ตอนที่แล้วยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 504 สหายคุยกันก่อน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 506 จะเติบโตให้มากกว่านี้

ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 505 ภูเขาวัวอสูร


ทันใดรัศมีสีแดงก็ก่อตัวขึ้นรอบตัวเงาหมายเลข 2 ทันที

รัศมีพวกนี้เป็นรัศมีบาปที่ก่อตัวขึ้นจากการเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิต

และการออกล่าสิ่งมีชีวิตในพื้นที่แห่งนี้ จะได้รับรัศมีสีแดงติดตัวทุกครั้ง และนั้นจะเป็นการทำตำแหน่งให้กับตัวตนที่แข็งแกร่งอื่นๆ เห็นอีกด้วย ซึ่งนั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย!

อย่างที่ทราบกันว่าในการแข่งขันรอบนี้หากใครมีรัศมีสีแดงพวกนี้เข้มข้น ก็ยิ่งทำให้ได้อันดับในงานประลองนี้ดีขึ้น ยิ่งอันดับสูงเท่าไรก็ได้ของรางวัลตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น

แต่ตอนนี้ซู่เสี่ยวไป่ไม่ได้สนใจเรื่องของรางวัลงานประลองอัจฉริยะจักรวาลอีกแล้ว เมื่อเทียบกับการที่เขาได้เข้ามาสำรวจในพื้นที่แห่งนี้ เรื่องแพ้ชนะไม่ใช่ประเด็นอีกต่อไป

เพราะมันคือความตั้งใจของเขาอยู่แล้วที่จะต้องการสำรวจพื้นที่เก่าแก่

เมื่อรัศมีสีแดงเกิดขึ้นมันก็สลายหายไปจากเงาหมายเลข 2 ทันทีโดยที่ไม่เหลือร่องรอยอะไรเลย

“รัศมีเมื่อกี้พิเศษมาก!! มันไม่ต่างจากรัศมีกรรมเลยแต่ทรงพลังกว่า ดีที่ว่ามันยังอยู่ในเส้นทางแห่งตรรกะ ทำให้สามารถลบล้างออกไปได้”

ไม่ว่าจะด้วยอะไรตอนนี้ซู่เสี่ยวไป่ลืมการประลองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ตรงหน้าเช่นนี้ พวกสิ่งมีชีวิตในพื้นที่เก่าแก่นั้นแข็งแกร่งมาก การไม่ทำตัวโดดเด่นเกินไปจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในตอนนี้

ซู่เสี่ยวไป่มองไปยังร่างของหัววัวผู้กำลังร้องขอความเมตตาอย่างสิ้นหวัง และยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตรที่สุด

“ก็ได้ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่เจ้าเองก็ต้องทำตามเงื่อนไขของข้าหนึ่งข้อ”

“ได้ตกลง!! ตราบใดที่สหายไม่ฆ่าข้า….ข้าเองก็ยอมทุกอย่าง!”

ความหวังที่จะมีชีวิตรอดของหัววัวนั้นพุ่งสูงขึ้นมาทันที มันไม่แปลกเลยที่เขาจะรักชีวิตของตัวเอง เพราะแค่ถูกเนรเทศมาที่นี่ก็หนักหนาแล้ว และต้องดิ้นรนเอาตัวรอดพร้อมกับพยายามที่จะทะลวงเขตแดนโบราณให้ได้ และตัวของหัววัวเองก็ใกล้จะบรรลุจุดมุ่งหมายเขตแดนโบราณและออกไปจากที่นี่แล้ว

ซู่เสี่ยวไป่เอง ก็พอใจเข้าใจจุดยืนของตัวตนนี้ และพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมา

“เงื่อนไขของข้าง่ายมาก ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า….แต่ข้าต้องการให้เจ้าไปรวบรวมผู้ถูกเนรเทศทั้งหมดมาที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ มาให้เร็วที่สุด และไม่ว่าจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม ข้าไม่สนใจวิธีการ ขอแค่เรียกพวกมันมารวมตัวกันต่อหน้าข้าได้ก็พอ”

สิ่งมีชีวิตหัววัวนั้นตอบรับเงื่อนไขนี้อย่างรวดเร็ว และไม่มีท่าทีที่อิดอ่อดแต่อย่างใด แม้ว่าภายในใจของเขาจะรู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก

“ทำไมตัวตนนี้ถึงมีความกระหายมากกว่าพวกอัจฉริยะที่เคยเจอก่อนหน้านี้ทั้งหมด….มันต้องการจะจัดการกับผู้ถูกเนรเทศทั้งหมดเลยงั้นหรอ”

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขนี้ไม่ได้ทำให้หัววัวตัวนนี้รู้สึกแย่ ตรงกันข้ามเขารู้สึกดีด้วยซ้ำเพราะว่าทรัพยากรณ์ภายในพื้นที่กักขังแห่งนี้มีจำกัด ในช่วงเวลาปลายปีมานี้จำนวนอัจฉริยะที่ถูกส่งเข้ามาก็น้อยลงเรื่อยๆ ไม่แปลกที่จะเริ่มมีการขัดแย้งกันเองขึ้นในกลุ่มของผู้ถูกเนรเทศ ทำให้การทำตามเงื่อนไขนี้เหมือนกับเขาได้กำจัดคู่แข่งไปในตัวด้วย

แม้ว่าจะต้องเสียพรรคพวกไปถึง 3 คน แต่สิ่งมีชีวิตหัววัวตัวนี้กลับไม่ได้รู้สึกโกรธแค้นอะไรซู่เสี่ยวไป่เลย และยังเชิญให้ซู่เสี่ยวไป่ไปยังฐานลับของมันอีกด้วย

ซู่เสี่ยวไป่เองก็แสยะยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

“เจ้าอยากจะเชิญข้าจริงๆ งั้นหรอ”

“ทำไมจะไม่ละสหาย!!”

หัววัวนั้นถูมือไปมาด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้น

“พูดกันตรงๆ เลยนะสหายข้าเองเป็นเหมือนไพ่ไม้ตายลับในกลุ่มวัวอสูรที่ข้าก่อตั้งขึ้นแล้ว นอกจากข้าแล้วที่เหลือในกลุ่มก็เป็นแค่ต้นไม้ใบหญ้าริมทางไม่ได้โดดเด่นอะไร และข้อเสอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเลยแม้แต่น้อย!”

แท้จริงแล้วหัววัวตัวนนี้ไม่ได้สนใจกลุ่มอะไรของเขาเลย และไม่คิดที่ต้องการแข่งขันแย่งชิงอะไรกับใคร เขาเป็นตัวตนบรรพชนบรรพกาลก้าวที่ 10 เพียงคนเดียวในกลุ่ม หากต้องสละทั้งกลุ่มของตัวเองเพื่อตัวรอดเขาก็ยินดี เพราะเขารู้อยู่แก่ใจว่าไม่สามารถที่จะจัดการกับปีศาจที่น่ากลัวอย่างซู่เสี่ยวไป่ได้

ซู่เสี่ยวไป่เองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเขาในสายตาของสิ่งมีชีวิตหัววัวนั้นไม่ต่างจากปีศาจที่น่ากลัว และเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ควรหาเรื่องให้ขุ่นเคืองใจเด็ดขาด

ฐานที่มั่นของกลุ่มวัวอสูรนั้นอยู่ทางพื้นที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่กักขังแห่งนี้

มันเป็นภูเขาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนแผ่นทวีป สิ่งมีชีวิตหัววัวตัวนนี้ได้พาซู่เสี่ยวไป่มามันถูกเรียกตามชื่อของหัวหน้ากลุ่มหัววัวตัวนี้ที่มีชื่อเฮ่เหนีย

เนื่องจากพื้นที่กักขังนี้อยู่รอบนอกของพื้นที่เก่าแก่ทำให้มันยากจน และแร้นแค้นอย่างมาก ทรัพยากรณ์ในการฝึกฝนบ่มเพาะนั้นแทบไม่มี และที่นี่มีผู้ถูกเนรเทศเป็นพันชีวิต และทั้งหมดมีรูปร่างแบบมนุษย์กึ่งสัตว์ และตัวตนพวกนี้ได้ก่อกรรมไว้มากมายจนถูกขับไล่ออกมาที่นี่ และก็ได้มาอยู่ในกลุ่มวัวอสูรของ

เฮ่เหนีย

ตอนนี้พรรคพวกของเฮ่เหนียนั้นกำลังเฝ้ารอ และหาทางเอาตัวรอดไปวันๆ พวกเขาจะออกไปก็ต่อเมื่อพบเจอกับกลุ่มอัจฉริยะจากจักรวาลอื่นเข้ามา

ซู่เสี่ยวไป่นั้นตรวจสอบทุกอย่างด้วยความตั้งใจ และเห็นว่าพวกที่อยู่ที่นี่นั้นไม่ต่างอะไรจากร่างไร้วิญญาณ แววตาพวกเขาดูว่างเปล่าไร้ชีวิตชีวา มีบางคนถือกระดูกสีขาวขนาดใหญ่พร้อมกับแทะกระดูกนั้นด้วยความหิว

ทำให้หัวหน้ากลุ่มอย่างเฮ่เหนียนั้นรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เมื่อซู่เสี่ยวไป่ได้มาเห็นกลุ่มของตน เขาไล่พวกที่ดูสมเพชออกไปจากทางแล้ว เชิญซู่เสี่ยวไป่ให้ขึ้นไปบนภูเขา

จากการสำรวจของซู่เสี่ยวไป่พบว่าทุกคนที่นี่อยู่ในเขตแดนบรรพชนบรรกาลทั้งสิ้น!

ซู่เสี่ยวไป่ได้ขึ้นมาบนเขา ก็ทำให้รู้ได้ทันทีว่าที่นี่เป็นที่อยู่ของเฮ่เหนียจริงๆ เพราะมันเต็มไปด้วยอาคมป้องกันหลายชั้น และมันเป็นพื้นที่พิเศษที่แปลกประหลาดมันช่วยเร่งเร้าเส้นกระแสพลังภายในร่าง และสามารถสัมผัสกับเส้นทางสู่สวรรค์ได้ง่ายมาก แต่หากเทียบกับความเร็วในการบรรลุเส้นทางสู่สวรรค์ของที่นี่กับพื้นที่ตรัสรู้ในคลิกเดียวแล้ว พื้นที่ตรัสรู้ในคลิกเดียวเหนือกว่ามาก

ที่นี่มันเป็นดินแดนของเฮ่เหนียนอย่างแท้จริง และมีแต่บรรพชนบรรพกาลก้าวที่ 8 ขึ้นไปอาศัยอยู่ที่นี่

“อย่างที่สหายรับรู้ ที่นี่พิเศษมากมันสามารถเร่งการฝึกฝนได้ ข้าเองคงมาไม่ถึงเขตแดนบรรพชนบรรพกาลก้าวที่ 10 ได้หากไม่เจอที่นี่ แต่หากว่าสหายพอมีเวลา สหายสามารถใช้ที่นี่เพื่อฝึกฝนบ้างทีเจ้าอาจจะไปถึงเขตแดนโบราณได้!”

“แล้วถ้าสหายชอบที่แห่งนี้ ข้าก็พร้อมยกมันให้สหายตอนนี้เลย”

เงาหมายเลข 2 ส่ายหัวทันทีพร้อมกับยิ้มเล็กๆ ตอนนี้ทั้งซู่เสี่ยวไป่ได้ส่วมร่างบงการเงาหมายเลข 2 ราวกับเป็นตัวเขาเองแล้ว และได้ตอบปฏิเสธของขวัญที่เฮ่เหนียจะมอบให้

เขารู้ว่าเฮ่เหนียต้องการจะซื้อใจเขา พื้นที่แห่งนี้มีค่ามากสำหรับผู้ฝึกตนที่ไม่มีระบบช่วยฝึก

การกระทำนี้ทำให้ซู่เสี่ยวไป่เห็นแล้วว่าเฮ่เหนียนั้นยอมจ่ายทุกอย่างเพื่อให้ซู่เสี่ยวไป่ละเว้นชีวิตของเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด