ตอนที่แล้วตอนที่ 650 อัศจรรย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 652 ฝึกหนักผิดธรรมดา

ตอนที่ 651 กลับทวีปซางโจว


พายุพลังงานดำเนินต่อไปราวสิบนาที

หน้าของเหมยเฉินซิ่วยิ่งหน้าเกลียดมากขึ้นความหนาแน่นของพลังงานรอบๆ ตัวพวกเขาเบาบางลงมาก บางยิ่งกว่าแต่ก่อน  มันเหมือนกับว่าพลังงานในเกาะใต้ถูกขโมยเอาไป

‘เกิดอะไรขึ้นกันแน่?’

เหมยเฉินซิ่วไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน

“นายท่านความหนาแน่นของพลังงานด้านนอกต่ำมาก” น้ำเสียงของรองหัวหน้า เต็มไปด้วยความตกใจอย่างมาก “มันเริ่มสร้างเป็นพลังงานกดดันที่ตรงกันข้ามแล้ว  เราจำเป็นต้องออกไปเดี๋ยวนี้!”

เดิมทีความหนาแน่นพลังงานภายในเรือรบจะหนาแน่นมากกว่าความหนาแน่นของพลังงานในอากาศ  แต่ถ้าความหนาแน่นพลังงานในอากาศเบาบางมากก็จะส่งผลให้เกิดพลังงานด้านลบ พลังงานที่เบาบางในอากาศ จะสร้างพลังดูดที่รุนแรงทำให้พลังงานในเรือรบสูญหายไป

วัสดุใช้สร้างเรือรบก็แพงดังนั้นการสูญเสียพลังครั้งนี้จะทำให้เกิดความเสียหายถาวร

เหมยเฉินซิ่วกัดริมฝีปากแน่น  ใบหน้าของเขาเขียวคล้ำ

สูญเสียเรือรบเป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุดที่สามารถเกิดกับพวกเขาได้  ต้องรู้ไว้ก่อนว่าพวกเขายังอยู่ในทวีปทรายขาว และกองทัพระดับเงินสามกองทัพของทวีปทรายขาวยังจะเข้ามาเสริมได้

กับการเคลื่อนไหวใหญ่ขนาดนั้น  ถ้าทวีปทรายขาวไม่ทำอะไรโต้ตอบพวกเขาคงเป็นตัวโง่งมอย่างแท้จริง

ถ้ากองเรือที่เหมยเฉินซิ่วยังสั่งการอยู่เป็นกองทัพของทวีปหมิงกวง  เขาก็คงไม่กลัว  เขาไม่เห็นแม้แต่กองพลที่หนึ่งของซัวปี่อยู่ในสายตาของเขา  แต่เขากำลังนำกองกำลังโจรสลัดแม้ว่าแกนหลักของโจรสลัดก็เป็นทหารฝีมือดีของทวีปกวงหมิง แต่มาตรฐานของทหารยังอ่อนแอเกินไปเมื่อเทียบกับกองทัพระดับเงิน

เมื่อพวกเขาเข้าไปตอแยกับกองทัพระดับเงิน  พวกเขาจะตกอยู่ในอันตราย

แต่สิ่งที่ทำให้เหมยเฉินซิ่วเลือกยอมแพ้ก็คือเรือรบธนูดำ พลังงานในเกาะใต้ทั้งหมดถูกสูบไปโดยเรือรบธนูดำ ถ้าพลังงานทั้งหมดในทะเลพลังงานจะถูกบีบอัดเข้าไปไว้ในเรือลำเดียว  แล้วข้างในจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เหมยเฉินซิ่วสงสัยและหวั่นเกรงพอกัน

ในการสู้รบถ้ามีพลังงานมหาศาลขนาดนั้นมารวมตัวกัน มักจะมีนัยสำคัญต่อการโจมตีที่มีขนาดใหญ่

กลุ่มสลัดอื่นเริ่มถอยกัน ภายใต้สภาพแวดล้อมที่แรงดันของพลังงานเป็นลบ  ยิ่งพวกเขาอยู่นานก็ยิ่งสร้างความเสียหายให้กับเรือรบ ขณะนั้นแม้ว่าพวกเขาต้องการจะถอย แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้

นอกจากนี้ พวกเขามั่นใจในผลงานที่แท้จริงแล้ว  ห้าตระกูลเกาะใต้ถูกทำลายไปแล้วและสิ่งที่เหลือก็คือเด็กกลุ่มหนึ่ง พวกเขาจะก่อกวนอะไรได้?

เหมยเฉินซิ่วกัดฟัน  “ถอนกำลัง!”

ความย่อยยับทั้งหมดเพราะกลุ่มเล็กๆจะเป็นเรื่องน่ากลัวที่สุดและสิ่งที่ทำให้เขากังวลมากขึ้นก็คือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในเรือรบธนูดำ  เพราะเหตุผลบางอย่างความเปลี่ยนแปลงที่น่าประหลาดใจทำให้เขารู้สึกถูกคุกคามอย่างไม่เคยมีมาก่อน

แต่เขาไม่สามารถหาข้อผิดพลาดของสหายของเขาที่เลือกจะถอยเพื่อรักษาพลังของพวกเขาและตัดสินใจดำเนินการต่อไป

เหมยเฉินซิ่วแค่นเสียงอย่างมีอารมณ์และฟื้นฟูความมั่นคงของตนเอง  ตาของเขาเป็นประกายเย็นชา

‘ทวีปทรายขาวไม่รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวใหญ่ในเกาะใต้ได้อย่างไร?  หลังจากนี้ สามกองพลระดับเงินจะต้องไล่ล่าเราอย่างแน่นอน’

‘บางที นี่อาจเป็นโอกาสดี พวกเขาจะไม่คิดถึงเรื่องนี้แน่ ถ้าเราตอบโต้ในครั้งนี้

แผนชั่วร้ายเริ่มก่อขึ้นในใจของเหมยเฉินซิ่ว

เมื่อเรือรบธนูดำกลับคืนสภาพปกติ  โจรสลัดทั้งหมดก็หายไปไม่เหลือร่องรอยแล้ว  ศิษย์ของห้าตระกูลที่เพิ่งได้รับพลังใหม่หวนกลับไปที่เกาะใต้ซึ่งพังย่อยยับ ในสายตาอ้างว้างของพวกเขา ไม่มีชีวิตใดเหลืออยู่  ทุกคนร้องไห้

พวกเขาร้องไห้และฝังร่างครอบครัวของพวกเขา

ในท้องฟ้า สือเซินมองดูด้วยท่าทีเวทนา  “นายท่าน เราจะไปช่วยพวกเขาไหม?”

พวกคนข้างตัวเขาก็มีความรู้สึกอย่างเดียวกัน

“ไม่!” ถังเทียนปฏิเสธทันควันอย่างคาดไม่ถึง สายตาของเขามองดูซากปรักหักพังข้างล่าง เขาพูด “ชีวิตและอนาคตของพวกเขา แลกมาด้วยครอบครัวและญาติพี่น้องของพวกเขาเอง  ฝังญาติพี่น้องด้วยตนเองไม่มีใครทำแทนได้ ก็เหมือนกับความแค้นและความรับผิดชอบของพวกเขา  ไม่มีใครที่มีคุณสมบัติช่วยพวกเขา”

สือเซินปากอ้าค้าง  เขาต้องการพูดบางอย่าง  แต่ไม่สามารถพูดได้สักคำ

“ท่านคิดว่าข้าอำมหิตหรือ?”  ถังเทียนไม่ได้หันหลังกลับมา  เขาไม่หันเหสายตา น้ำเสียงยังคงสงบ  “คนตายก็ตายไปแล้ว  พวกเขาเสียสละไปแล้ว  อย่าให้สิ่งที่เขาเสียสละต้องสูญเปล่า”

“เจ้ากำลังบอกว่าอนาคตของพวกเขาจะต้องแบกความแค้นไม่ใช่หรือ? เจ้าไม่คิดว่ามันหนักเกินไปสำหรับเขาหรือ?”  หลิงเซี่ยไม่สบายใจกับท่าทีของถังเทียน

ถังเทียนมองดูหลิงเซี่ย  “ใช่แล้ว มันจะต้องหนักแน่  พวกเขาไม่มีสิทธิ์เลือก  ไม่ว่าพวกเขาจะคิดเรื่องนี้หรือไม่อนาคตของพวกเขามาจากความเสียสละของตระกูลพวกเขา ความหวังและความคาดหวังสุดท้ายจากตระกูลของพวกเขา  พวกเขาจะต้องแบกรับเอาไว้และมีชีวิตต่อไป

หลิงเซี่ยเงียบ

“นายท่านพูดถูก!

เป็นเว่ยหาว, หวีชิงอี้และพวกที่เหลือ พวกเขาเพิ่งฝังสมาชิกครอบครัวเสร็จและตาของพวกเขายังแดงอยู่พวกเขาเพิ่งได้ยินคำพูดของถังเทียน และคำพูดเหล่านั้นแทงเข้าไปในใจ ดวงตาที่บวมแดงของพวกเขาเต็มไปด้วยประกายใหม่ในท่ามกลางความเจ็บปวดและเศร้าโศกพวกเขาพบเป้าหมายชีวิตใหม่

“แบกความหวังเอาไว้  เราจะมีชีวิตต่อไป!”

ประโยคนี้ก้องอยู่ในหัวใจพวกเขา

“ใช่แล้ว!”  ถังเทียนพูดอย่างสุภาพ “ความหวังจากการเสียสละของพวกเขาไม่ใช่เพื่อคนขี้ขลาด! ถ้าพวกเจ้าไม่จำใส่ใจไว้ให้ดี ความรับผิดชอบนี้จะกลายเป็นภาระที่หนักหน่วงของพวกเจ้า  พวกเจ้าอาจจะกลายเป็นขุดหลุมฝังตนเองก็ได้”

ดวงตาของเย่ชิงอี้และพวกเป็นประกาย

“เด็กชาวฟ้าจำเป็นต้องกล้าหาญ”  ถังเทียนตบอกตนเอง ด้วยสีหน้าทระนงองอาจ  “พวกเจ้ารู้ไหมว่าหนุ่มชาวฟ้าผู้นี้กล้าหาญยังไง?  ไม่ใช่ว่าจะไม่กลัว ไม่มีใครไม่เคยกลัว ต่อให้กลัวก็ต้องเอาชนะมัน! สวะเท่านั้นที่มักจะหาข้ออ้างเพื่อบรรเทาความเศร้าและความเจ็บปวด  หนุ่มชาวฟ้ามีแต่จะเดินหน้า  และมุ่งหน้าต่อไปอย่างเดียว!  ถ้าพวกเจ้าไม่กลัวก็ไปต่อ  ถ้าพวกเจ้ากลัว ก็นึกถึงภาระของพวกเจ้าและไปต่อถ้าพวกเจ้าเศร้า อย่างนั้นก็แบกความเศร้าและไปต่อไป  ถ้าพวกเจ้าสิ้นหวัง อย่างนั้นก็จงสู้  จงสู้อย่างสุดกำลังของพวกเจ้า  พวกที่ชอบพูดว่าพวกเขาไม่เห็นความหวังหรือว่าเปลืองกำลัง นั่นมันก็แค่หาข้ออ้างให้ตัวเอง ถ้าพวกเจ้ากำลังจะตาย  พวกเจ้าจะคุกเข่าร่ำไห้หรือ?  ต่อให้สัตว์ป่าที่ติดอยู่ในกรงมันก็ยังพยายามดิ้นรน พยายาม ดิ้นรนจนกระทั่งมันยอมตาย ดังนั้นในฐานะเด็กชาวฟ้า ก็ควรจะเดินหน้าต่อไป  อย่าหยุดยั้ง ไป ไป ไป!”

ทุกครั้งที่ถังเทียนพูดวลีว่า ‘หนุ่มชาวฟ้า’ ใบหน้าที่อึดอัดของเขามักจะแสดงถึงความภาคภูมิใจและแสดงท่าทางแปลกประหลาดน่าขบขัน ทุกครั้งที่เขาพูดว่า ‘ไป ไป ไป’ เขาจะต้องชูมือขึ้นในอากาศด้วยท่าทางห้าวหาญ  และตะโกนดังๆ

แต่ไม่มีใครหัวเราะ  ทุกคนตะลึง

คำพูดที่ไร้เดียงสาและน่าขันเหล่านี้ท่าทางแบบเด็กๆ และตลกกระทบใจพวกเขา

ถังเทียนไม่สนใจว่าคำพูดของเขาจะกระทบใจพวกเขา  คำพูดที่ไม่ได้มีความหมายต่อพวกเขาแต่มีความหมายต่อเขา!  หลังจากตะโกนแล้วเขารู้สึกหมอกควันในอกจางหายไป และทุกอย่างกระจ่างชัดสำหรับเขา

เขากำหมัดแน่น  ตลอดทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยพลังปณิธานและความตั้งใจสู้ในใจของเขาเปี่ยมล้น

‘ใช่แล้ว  ข้าคือหนุ่มชาวฟ้า!  ใช่แล้ว ข้าจะสู้แบบนั้นต่อไป!’

‘ใช่แล้ว  ข้าจะไม่หยุดยั้ง!’

ถังเทียนชูแขนทั้งสองขึ้นและหัวเราะทันที

ถังเทียนและพวกพ้องออกจากเกาะใต้และกลับไปรวมสมทบกับถังโฉ่วที่กำลังนำกองกำลังนางแอ่นและหน่วยกะโหลก  พวกเขาจะออกจากบ้านพักทันทีและกลับไปทวีปซางโจวโดยมีสวีจินตามมาสมทบกับพวกเขา

เหตุผลที่ถังเทียนเลือกจากมาเพราะที่พักของเขาแน่นเกินไป  สตรีจากตระกูลสูงที่เขาได้ช่วยเหลือครั้งล่าสุดล้วนเป็นคนสำคัญในทวีปทรายขาวและทวีปใกล้เคียงต่างๆ  ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญู  ทุกครอบครัวเริ่มเข้ามาทักทายเขาไม่รู้จบสิ้นทำให้โรงแรมเต็มไปหมด

และหลายตระกูลก็มีอำนาจและแม้แต่เจ้าครองทวีปคนใหม่ก็ยังห้ามพวกเขาไม่ได้จึงต้องนำพวกเขามาพบกับถังเทียนด้วยตนเอง

เมื่อคิดถึงสถานการณ์แบบนั้นแล้ว  ถังเทียนรู้สึกปวดหัว  ดังนั้นเขาจึงเลือกออกมาโดยไม่ลังเลแต่อย่างใด

ดังนั้นเอง ถังเทียนจึงโยนภาระการรับหน้าตระกูลทั้งหมดให้ฉินอวี่หรันซึ่งมีประสบการณ์ในการปรับตัวนางเอง  และด้วยความช่วยเหลือของป้าชิว  ถังเทียนค่อยผ่อนคลายมากขึ้น มีเขาคอยหนุนหลังนางและความสัมพันธ์กับทวีปทรายขาว  เขาเชื่อว่าจะไม่มีใครทำอะไรนางได้

ถังเทียนซึ่งปลีกตัวออกมาจากความรับผิดชอบทั้งปวงกลับสู่ทวีปซางโจว

‘เราจากมานานมากแล้ว  ในที่สุดก็ได้กลับเสียที!’

***************************

สองสามวันที่ผ่านมาปิงใช้ชีวิตอย่างผ่อนคลาย  หลังจากจุดไฟให้ทวีปฝานซิงโจว ในที่สุดพวกเขาก็รู้สึกถึงอันตรายและส่งคนไปเจรจาต่อรองในที่สุด

ปิงที่สามารถรีดเลือดจากยุงได้บวกกับอาเฮ่อผู้ฉลาด ทำให้ทวีปฝานซิงโจวไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจ่ายเงินจำนวนมากอย่างไม่เต็มใจ

ทวีปฝานซิงโจวตกอยู่ในสถานการณ์น่ากลัว  พวกจำเป็นต้องกำจัดไฟที่ไหม้อยู่ข้างหลังอย่างเร็วที่สุด  เพียงแค่นั้นพวกเขาก็สามารถรับมือทวีปรอบๆได้เต็มที่

ความจริงระดับสูงของทวีปฝานซิงโจวรู้ว่าพวกเขาอาศัยตนเองคงต้องป้องกันทวีปฝานซิงโจวอย่างยากลำบาก

ทวีปฝานซิงโจวอ่อนแอลงมากเพราะมีจุดอ่อนมากมาย  ทวีปต่างๆ โดยรอบทั้งหมดเป็นเหมือนหมาป่าหิวโหยรอโอกาสกระโจนขย้ำพวกเขา

ในเวลาอันรวดเร็วทูตจากทวีปฝานซิงโจวก็มาถึงทวีปซางโจวเป็นครั้งที่สอง

ทวีปฝานซิงโจวต้องการพันธมิตรและต้องเป็นพันธมิตรที่ทรงพลัง และด้วยพันธมิตรที่ทรงพลังนี้ พวกเขาอาจช่วยยับยั้งหมาป่าหิวโหยที่รายล้อมพวกเขาไว้ได้ เห็นได้ชัดเจนว่าคนผู้ลึกลับแห่งทวีปซางโจวนั้นสมบูรณ์แบบ สามารถเอาชนะกองทัพระดับเงินได้สองกองทัพติดต่อกัน  และป้อมไพรกระบี่ที่แปลกประหลาดของพวกเขา   พลังของพวกเขาเห็นได้ชัด

ทวีปซางโจวเป็นทวีปที่ยากจนและแร้นแค้น และนี่จะเป็นการต้อนรับพวกสังเกตการณ์และหน่วยสอดแนมอีกมากมาย

การดำเนินการของทวีปซางโจวดึงดูดสายตาจากหลายทวีป พวกเขาสงสัยมหาอำนาจลึกลับที่เกิดขึ้นมากระทันหัน

ปิงไม่สนใจ เขารู้ว่าชัยชนะของพวกเขามาจากโอกาสโชคดีที่มากมาย ความจริงพลังที่เขาถือครองอยู่นั้นมีข้อจำกัดมาก  พวกเขาดูแข็งแกร่ง แต่ความเป็นจริงแล้วอ่อนแอ ดังนั้นเขาไม่สนใจหน่วยสังเกตการณ์และสอดแนม  และมุ่งฝึกฝนทหารที่อยู่ในความควบคุมของเขา

ข่าวดีก็คือมีคนที่แข็งแกร่งจริงๆ  ที่เข้ามาหาหวังจะได้ร่วมกองทัพทวีปซางโจว

ปิงรู้ว่ามีมหาอำนาจหลายแห่งที่ส่งหน่วยสังเกตการณ์และสืบหาข้อมูลเข้ามาในทวีปซางโจว  แต่พวกเขาก็ยังรับไว้ทั้งหมด  พวกเขาจะไม่รับเอาไว้ได้ยังไง  พวกเขาคือกำลังพล

ปิงต้องการกำลังพล

เงื่อนไขของทวีปซางโจวก็คือไม่สามารถรักษาการพัฒนาของพวกเขาต่อไปได้  ตัวอย่างเช่นปากอ่าวทะเลพลังงานของพวกเขาเล็กเกินไป และเรือลำใหญ่ไม่สามารถเข้ามาได้ ในแง่การป้องกัน นั่นอาจเป็นการได้เปรียบ แต่ในแง่การทำธุรกิจ มันคือความสูญเสียขนาดใหญ่

อนาคตของทวีปซางโจวจะต้องผลิตทองดำและสินค้าจากสวรรค์วิถี  ทุกอย่างจะต้องผ่านทวีปซางโจว

นอกจากนั้น พวกเขายังต้องสร้างป้อมใกล้ปากอ่าว ปากอ่าวไม่มีป้อมที่เหมาะสมคอยป้องกันจะปล่อยให้ศัตรูเข้ามาทวีปซางโจว และนั่นคือสิ่งที่ปิงยอมรับไม่ได้

ดังนั้นงานทั้งหมดจำเป็นต้องใช้คนเป็นจำนวนมาก  ประชากรของทวีปซางโจวก็น่าสงสารพออยู่แล้ว

ปิงที่แทบจะตะโกนในใจอย่างต่อเนื่อง

‘เชิญเข้ามาเลยเจ้าพวกหน่วยสอดแนมหรือสังเกตการณ์ ใครก็ได้ส่งมาให้หมด’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด