ตอนที่แล้วตอนที่ 19-11 ชัยชนะและพ่ายแพ้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 19-13 อันตราย

ตอนที่ 19-12 สี่ตราสี่สี


ภูเขาเฟลมบอน ทั่วทั้งภูเขามีเปลวไฟคลุมรอบ

ร่างคนสองคนพุ่งผ่านขอบฟ้าและหยุดในกลางอากาศเหนือภูเขาเฟลมบอน  เป็นลินลี่ย์และบีบี

“กร้วม!” บีบีกัดกินผลไม้ลูกหนึ่งก้มหน้ามองยอดเขาข้างล่าง  “พี่ใหญ่, ครั้งล่าสุดที่เรามาที่นี้  เราถูกทหารพวกนั้นขัดขวางเป็นเพราะเราไม่ใช่เจ้าแคว้นหรือลอร์ดทาร์ทารัส ผ่านไปสองสามเดือน ตอนนี้เป็นไงเล่า? พี่ใหญ่, ตอนนี้ท่านได้เป็นลอร์ดทาร์ทารัสแล้วข้าสงสัยว่าพวกทหารเหล่านั้นจะทำหน้ายังไง?”

ขณะที่พูดเขาโยนเม็ดผลไม้ที่กินแล้วไว้ข้างหนึ่ง

“ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็นและบินไปในท้องฟ้าโดยมีบีบีตามหลัง

บนยอดเขามีปราสาทเก่าแก่โบราณสีดำสนิทและมีเพลิงลุกท่วมเช่นกัน มีทหารหลายคนลาดตระเวณอยู่ด้านนอก และที่หน้าประตูมีคนมากกว่าสิบคนยืนนิ่งกับที่เป็นสองแถว  เมื่อเห็นลินลี่ย์กับบีบีหนึ่งในทหารเกราะดำก้าวออกมาเล็กน้อย “เอ๊ะ? พวกเขาอีกแล้วหรือ?”

ทหารเกราะดำที่รู้สึกทึ่งผู้นี้คือคนที่เคยรับหน้าลินลี่ย์เมื่อครั้งก่อน

ที่สำคัญในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือนทหารที่นี่ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

“เฮ้, ทำไมพวกเจ้าทั้งสองคนถึงกลับมาที่นี่อีก?”  ทหารเกราะดำอดถามด้วยความไม่พอใจไม่ได้  “ครั้งล่าสุด, ข้าบอกพวกเจ้าทั้งสองไปแล้ว  เราเปิดประตูมิติให้เฉพาะลอร์ดทาร์ทารัสและเจ้าแคว้นเท่านั้น”

ลินลี่ย์และบีบีลงมายืนที่พื้น

“พี่ใหญ่!  ทหารพวกนี้ยังไม่รู้สถานะของท่าน ”บีบีพูดอย่างสงสัย  “ก็เจ้านั่นบอกว่าในวันเดียวข้อมูลของท่านจะถูกส่งไปถึงภูเขาเฟลมบอนไม่ใช่หรือ?  ทำไมทหารเหล่านี้จึงไม่รู้? เราใช้เวลาสองสามวันบินจากเขตเรดคลิฟมาที่นี่  พี่ใหญ่!  ข้อมูลของท่านควรจะมาถึงที่นี่นานแล้ว”

ลินลี่ย์เหลือบมองดูทหาร จากนั้นหัวเราะอย่างใจเย็น “ข้อมูลเกี่ยวกับข้าคงจะไปถึงสมาชิกระดับสูงของภูเขาเฟลมบอน  แต่ทหารธรรมดาเหล่านี้ยังไม่ทราบข้อมูล” ลินลี่ย์ไม่ต้องการเปลืองคำพูดกับทหารธรรมดาเหล่านี้ดังนั้นเขาก้าวเดินทันที ความเคลื่อนไหวเดินเข้ามากะทันหันของเขาทำให้ทหารเหล่านี้รู้สึกประหลาดใจเป็นธรรมดา

