าไม่เคยเห็นทักษะเทพธรรมชาติในตำนานของเบรุตมาก่อน แต่จากผลึกบันทึกที่ข้าเคยเห็น ข้ายืนยันตอนนี้ได้เลยว่าเงามายานั่นน่าจะเป็นหนูกินเทพตัวหนึ่ง!” ช่วงเวลานี้เมื่อบีบีใช้ทักษะเทพธรรมชาติ เงาร่างหนูกินเทพมีขนาดสูงร้อยเมตร ทำให้คนอื่นสามารถเห็นได้จากที่ไกล
นี่คือเหตุผลที่ลินลี่ย์และบีบีหนีไปทันที
บุรุษหนุ่มคิ้วขาวพยักหน้า “แลนเซลอต..ต่อให้เราผนึกกำลังกันสู้กับเขา ก็ยังยากจะสู้ด้วย เขายากจะจัดการได้ วิญญาณของแลนเซลอตแข็งแกร่งมากมายนักและจะฆ่าเขาได้ คงต้องเป็นระดับพารากอน แต่แน่นอนยังคงมีเบรุต ที่มีทักษะเทพธรรมชาติที่น่ากลัว สุดยอดไม้ตายของเบรุตเป็นไม้ตายที่เหล่าเทพธรรมดาไม่มีทางต้านทานได้ คนที่เพิ่งโจมตีไปนี้... อาจเป็นเบรุตก็ได้!”
เบรุตมีชื่อเมื่อหมื่นกว่าปีที่แล้ว!
สำหรับบีบี มีน้อยคนนักที่จะรู้จักเขา บีบีไม่ได้ทำอะไรที่น่าทึ่งโดยเฉพาะหลังจากที่เขากลายเป็นเทพชั้นสูง แล้วยอดฝีมือเหล่านี้จากพิภพอื่นจะรู้เรื่องของเขาได้ยังไง? ดังนั้นพวกเขาทุกคนเชื่อว่าต้องเป็นเบรุตที่โจมตี!
“เบรุต...เขามาสมรภูมิมหาพิภพทำไมกัน?” บุรุษหนุ่มคิ้วขาวกล่าวพลางขมวดคิ้ว “ด้วยพลังของเขาเขาไม่จำเป็นต้องมาที่นี่เลย หมัดเท้าของเขาก็เทียบได้กับอาวุธมหาเทพอยู่แล้ว สมรภูมิมหาพิภพปั่นป่วนมากพอแล้ว ยังมีเขาเข้าร่วมอีกด้วย...นี่มันไม่ยุติธรรมเลย!”
“แล้วมันไม่ยุติธรรมยังไง? เจ้ากล้าร่วมศึกใหญ่กับเบรุตหรือไม่?” ชายหนุ่มคิ้วทองพูดพลางหัวเราะ
พูดให้ถูกก็คือเพราะพวกเขาเห็นภาพเงาร่างหนูกินเทพพวกเขารอสักครู่ก่อนจะเข้ามา พวกเขากลัวว่าอาจจะเผชิญพบเจอเบรุต
“พอเถอะ, น้องรอง กลับกันเถอะ ระวังไว้ถ้าเราเห็นเบรุต ต้องแน่ใจว่าเราอยู่ห่างจากเขา” ชายหนุ่มคิ้วทองมองดูศพบนพื้น และจากนั้นกลายร่างเป็นแสงเลือนรางจากไป โดยมีน้องชายของเขาตามหลัง พื้นที่ว่างนี้ ในตอนนี้มีเพียงซากศพไร้ชีวิตยังคงเหลืออยู่
ภายในเนินเขาน้อยสีดำเป็นถ้ำว่างเปล่า
ลินลี่ย์และบีบีโผล่ออกมาจากใต้ดินและขุดถ้ำใหญ่จากภายในเนินเขา
“ฮ่าฮ่า, พี่ใหญ่ ความดีความชอบครั้งใหญ่เลยนะนี่!” บีบีร้องเรียกอย่างตื่นเต้น ขณะที่โยนของออกมาทีละชิ้นเกราะม่วง แหวนเก็บสมบัติและของอย่างอื่น ขณะที่บีบีเตรียมพูดอะไรอย่างอื่น เขาชะงักทันที
“พี่ใหญ่!” บีบีมองดูลินลี่ย์ที่ยังตะลึงอยู่
ลินลี่ย์ในตอนนี้จ้องมองป้ายประจำตัวสีทองในมือของเขา ตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและมีน้ำตา
“ในที่สุด ข้าก็ได้ป้ายประจำตัวสีทอง” ลินลี่ย์บีบีมือกำป้ายทองไว้แน่นราวกับจะประทับไว้ในใจของเขา ในขณะนี้เองลินลี่ย์รู้สึกเหมือนกับว่าป้ายทองได้เปลี่ยนเป็นบิดาของเขาเปลี่ยนเป็นจอร์จ เปลี่ยนเป็นเยล เขาอดนึกถึงความทรงจำที่ล้ำค่าเมื่อตอนที่เขายังเป็นวัยเด็กหัดเดินหรือเมื่อตอนที่เขาเยาว์วัยไม่ได้
ป้ายทองสำหรับลินลี่ย์ ... เป็นตัวแทนสำหรับสมบัติมหาเทพหรือ?
เปล่าเลย!
นี่เป็นสิ่งที่ทำให้บิดาที่เขาสูญเสียไปกลับคืนมา ทำให้พี่น้องของเขาที่ตายไปได้กลับคืนมาจากความตาย
“พ่อ, พี่ใหญ่เยล จอร์จ” ลินลี่ย์หลับตาพึมพำ “ข้า..สามารถช่วยพวกท่านได้อย่างน้อยก็คนหนึ่งแล้ว... พี่น้องของข้า..พวกเจ้ารอคอยข้าก่อน รอให้ข้าออกมาจากสงครามหาพิภพก่อน พวกเจ้าทนมาได้เกือบสองพันปีแล้ว แค่อดทนต่ออีกเล็กน้อย!”
“รอข้า...”
น้ำตาเริ่มซึมออกมาจากหางตาของเขาอย่างช่วยไม่ได้
นับตั้งแต่เขาเข้ามาในยมโลก ผ่านไปกว่ายี่สิบสามสิบปีแล้วลินลี่ย์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ เขารู้สึกเหมือนกับว่ามีศิลายักษ์กดทับหัวใจของเขา! ครั้งแรก,เขาต้องไปภูเขาสิ้นหวังเพื่อพบกับพระยายมราช จากแสงแห่งความหวังที่ริบหรี่ จากนั้นเขาเข้าทาร์ทารัสเพื่อท้าประลองกับลอร์ดเรดคลิฟในที่สุดได้รับความสำเร็จกลายเป็นผู้มีคุณสมบัติเข้าสมรภูมิมหาพิภพ
แต่นั่นเป็นเพียงการเริ่มต้น
หลังจากเข้าสมรภูมิมหาพิภพ ลินลี่ย์ตกอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างต่อเนื่องและเขาแทบจะสูญเสียความรู้สึกในใจ ลึกลงไปในใจของเขา ยังมีความรู้สึกกลัว
สมรภูมิมหาพิภพที่มองอย่างผิวเผินจะดูสงบนี้ มียอดฝีมือที่ทรงพลังซ่อนตัวอยู่ในนี้! ลินลี่ย์กลัวว่าเขาจะผจญพบเจอกับคนที่สามารถฆ่าเขากับบีบีได้ เขาไม่กลัวความตายของตนเอง แต่ถ้าบีบีตาย ลินลี่ย์จะเสียใจไปตลอดกาล และ...ถ้าเรื่องนั้นเกิดขึ้น เขาจะไม่มีทางช่วยบิดาของเขาและพี่น้องของเขาได้เลย
หลังจากอยู่ในสมรภูมิมหาพิภพมามากกว่าครึ่งปีและหลังจากล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ลินลี่ย์ก็เริ่มสงสัยตนเอง
ความกระวนกระวายใจ ความกระสับกระสาย! อารมณ์เหล่านี้รุมเร้าลินลี่ย์อย่างต่อเนื่อง!
