ตอนที่แล้วตอนที่ 653 ไว้สู้กันใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 655 ข่าวดี

ตอนที่ 654 จบศึกทุกคนก้าวหน้า


ปัง!

จงเหลยถิงกำลังหนีขึ้นไปในท้องฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้ไล่ตามเขาได้ทัน ฝ่ามือหยกของนางฟาดใส่สมองของจงเหลยถิง

ตาของจงเหลยถิงเบิกกว้างเนื่องจากเขาได้รับบาดเจ็บหนัก

ทุกอย่างหยุดนิ่ง

ตาของเขายังคงแฝงไปด้วยความกลัวที่เขาไม่อาจลบล้างไปได้

แสงที่แผ่กระจายและแรงระเบิดจากฝ่ามือนางแผ่ขยายไปไกล

กะโหลกศีรษะแหลกเป็นชิ้นๆและร่างของจงเหลยถิงสูญเสียการควบคุม

ล้มลง

ความเร็วเพิ่มขึ้นจนกระทั่งกระทบกับพื้นทั้งร่างของเขานอนเหยียดยาวอยู่ในกองเลือดกิ้งก่าสายฟ้าอสูรพิทักษ์ของเขาที่ยังคงต่อสู้ปกป้องให้เจ้านายได้หลบหนีมองดูเจ้านายของมันด้วยท่าทีสมเพช  มันค่อยๆ กลายเป็นแสงแล้วหายไปตลอดกาล  ตรงกันข้ามกับอสูรพิทักษ์ราชันย์ปีศาจใต้กลับเข้าไปอยู่ในร่างของเจ้าของมันและใช้พลังของมันประคองเจ้านายของมันที่ร่างกายอ่อนล้า

“สมบัตินี้จะเป็นประโยชน์มากกว่าเมื่ออยู่ในมือข้า!  ผู้อ่อนแอเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่ง  นั่นคือกฎของโลกอยู่แล้ว  ถ้าข้าถูกเจ้าฆ่า  ข้าเชื่อว่าข้าจะแย่ยิ่งกว่า  ข้าหวังว่าวิญญาณของเจ้าจะไปสู่สุคติ  และข้าขอศพเจ้าไปเป็นของขวัญก็แล้วกัน” ราชันย์ปีศาจใต้ลอยลงมาจากท้องฟ้าลงมายืนอยู่ข้างศพของจงเหลยถิงคารวะเล็กน้อยและค่อยก้มลงเก็บโซ่เทพสายฟ้า

ในที่สุดนางใช้แหวนเก็บของเก็บศพจงเหลยถิงไว้

นางเคยใช้วิธีเผาร่างของศัตรู  แต่ตั้งแต่พบกับเย่ว์หยาง  นางรู้ว่าศพของศัตรูก็ยังมีประโยชน์จริงๆ

ไม่ว่าจะเป็นฮุยไท่หลางไม่ว่าจะเป็นนางพญาดอกหนามมงกุฎทองก็ไม่ปฏิเสธอาหารเสริมเหล่านี้ ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าร่างของจงเหลยถิงเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสิบ  เย่ว์หยางไม่มีทางยอมเสียร่างอสูรรบเปล่าๆ  แม้แต่ร่างคนธรรมดาก็ตาม

เมื่อราชันย์ปีศาจใต้เตรียมจะจากไป  นางพบว่ามีคลื่นน้ำภายในระยะสิบไมล์

แปลก!  จู่ๆ มีน้ำมากมายได้ยังไง?

เป็นแผนต่อเนื่องหรือเปล่า?

สีหน้าของราชันย์ปีศาจใต้กลายเป็นเคร่งเครียดขณะที่นางเหาะขึ้นไปในอากาศเตรียมตรวจสอบข้อเท็จจริง

ในสนามรบที่ห่างออกไปเย่คงและเจ้าอ้วนไห่กำลังกวาดล้างสนามรบ ภายใต้ทักษะแฝงเร้นและอสูรดาวข่มของเย่คง ไป๋หวินเฟยผู้มีกล่องวิเศษไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้  ถ้าไม่ได้เอลฟ์ทองเป่าเอ๋อบางทีเย่คงกับเจ้าอ้วนไห่คงไม่สามารถโค่นไป่หวินเฟยได้ ที่สำคัญกล่องวิเศษเป็นสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเย่คงและเจ้าอ้วนไห่ที่เพิ่งบรรลุระดับปราณก่อกำเนิดไม่สามารถรับมือได้  แต่พวกเขามีทักษะแฝงเร้นโชคดีของเป่าเอ๋อที่คอยแปลงสภาพคำสาปดังนั้นไป่หวินเฟยจึงได้แต่อยู่ในสภาพจนใจ

เขาถูกเย่ว์หยางข่มได้ก่อนและจากนั้นก็เป็นเสวี่ยทันหลางและเย่คงและท้ายที่สุดก็ได้รับผลกระทบจากเป่าเอ๋อผู้อ่อนแออย่างนั้น

เขารู้สึกหงุดหงิดจริงๆ

เขาเกือบตายภายใต้หมัดน้ำแข็งของเสวี่ยทันหลางมาแล้ว น่าเสียดายที่เสวี่ยทันหลางผู้โกรธเกรี้ยวตัดสินใจแล้วว่าจะจับเป็นไป่หวินเฟยและส่งไปให้เย่ว์หยางและเหล่าผู้อาวุโสของเขาได้ตัดสินโทษก่อนที่พวกเขาจะประหารชีวิตเขาต่อหน้าทุกคนเป็นการเตือนลูกหลานของพวกเขา

“ฆ่าข้าซะ  ฆ่าข้าซะ!”  ไป่หวินเฟยรู้ผลสุดท้ายของการตัดสินไม่เพียงแต่เขาต้องตายเท่านั้นแต่ทั่วทั้งนิกายเขาหมอกจะได้รับความอัปยศอดสูอย่างมาก

“หลังจากตัดสินแล้ว ข้าจะตัดศีรษะเจ้าจากนั้นเอาศพของเจ้าให้ฮุยไท่หลางกิน!”  หน้าที่เหมือนน้ำแข็งของเสวี่ยทันหลางยิ้มที่ดูเหมือนจะเป็นรอยยิ้ม   ไป่หวินเฟยใช้กล่องวิเศษทำร้ายองค์ชายเทียนหลัวจนบาดเจ็บสาหัส  และยังดูถูกเย่คงและเจ้าอ้วนไห่  เขาตัดสินใจให้ไป่หวินเฟยนี้ตายในสภาพน่าอนาถที่สุด

“หลังจากเจ้าได้รับพลังปีศาจเจ้าควรจะมีความคิดอย่างนี้” เย่คงแค่นเสียงเย็นชาและถ่มเลือดออก

ต่างจากไป่หวินเฟย

เซี่ยเชียนเริ่น,เซี่ยเชียนชิวถูกรุมประชาทัณฑ์โดยเย่คง เจ้าอ้วนไห่ พี่น้องตระกูลหลี่และฟ่านหลุนเถี่ย  ทั้งสองตายแล้ว  เพื่อป้องกันไม่ให้เซี่ยเชียนชิวหนีรอดเจ้าอ้วนไห่ขอให้หลิวเย่แยกกองเนื้อที่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ ด้วยทักษะแฝงเร้นชำระใจของนางและเผาด้วยไฟ  ในที่สุดเสวี่ยทันหลางก็แช่แข็งไว้  แม้ว่าจะมีพลังเหลืออยู่ไม่มากแต่เจ้าอ้วนไห่เชื่อว่าเซี่ยเชียนชิวนี้ต้องเข้าไปอยู่ในท้องของฮุยไท่หลางก่อนจึงจะวางใจได้เต็มที่

นั่นเป็นเพียงวิธีระบายความโกรธของพวกเขาเพียงวิธีเดียว!

ฮุยไท่หลางยังคงกลับมา

มันมีโอกาสเอาชนะการต่อสู้กับหนานเซี่ยตี๋และซีควงฟงได้  แต่ยังมีนักสู้ปราณก่อกำเนิดอย่างประมุขนิกายพันปีศาจซุ่นเทียนและองค์ชายดำอยู่ด้วย

แม้ว่ามันจะไม่ได้เคลื่อนไหวลงมือ แต่มันฉลาดพอรู้ว่ามันไม่สามารถโค่นหนานเซี่ยตี๋และซีควงฟงได้  หนานเซี่ยตี๋และซีควงฟงก็ไม่โจมตีฮุยไท่หลางต่อไปด้วยเช่นกัน เพราะประมุขนิกายพันปีศาจบอกว่าจื้อจุนอยู่ในชั้นที่สาม

ประโยคนี้ทำให้หนานเซี่ยตี๋และซีควงฟงถึงกับหมดหวัง

พวกเขาไม่สนใจความร่วมมือต่างก็ถอนตัวออกจากสนามรบ

หลังจากฮุยไท่หลางได้ยินเช่นนี้เพื่อยั่วพวกเขาให้มาต่อสู้กันอีก มันโยนกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ดำที่มันยังไม่มีเวลาหลอมรวมกับกระดูกและเคียวเพลิงของมันออกไป นี่คือสิ่งที่ราชาเฮยอวี้เคยใช้มาก่อนในชีวิต  เมื่อราชาเฮยอวี้ตายในการสู้รบ  มารสัมฤทธิ์ฟ้าขอให้ผู้เฒ่าหนานกงส่งร่างราชาเฮยอวี้และกระบี่ดำอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเขา  เกราะมืดศักดิ์สิทธิ์ไปให้เย่ว์หยาง  แต่เย่ว์หยางมีดาบเทาเถี้ยและเกราะเพลิงอมฤตอยู่แล้วไม่สนใจชุดธาตุมืดดังนั้นจึงมอบให้ฮุยไท่หลาง

ฮุยไท่หลางถ่มกระบี่มืดศักดิ์สิทธิ์ออกมา  หนานเซี่ยตี๋และซีควงฟงตกใจมาก

แต่รู้สึกถึงการข่มความโกรธ

ถ้าจื้อจุนอยู่ที่นี่และพวกเขาไม่ถอนตัว  จะเกิดอะไรขึ้น?

พวกเขาคงยากจะตาย  แต่ก็แค่เป็นนักโทษ  พวกเขารู้ความลับของจ้าวปีศาจโบราณและราชาเฮยอวี้  เมื่อพวกเขาถูกจับ เย่ว์หยางกับจักรพรรดินีราตรีจะใช้วิชาลับเพื่อตรวจสอบแผนการของจ้าวปีศาจโบราณถึงเวลานั้นจะนำความสิ้นหวังมามากยิ่งขึ้น

หนานเซี่ยตี๋มองดูฮุยไท่หลางที่กำลังยั่วโมโหเขาได้แต่กระทืบเท้าจนพื้นสั่นสะเทือน

พวกเขาเข้าไปในประตูเทเลพอร์ตของประมุขนิกายพันปีศาจอย่างไม่เต็มใจ จากนั้นไม่นานขณะที่ซุ่นเทียนและองค์ชายดำติดตามฮุยไท่หลางเห็นมันกลับมาหาเย่คงและเจ้าอ้วนไห่ พวกเขาไม่ต้องการให้ฮุยไท่หลางแยกทาง และแยกสนามต่อสู้  พวกเขาไม่ต้องการเจ็บตัวต่อไป

“ทำไมพวกเจ้ามาอยู่ที่นี่?”  เย่คงไม่สามารถท้าทายองค์ชายดำก่อนนั้นได้  แต่ตอนนี้เขาเป็นศัตรูและเขาไม่ยอมแสดงความสุภาพ

“ก็แค่ผ่านมาเท่านั้น”ซุ่นเทียนเจ้าเล่ห์มากและหาช่องโหว่ได้

“ไปกันเถอะ”  องค์ชายดำเตือนพวกเขาไม่ให้ลังเลอีกต่อไป  หลังจากเห็นพะยูนนรกกลับมาแต่ไกล เย่คงและเจ้าอ้วนไห่ยังไม่แข็งแกร่งมากขึ้นเท่าใดนัก  ดังนั้นพวกเขาไม่กลัวพวกนี้ แต่ถ้าพวกเขาถูกฮุยไท่หลางและพะยูนนรกล้อมเอาไว้ก็คงไม่ใช่เรื่องเล็กแล้ว เนื่องจากผนึกโบราณที่นี่ล้มเหลว  พวกเขาไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อไป

“รอเดี๋ยว”เสียงไพเราะของจักรพรรดินีราตรีดังขึ้น ทำให้ซุ่นเทียนและองค์ชายดำตกใจกลัว  นางมาได้ยังไง?

จักรพรรดินีราตรียังไม่ปรากฏร่าง

มีแต่ยิ่งทำให้น่ากลัวมากขึ้น

ซุ่นเทียนยังไม่แน่ใจว่าจื้อจุนจะมากับนางด้วยหรือไม่

ถ้าจื้อจุนอยู่ที่นี่อย่างนั้นเขากับองค์ชายดำนับว่าโชคร้าย คงจะใช้ข้ออ้างว่าผ่านทางมาไม่ได้ เพราะมีแต่จะทำให้นางโกรธ

เป็นไปได้ไหมว่าเขาต้องรักษาชีวิตตนเองโดยการเปิดเผยแผนการของจ้าวปีศาจโบราณ?ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจของซุ่นเทียน  เขาไม่สนใจว่าเขาควรสนับสนุนใคร คนที่มั่นใจที่สุดจะได้รับการสนับสนุนจากเขา  ถ้าเขาไม่เป็นศัตรูของเย่ว์หยางก่อนนี้  เขาคงโจมตีราชาเฮยอวี้และบริวารของราชันย์พันปีศาจไปแล้ว อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางเลือกได้แต่อยู่ห่างจากเย่ว์หยางก่อนที่เขาจะสามารถทำอะไรได้

ตอนนี้ที่แผนการของจ้าวปีศาจโบราณนั้นสมบูรณ์แบบ  เขายินดีจะร่วมมือลับๆ

อย่างไรก็ตามนี่จะทำให้เขาเป็นศัตรูกับจื้อจุนอย่างเห็นได้ชัด

นั่นเป็นไปไม่ได้

เขาคงไม่ทำเช่นนั้นต่อให้เขาบ้าก็ตาม  อย่าว่าแต่เขาเลย  แม้แต่สุดยอดฝีมืออื่นจากหอทงเทียนเช่นประมุขนิกายพันปีศาจหรือองค์ชายดำผู้เกลียดทวีปไม่ใช่คนที่โง่พอจะหันหน้ามาเป็นศัตรูกับจื้อจุน

“จื้อจุนขอให้ข้าบอกพวกเจ้าว่าเจ้าควรจะเชื่อฟังสุดยอดปราณก่อกำเนิด อย่าทำตัวเองให้ยุ่งยาก ไม่อย่างนั้นเจ้าจะต้องตาย” ซุ่นเทียนเต็มไปด้วยความเคารพในสิ่งที่จักรพรรดินีราตรีบอก

เพราะเขารู้อารมณ์ของจื้อจุนดี  นางไม่ชอบปกครองคนอื่นอย่างธรรมดา

แต่เมื่อนางโกรธจะมีผลเพียงประการเดียว

นั่นคือ ตาย!

และเป็นการทำลายอย่างสิ้นเชิง!

“แน่นอน,เราได้ยินว่ามียอดฝีมือแดนสวรรค์อยู่หลายคนที่มายังบันไดสวรรค์  พวกเขาต้องการยืมมือขอความช่วยเหลือ  เนื่องจากจื้อจุนมีคำสั่ง  เราจะเชื่อฟังก็ได้”  ซุ่นเทียนหัวเราะและจากไปพร้อมกับองค์ชายดำทันที ความเร็วในการหนีไวกว่าเมื่อตอนมาถึงสิบเท่า ดูเหมือนพวกเขากลัวว่าจื้อจุนอาจจะเปลี่ยนใจและฆ่าพวกเขาในกระบวนท่าเดียว

พวกเจ้าเด็กๆ ทำกันได้ดีพัไปกกันได้แล้ว!”  จักรพรรดินีราตรีชื่นชมเย่คงและคนอื่นๆด้วยเสียงที่ไพเราะ และจากนั้นเสียงจากหายไปไกล จากนั้นก็ไม่มีเสียง

เหนื่อยจริงๆ

เจ้าอ้วนไห่ทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง  ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่คนอื่นๆยกเว้นเสวี่ยทันหลางที่ยังทนยืนอยู่ได้ ทั้งหมดนั่งลงกับพื้นด้วยความรู้สึกอ่อนเพลีย

ในที่สุดการต่อสู้ก็จบ

คัมภีร์ของพวกเขาลอยออกมาโดยอัตโนมัติ

คัมภีร์พวกเขาเปล่งแสงทองของการปรับปรุงพัฒนาเย่คง เจ้าอ้วนไห่ เสวี่ยทันหลางและพี่น้องตระกูลหลี่ได้เลื่อนระดับพลังกันหมด เช่นฮุยไท่หลางและแรดเพชร ฮิปโปน้อย นางนวลสายลม วานรปีศาจชั้นเพชรด้วงจอมพลัง, ยักษ์พายุน้ำแข็ง ทั้งหมดมีพัฒนาการก้าวหน้า  คนอื่นอย่างหลิวเย่ เป่าเอ๋อฟ่านหลุนเถี่ยและแอนนาก็เช่นกัน

ในสงครามที่ยากลำบากนั้น  แม้ว่าจะมีอันตรายมาก  แต่ทุกคนก็ยังได้ผลรับที่มากตามไปด้วย

พวกเขาพัฒนาก้าวหน้ากันทุกคน

แน่นอนเพราะแตกต่างในคุณค่าและความเข้าใจระดับความก้าวหน้าของทุกคนจึงแตกต่างเช่นกัน เย่คง เจ้าอ้วนไห่และเสวี่ยทันหลาง สามคนนี้ได้ประโยชน์มากที่สุดและก้าวหน้ามากกว่าสมาชิกคนอื่น

นอกจากคนทั้งสามนี้ถัดมาก็คือหลิวเย่

นางข่มศัตรูของนางอย่างเซี่ยเชียนชิวด้วยทักษะแฝงเร้นและความสามารถทั้งหมดของนาง  ในการต่อสู้ครั้งนี้  นางแสดงความสามารถและฝีมือของนางออกมาได้

สักวันนางจะเติบโตก้าวหน้าเป็นนักรบสตรีที่ดีมีคุณสมบัติเป็นกลุ่มสนับสนุนคอยช่วยเย่ว์หยางอย่างไม่มีขีดจำกัดทักษะแฝงเร้นชำระใจและกวางทะลวงมิติยังไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ แม้ถ้าเย่ว์หยางต้องการสำรวจโลกคัมภีร์เทพหรือไปแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ  นางจะเป็นผู้ช่วยสำคัญ

“โฮ่ง?” ฮุยไท่หลางที่หลอมรวมกับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์กับกระดูกและเพลิงเคียวลุกขึ้นยืนอย่างตกใจจากนั้นเปลี่ยนเป็นเกียจคร้านขณะมองดูแต่ไกล

“เกิดอะไรขึ้น?” เย่คงและเจ้าอ้วนไห่คิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ  พวกเขากระโดดขึ้นยืน

ทุกคนถืออาวุธและเตรียมสู้อีกครั้ง

ในที่จากระยะไกลพวกเขามองเห็นพญางูโลหิตยักษ์พาลูกงูน้อยตรงมาทางพวกเขา

พวกเขาไม่รู้ว่านี่เป็นอสูรรบของเมดูซาศิลา  พวกเขาคิดว่ามันคืออสูรรบของศัตรู   พวกเขารวมพลังไว้เตรียมจะฆ่าทันทีราชันย์ปีศาจใต้ถือผีผาหยกพุ่งผ่านมาเหมือนดาวตกตะโกนบอกเย่คงและเจ้าอ้วนไห่“เจ้าพวกโง่จะทำอะไรกันนี่?ศัตรูรู้ว่าพวกเขาล้มเหลวในการต่อสู้และชักน้ำมาทางนี้  พวกเจ้าไม่ต้องการหนีใช่ไหม?พวกเจ้าต้องการเป็นลูกไก่ตกน้ำใช่ไหม? หนีเร็ว”

เสียงแปลกประหลาดดังมาแต่ไกล  คลื่นน้ำทะลักสายน้ำยาวไกลสุดหูสุดตา

เย่คงรู้สึกหนังศีรษะชาขณะตะโกน  “น้ำมาตั้งมากมายเราจะหนีไปที่ไหน? เย่ว์หยางและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอยู่ที่ไหน?”

ราชันย์ปีศาจใต้ไม่สนใจเขา  นางรีบหนีและกล่าว“เจ้านั่นกลับไปที่หุบเขาภมรหมื่นบุปผาแล้ว!”

“อ๋า?” เจ้าอ้วนไห่ตะลึง “เจ้านั่นไม่ซื่อเลย? แต่เราไม่มีม้วนเทเลพอร์ต ไม่สามารถออกจากบันไดสวรรค์ได้  ช่วยด้วย ช่วยด้วย”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด