ตอนที่ 654 จบศึกทุกคนก้าวหน้า
ปัง!
จงเหลยถิงกำลังหนีขึ้นไปในท้องฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้ไล่ตามเขาได้ทัน ฝ่ามือหยกของนางฟาดใส่สมองของจงเหลยถิง
ตาของจงเหลยถิงเบิกกว้างเนื่องจากเขาได้รับบาดเจ็บหนัก
ทุกอย่างหยุดนิ่ง
ตาของเขายังคงแฝงไปด้วยความกลัวที่เขาไม่อาจลบล้างไปได้
แสงที่แผ่กระจายและแรงระเบิดจากฝ่ามือนางแผ่ขยายไปไกล
กะโหลกศีรษะแหลกเป็นชิ้นๆและร่างของจงเหลยถิงสูญเสียการควบคุม
ล้มลง
ความเร็วเพิ่มขึ้นจนกระทั่งกระทบกับพื้นทั้งร่างของเขานอนเหยียดยาวอยู่ในกองเลือดกิ้งก่าสายฟ้าอสูรพิทักษ์ของเขาที่ยังคงต่อสู้ปกป้องให้เจ้านายได้หลบหนีมองดูเจ้านายของมันด้วยท่าทีสมเพช มันค่อยๆ กลายเป็นแสงแล้วหายไปตลอดกาล ตรงกันข้ามกับอสูรพิทักษ์ราชันย์ปีศาจใต้กลับเข้าไปอยู่ในร่างของเจ้าของมันและใช้พลังของมันประคองเจ้านายของมันที่ร่างกายอ่อนล้า
“สมบัตินี้จะเป็นประโยชน์มากกว่าเมื่ออยู่ในมือข้า! ผู้อ่อนแอเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่ง นั่นคือกฎของโลกอยู่แล้ว ถ้าข้าถูกเจ้าฆ่า ข้าเชื่อว่าข้าจะแย่ยิ่งกว่า ข้าหวังว่าวิญญาณของเจ้าจะไปสู่สุคติ และข้าขอศพเจ้าไปเป็นของขวัญก็แล้วกัน” ราชันย์ปีศาจใต้ลอยลงมาจากท้องฟ้าลงมายืนอยู่ข้างศพของจงเหลยถิงคารวะเล็กน้อยและค่อยก้มลงเก็บโซ่เทพสายฟ้า
ในที่สุดนางใช้แหวนเก็บของเก็บศพจงเหลยถิงไว้
นางเคยใช้วิธีเผาร่างของศัตรู แต่ตั้งแต่พบกับเย่ว์หยาง นางรู้ว่าศพของศัตรูก็ยังมีประโยชน์จริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นฮุยไท่หลางไม่ว่าจะเป็นนางพญาดอกหนามมงกุฎทองก็ไม่ปฏิเสธอาหารเสริมเหล่านี้ ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าร่างของจงเหลยถิงเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสิบ เย่ว์หยางไม่มีทางยอมเสียร่างอสูรรบเปล่าๆ แม้แต่ร่างคนธรรมดาก็ตาม
เมื่อราชันย์ปีศาจใต้เตรียมจะจากไป นางพบว่ามีคลื่นน้ำภายในระยะสิบไมล์
แปลก! จู่ๆ มีน้ำมากมายได้ยังไง?
เป็นแผนต่อเนื่องหรือเปล่า?
สีหน้าของราชันย์ปีศาจใต้กลายเป็นเคร่งเครียดขณะที่นางเหาะขึ้นไปในอากาศเตรียมตรวจสอบข้อเท็จจริง
ในสนามรบที่ห่างออกไปเย่คงและเจ้าอ้วนไห่กำลังกวาดล้างสนามรบ ภายใต้ทักษะแฝงเร้นและอสูรดาวข่มของเย่คง ไป๋หวินเฟยผู้มีกล่องวิเศษไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ ถ้าไม่ได้เอลฟ์ทองเป่าเอ๋อบางทีเย่คงกับเจ้าอ้วนไห่คงไม่สามารถโค่นไป่หวินเฟยได้ ที่สำคัญกล่องวิเศษเป็นสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเย่คงและเจ้าอ้วนไห่ที่เพิ่งบรรลุระดับปราณก่อกำเนิดไม่สามารถรับมือได้ แต่พวกเขามีทักษะแฝงเร้นโชคดีของเป่าเอ๋อที่คอยแปลงสภาพคำสาปดังนั้นไป่หวินเฟยจึงได้แต่อยู่ในสภาพจนใจ
เขาถูกเย่ว์หยางข่มได้ก่อนและจากนั้นก็เป็นเสวี่ยทันหลางและเย่คงและท้ายที่สุดก็ได้รับผลกระทบจากเป่าเอ๋อผู้อ่อนแออย่างนั้น
เขารู้สึกหงุดหงิดจริงๆ
เขาเกือบตายภายใต้หมัดน้ำแข็งของเสวี่ยทันหลางมาแล้ว น่าเสียดายที่เสวี่ยทันหลางผู้โกรธเกรี้ยวตัดสินใจแล้วว่าจะจับเป็นไป่หวินเฟยและส่งไปให้เย่ว์หยางและเหล่าผู้อาวุโสของเขาได้ตัดสินโทษก่อนที่พวกเขาจะประหารชีวิตเขาต่อหน้าทุกคนเป็นการเตือนลูกหลานของพวกเขา
“ฆ่าข้าซะ ฆ่าข้าซะ!” ไป่หวินเฟยรู้ผลสุดท้ายของการตัดสินไม่เพียงแต่เขาต้องตายเท่านั้นแต่ทั่วทั้งนิกายเขาหมอกจะได้รับความอัปยศอดสูอย่างมาก
“หลังจากตัดสินแล้ว ข้าจะตัดศีรษะเจ้าจากนั้นเอาศพของเจ้าให้ฮุยไท่หลางกิน!” หน้าที่เหมือนน้ำแข็งของเสวี่ยทันหลางยิ้มที่ดูเหมือนจะเป็นรอยยิ้ม ไป่หวินเฟยใช้กล่องวิเศษทำร้ายองค์ชายเทียนหลัวจนบาดเจ็บสาหัส และยังดูถูกเย่คงและเจ้าอ้วนไห่ เขาตัดสินใจให้ไป่หวินเฟยนี้ตายในสภาพน่าอนาถที่สุด
“หลังจากเจ้าได้รับพลังปีศาจเจ้าควรจะมีความคิดอย่างนี้” เย่คงแค่นเสียงเย็นชาและถ่มเลือดออก
ต่างจากไป่หวินเฟย
เซี่ยเชียนเริ่น,เซี่ยเชียนชิวถูกรุมประชาทัณฑ์โดยเย่คง เจ้าอ้วนไห่ พี่น้องตระกูลหลี่และฟ่านหลุนเถี่ย ทั้งสองตายแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เซี่ยเชียนชิวหนีรอดเจ้าอ้วนไห่ขอให้หลิวเย่แยกกองเนื้อที่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ ด้วยทักษะแฝงเร้นชำระใจของนางและเผาด้วยไฟ ในที่สุดเสวี่ยทันหลางก็แช่แข็งไว้ แม้ว่าจะมีพลังเหลืออยู่ไม่มากแต่เจ้าอ้วนไห่เชื่อว่าเซี่ยเชียนชิวนี้ต้องเข้าไปอยู่ในท้องของฮุยไท่หลางก่อนจึงจะวางใจได้เต็มที่
นั่นเป็นเพียงวิธีระบายความโกรธของพวกเขาเพียงวิธีเดียว!
ฮุยไท่หลางยังคงกลับมา
มันมีโอกาสเอาชนะการต่อสู้กับหนานเซี่ยตี๋และซีควงฟงได้ แต่ยังมีนักสู้ปราณก่อกำเนิดอย่างประมุขนิกายพันปีศาจซุ่นเทียนและองค์ชายดำอยู่ด้วย
แม้ว่ามันจะไม่ได้เคลื่อนไหวลงมือ แต่มันฉลาดพอรู้ว่ามันไม่สามารถโค่นหนานเซี่ยตี๋และซีควงฟงได้ หนานเซี่ยตี๋และซีควงฟงก็ไม่โจมตีฮุยไท่หลางต่อไปด้วยเช่นกัน เพราะประมุขนิกายพันปีศาจบอกว่าจื้อจุนอยู่ในชั้นที่สาม
ประโยคนี้ทำให้หนานเซี่ยตี๋และซีควงฟงถึงกับหมดหวัง
พวกเขาไม่สนใจความร่วมมือต่างก็ถอนตัวออกจากสนามรบ
หลังจากฮุยไท่หลางได้ยินเช่นนี้เพื่อยั่วพวกเขาให้มาต่อสู้กันอีก มันโยนกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ดำที่มันยังไม่มีเวลาหลอมรวมกับกระดูกและเคียวเพลิงของมันออกไป นี่คือสิ่งที่ราชาเฮยอวี้เคยใช้มาก่อนในชีวิต เมื่อราชาเฮยอวี้ตายในการสู้รบ มารสัมฤทธิ์ฟ้าขอให้ผู้เฒ่าหนานกงส่งร่างราชาเฮยอวี้และกระบี่ดำอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเขา เกราะมืดศักดิ์สิทธิ์ไปให้เย่ว์หยาง แต่เย่ว์หยางมีดาบเทาเถี้ยและเกราะเพลิงอมฤตอยู่แล้วไม่สนใจชุดธาตุมืดดังนั้นจึงมอบให้ฮุยไท่หลาง
ฮุยไท่หลางถ่มกระบี่มืดศักดิ์สิทธิ์ออกมา หนานเซี่ยตี๋และซีควงฟงตกใจมาก
แต่รู้สึกถึงการข่มความโกรธ
ถ้าจื้อจุนอยู่ที่นี่และพวกเขาไม่ถอนตัว จะเกิดอะไรขึ้น?
พวกเขาคงยากจะตาย แต่ก็แค่เป็นนักโทษ พวกเขารู้ความลับของจ้าวปีศาจโบราณและราชาเฮยอวี้ เมื่อพวกเขาถูกจับ เย่ว์หยางกับจักรพรรดินีราตรีจะใช้วิชาลับเพื่อตรวจสอบแผนการของจ้าวปีศาจโบราณถึงเวลานั้นจะนำความสิ้นหวังมามากยิ่งขึ้น
หนานเซี่ยตี๋มองดูฮุยไท่หลางที่กำลังยั่วโมโหเขาได้แต่กระทืบเท้าจนพื้นสั่นสะเทือน
พวกเขาเข้าไปในประตูเทเลพอร์ตของประมุขนิกายพันปีศาจอย่างไม่เต็มใจ จากนั้นไม่นานขณะที่ซุ่นเทียนและองค์ชายดำติดตามฮุยไท่หลางเห็นมันกลับมาหาเย่คงและเจ้าอ้วนไห่ พวกเขาไม่ต้องการให้ฮุยไท่หลางแยกทาง และแยกสนามต่อสู้ พวกเขาไม่ต้องการเจ็บตัวต่อไป
“ทำไมพวกเจ้ามาอยู่ที่นี่?” เย่คงไม่สามารถท้าทายองค์ชายดำก่อนนั้นได้ แต่ตอนนี้เขาเป็นศัตรูและเขาไม่ยอมแสดงความสุภาพ
“ก็แค่ผ่านมาเท่านั้น”ซุ่นเทียนเจ้าเล่ห์มากและหาช่องโหว่ได้
“ไปกันเถอะ” องค์ชายดำเตือนพวกเขาไม่ให้ลังเลอีกต่อไป หลังจากเห็นพะยูนนรกกลับมาแต่ไกล เย่คงและเจ้าอ้วนไห่ยังไม่แข็งแกร่งมากขึ้นเท่าใดนัก ดังนั้นพวกเขาไม่กลัวพวกนี้ แต่ถ้าพวกเขาถูกฮุยไท่หลางและพะยูนนรกล้อมเอาไว้ก็คงไม่ใช่เรื่องเล็กแล้ว เนื่องจากผนึกโบราณที่นี่ล้มเหลว พวกเขาไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อไป
“รอเดี๋ยว”เสียงไพเราะของจักรพรรดินีราตรีดังขึ้น ทำให้ซุ่นเทียนและองค์ชายดำตกใจกลัว นางมาได้ยังไง?
จักรพรรดินีราตรียังไม่ปรากฏร่าง
มีแต่ยิ่งทำให้น่ากลัวมากขึ้น
ซุ่นเทียนยังไม่แน่ใจว่าจื้อจุนจะมากับนางด้วยหรือไม่
ถ้าจื้อจุนอยู่ที่นี่อย่างนั้นเขากับองค์ชายดำนับว่าโชคร้าย คงจะใช้ข้ออ้างว่าผ่านทางมาไม่ได้ เพราะมีแต่จะทำให้นางโกรธ
เป็นไปได้ไหมว่าเขาต้องรักษาชีวิตตนเองโดยการเปิดเผยแผนการของจ้าวปีศาจโบราณ?ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจของซุ่นเทียน เขาไม่สนใจว่าเขาควรสนับสนุนใคร คนที่มั่นใจที่สุดจะได้รับการสนับสนุนจากเขา ถ้าเขาไม่เป็นศัตรูของเย่ว์หยางก่อนนี้ เขาคงโจมตีราชาเฮยอวี้และบริวารของราชันย์พันปีศาจไปแล้ว อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางเลือกได้แต่อยู่ห่างจากเย่ว์หยางก่อนที่เขาจะสามารถทำอะไรได้
ตอนนี้ที่แผนการของจ้าวปีศาจโบราณนั้นสมบูรณ์แบบ เขายินดีจะร่วมมือลับๆ
อย่างไรก็ตามนี่จะทำให้เขาเป็นศัตรูกับจื้อจุนอย่างเห็นได้ชัด
นั่นเป็นไปไม่ได้
เขาคงไม่ทำเช่นนั้นต่อให้เขาบ้าก็ตาม อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่สุดยอดฝีมืออื่นจากหอทงเทียนเช่นประมุขนิกายพันปีศาจหรือองค์ชายดำผู้เกลียดทวีปไม่ใช่คนที่โง่พอจะหันหน้ามาเป็นศัตรูกับจื้อจุน
“จื้อจุนขอให้ข้าบอกพวกเจ้าว่าเจ้าควรจะเชื่อฟังสุดยอดปราณก่อกำเนิด อย่าทำตัวเองให้ยุ่งยาก ไม่อย่างนั้นเจ้าจะต้องตาย” ซุ่นเทียนเต็มไปด้วยความเคารพในสิ่งที่จักรพรรดินีราตรีบอก
เพราะเขารู้อารมณ์ของจื้อจุนดี นางไม่ชอบปกครองคนอื่นอย่างธรรมดา
แต่เมื่อนางโกรธจะมีผลเพียงประการเดียว
นั่นคือ ตาย!
และเป็นการทำลายอย่างสิ้นเชิง!
“แน่นอน,เราได้ยินว่ามียอดฝีมือแดนสวรรค์อยู่หลายคนที่มายังบันไดสวรรค์ พวกเขาต้องการยืมมือขอความช่วยเหลือ เนื่องจากจื้อจุนมีคำสั่ง เราจะเชื่อฟังก็ได้” ซุ่นเทียนหัวเราะและจากไปพร้อมกับองค์ชายดำทันที ความเร็วในการหนีไวกว่าเมื่อตอนมาถึงสิบเท่า ดูเหมือนพวกเขากลัวว่าจื้อจุนอาจจะเปลี่ยนใจและฆ่าพวกเขาในกระบวนท่าเดียว
พวกเจ้าเด็กๆ ทำกันได้ดีพัไปกกันได้แล้ว!” จักรพรรดินีราตรีชื่นชมเย่คงและคนอื่นๆด้วยเสียงที่ไพเราะ และจากนั้นเสียงจากหายไปไกล จากนั้นก็ไม่มีเสียง
เหนื่อยจริงๆ
เจ้าอ้วนไห่ทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่คนอื่นๆยกเว้นเสวี่ยทันหลางที่ยังทนยืนอยู่ได้ ทั้งหมดนั่งลงกับพื้นด้วยความรู้สึกอ่อนเพลีย
ในที่สุดการต่อสู้ก็จบ
คัมภีร์ของพวกเขาลอยออกมาโดยอัตโนมัติ
คัมภีร์พวกเขาเปล่งแสงทองของการปรับปรุงพัฒนาเย่คง เจ้าอ้วนไห่ เสวี่ยทันหลางและพี่น้องตระกูลหลี่ได้เลื่อนระดับพลังกันหมด เช่นฮุยไท่หลางและแรดเพชร ฮิปโปน้อย นางนวลสายลม วานรปีศาจชั้นเพชรด้วงจอมพลัง, ยักษ์พายุน้ำแข็ง ทั้งหมดมีพัฒนาการก้าวหน้า คนอื่นอย่างหลิวเย่ เป่าเอ๋อฟ่านหลุนเถี่ยและแอนนาก็เช่นกัน
ในสงครามที่ยากลำบากนั้น แม้ว่าจะมีอันตรายมาก แต่ทุกคนก็ยังได้ผลรับที่มากตามไปด้วย
พวกเขาพัฒนาก้าวหน้ากันทุกคน
แน่นอนเพราะแตกต่างในคุณค่าและความเข้าใจระดับความก้าวหน้าของทุกคนจึงแตกต่างเช่นกัน เย่คง เจ้าอ้วนไห่และเสวี่ยทันหลาง สามคนนี้ได้ประโยชน์มากที่สุดและก้าวหน้ามากกว่าสมาชิกคนอื่น
นอกจากคนทั้งสามนี้ถัดมาก็คือหลิวเย่
นางข่มศัตรูของนางอย่างเซี่ยเชียนชิวด้วยทักษะแฝงเร้นและความสามารถทั้งหมดของนาง ในการต่อสู้ครั้งนี้ นางแสดงความสามารถและฝีมือของนางออกมาได้
สักวันนางจะเติบโตก้าวหน้าเป็นนักรบสตรีที่ดีมีคุณสมบัติเป็นกลุ่มสนับสนุนคอยช่วยเย่ว์หยางอย่างไม่มีขีดจำกัดทักษะแฝงเร้นชำระใจและกวางทะลวงมิติยังไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ แม้ถ้าเย่ว์หยางต้องการสำรวจโลกคัมภีร์เทพหรือไปแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ นางจะเป็นผู้ช่วยสำคัญ
“โฮ่ง?” ฮุยไท่หลางที่หลอมรวมกับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์กับกระดูกและเพลิงเคียวลุกขึ้นยืนอย่างตกใจจากนั้นเปลี่ยนเป็นเกียจคร้านขณะมองดูแต่ไกล
“เกิดอะไรขึ้น?” เย่คงและเจ้าอ้วนไห่คิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ พวกเขากระโดดขึ้นยืน
ทุกคนถืออาวุธและเตรียมสู้อีกครั้ง
ในที่จากระยะไกลพวกเขามองเห็นพญางูโลหิตยักษ์พาลูกงูน้อยตรงมาทางพวกเขา
พวกเขาไม่รู้ว่านี่เป็นอสูรรบของเมดูซาศิลา พวกเขาคิดว่ามันคืออสูรรบของศัตรู พวกเขารวมพลังไว้เตรียมจะฆ่าทันทีราชันย์ปีศาจใต้ถือผีผาหยกพุ่งผ่านมาเหมือนดาวตกตะโกนบอกเย่คงและเจ้าอ้วนไห่“เจ้าพวกโง่จะทำอะไรกันนี่?ศัตรูรู้ว่าพวกเขาล้มเหลวในการต่อสู้และชักน้ำมาทางนี้ พวกเจ้าไม่ต้องการหนีใช่ไหม?พวกเจ้าต้องการเป็นลูกไก่ตกน้ำใช่ไหม? หนีเร็ว”
เสียงแปลกประหลาดดังมาแต่ไกล คลื่นน้ำทะลักสายน้ำยาวไกลสุดหูสุดตา
เย่คงรู้สึกหนังศีรษะชาขณะตะโกน “น้ำมาตั้งมากมายเราจะหนีไปที่ไหน? เย่ว์หยางและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอยู่ที่ไหน?”
ราชันย์ปีศาจใต้ไม่สนใจเขา นางรีบหนีและกล่าว“เจ้านั่นกลับไปที่หุบเขาภมรหมื่นบุปผาแล้ว!”
“อ๋า?” เจ้าอ้วนไห่ตะลึง “เจ้านั่นไม่ซื่อเลย? แต่เราไม่มีม้วนเทเลพอร์ต ไม่สามารถออกจากบันไดสวรรค์ได้ ช่วยด้วย ช่วยด้วย”