แม้ว่ามองดูผิวเผินจะปรากฏเหมือนกับว่าลินลี่ย์รออยู่อย่างใจเย็น แต่ในใจแล้วลินลี่ย์ตื่นกลัว นี่เป็นเพราะเขายังฆ่าผู้บัญชาการไม่ได้สักคน เขาเริ่มสงสัยว่าเขาจะสามารถได้รับป้ายผู้บัญชาการสักป้ายได้หรือไม่ นี่เป็นความกระสับกระส่ายที่ลินลี่ย์เผชิญพบเจออยู่ แต่บัดนี้..ตอนนี้การต่อสู้ใหญ่เกิดขึ้นกะทันหัน
และนำมาซึ่งความสุขที่มิได้คาดคิด
“ในที่สุดข้าก็ทำได้สำเร็จ ป้ายทองประจำตัว” ลินลี่ย์พูดกับตนเอง “บีบีกับข้าร่วมมือกัน จะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน ไม่ถึงปี แต่ข้าก็ได้รับป้ายทองป้ายหนึ่งแล้ว นอกจากนี้ยังมีเวลาเหลืออีกเกือบเก้าร้อยปีในสมรภูมิมหาพิภพนี้ ข้าจะได้รับป้ายทางอย่างเพียงพอแน่นอน”
ความสำเร็จนี้ช่วยให้หัวใจของลินลี่ย์สงบลงไปมาก!
ไม่ว่าวันคืนในอนาคตจะโหดร้ายหรืออันตรายเพียงใดก็ตาม ลินลี่ย์จะเผชิญหน้าอย่างมั่นใจ
“ใช่แล้ว มีป้ายทองอีกหนึ่งป้าย” ทันใดนั้นลินลี่ย์หันไปมองบีบีและรีบกล่าว “บีบีแหวนเก็บของนั่น รีบเปิดมาดูกัน เมื่อโรแลนด์ถูกฆ่าก็มีแหวนเก็บของอยู่ด้วย” ลินลี่ย์รู้สึกค่อนข้างตื่นเต้น
บีบีให้ความสนใจสีหน้าอารมณ์ของลินลี่ย์ในตลอดเวลามานี้และเขาหัวเราะทันที “ได้เลยข้าจะเปิดแหวนดูเดี๋ยวนี้แหละ” บีบีเข้าใจว่าน้ำตาที่ลินลี่ย์หลั่ง เป็นน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ
บีบีหยดเลือดลงบนแหวนเก็บของ
“เอ๊ะ?” บีบีจ้องมอง
ลินลี่ย์อดขมวดคิ้วไม่ได้
หยดเลือดที่หยดลงที่แหวนมิติ และกลิ้งร่วงลงพื้นได้ยินเสียงแผละชัดเจน
“บ้าจริง! แลนเซลอตนั่นมีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ที่ยังมีชีวิต!” บีบีพูดอย่างโมโห
“งั้นก็คงเป็นเช่นนั้นจริงๆ!” ลินลี่ย์เตรียมพร้อมเรื่องนี้มาตลอด
โดยทั่วไปผู้บัญชาการส่วนใหญ่ที่เข้าสมรภูมิมหาพิภพจะทิ้งร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ไว้ข้างนอก ที่สำคัญโอกาสตายในสมรภูมิมหาพิภพมีสูงมาก สำหรับแลนเซลอต เห็นได้ชัดว่าเขาทิ้งร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ไว้ข้างนอก ทำให้ลินลี่ย์ไม่สามารถเปิดแหวนมิติเก็บของได้แน่นอน
“อ๊า...” บีบีร้องด้วยความโกรธทันที “สมบัติมหาเทพประเภทเกราะ! สมบัติมหาเทพประเภทเกราะก็ใช้การไม่ได้ มันไร้ประโยชน์
ถ้าแม้แต่แหวนเก็บของก็ยังไม่สามารถผูกสัญญาได้ อย่างนั้นสำหรับสมบัติมหาเทพชนิดป้องกันก็เป็นความจริงที่เหมือนกัน
ลินลี่ย์เหลือบมองเกราะสีทองเข้มจากนั้นหัวเราะและกล่าว “บีบี,ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้น เจ้าควรจะรู้..สมบัติมหาเทพสำหรับป้องกันนี้แลนเซลอตได้รับมาจากมหาเทพ ต่อให้เราฆ่าเขา มหาเทพก็ยังจะมาเอาสมบัติคืนไป ที่สำคัญที่สุด เราสามารถยึดไว้ใช้ได้ชั่วคราว”
“ข้ารู้เหตุผลนี้ แต่อย่างน้อยเราควรจะได้สวมใส่ในช่วงเวลาหนึ่งไม่ใช่หรือ?” บีบีพูดอย่างจนใจ
“ช่วงเวลาหนึ่ง? ใครจะรู้ว่าเมื่อใดมหาเทพจะมาเอาสมบัติคืนไป” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะอย่างใจเย็น
ลินลี่ย์ก็ยังสงสัยอยู่ว่ามหาเทพจะติดตามสงครามมหาพิภพอยู่ตลอดเวลาหรือไม่ มหาเทพผู้ทรงพลังอาจเอาสมบัติคืนไปทันทีก็ได้หรือพวกเขาอาจจะรอ...รอให้เวลาผ่านไปสักนิดก่อนจะเอาสมบัติคืนไป แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือสมบัติมหาเทพที่ได้รับมาโดยการฆ่าเจ้าของเดิมจะต้องถูกมหาเทพรับคืนไปในที่สุด
“สำหรับข้าสิ่งที่น่าเสียดายก็คือการสูญเสียป้ายประจำตัวนั้นนั่นเอง” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะถอนหายใจ
“ใช่แล้ว เราไม่สามารถเอาป้ายประจำตัวออกมาได้” บีบีพูดพลางถอนหายใจ
ตามกฎของการแลกความดีความชอบทางทหารเมื่อสงครามมหาพิภพได้ข้อสรุป และนักสู้เดินออกผ่านประตูมิติ พวกเขาจะได้รับผลประโยชน์ความดีความชอบทางทหารตามจำนวนป้ายทองที่ได้รับ แม้ว่าลินลี่ย์จะพบร่างแยกของแลนเซลอตในอนาคตและบังคับให้เขาดึงเอาป้ายทองออกมาก็ตาม ก็ยังเปล่าประโยชน์
“ดังนั้นป้ายทองบางส่วนก็เป็นอันเสียเปล่าไปในลักษณะนี้” ลินลี่ย์พูดพลางฝืนหัวเราะ
บางทียอดฝีมืออาจฆ่าผู้บัญชาการเจ็ดหรือแปดคนและได้รับป้ายประจำตัวไว้เจ็ดหรือแปดป้ายแล้ว แต่ถ้ายอดฝีมือกลับถูกฆ่า คนผู้นั้นก็จะได้รับเพียงป้ายเดียว สำหรับเจ็ดแปดป้ายที่อยู่ในแหวนเก็บสมบัติไม่มีทางที่จะดึงออกมาได้ ของเหล่านั้นต้องเป็นของเสียเปล่า
“มีหลายอย่างที่ต้องสูญไปเปล่าๆ ตัวอย่างเช่นระหว่างการสู้รบสุดท้ายในทะเลดวงดาว” บีบีพูดพลางถอนหายใจ “นั่นคือที่ซึ่งท่านต้องเดิมพันด้วยชีวิต บางทีท่านจบสิ้นหลังจากสู้มาตลอดและตกลงไปในพื้นที่ปั่นป่วนในทะเลดวงดาว นอกจากนี้ป้ายประจำตัวบางส่วนจะตกลงไปในพื้นที่ปั่นป่วนหรือมิติฉีกขาดของทะเลดวงดาว” บีบีกล่าว
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
“ดูเหมือนว่าอาศัยความได้เปรียบจากการทำงานของคนอื่นไม่ใช่เรื่องง่ายเว้นแต่คนนั้นไม่มีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ข้างนอกแน่นอน แต่จำนวนคนที่จะทำเช่นนี้มีน้อยเกินไป” ลินลี่ย์พูดพลางส่ายศีรษะ
การสร้างความดีความชอบทางทหารไม่ใช่งานง่ายๆ ต้องทำไปทีละขั้นตอน
“พี่ใหญ่ เราควรจะทำยังไงกับแหวนเก็บสมบัติ? ทำลายมันหรือควรจะเก็บไว้?” บีบีกล่าว
“เก็บเอาไว้มีแต่จะสร้างปัญหาและไม่มีประโยชน์ ทำลายซะ” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะอย่างใจเย็น
“ปัง!” บีบีใช้กำลังบางส่วนกระแทกทำลายแหวนเก็บสมบัติในนิ้วมือของเขา สมบัติทั้งหมดในแหวนเก็บสมบัติกลายเป็นความว่างเปล่าไม่มีอะไร
“แล้วสมบัติมหาเทพนี้...ทิ้งไว้ที่นี่รอให้มหาเทพมาเก็บ”
“ฮ่าฮ่า, ความจริงต่อให้เราต้องการทำลายเราก็คงทำไม่ได้” บีบีพูด จากนั้นเขาถอดเกราะทองและเตะอยู่สองสามครั้ง “ไอ้ของบ้านี่แข็งจริงๆ ฮึ่ม ร่างของข้ายังไม่ถึงขีดจำกัดเต็มที่ต่อไปในอนาคต ข้าจะต้องไม่อ่อนแอกว่าสมบัติมหาเทพไหนๆ แน่” บีบีบ่นพึมพำ
แม้ว่าพลังป้องกันของบีบีจะร้ายกาจ แต่ละครั้งที่เขากลืนประกายเทพเขาจะใช้แก่นประกายเทพช่วยเสริมพลังให้ร่างกายของเขา
เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาอยู่บ้าง ระยะเวลาที่บีบีต้องใช้กับระดับเทพชั้นสูงก็คือล้านปีซึ่งยังน้อยกว่าที่เบรุตใช้ ยังมีระยะห่างระหว่างพลังของทั้งสอง
ลินลี่ย์ฝึกอย่างสงบในถ้ำนั้น ขณะที่ร่างเดิมของเขายังคงควบคุมโกเลมมัจจุราชให้คอยเป็นตัวหลอกล่อ
สมรภูมิมหาพิภพเป็นเหมือนกับที่เคยเป็นมาก่อนมองดูอย่างผิวเผินจะสงบ แต่ในเงามืดการต่อสู้และการเข่นฆ่ามีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสมรภูมิมหาพิภพจะอันตรายมาก แต่ลินลี่ย์ประสบผลไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้เขามั่นใจตัวเอง เขาได้รับป้ายทองในเวลาไม่ถึงปี ถ้าเขาสามารถได้รับป้ายทองทุกสิบปีเป็นอย่างน้อย เขาคงจะบรรลุเป้าหมายได้ง่ายดาย
เขารออย่างใจเย็น รอปลาตัวใหญ่ให้มางับเหยื่อของเขาอย่างใจเย็น
“ด้วยจิตใจที่เยือกเย็นของข้า... การฝึกฝนของข้าก้าวหน้าในระดับที่รวดเร็วเช่นกัน” ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ และลืมตา
“เอ๊ะ?” บีบีเหมือนกับว่ารู้สึกอะไรได้ เขาลืมตามองดูลินลี่ย์เช่นกัน “พี่ใหญ่, มีอะไร?”
“บีบี, เตรียมตัวไว้ ข้าพบคนอยู่ใกล้ๆ นี้” ดวงตาของลินลี่ย์ทอประกายวูบวาบ
“เรามีเป้าหมายหรือ?” บีบีตื่นเต้นขึ้นทันที เขารีบลุกขึ้นยืน “ฮ่าฮ่า,ไม่ถึงครึ่งเดือน แต่เราก็ได้เป้าหมายใหม่ ได้เวลาที่ข้าจะแสดงฝีมืออีกครั้งแล้วฮ่าฮ่า!” บีบีกระตือรือร้นมาก
“อย่าเพิ่งรีบร้อนดูก่อนว่าพวกเขาเป็นศัตรูหรือไม่ แล้วจึงค่อยไป!”
ลินลี่ย์และบีบีลอดผ่านไปตามอุโมงค์ไปตามใต้ภูเขา