“หยุดนะ!”  ทหารมากกว่าสิบคนถลึงตามองลินลี่ย์

“พวกเจ้าทั้งสอง!  ที่นี่ไม่ใช่ที่ธรรมดา  พวกเจ้าไม่อาจบุกรุกเข้ามาได้  เราไม่สามารถหยุดพวกเจ้า  แต่พวกเจ้าคงไม่กล้าล่วงเกินมหาเทพใช่ไหม?” หัวหน้านักรบเกราะดำจ้องมองลินลี่ย์และบีบีด้วยนัยน์ตาสีฟ้า ครั้งล่าสุดพวกเขารู้จักพลังของลินลี่ย์และบีบีดีแล้วดังนั้นพวกเขาไม่กล้าลงมือป่าเถื่อนเกินไป

“ข้าคือลอร์ดเรดคลิฟ”  ลินลี่ย์พูดอย่างสงบ

“เอ๋?”

นักรบเกราะดำสิบกว่าคนตะลึงทันที

“เจ้าต้องล้อเล่นแน่” นักรบเกราะดำไม่อยากเชื่อ เขาหัวเราะและมองลินลี่ย์ “เพิ่งผ่านมาเพียงสองสามเดือนเท่านั้น”

ประการแรกเวทีประลองร้อยศึก  จากนั้นก็ท้าประลองกับลอร์ดทาร์ทารัส..ผลก็คือชัยชนะ! ทั้งหมดกินเวลาไม่กี่เดือนเองหรือ? ความเร็วระดับนี้มันเร็วเกินไป นักรบเกราะดำไม่กล้าเชื่อเรื่องนี้

“อย่าเสียเวลาพูด”  บีบีตวาดอย่างเหลืออด  “ถ้าพี่ใหญ่ข้าบอกพวกเจ้าว่าเขาเป็นท่านลอร์ด  อย่างนั้นเขาก็ต้องเป็นท่านลอร์ด!  รีบไปบอกหัวหน้าของพวกเจ้า เขาจะรู้ข่าวเรื่องลินลี่ย์เป็นลอร์ดเรดคลิฟคนใหม่”

“เอ๊ะ?”

นักรบเกราะดำมองหน้ากันเอง จากนั้นมองหน้าลินลี่ย์และบีบีอย่างระมัดระวังอีกครั้ง

“หัวหน้า ดูเหมือนพวกเขาจะพูดความจริง”  นักรบเกราะดำกระซิบกันเองผ่านสำนึกเทพ

“แต่นี่เป็นเวลาเพียงไม่กี่เดือน  มันบ้าไปแล้ว”

แม้ว่านักรบเกาะดำทุกคนจะรู้สึกตื่นเต้น  แต่หัวหน้านักรบเกราะดำยังคงกล่าว  “ก็ได้ ข้าจะไปสอบถามดูก่อน  ท่านทั้งสองโปรดรออยู่ตรงนี้ก่อน” หลังจากพูดแล้วนักรบเกราะดำบินเข้าไปในปราสาทลึกทันที  ขณะที่ลินลี่ย์และบีบีรออยู่ข้างนอกอย่างอดทน

นักรบเกราะดำที่เหลือยังคงจ้องมองดูลินลี่ย์และบีบีด้วยความประหลาดใจ

เห็นได้ชัดว่านักรบเกราะดำเหล่านี้ไม่กล้าปักใจเชื่อ

ครู่ต่อมา...

“ลอร์ดเรดคลิฟ, ลอร์ดเรดคลิฟ!”  มีเสียงทุ้มดังออกมา  ลินลี่ย์และบีบีหันไปมอง เห็นเป็นบุรุษร่างกำยำสวมเกราะสีฟ้าตัวสูงกว่าลินลี่ย์เล็กน้อยก้าวเดินเข้ามา   นักรบเกราะดำข้างหลังเขามองดูลินลี่ย์ด้วยความทึ่ง  สายตาของบุรุษเกราะฟ้ามองดูลินลี่ย์โดยตรงและดวงตาของเขาเป็นประกายทันที

“ลอร์ดเรดคลิฟเราเพิ่งจะได้รับข้อมูลเมื่อไม่นานมานี้และเรายังไม่ได้ส่งต่อข้อมูลไปให้ทหารระดับล่าง ใครจะคิดกันเล่าว่าท่านจะมาถึงที่นี่รวดเร็วนัก  ลอร์ดเรดคลิฟ?”  นักรบเกราะฟ้าพูดพลางหัวเราะ  “โอว, ข้าขอแนะนำตัวเองก่อน ข้าชื่อดิลาส!”

