ตอน เริ่มขายสินค้า (2)
ตอน เริ่มขายสินค้า (2)
เมื่อมีสต็อกสินค้าติดตัว เจียงหลินรู้สึกว่าเวลานี้นอกเหนือจากเงินแล้วเธอไม่มีอะไรขาดแคลน
อันดับแรกเธอหยิบผ้าชิ้นหนึ่งออกมาจากพื้นที่มิติและแขวนหน้าแผงร้าน เป็นผ้ากำมะหยี่สีแดงสะอาดสะอ้าน
ขนาดของแผงร้านมีจำนวนจำกัด แต่มีสินค้าจำนวนมากในสต็อก ดังนั้นเจียงหลินหยิบพวกมันออกมาส่วนหนึ่ง เริ่มจากขนมปัง บิสกิต และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เธอคิดว่าจะขายง่าย จัดแยกพวกมันเป็นหมวดหมู่
นอกจากนี้ยังเอาน้ำตาลและน้ำผลไม้บรรจุขวดมาตกแต่งแผงร้านให้ดูสวยอีกด้วย
แผงลอยที่จัดอย่างพิถีพิถันนี้ตั้งเด่นเป็นสง่าท่ามกลางร้านรอบๆ
หลังจากจัดวางสินค้า เจียงหลินไม่ลืมเป้าหมายสูงสุดของเธอ
หญิงสาวหยิบปากกาเมจิกออกมาแล้วเขียนบนกระดาษแข็งว่า ‘รับซื้อทองและเงินทุกชนิด! จะเอาพวกมันมาแลกอาหารก็ได้!’
เธอติดเทปไว้ที่ขอบโต๊ะในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดที่สุดของแผงลอย
ทันทีที่เจียงหลินแปะเทปเสร็จก็มีคนมาเอ่ยถามราคา
ลูกค้ารายแรกเป็นวัยรุ่น อายุประมาณ 16 -17 ปี สวมเสื้อสเวตเตอร์เย็บปะติดปะต่อกันดวงตาเหมือนกวาง นิ้วชี้ทั้งสองข้างวนเข้าหากันอย่างประหม่า
เขายื่นมือออกมา และชี้ไปที่ขนมปังฝรั่งเศษสีทองชิ้นหนึ่งอย่างระมัดระวัง ลอบกลืนน้ำลายเงียบๆ
ขนมปังฝรั่งเศษกองนี้ไม่ได้โดดเด่นอะไร อาจเป็นเพราะพวกมันมีขนาดเล็กด้วย ดังนั้นจึงราคาถูก แต่การที่เขาเก้ๆกังๆแบบนี้ แสดงว่ากังวลเรื่องเงินในกระเป๋ามาก
“5 แกนคริสตัล” เจียงหลินเคยเดินชมรอบๆถนนย่านการค้าแห่งนี้มาก่อน ดังนั้นพอกะราคาคร่าวๆได้
แต่นั่นไม่สำคัญ เพราะต่อให้ขายราคาไหนก็ไม่ขาดทุน เธอชี้ไปที่ขนมปังอีกก้อนที่ใหญ่กว่าหลายเท่า
“ส่วนนั่นเป็นชิ้นพิเศษ ราคา 7 แกนคริสตัล”
ขนมปังนั่นเป็นประวัติด่างพร้อยของเจียงหลิน รูปร่างของมันใหญ่โตไม่น่ากิน เลยขายไม่ออก
แต่ท่ามกลางวันสิ้นโลก กระทั่งขนมปังที่มีคุณภาพแย่แบบนี้ ในร้านอันหงโถวยังขายตั้งราคา 15 แกนคริสตัล
ชีวิตไม่ง่ายสำหรับวัยรุ่นในวันสิ้นโลก
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นธุรกิจวันแรกของเจียงหลิน คงจะดีถ้าเธอขายถูกกว่าคนอื่นๆ ถือเป็นการเปิดตัว
“ตกลง ตกลง! ฉันต้องการชิ้นพิเศษ 5 ก้อน!” น้ำเสียงของวัยรุ่นดูตื่นเต้นอย่างไม่อาจปกปิด
อาหารมีค่ามากในวันสิ้นโลก การที่สามารถซื้อขนมปังก้อนโตขนาดนี้ได้ในราคาถูก ทำให้เขาตกลงซื้อโดยไม่กล้าต่อราคา
แม้ว่า 35 แกนคริสตัลจะเป็นเงินทั้งหมดที่เขามี แต่วัยรุ่นรู้ดีว่าหากเขาพลาดโอกาสเช่นนี้ คงไม่มีครั้งต่อไปแล้ว
ชายหนุ่มจ่ายแกนคริสตัลและห่ออาหารอย่างระแวดระวัง เขาซ่อนมันในอ้อมแขนและรีบจากไป
อย่างไรก็ตาม มีหลายคนสังเกตเห็นแผงลอยใหม่ร้านนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว พอเห็นคนซื้อขนมปัง 5 ก้อน พวกเขาก็มาถามราคา
เมื่อพบว่าราคาอาหารบนแผงลอยของเจียงหลินต่ำกว่าราคาตลาดเล็กน้อย ผู้คนจำนวนมากก็นำแกนคริสตัลออกมาซื้อมัน
อาหารคือสิ่งล้ำค่ามาก จะชิ้นไหนก็ล้วนมีราคาแพงหากไม่ใช่การรับซื้อครั้งละมากๆล่ะก็ หายากที่จะได้ราคาต่ำกว่าราคาตลาด
ไม่นาน ก็มีคนมารวมตัวกันรอบร้านมากขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดแผงลอยเล็กๆก็ถูกล้อมจนไม่มีช่องระบายอากาศ
เมื่อเห็นคนพลุกพล่าน คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็เกิดความสนใจ มีไม่น้อยที่เข้ามาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เจียงหลินไม่สามารถรับมือกับการสอบถามราคาทั้งหมดได้ จำเป็นต้องจัดระเบียบให้ทุกคนต่อแถว
ตลอดมาเจียงหลินได้แต่เฝ้าร้านขายของชำเล็กๆด้วยบรรยากาศอ้างว้าง ดังนั้นไม่นึกฝันมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งของที่เธอขายจะเป็นที่นิยมได้ขนาดนี้
ขายของอย่างมีระเบียบ หลังจากตกลงราคา ก็ทำการแลกเปลี่ยนแกนคริสตัล
เจียงหลินประสบความสำเร็จในการโล๊ะขนมปังและน้ำผลไม้ เธอเติมสต็อกสินค้าจากในพื้นที่มิติอีกครั้ง และขายมันจนเกลี้ยงอีกรอบ
จนกระทั่งขนมปังและน้ำผลไม้ขายหมด แผงลอยของเธอก็ยังมีแถวต่อคิวยาว
แน่นอน ร้านขายของชำย่อมไม่ได้มีแค่ขนมปังและน้ำผลไม้
เจียงหลินหยิบชุดอาหารกลางวันอย่างเนื้อ ไส้กรอก แฮม มันฝรั่งทอดรสเผ็ด และของอื่นๆ ออกจากพื้นที่มิติ
สถานที่ตั้งเดิมสำหรับน้ำผลไม้ ตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยน้ำมัน เกลือ ซอส น้ำส้มสายชู และเครื่องปรุงรสอื่นๆ
ของบนแผงลอยเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่สินค้ามีการเติมสต็อกไม่หยุด ดังนั้นต่อให้คนที่มาต่อแถวทีหลังก็ยังมีโอกาสได้ซื้อ
กระทั่งผู้ที่สัญจรไปมา เมื่อเห็นคิวยาว ก็ยินดีเข้าร่วมสนุก
เจียงหลินเติมสต็อกสินค้าหลายครั้ง ในที่สุดของในพื้นที่มิติเธอใกล้หมด และเธอมีแกนคริสตัลกองใหญ่อยู่กับตัว มากพอที่จะยัดใส่ถุงไนลอนใบใหญ่จนเต็ม
เธอมองไปยังแกนคริสตัลสีขาวนับไม่ถ้วน คร้านเกินกว่าจะนั่งนับมัน
เจียงหลินปิดร้าน วันนี้เธอไม่ได้รับทองหรือเงินจากคนที่ต่อคิวซื้ออาหารเลย
เพราะแม้ทองคำหรือเงินจะมีราคาถูกในวันสิ้นโลก แต่ไม่มีใครเก็บสะสมไว้นาน คนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการสะสมของพวกนี้อย่างจริงจัง
ก่อนหน้านี้ไม่มีใครหรอกที่กล้าแลกอาหารกับทองคำหรือเงิน ในสายตาพวกเขา คนที่ทำแบบนั้นมีแต่คนโง่เท่านั้น
ถึงบางคนจะมี แต่พวกเขาคิดว่านี่เป็นทริคของเจียงหลินเพื่อที่จะทำให้ร้านค้าน่าดึงดูดใจขึ้นเท่านั้น สุดท้ายเลยมีแต่คนซื้อขายกับเธอด้วยแกนคริสตัลเพียงอย่างเดียว
เจียงหลินหยิบกระเป๋าเป้สะพายหลังออกมาจากพื้นที่มิติ ในนั้นเต็มไปด้วยแกนคริสตัล
จากนั้นเธอก็แบกเป้และเริ่มมองหาสินค้าในตลาดทีละชิ้น
ของต่างๆเช่นทองคำหรือเงินนั้นไร้ประโยชน์ในวันสิ้นโลก ผู้คนโยนมันทิ้งๆขว้างๆอย่างไม่ไยดี เนื่องจากมูลค่าไม่สูงนัก และร้านส่วนใหญ่ก็ไม่มีพวกมันนำมาวางขายเช่นกัน
แม้บางร้านจะมีขาย แต่ทองส่วนใหญ่ไม่มีตราประทับ ไม่แน่ใจว่าเป็นของแท้หรือไม่
ยังไงก็ตาม ตราบใดที่เจียงหลินเจอ เธอจะไม่ปฏิเสธพวกมัน ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับทองคำและเงินถูกกว้านซื้อออกไป
เพราะถึงจะทำแบบนั้น โอกาสที่เธอจะขาดทุนก็แทบไม่มี
แต่การกระทำของเจียงหลิน มันได้กระตุ้นความสนใจจากฝูงชนไปพร้อมๆกัน การใช้แกนคริสตัลที่มีค่าเพื่อซื้อสิ่งที่ไร้ประโยชน์ สร้างความประหลาดใจและสับสนแก่ทุกคน
หลายคนเริ่มสงสัยว่าเจียงหลินมีปัญหาทางสมอง
แต่เจียงหลินไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร เธอรวบรวมผลิตภัณฑ์ทองคำและเงินทุกชนิด ชิ้นไหนยกไม่ได้ก็โยนมันเข้าพื้นที่มิติ ส่วนแกนคริสตัลในกระเป๋าเป้ มันถูกนำมาซื้อทองจนหมดแล้วเช่นกัน
เธอเก็บกระเป๋าเข้าพื้นที่มิติ จากนั้นออกจากย่านการค้า
แต่ทันทีที่ก้าวออกไป ก็ถูกใครบางคนขวางไว้
เจียงหลินสำรวจมองพวกเขา เลิกคิ้วแล้วยิ้ม “เป็นพวกนายอีกแล้ว! ตามติดเป็นสัมภเวสีเลยนะ”
ทั้งสามคนไม่มีใครคาดว่าจะถูกเจียงหลินพบตัวก่อนแล้ว ขนาดลูกน้องที่ตามมายังเป็นผู้ใช้พลังขั้น 1 ตามทฤษฏีคนธรรมดาไม่ควรสังเกตเห็นพวกเขาได้ง่ายขนาดนั้น
ชายร่างกำยำที่มีแขนเป็นเหล็กเอ่ยขึ้นก่อน “หยุดพูดไร้สาระ ส่งแกนคริสตัลมา! แล้วฉันจะไม่ฆ่าแก!”
ที่นี่ยังถือว่าใกล้กับย่านการค้ามาก หากเอะอะเสียงดัง จะไปสะดุดตาผู้ใช้พลังขั้นสูงที่ผ่านไปผ่านมาเข้า ถึงตอนนั้นเรื่องราวคงยุ่งยากขึ้น
เจียงหลินเยาะเย้ย “อาศัยแค่พวกนายคิดปล้นฉัน? ก็ดี ฉันเบื่อที่จะถูกตามแล้ว คิดจริงๆหรือว่าจะหยุดฉันได้?”
“ลูกพี่ของพวกเราเป็นผู้ใช้พลังโลหะขั้น 3 แต่เธอมันก็แค่คนธรรมดา ...” ชายหัวแบนข้างๆแสดงท่าทีเย่อหยิ่งและสามหาว เขาพูดพร้อมปล่อยแรงกดดันออกมา
“ใครบอกว่าฉันเป็นคนธรรมดา? ฉันก็เป็นผู้ใช้พลังเหมือนกัน” เจียงหลินคิดว่าอีกฝ่ายน่ารำคาญ เลยขัดจังหวะเขา
เจียงหลินยกมือขึ้น ทันใดนั้นถุงมันฝรั่งห่อเล็กๆก็ปรากฏบนฝ่ามือเธอ
เธอโยนมันให้กับทั้งสาม
“มันฝรั่งทอดหมดอายุ ใครอยากได้ก็เอาไป”
“เห็นรึยัง? ฉันคือผู้ใช้พลังมิติ”
“ในเมื่อพวกเราก็เป็นผู้ใช้พลังเหมือนๆกัน ทำไมไม่เป็นมิตรต่อกันล่ะ?” เจียงหลินเริ่มพูดไร้สาระ
เธอไม่ใช่ผู้ใช้พลัง
เธอไม่รู้ว่ามีกฎอะไรบ้างในหมู่ผู้ใช้พลังที่นี่ ข้อมูลที่โฮ่วเต๋อบอกเรื่องผู้ใช้พลังมีแค่เรื่องราวความบาดหมางเท่านั้น เธอเลยไม่รู้กฎที่แท้จริง
“ละ ... ลูกพี่! เธอเป็นผู้ใช้พลังมิติ!” ชายหัวแบนข้างๆตื่นเต้นขึ้นมาทันที
ชายร่างกำยำที่มีแขนเป็นโลหะไม่แม้แต่จะหยิบมันฝรั่งทอด พริบตานั้นดวงตาเขาทอประกายดุร้าย
“ยอดเยี่ยม! ฆ่าเธอซะ!”