ตอนที่ 653 แม่ทัพเฒ่าฮัสกี
นี่เป็นครั้งที่สองที่หยางจื่อชิงมาเยือนทวีปซางโจว เมื่อเขามาถึงบังเอิญได้พบเห็นกองเรือแปลกประหลาดกำลังเข้าสู่ทวีปซางโจว
ฮัสกียืนอยู่ข้างเขาจ้องมองและสังเกตดูฮัสกีเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทวีปฝานซิงโจวและเป็นมือขวาของเจ้าปกครองทวีปร่วมกับหยางจื่อชิง หยางจื่อชิงจะรับหน้าที่ดูแลกิจการภายใน ขณะที่ฮัสกีจะมีประสบการณ์ในด้านการทหาร เมื่อเขายังอายุน้อย เขาเป็นขุนพลที่มีชื่อเสียงมีกองกำลังที่ประสบความสำเร็จมามากสีสัน และพอเขาอายุมากขึ้น ร่างกายของเขาอ่อนแอลงไม่เอื้ออำนวยต่อการกลับไปยังแนวหน้าอีก ดังนั้นเขาเริ่มให้คำแนะนำผู้เยาว์ที่มีพรสวรรค์ในทวีป 75%ของขุนพลระดับเงินของทวีปฝานซิงโจวผ่านการตัดสินมาจากเขา พวกที่เหลือก็ได้รับคำแนะนำจากเขา ดังนั้นชื่อเสียงของเขาจึงเป็นรองแค่เจ้าครองทวีป
ฮัสกีมีดวงตาสีฟ้าและจมูกแหลมงองุ้มเหมือนเหยี่ยวทำให้เขาดูเย็นชามาก เขายืนตรงความเป็นทหารหลายปีไม่เคยหนีไปจากตัวเขา เขาไม่แสดงให้เห็นถึงความสุขหรือความเศร้า มีสีหน้าเฉยเมยจนหน้าของเขาเหมือนกับรูปสลักหิน
ความสนใจทั้งหมดของเขามุ่งเน้นไปที่กองเรือที่ใกล้เข้ามา
สีหน้าของหยางจื่อชิงมีแววอ่อนล้า ทวีปฝานซิงโจวตกอยู่ในสภาพที่ไม่สงบ ทำให้เขามีสภาพกายและใจอ่อนล้า การมาถึงของเขาครั้งนี้เพื่อผูกมิตรกับทวีปซางโจวให้ได้ จะพึ่งพาแต่พลังของทวีปฝานซิงโจวเองก็คงไม่สามารถทำให้เหล่าหมาป่าหิวโหยรอบด้านหวั่นไหวได้
นั่นคือเหตุผลที่ฮัสกีร่วมทางกับเขา ความแข็งแกร่งทางทหารของทวีปซางโจวไม่อาจตบตาแม่ทัพเฒ่าได้ งานหลักของพวกเขาครั้งนี้ก็คือให้แม่ทัพเฒ่าประเมินทวีปซางโจว
หยางจื่อชิงไม่กล้ารบกวนเขา ฮัสกีมีอาวุโสมากกว่าเขาและแม้แต่เขาก็ยังเรียกแม่ทัพเฒ่าว่า ‘นายท่าน’
หยางจื่อชิงยังคงมองดูกองเรือด้วยความสงสัย
กองเรือไม่มีอะไรคู่ควรแก่การพูดถึง แต่ความสนใจของเขากลับให้ความสนใจทหารที่ดูท่าทางเหน็ดเหนื่อยมาก เขาประหลาดใจ พวกเขาทุกคนดูผอมโซมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยฝุ่นเปรอะเปื้อน เสื้อผ้าของพวกเขาขาดรุ่งริ่งเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นกองทัพขอทานที่เที่ยวขอสิ่งของที่มีค่าเล็กน้อย
หยางจื่อชิงไม่เคยเห็นกองทัพที่ขัดสนขนาดนี้มาก่อน
‘เป็นไปได้หรือว่าทวีปฝานซิงโจวจะต้องเอาชนะพวกขอทานกลุ่มนี้?’ หยางจื่อชิงรู้สึกไม่อยากเชื่อ เขารู้สึกว่าอาจเป็นไปได้ว่ากองเรือนั้นคือทหารที่เกณฑ์มาจากทวีปซานโจว
แต่เขาขมวดคิ้วอย่างรวดเร็ว เขาสู้กับปิงมาก่อนบุรุษเจ้าเล่ห์และมีลวดลายแพรวพราวจะไม่ทำข้อผิดพลาดขนาดนั้นเป็นแน่ และยังมีอาเฮ่อบุรุษหนุ่มผู้เงียบสงบมีความเป็นผู้ดีอยู่ในสายเลือด เขาไม่ใช่คนที่ทำอะไรผิดพลาดขนาดนั้น
อย่างนั้นมีเหตุผลอะไร?
ในเวลาอันรวดเร็ว หยางจื่อชิงก็เรียกความรู้สึกกลับมา เขาเยาะหยันตัวเอง ‘ข้าคิดอะไรตั้งมากมายกัน? ข้ามีท่านฮัสกีอยู่ข้างตัวแล้ว เพียงคนเดียวก็มองเห็นทั้งหมด’
เขาหันไปและเตรียมจะคุยกับฮัสกี แต่เขาสังเกตว่าฮัสกีมีสีหน้าประหลาดใจ
เพราะเหตุผลบางอย่าง หยางจื่อชิงหัวใจเต้นแรง
ท่านฮัสกีเป็นแม่ทัพเฒ่าที่น่าเคารพซึ่งปฏิบัติตามธรรมเนียมอันดี และไม่เคยแสดงสีหน้าอะไรออกมา แม้อยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายที่สุด เขาก็ไม่เคยแสดงความหวาดกลัว หยางจื่อชิงเคยสนทนากับเขาหลายครั้งและไม่เคยเห็นความเปลี่ยนแปรในสีหน้าของท่านผู้เฒ่าเลย
มีแม้กระทั่งบางเวลาที่หยางจื่อชิงแอบคิดว่าท่านฮัสกีคงมีปัญหาได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าจนกล้ามเนื้อใบหน้าพิการไม่สามารถแสดงอารมณ์ได้
เมื่อหยางจื่อชิงเห็นท่าทางตกใจของฮัสกีคลื่นความสงสัยรุนแรงทำให้ใจเขาว้าวุ่น
‘อะไรทำให้ใบหน้าเหล็กของท่านผู้เฒ่าถึงดูตกใจขนาดนั้น?’
จากนั้นผู้เฒ่าถอนหายใจ
หยางจื่อชิงรู้สึกได้ชัดเจนถึงสีหน้าที่ผิดหวังในใบหน้าของชายชรา
“เราพ่ายแพ้อย่างไม่เป็นธรรมเลย” ฮัสกีค่อยกลับคืนสู่ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกเหมือนเดิม “พลังของอีกฝ่ายหนึ่งเหนือชั้นกว่าเราอย่างห่างไกล”
หยางจื่อชิงพูดด้วยความสงสัยและอยากรู้ “นายท่าน,ข้าหวังว่าท่านจะช่วยแนะนำข้าได้ จื่อชิงไม่สามารถเข้าใจได้เลย ข้ามองไม่เห็นความผิดปกติใดๆ ในคนกลุ่มนี้? อุปกรณ์เครื่องมือของพวกเขาก็ดูย่ำแย่ราวกับพวกยาจก”
ฮัสกีคุ้นเคยกับหยางจื่อชิงและไม่กลัวจะบอกความในใจของเขา “ตรงกันข้ามแน่นอน ถ้าเราผู้เฒ่าเดาได้ไม่ผิดกองกำลังนี้ต้องผ่านการเดินทางมาอย่างยากลำบากในเร็วๆ นี้ ไม่สิ ควรจะเป็นภายในทะเลพลังงาน สถานที่ให้พวกเขาได้ฝึกฝนเดินเท้า
หยางจื่อชิงมีสีหน้าตกใจ “นายท่าน, ท่านกำลังบอกว่าพวกเขาฝึกกันในทะเลพลังงานแบบเท้าเปล่าหรือ?”
เขาคิดว่าเขาได้ยินผิด ทวีปฝานซิงโจวเดิมทีก็ฝึกฝนในทะเลพลังงานมาก่อน แต่นั่นเป็นการฝึกในเรือ คนธรรมดาจะฝึกในทะเลพลังงานตัวเปล่าได้ยังไง?ถ้าไม่ใช่เพราะความเคารพที่หยางจื่อชิงมีต่อฮัสกี เขาคงจะแค่นเสียงด้วยความไม่เชื่อถือแล้ว
ทะเลพลังงานเป็นสถานที่แบบไหน? สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายทุกหนแห่งสามารถเอาชีวิตผู้คนได้ทุกเมื่อ พลังงานกัดกร่อนมีอยู่ทุกที่ ด้วยความผันผวนของกระแสที่ไม่มั่นคง แม้แต่เรือรบที่เดินทางในทะเลพลังงานก็ยังพบกับอุบัติเหตุ
‘การฝึกในทะเลพลังงานตัวเปล่าน่ะหรือ? พวกเขาเบื่อหน่ายชีวิตแล้วหรือ?’
มีแต่นักสู้ที่แข็งแกร่งไม่กี่คนที่สามารถฝึกฝนเช่นนั้นได้ แต่นักสู้ที่แข็งแกร่งทรงพลังเหล่านี้ก็อาจเสียชีวิตในทะเลพลังงานได้ เป็นครั้งแรกที่หยางจื่อชิงได้ยินว่ามีกองทัพที่ฝึกตัวเปล่าในทะเลพลังงาน เท่ากับเป็นการหาที่ตายไม่ใช่หรือ? พวกทหารจะไม่ก่อกบฏหรือ?
ฮัสกีสังเกตเห็นสีหน้าของหยางจื่อชิง แต่เขาไม่โกรธ แม้แต่ปฏิกิริยาตอนแรกของเขาที่คาดเดาเองก็คือ ‘เป็นไปไม่ได้’
เขาไม่อธิบายเพิ่ม มันเป็นแค่เพียงการคาดเดา
“พวกเขามีสามกองพล” ฮัสกีกล่าว เขารู้ว่าการประเมินของเขาเป็นสิ่งสำคัญมากต่อการตัดสินของหยางจื่อชิง ดังนั้นเขาตัดสินใจอธิบายทุกอย่างที่เขาเห็นเพื่ออำนวยให้หยางจื่อชิงได้พิจารณาอย่างชัดเจน
“กองทัพแรก เป็นกองทัพที่มีมาตรฐานทั่วไป เจ้าสามารถเห็นวิธีก้าวเดินของพวกเขาและจงสังเกตกระแสพลังงานที่ไหลเวียนรอบตัวพวกเขา” ฮัสกีกล่าว
หยางจื่อชิงหรี่ตาดูและถามอย่างไม่แน่ใจ “ดูเหมือนมีกระแสงพลังไหลอยู่รอบตัวพวกเขา?”
“ใช่, พวกเขาฝึกการผสานพลังได้ถี่มาก” ประกายแสงกระพริบอยู่ในดวงตาของฮัสกี “จากแนวที่กระแสพลังไหล การผสานพลังของพวกเขาอยู่ระดับที่น่ากลัวมาก เมื่อเห็นรอยขาดบนเสื้อผ้าพวกเขา ก็แสดงว่าคงจะมีหมออยู่กับพวกเขา และจากที่ดูรอยแตกบิ่นของอุปกรณ์ของพวกเขาดูเหมือนว่าเวลาที่พวกเขาใช้ฝึกในทะเลพลังงานไม่ใช่สั้นๆ แน่นอน แม่ทัพที่คุมกองพลต้องเป็นระดับที่มีประสบการณ์และได้รับการศึกษามาจากสถาบันทหารที่มีมาตรฐาน และมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งมาก”
หยางจื่อชิงพยักหน้าตาม ฮัสกีเป็นแม่ทัพที่เจนโลกจริงๆและสร้างแม่ทัพระดับเงินมามากมายแล้ว สายตาของเขากว้างไกลเกินกว่าหยางจื่อชิงจะเทียบได้ เขาสามารถอนุมานได้จากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ
“กองทัพที่สองเป็นทหารรับจ้าง” ฮัสกีพูดต่อ
“ทหารรับจ้าง?” หยางจื่อชิงตกใจ “พวกเขาต้องการใช้ทหารรับจ้างมาทำอะไร?”
ความแข็งแกร่งของทหารรับจ้างยังน้อยเมื่อเทียบกับมาตรฐานกองทัพ การเทียบกับกองทัพระดับเงิน มาตรฐานกองทัพระดับเงินสามารถกำจัดกองทัพทหารรับจ้างระดับเงินได้อย่างง่ายดาย เกี่ยวกับคุณสมบัติ การฝึกหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ทหารรับจ้างไม่มีทางเทียบกับทหารมาตรฐาน แม้แต่กองทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงคุณภาพก็ยังด้อยกว่าเมื่อเทียบกับทหารมาตรฐาน
‘ทำไมพวกเขาถึงมีทหารรับจ้างด้วย? พวกเขาขาดแคลนหรือ?’ หยางจื่อชิงสงสัย
ฮัสกีส่ายศีรษะ “อย่าดูถูกพวกเขา สิ่งที่พวกเขาฝึกก็เพื่อวัตถุประสงค์พิเศษการแทรกซึมขนาดเล็กและการโจมตีขัดขวางจะมีความคมกล้ามาก ผู้บัญชาการพวกเขาน่าจะวางแผนให้พวกเขาเป็นกองทัพที่เชี่ยวชาญในรูปแบบสงครามกองโจรมันคือแนวความคิดที่ฉลาด!”
ฮัสกียังคงชื่นชม
หยางจื่อชิงยังคงสงสัย “พวกเขาสามารถทำเช่นนั้นได้จริงๆหรือ?”
“พวกเขาน่าจะทำได้” ฮัสกีพูดต่อ “ตราบเท่าที่เจ้าฝึกฝนพวกเขาด้วยการวางแผนและยุทธวิธีที่เฉพาะเจาะจงและเพิ่มความแข็งแกร่งให้แต่ละคน วิธีนี้มีประโยชน์มากมาย ดูพวกเขาสิ พวกเขาไม่ได้มีกลิ่นอายของทหารรับจ้างอีกต่อไปแล้วแต่กลับมีกลิ่นอายของทหารฝีมือดี พวกเขาอาจดูกระจัดกระจาย แต่ความจริงพวกเขาตั้งรูปกระบวนที่ลึกล้ำ นั่นควรจะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เชี่ยวชาญของพวกเขา ผู้บัญชาการของพวกเขาแข็งแกร่งมากจริงๆ”
ฮัสกีมีความเฉียบคมในการดูราศีกองทัพ
จากนั้นหยางจื่อชิงชี้ไปที่กลุ่มที่เล็กอย่างเห็นได้ชัด “คนที่อยู่ด้านหลังพวกเขาเป็นใคร? ดูเหมือนพวกเขามีสมาชิกไม่กี่คน”
ทันใดนั้น เขาตระหนักได้บางอย่าง และหน้าของเขาผิดปกติทันที “สือเซิน! นั่นคือสือเซิน!”
สือเซินหักหลังไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เขาเป็นเพียงผู้บัญชาการกองพลระดับต่ำ แต่แม่ทัพระดับเงินอย่างซุนเจี๋ยตายเพราะเขาทำให้เกิดความปั่นป่วน ดังนั้นเป็นครั้งแรกที่ชื่อของสือเซินเข้าหูผู้บริหารระดับสูงในทวีปฝานซิงโจว
สีหน้าของฮัสกีจริงจังขึ้น “พวกนั้นก็คือกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจว”
“กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจว? ”หยางจื่อชิงตกใจชั่วครู่ แต่คำรามทันที “มิน่าเล่า! กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวไม่น่าเชื่อถือ พวกมันทุกคนจิตใจโลเล!”
ชื่อเสียงของกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวอื้อฉาวเกินไป นอกจากยากจะจำแนกได้แล้ว พวกเขามีชื่อเสียงเป็นฆาตกรอื้อฉาว ที่ฆ่านายจ้างของพวกเขา ดังนั้นหยางจื่อชิงจึงมีสีหน้ารังเกียจ
“ไม่ใช่ พวกเขาคือกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวที่แท้จริง” ฮัสกียากนักที่จะแสดงอาการเสียดายให้เห็น ทวีปฝานซิงโจวได้กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวมา แต่เขาเองกลับไม่รู้
“กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวที่แท้จริง?” หยางจื่อชิงตกใจอีกครั้ง
ฮัสกีรู้ว่าหยางจื่อชิงไม่เข้าใจเรื่องเช่นนั้นจึงอธิบาย “มีกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวเก๊อยู่ในตลาด ล้นอยู่ทั่วไป แต่มีกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวแท้อยู่น้อยมาก เพราะการทดสอบของพวกเขาเข้มงวดมากพวกเขาจึงมีความแข็งแกร่งมาก สามารถหากองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวแท้ได้ถึง 500 คนนั่นเป็นเรื่องยากแท้จริง อย่าดูถูกจำนวนขนาดนั้น พวกเขามีความสามารถในการต่อสู้ที่น่ากลัว พวกเขาน่าจะเป็นกองกำลังปีศาจกลุ่มใหญ่ และมีความต้องการความรุ่งเรือง ดังนั้นเจ้าไม่อาจดูถูกพวกเขาได้!”
เมื่อได้ยินฮัสกีประเมินกองกำลังปีศาจไว้อย่างสูง และรู้ว่าเป็นเพราะพวกเขาที่ปล่อยปลาใหญ่หลุดมือไป หยางจื่อชิงได้แต่รู้สึกเสียใจ
เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัด จากนั้นเขาพูดต่อ “แล้วพวกที่อยู่ด้านหลังและมีแสงรัศมีรอบตัวล่ะ?”
“พวกเขาไม่ใช่ทหารแต่อย่างใด” เป็นครั้งแรกที่ฮัสกีใช้น้ำเสียงที่ไม่ค่อยแน่ใจ “พวกเขาอาจเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งก็ได้”
“นักสู้ที่แข็งแกร่ง?” หยางจื่อชิงตะลึง
กลุ่มรัศมีที่ลอยอย่างหนาแน่นรอบๆ เรือมีประมาณสองสามพันสาย ‘นักสู้ที่แข็งแกร่งสองสามพันคนเชียวหรือ? เป็นไปไม่ได้!’
แม้ว่าฮัสกีจะรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่มีนักสู้ที่แข็งแกร่งจำนวนมากมายนัก เขาพูดอย่างไม่แน่ใจ “พลังส่วนตัวของพวกเขาไม่ถือว่าเลวนัก แต่พลังประสานของพวกเขาแย่มาก ไม่สิ พวกเขาไม่มีการประสานพลังเหมือนกับเม็ดทรายหลวมๆ นั่นคือเหตุผลที่ข้าบอกว่าพวกเขาไม่ใช่ทหาร แสงรอบตัวพวกเขานั้นน่าทึ่งและมีอยู่มากมาย....”
ฮัสกีไม่รู้จักพูดยังไงต่อไป
หยางจื่อชิงกลับพูดอย่างสงบ “ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทรงพลังอย่างแท้จริง”
“มากๆ!” ฮัสกียืนยัน
ทั้งสองคนมองหน้ากันเองด้วยความรู้สึกตื่นเต้นปนกังวล