ตอนที่ 648 จนกว่าความตายจะพรากจากกัน
โลกวารี
บนผิวของน้ำที่ห่างออกไปจากวงเวทเทเลพอร์ตโบราณร้อยไมล์
เขาบอกเจ้าเมืองโล่วฮัวให้ยืนบนจุดและลาดตระเวนตรวจดูบนท้องฟ้าด้วยตนเอง ในที่สุดเขาก็ลงมาและพยักหน้าให้เสี่ยวเหวินหลี เสี่ยวเหวินหลีก็พยักหน้าเช่นกันและเรียกเมดูซาศิลา นางเงือกวายุนาคาสายฟ้าและปีศาจอสรพิษน้ำแข็ง นางเงือกวายุเป่าสังข์เรียกพายุและจากนั้นท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆครึ้ม ผิวน้ำเกิดระลอกคลื่น
น้ำวนยักษ์ปรากฏอยู่บนผิวน้ำ
น้ำวนหมุนเร็วมากขึ้นทุกที และลึกลงๆ
ในที่สุดนางเงือกวายุก็ย้ายน้ำในวังน้ำวนออกมา และด้วยพลังของน้ำวนนางตัดช่องลึกลงไปในน้ำได้หลายร้อยเมตร
แม้จากระยะหลายร้อยไมล์ออกไปจงกวนและพวกก็ยังอดหยุดต่อสู้ไม่ได้ เมื่อพวกเขามองเห็นท้องฟ้าและเมฆเปลี่ยนแปลง
พวกเขามีท่าทางสับสนกันทุกคนไม่เข้าใจว่าเย่ว์หยางกำลังทำอะไร
เย่ว์หยางจับมือเจ้าเมืองโล่วฮัวลอยตัวลงไปในช่องเปิดของน้ำ น้ำรอบๆตัวเขาเป็นเหมือนหน้าผาเพราะพลังน้ำวนยังคงปั่นหมุนไม่หยุด ในใจกลางน้ำวนมีพื้นที่ศูนย์กลางขนาดร้อยเมตร เมื่อความลึกถึงห้าร้อยเมตร วัตถุที่จมอยู่ในน้ำค่อยๆ เผยตัวออกมา
นั่นคือยอดของเจดีย์
ขณะที่น้ำเหือดหายไปเจดีย์ดำปรากฏอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยางและเจ้าเมืองโล่วฮัว
“ปรากฏตัวออกมา” เย่ว์หยางแค่นเสียงในอากาศ
“ฮึ,เจ้าหาข้าพบได้ยังไง?” มีเสียงตกใจดังผ่านออกมาจากพื้นที่โปร่งแสงและในที่สุดเงาร่างหนึ่งปรากฏอยู่บนยอดเจดีย์ดำ เงาร่างนี้คือเงาร่างลึกลับที่เคยดักจับเย่ว์หยางก่อน ไม่มีใครคาดเดาเลยว่าเขาจะเป็นพาหะวิญญาณของจ้าวปีศาจโบราณ
ทำไมเขาปรากฏตัวที่นี่ได้?
เขาเข้ามาในโลกวารีนี้ก่อนเย่ว์หยางหรือ?
เย่ว์หยางมองดูเงาลึกลับที่ยังหันหลังให้เขา แน่นอนว่าเขาคงไม่บอกว่าเขามีญาณทิพย์และเขายิ้มแล้วกล่าว “ข้าคาดไว้เช่นนั้น เจ้าจะเว้นจุดเด่นที่สำคัญเช่นนั้นของเจ้าเองได้ยังไง? แม้ข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ แต่เมื่อข้าลองดูเจ้ากลับทนไม่ได้แล้วโผล่ออกมาจากประตู”
ร่างเงาในชุดคลุมดำปรบมือหัวเราะ “คุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์! เจ้าฉลาดจริงๆ!มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถคาดเดาได้ว่ายังมีจะผนึกในโลกวารีมากกว่าหนึ่งจุดอยู่ มีเพียงไม่กี่คนในโลกที่หามันพบ สิ่งที่ทำให้ข้าแปลกในที่สุดก็คือเจ้ารู้กระทั่งว่าข้าอยู่ที่นี่ แม้แต่ข้าเองก็ต้องขอชื่นชมสติปัญญาของเจ้า เจ้าฉลาดมากจริงๆ อย่างนั้น คุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้ฉลาดเจ้าคาดหวังอะไรตรงจุดนี้?”
เย่ว์หยางส่ายศีรษะ “ข้าไม่รู้ แต่ข้าคิดว่าเจ้าจะพูดเอง”
เงาร่างนั้นประหลาดใจ“ทำไมข้าถึงอยากบอกด้วยเล่า?”
เย่ว์หยางแหงนหน้ามองฟ้าและจงใจทำท่าเหมือนกับคนฉลาด เขาใช้มือจับคางตนเองและแสร้งทำท่าคิด “คนที่ชอบแสดงความสามารถอย่างเจ้าคงจะรู้สึกผิดถ้าเจ้าทำสิ่งที่น่าภาคภูมิใจโดยไม่ได้พูดออกมา ดังนั้นเจ้าจะบอกเอง และถ้าเจ้าไม่รู้สึกภาคภูมิใจและมาปรากฏตัวต่อหน้าข้า ทำไมเจ้าถึงได้อยู่ที่นี่เสี่ยงกับการถูกข้าหาตัวพบด้วยเล่า?”
ร่างเงานั้นเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นเขาหัวเราะลั่นราวกับคนบ้า เขาปรบมือชื่นชม “ถูกต้อง, นั่นคือสิ่งที่คุณชายสามตระกูลเย่ว์สามารถบอกได้ คำพูดของเจ้าทำให้ข้ายินดีจริงๆ มีคู่ต่อสู้อย่างเจ้าเป็นเรื่องสนุกจริงๆ บอกตามตรงเจ้าฉลาดมากกว่าจักรพรรดิอวี้ผู้โง่เขลามาก ข้ามองเจ้าในแง่บวก ถ้าข้าปล่อยให้เจ้ากล้าแข็งเต็มที่ เจ้าจะเป็นคุณชายสามตระกูลเย่ว์ศัตรูที่น่ากลัวจริงๆเนื่องจากเจ้ารู้ว่าข้าวางกับดักไว้ที่นี่ ทำไมเจ้ายังจะมาอีกเล่า? เจ้ารู้หรือว่าใครถูกผนึกไว้ในสุสานนี้?”
“สุสานของใคร?” เจ้าเมืองโล่วฮัวคว้ามือเย่ว์หยางเพื่อคลายแรงกดดันที่ร่างเงานั้นปล่อยออกมาและถาม
ชื่อของเขาคือจิ๋วซื่อเงาร่างนั้นระบุชื่อที่เย่ว์หยางและเจ้าเมืองโล่วฮัวไม่รู้จัก
“ข้าไม่รู้จัก” เย่ว์หยางส่ายศีรษะและพูดตามตรง
“เจ้าไม่รู้จักก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะเขาไม่ใช่ยอดฝีมือในยุคนี้” เงาร่างนั้นพูดด้วยความกระตือรือร้นทันที“ในหอทงเทียนมียอดฝีมืออยู่นับไม่ถ้วน ในยุคนี้ยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงรวมทั้งนางพญาเฟ่ยเหวินหลีผู้ไร้เทียมทานแห่งแดนปีศาจจักรพรรดิอวี้จ้านฟงแห่งทวีปมังกรทะยาน เจ้าหญิงนิทราเย่เมิ่งแห่งบันไดสวรรค์และในยอดฝีมือระดับรองลงมาก็ยังมีเทียนหลุน,เฉียนเย่และอู๋เซ่อและถัดลงมาอีกระดับก็คือจักรพรรดิชื่อตี้และคนอื่นๆ ราชาเฮย์อวี้และราชันย์พันปีศาจที่เจ้ารู้จักเป็นกลุ่มยอดฝีมือที่แท้จริงมีรายชื่ออยู่ท้ายๆ ถ้าข้าต้องการทำ ข้าสามารถฆ่าพวกมันเสียเมื่อใดก็ได้ แน่นอนถ้าข้าทำได้มากกว่านี้พวกปีศาจเฒ่าที่วนเวียนอยู่ข้างนอกก็จะรู้และคงจะต้องเกิดเรื่องยุ่งยากลำบากแน่นอน เมื่อตอแยปีศาจเฒ่าเหล่านี้ให้กลับมาข้าว่าปล่อยนางพญาเฟ่ยเหวินหลีผู้น่ากลัวหลุดจากผนึกนั้นยังดีกว่า แน่นอนว่าเด็กน้อยอย่านึกว่าการเข้าแดนสวรรค์จะเป็นเรื่องดียิ่งเจ้ามีชื่อเสียงมาก เจ้าก็ต้องฆ่ามากและจะทำให้เจ้าอันตรายมาก เว้นแต่เจ้าสามารถต่อต้านสวรรค์และกลายเป็นเทพเจ้าและเจ้าจะมีสิทธิ์ต่อสู้กับปีศาจเฒ่าเหล่านั้น มิฉะนั้นเจ้าก็ต้องดิ้นรนพยายามเหมือนมด แค่ดีกว่าคนอื่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ฮ่าฮ่าฮ่า”
จิ๋วซื่อคือปีศาจเฒ่าที่เจ้าพูดถึงหรือ? เย่ว์หยางหน้าคล้ำขณะถาม
“อาไม่อย่าเข้าใจผิด” เงาร่างนั้นปฏิเสธ
“งั้นเขาก็เป็นสหายของเจ้า” เจ้าเมืองโล่วฮัวเริ่มเข้าใจสักสองสามจุดแล้ว
“เขาไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นมิตรของข้า ทัศนคติที่เขามีต่อข้าไม่ค่อยดีนัก แต่เขาก็ไม่ใช่ศัตรู เขาไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ดื้อรั้นเจ้าทิฐิถือความเห็นของตนเป็นใหญ่” ร่างเงาเสียใจ ถ้านิสัยของเขาไม่น่ารังเกียจเกินไปเขาจะถูกผนึกในโลกวารีมาหลายหมื่นปีได้ยังไง?
“หลายหมื่นปีน่ะหรือ” เจ้าเมืองโล่วฮัวพูดไม่ออก เมื่อพบว่าปีศาจเฒ่าถูกผนึกมาหลายหมื่นปี
“เขาถูกผนึกเมื่อใด?นั้นข้าไม่แน่ใจเท่าใดนัก เพราะข้าถูกผนึกไปก่อนเขา อย่างไรก็ตามข้าเชื่อว่าอย่างน้อยก็คงสามหมื่นปี แม้ว่าเจ้าผู้นี้จะเป็นมนุษย์จากทวีปมังกรทะยาน แต่เขาเป็นจักรพรรดิคนแรกของเผ่าปีศาจที่รวบรวมแดนปีศาจได้อย่างแท้จริงและเป็นเพราะเขาเผ่าปีศาจต่างๆ จึงโอกาสเชิดหน้าโดดเด่น นางพญาเฟ่ยเหวินหลีเกิดในยุคภายหลังเขา ถ้าจิ๋วซื่อไม่ถูกผนึกไว้นางพญาเฟ่ยเหวินหลีจะกวาดไปทั่วแดนสวรรค์ได้หรือ? และจ้าวปีศาจเบรุธกับฮาซินคงไม่มีคุณสมบัติได้รับการเหลียวแลจากเขาแน่” ร่างเงาหัวเราะเสียงประหลาด เขาชี้ไปที่เจดีย์ใต้เท้าของเขาและยิ้ม คุณชายสามตระกูลเย่ว์ มาตกลงกันเถอะ ตราบใดที่เจ้าบอกข้าได้ว่าร่างของข้าซ่อนอยู่ที่ใดข้าจะให้จักรพรรดิปีศาจรุ่นแรกจิ๋วซื่อได้พักผ่อนต่อไป”
จักรพรรดิจิ๋วซื่อ? จิ๋วซื่อคือชื่อของจักรพรรดิจิ๋วซื่อหรือ? เมื่อเย่ว์หยางได้ยินเช่นนี้เขาตะลึง
เย่ว์หยางไม่รู้จักยอดฝีมือของแดนปีศาจหรือยอดฝีมืออื่นอย่างเทียนหลุนเฉียนเย่ อู๋เซ่อและเขาไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยเมื่อได้ยินชื่อของพวกเขา
อย่างไรก็ตามในความทรงจำของมารดาของสหายผู้น่าสงสารมีชื่อที่จำปะติดปะต่อได้บ้างซึ่งก็คือจักรพรรดิจิ๋วซื่อ!
ในความทรงจำที่ผ่านมาของมารดาของสหายผู้น่าสงสารนี้มีวิธีการอย่างน้อยสิบวิธีสำหรับรับมือกับจักรพรรดิจิ๋วซื่อ
อย่างไรก็ตามไม่มีวิธีใดในสิบอย่างนี้ที่ดีที่สุด
มารดาของสหายผู้น่าสงสารนี้ยังไม่พบวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับจักรพรรดิจิ๋วซื่อ ก็หมายความว่านางศึกษาเรื่องของจักรพรรดิจิ๋วซื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาจกล่าวได้ว่าแม้แต่จ้าวปีศาจโบราณก็คงไม่มีความทรงจำอย่างนี้ เย่ว์หยางไม่รู้ว่าจักรพรรดิจิ๋วซื่อทำความผิดอะไร แต่เขาสามารถบอกได้ว่าจักรพรรดิจิ๋วซื่อต้องถูกผนึกโดยยอดฝีมือแห่งบันไดสวรรค์ หลังจากผ่านโลกวารีของบันไดสวรรค์ นอกจากนี้ เจ้าผู้นี้ยังถูกผนึกอย่างสิ้นเชิงและบางทีเขาคงหลบหนีไปได้ มิฉะนั้นมารดาขอเงขาคงไม่พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหาหนทางจัดการเขา
“เจ้าเคยได้ยินชื่อของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อด้วยหรือ?” ร่างเงาประหลาดใจกับปฏิกิริยาของเย่ว์หยาง
“ใช่,ข้าเคยได้ยินมังกรปีศาจพูดให้ฟัง” เย่ว์หยางอ้างชื่อมังกรปีศาจหน้าตาเฉย
“มังกรปีศาจ?เจ้ารู้จักมังกรปีศาจด้วยหรือ?” ร่างเงาถูกเย่ว์หยางหลอก และชุดคลุมร่างของเขาสั่นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักมังกรปีศาจ
“เจ้าไม่รู้จักเขาไว้โอกาสหน้าข้าจะแนะนำให้เขารู้จัก แม้ว่ามังกรปีศาจจะคล้ายๆ กับตาลุงวัยกลางคน แต่เขาก็นิสัยคล้ายกับเจ้าพวกเจ้าทั้งสองนิสัยง่ายๆ สบายๆ บางทีอาจจะเป็นสหายกันได้นะ!”เย่ว์หยางหัวเราะลั่น
“มังกรปีศาจถูกผนึกหากมหาเทพมังกรไม่ยอมปล่อย ก็ไม่มีใครช่วยเขาได้ ถ้าเจ้าต้องการใช้เขามาข่มข้า อย่างนั้นเจ้าคิดผิดแล้ว!” ร่างเงายิ้ม
“เจ้าเองก็เหมือนกันคิดจะใช้จักรพรรดิจิ๋วซื่อมาข่มข้า อย่างนั้นก็ไม่ใช่ความเคลื่อนไหวที่ฉลาดเลย” เย่ว์หยางย้อนคำพูดอย่างเดียวกัน
ฝ่ายตรงข้ามเฉลียวฉลาดไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือไหวพริบเขาไม่ได้ด้อยกว่าเงาลึกลับเลย
ความตึงเครียดที่ร่างเงาสร้างขึ้นถูกเย่ว์หยางผ่อนคลายด้วยคำพูดถึงมังกรปีศาจ
เดิมทีเขาต้องการฉวยโอกาสข่มเขา
เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเย่ว์หยางกลับคลี่คลายได้อย่างง่ายดาย เขาถอนหายใจ “เจ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวจริงๆ คุณชายสามตระกูลเย่ว์ เรายังจะมีโอกาสได้สู้กันขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะเติบโตได้ไวแค่ไหนหรือว่าข้าจะฟื้นพลังได้ไวแค่ไหน จะมีผู้ปกครองหอทงเทียนเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น มาดูกันว่าจะเป็นเจ้าหรือข้า!”
เงาร่างนั้นหายไปในการเคลื่อนไหวคราวเดียว ดังนั้นเขาไม่สนใจเขาอีกต่อไป
ร่างของเขากลายเป็นควันจาง
หายไป
แม้แต่จักษุญาณทิพย์ของเย่ว์หยางก็ไม่สามารถหาร่องรอยของเขาได้
เย่ว์หยางหลับตาและสัมผัสรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นชั่วขณะเขาพยักหน้าให้กับเจ้าเมืองโล่วฮัว “เขาไปแล้วคนผู้นี้มีสมบัติวิเศษช่วยเดินทางผ่านมิติได้หรือไม่ก็คงเป็นทักษะแฝงเร้นช่วยให้เดินทางผ่านความว่างเปล่าได้! เขาเป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือได้ยากจริงๆ”
เจ้าเมืองโล่วฮัวจับมือเย่ว์หยางและพูดอ่อนโยนปลอบใจ “ไม่เป็นไร, เราไม่สามารถทำอะไรเขาได้ในตอนนี้ แต่เขาก็ยังทำร้ายเราไม่ได้เช่นกัน เขาก็แค่หยั่งเชิงเรา ถ้าเขามั่นใจทำไมเขาต้องเคลื่อนไหวเล็กน้อยแบบนั้นด้วย? เขาเดินทางไกลเพื่อออกจากโลกวารีและนี่พิสูจน์ว่ามีข้อบกพร่องบางอย่างในความสามารถเดินทางผ่านมิติของเขา มิฉะนั้นทำไมเขาต้องรอเวลาและหนีไปไกลได้เล่า?”
“ข้าเข้าใจที่เจ้าพูดทุกอย่าง” เย่ว์หยางพยักหน้าอย่างหนักใจ “อย่างไรก็ตามถ้าจ้าวปีศาจโบราณปล่อยจักรพรรดิจิ๋วซื่อออกมาได้ ก็คงเป็นเรื่องไม่ดีแน่ ข้าไม่รู้ว่าจักรพรรดิอวี้นั้นจะทรงพลังขนาดไหน แต่ข้าแน่ใจว่าจักรพรรดิจิ๋วซื่อทรงพลังมากกว่าจักรพรรดิอวี้มาก จักรพรรดิจิ๋วซื่อนี้ห่างจากระดับเทพเจ้าในตำนานเพียงก้าวเดียวเท่านั้น”
“ถ้าจักรพรรดิจิ๋วซื่อทรงพลังมาก จ้าวปีศาจโบราณคงไม่ปล่อยเขาออกมาแน่” เจ้าเมืองโล่วฮัววิเคราะห์
“แน่นอนว่ายังไม่ปล่อยตอนนี้ แต่ถ้าเขาไม่มีความหวังต่อไป เขาจะสิ้นหวัง” เย่ว์หยางไตร่ตรองชั่วครู่ก่อนจะตอบ “ก่อนนั้นข้ามีลางสังหรณ์ร้ายว่าจะเป็นเพราะจ้าวปีศาจโบราณ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะเป็นจักรพรรดิจิ๋วซื่อ”
“ข้าเองก็มีความรู้สึกเช่นนี้ แต่ข้าคิดว่าเป็นแค่ความสำคัญผิด” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนออกมาและพยักหน้าเห็นด้วย
“ถ้าเป็นแบบนั้นเราไปที่เจดีย์ดำนั่นเถอะ” สีหน้าของเสวี่ยอู๋เสียเด็ดเดี่ยว “ข้าคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี บางทีอาจเป็นโอกาสเพื่อความก้าวหน้าก็ได้ ถ้าเราไม่มีประสบการณ์กับเรื่องนี้ แล้วเราจะสู้กับจ้าวปีศาจโบราณได้ยังไง? ถ้าเราไม่สามารถรับมือจักรพรรดิจิ๋วซื่อที่ถูกผนึก แล้วเราจะเข้าแดนสวรรค์ได้ยังไง? หัวใจของสุดยอดปราณก่อกำเนิดก็คือดูแคลนสิ่งมีชีวิตทุกอย่างมันเป็นแค่สิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่งเท่านั้นต่อให้พวกเขาเป็นจ้าวปีศาจโบราณหรือจักรพรรดิจิ๋วซื่อ ไม่ใช่เพียงแต่เย่ว์หยางเท่านั้น แต่เราด้วยเช่นกัน ถ้าเราต้องการกล้าแข็งขึ้น เราต้องรู้เรื่องเช่นนั้น”
“ฮึ่ม..” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวตกใจกับสีหน้าเคร่งเครียดจริงจังของเสวี่ยอู๋เสีย
“นี่ก็หมายความว่าเราควรจะรู้สึกถึงหัวใจของสุดยอดปราณก่อกำเนิดโดยวิธีนี้หรือ?” เย่ว์หยางหลับตาใคร่ครวญอยู่ชั่วขณะ สีหน้าของเขาเข้มขึ้นขณะที่เขากำหมัดชูกำปั้นโบกไปมา เข้าไปในเจดีย์กันเถอะ มาดูกันว่า จักรพรรดิจิ๋วซื่อจะมีลักษณะแบบไหน”
“ตกลง!”เสวี่ยอู๋เสีย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวสามสาวเห็นด้วยอย่างพร้อมเพรียงกัน
ไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม พวกนางมักจะได้ความเข้มแข็งและมั่นคงจากเขาเสมอ
ตั้งแต่วันที่พวกนางพบเขา
พวกเขาจะอยู่ด้วยกันจนกว่าความตายจะพรากพวกเขาและพวกเขาจะไม่มีทางเปลี่ยนใจ