“ลินลี่ย์”  ลินลี่ย์หัวเราะรับทราบ

เมื่อได้ยินลินลี่ย์รายงานชื่อบุรุษร่างกำยำเกราะฟ้าพยักหน้าและหัวเราะ “เนื่องจากเราเพิ่งจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับท่านเราค่อนข้างแน่ใจเกี่ยวกับสถานะของท่าน ยิ่งเมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่อยู่กับท่าน  แต่อย่างไรก็ตามใต้เท้า, โปรดแสดงข้อพิสูจน์เล็กน้อยให้กับเราด้วย  ท่านสามารถแสดงร่างแปลงมังกรหรือแสดงเทพกระบี่ไร้ลักษณ์ที่ท่านมีก็ได้”

ลินลี่ย์เพียงแต่เหยียดมือขวา

เกล็ดมังกรสีทองฟ้าคลุมเต็มมือของเขา

“แค่นั้นก็มากพอแล้ว” นักรบเกราะฟ้าหัวเราะ “โปรดอภัยให้เราด้วย เราจำเป็นต้องระมัดระวังเช่นกัน ข้าจะนำทางใต้เท้าเอง โปรดตามข้ามา”

ลินลี่ย์และบีบีตามนักรบเกราะฟ้าเข้าไปข้างใน

บีบีหันหน้าไปมองนักรบเกราะดำที่ด้านข้างและจงใจเชิดหน้าใส่

“เขาคือลอร์ดทาร์ทารัสจริงๆ!”  หัวหน้านักรบเกราะดำลูบจมูกแสดงอาการเหลือเชื่อ  “นานเท่าไหร่แล้ว?ครั้งสุดท้ายที่เราโบกมือไล่พวกเขาออกไป แต่ในพริบตา เขาก็กลายเป็นลอร์ดทาร์ทารัสคนหนึ่งได้”

“ยังดีที่ลอร์ดลินลี่ย์เป็นคนที่อารมณ์ดี  ถ้าเป็นอย่างลอร์ดเฟลมบอน และหัวหน้ากล้าแสดงความไม่เคารพอย่างนี้ เป็นไปได้ว่าเจ้าอาจถูกฆ่าตายเพราะความโกรธไปแล้ว”  นักรบเกราะดำที่อยู่ใกล้ๆ ยิ้มและหัวเราะ  แม้ว่า..ปราสาทนี้จะเป็นของมหาเทพ  แต่กิจการของปราสาทดำเนินการโดยทูตมหาเทพ

ทูตมหาเทพเป็นคนที่จัดการดูแลทหารนักรบเหล่านี้  ถ้าลอร์ดทาร์ทารัสฆ่าทหารไปคนหนึ่ง  ทูตมหาเทพจะเข้ามาโต้เถียงกับลอร์ดทาร์ทารัสเพราะเห็นแก่นักรบผู้น้อยหรือ?

“เมื่อข้าคิดถึงเรื่องนี้ทีไร มันน่ากลัวจริงๆ  แต่ข้าก็ยังรู้สึกเหมือนกับว่าข้าฝันไป” นักรบเกราะดำอดมองไปตรงตำแหน่งที่ลินลี่ย์กับบีบีเดินผ่านไปไม่ได้  เขาส่ายศีรษะถอนหายใจ

ลินลี่ย์และบีบีอยู่ภายใต้การนำทางของดิลาสนักรบเกราะฟ้าและยังคงเดินนำไปตามทางที่กว้าง ทางเดินที่กว้างนี้ล่วงลึกเข้าไปในพื้นที่ แม้ว่าจะเป็นทางเดินลงไป แต่ก็ยังกว้างเพียงพอให้คนมากกว่าสิบคนเดินเรียงหน้าไปพร้อมกันได้และมีความสูงอย่างน้อยสิบเมตร

เพียงแต่เมื่อพวกเขาเดินลึกเข้าไป  ก็ค่อนข้างมืด

“ประตูมิติสร้างอยู่ในใจกลางภูเขาเฟลมบอน”  ดิลาสเดินอธิบายอย่างอารมณ์ดี “สมรภูมิมหาพิภพเชื่อมโยงกับเจ็ดโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์และสี่พิภพชั้นสูง  รวมแล้วมีประตูมิติถึงสิบเอ็ดแห่ง ตามตำนานกล่าวไว้ว่า...ผลงานที่ยิ่งใหญ่นี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์โดยฝีมือของสี่จอมเทพสร้างสำเร็จพร้อมกัน”

“พร้อมกันเชียวหรือ?” ลินลี่ย์พูดด้วยความทึ่ง

ความจริงมีแต่บุคคลอย่างจอมเทพจึงสร้างประตูมิติระดับนี้ได้ อย่างไรก็ตามลินลี่ย์คาดไม่ถึงเลยว่าจอมเทพทั้งสี่จะพร้อมใจกันสร้างประตูนี่

“หึหึ!  ท่านลอร์ด นั่นคือสิ่งที่ข้าได้ยินได้ฟังมา” ดิลาสหัวเราะ

“จอมเทพ....จอมเทพ...พวกเขาทรงพลานุภาพมาก  แต่ข้าไม่เคยเห็นเลยสักคน”  บีบีพึมพำ

ดิลาสเพียงแต่พูดพลางหัวเราะ  “ไม่เคยเห็นเลยหรือ?  จอมเทพอยู่รอบตัวพวกท่านเสมอ”

“เหรอ?” บีบีจ้องมอง

“เรามักจะถูกรายล้อมและใช้ชีวิตอยู่ภายใต้กฎธาตุและวิถีธรรมชาติ สี่จอมเทพเป็นศูนย์รวมของสี่วิถีที่ยิ่งใหญ่  ตามปกติพวกท่านอยู่อยู่ข้างๆ พวกเจ้า”  ดิลาสพูดพลางยิ้ม และจากนั้นเขามองไปข้างหน้า  “โอว, เราเกือบจะถึงที่นั่นอยู่แล้ว!  ประตูมิติปรากฏอยู่ข้างหน้า  ท่านลอร์ดเชิญท่านทั้งสองไปรอคอยอยู่ที่นั่นก่อน

ลินลี่ย์มองดูข้างหน้า เขารู้สึกเลือนรางได้ถึงรัศมีที่ไม่เหมือนใครข้างหน้า

ในที่สุดทางเดินเป็นห้องกว้างที่มีการคุ้มกันอย่างดี ในใจกลางห้องมีสระสีดำกลมเส้นผ่าศูนย์กลางสิบเมตร  ในใจกลางสระมีประตูบานหนึ่งยาวห้าเมตรสูงสิบเมตร ประตูบานนี้ตั้งตระหง่านอยู่กลางสระเปล่งแสงสีดำ  ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ว่ารังสีที่ไม่เหมือนใครนี้แผ่ออกมาจากภายในนั้น

“ลอร์ดลินลี่ย์” มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

ลินลี่ย์หันไปมองที่ด้านซ้ายของห้องโถงมีผู้อาวุโสผมขาวยืนอยู่กับกลุ่มนักรบเกราะฟ้า

ชายชราผมขาวยิ้มขณะเดินเข้ามาหา “เราเพิ่งทราบข่าวของท่านมาไม่นานนี้ลอร์ดลินลี่ย์  งั้นท่านก็เป็นสมาชิกของเผ่ามังกรฟ้า  ข้าเป็นสหายเก่ากับประมุขกัซลีสันแห่งเผ่ามังกรฟ้าของเจ้า  โอว, ข้าลืมแนะนำตัวเองไป  ข้าชื่อกัลเลน!”

“ท่านกัลเลน!”  ลินลี่ย์ยิ้ม  “ข้าต้องการเข้าสมรภูมิมหาพิภพ  ไม่แน่ใจว่าข้ายังต้องทำอะไรอีกไหม?”

“นี่ง่ายมาก”  ชายชราผมขาวสร้างป้ายตราขนาดเท่าฝ่ามือคู่หนึ่งปรากฏอยู่ในมือของเขา ตราทั้งสองเปล่งรัศมีสีดำ  แต่แม้ว่าตราทั้งสองจะคลุมไปด้วยรัศมีดำ  แต่ก็ทำจากวัสดุที่แตกต่างกัน  ชิ้นหนึ่งทำมาจากวัสดุสีแดงดุจโลหิต  ขณะที่อีกป้ายหนึ่งทำมาจากวัสดุสีดำสนิท  “บรรดาป้ายทั้งสองนี้ป้ายสีแดงเป็นตัวแทนผู้บัญชาการ ขณะที่ป้ายสีดำนี้เป็นของทหารธรรมดา!  ขณะเดียวกัน...นี่ยังเป็นเครื่องหมายแสดงว่าเจ้าทั้งสองคนเป็นคนฝ่ายมืดในการสู้รบครั้งนี้”

ขณะที่เขาพูด เขาส่งป้ายทั้งสองให้ลอยเข้าหาลินลี่ย์และบีบี

ลินลี่ย์รับป้ายแดงไว้ ขณะที่บีบีรับป้ายสีดำ

“โปรดผูกสัญญาและเก็บเอาไว้กับตัวพวกเจ้า”  ชายชราผมขาวหัวเราะอย่างเยือกเย็น  ขณะที่เขากล่าว  “หลังจากพวกเจ้าเข้าสู่สมรภูมิมหาพิภพ  ถ้าเจ้าเผชิญเจอกับคนฝ่ายเดียวกัน  เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้  เจ้าจะรู้สึกได้ถึงรัศมีตราป้ายของกันและกัน”

ลินลี่ย์หัวเราะ นี่เป็นขั้นตอนเดียวกันกับป้ายตราของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์

ลินลี่ย์และบีบีผูกสัญญาด้วยเลือดกับป้ายทันทีและเก็บป้ายไว้ในตัว

“พวกเจ้าทั้งสองคน ป้ายศิลาที่อยู่ตรงนี้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับความดีความชอบทางทหารสลักเก็บไว้  เชิญดูก่อน” ชายชราผมขาวชี้แผ่นป้ายศิลาที่ติดอยู่ผนัง แผ่นหินมีความกว้างหนึ่งเมตรและสูงสามเมตร

“ความดีความชอบทางทหาร?”

ลินลี่ย์และบีบีตาเป็นประกาย  ครั้งนี้ที่ลินลี่ย์มาโดยเฉพาะเจาะจงก็เพื่อสะสมความดีความชอบทางทหาร  เขาเดินไปที่แผ่นศิลาทันทีมองดูอย่างระมัดระวัง

ข้อมูลบนแผ่นศิลาเขียนไว้คร่าวๆ  แต่เมื่อเห็นแล้ว ลินลี่ย์สูดหายใจหนาวเหน็บ

“โหดอำมหิตจริงๆ” ลินลี่ย์รำพึงกับตนเอง

กฎของสงครามมหาพิภพ...

สงครามแต่ละครั้งแบ่งออกเป็นสองฝ่าย  ด้านผู้บัญชาการจะมีตราสีแดง  กับทหารธรรมดาจะมีตราสีดำ  ผู้บัญชาการอีกฝ่ายหนึ่งจะมีป้ายตราสีทองส่วนทหารธรรมดาอีกฝ่ายหนึ่งจะมีตราสีขาว การกลายเป็นผู้บัญชาการเขาจะต้องเป็นลอร์ดทาร์ทารัส เจ้าครองแคว้น เทพอสูร หรือคนในระดับเดียวกัน สำหรับทหารจะต้องเป็นเทพชั้นสูง

ตัวอย่างเช่น ลินลี่ย์กับบีบี

ถ้าพวกเขาฆ่าทหารฝ่ายเดียวกัน  พวกเขาจะไม่ได้รับความดีความชอบทางทหาร

ต้องฆ่าฝ่ายศัตรูและได้ป้ายขาวร้อยป้ายก็จะได้หยดพลังมหาเทพหนึ่งหยด  เมื่อได้รับป้ายขาวพันป้าย  พวกเขาจะขอรับสมบัติมหาเทพได้  แต่แน่นอน ถ้าพวกเขาได้รับป้ายทองสิบป้าย พวกเขาจะใช้แลกสมบัติมหาเทพได้ชิ้นหนึ่ง

อย่างไรก็ตามมีหนึ่งอย่าง.. ที่ป้ายทองไม่สามารถแลกได้ก็คือพลังมหาเทพ!  จะแลกพลังมหาเทพได้เขาจะต้องใช้ป้ายขาวเท่านั้น

นี่เป็นการทำลายโอกาสให้นักสู้ได้รับพลังมหาเทพในปริมาณมากจนเกินไป

นอกจากนี้ ถ้าคนสามารถฆ่าผู้บัญชาการฝ่ายศัตรูได้ห้าคนระหว่างสงครามมหาพิภพ  หลังจากการสู้รบได้ผลสรุป  ความดีความชอบทางทหารสามารถบันทึกสะสมไว้ได้  เมื่อมีสงครามมหาพิภพครั้งต่อไปเริ่มขึ้น  ถ้าเขาฆ่าผู้บัญชาการได้มากกว่าห้าคนผลความดีความชอบทางทหารก็จะรวมกันเป็นสิบ

“อย่างนั้นก็สะสมได้ใช่ไหม?”  ลินลี่ย์ถอนหายใจ  “และคนต้องฆ่าทหารธรรมดาด้วยหรือ?  นั่นเป็นแค่การฆ่าไม่ใช่หรือ?”

“แม้ว่าดูเหมือนจะง่าย แต่ทหารธรรมดาจะรวมตัวกันอยู่ในที่แห่งหนึ่ง  จะฆ่าพวกเขาร้อยคนน่ะหรือ? เป็นไปได้ว่าเจ้าอาจต้องเจ็บตัวจากพลังโจมตีจากทหารเป็นหมื่น ส่วนใหญ่เป็นอสูรหกดาวและอสูรเจ็ดดาวที่มีพลังโจมตีวิญญาณหนึ่งในสิบของพลังเจ้าแคว้น  แต่เมื่อเป็นการโจมตีจากทหารหมื่นคน แม้แต่ลอร์ดทาร์ทารัสคนเดียวก็ยังต้องเผ่นหนี  และอาจถูกฆ่าได้ถ้าเขาหนีไวไม่พอ”  ผู้อาวุโสผมขาวกัลเลนพูดพลางหัวเราะอย่างใจเย็น

ลินลี่ย์ได้แต่พยักหน้า

ถ้าผู้บัญชาการคนหนึ่งเชิญหน้ากับทหารหลายสิบคนอาจไม่ยากเกินที่จะฆ่าพวกเขา

แต่ถ้าผู้บัญชาการเผชิญเจอกับทหารเป็นพันเป็นหมื่นแล้วยังโจมตีก็เท่ากับฆ่าตัวตาย

“ผู้บัญชาการทุกคนยากจะฆ่าได้ ทุกคนที่กล้าเข้ามาจะมีวิธีดำรงชีวิตของตนเอง ดังนั้นนั่นคือเหตุผลให้ความดีความชอบทางทหารสะสมตามเวลาได้!” ชายชราผมขาวกัลเลนพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี  “ถ้าเจ้าเข้าร่วมสงครามมหาพิภพหลายครั้งเจ้าจะสามารถสะสมความดีความชอบทางทหารได้พอ แต่แน่นอนว่าเจ้าอาจจะเสียชีวิตได้เช่นกันในสงครามมหาพิภพนี้และนั่นจะทำให้ความดีความชอบที่เจ้าสร้างมาสูญสลายไปหมด”

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย

“ท่านกัลเลน ถ้าอย่างนั้นเราจะเข้าไปกันเลย”  ลินลี่ย์พูดทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด