ตอนที่ 647 จากมหาเศรษฐีเป็นยาจก
หัวหน้าหย่งฮุยถูกหมัดอย่างรุนแรงและร่วงตกน้ำห่างออกไปหลายร้อยเมตร
อกของเขาแตกและหัวใจของเขาเกือบหยุดเต้น
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ใช้พลังงานของเขาเองเพื่อรักษาตนเอง เขาชินกับการรักษาอาการบาดเจ็บภายในโดยใช้ภูตแสง เขาเชื่อว่าตราบใดที่เขามีภูตแสงอาการบาดเจ็บจะฟื้นฟูรักษาได้โดยง่าย อย่าว่าแต่ทำร้ายหัวใจเลย ต่อให้อวัยวะภายในถูกทำลายและร่างของเขาถูกแยกส่วน ภูตแสงสามารถใช้พลังรักษาช่วยเขาได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยพลังของภูตแสง เขาเป็นอมตะ!
เอ๋....อะไรกัน?
หย่งฮุยรู้สึกแปลก ครั้งนี้แตกต่างจากปกติ
ภูตแสงจะใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวินาทีเพื่อฟื้นฟูร่างกายของเขาแต่ครั้งนี้ผ่านไปครึ่งนาทีแล้ว ยังไม่มีกระบวนการฟื้นฟูอะไรเลย
หัวหน้าหย่งฮุยพรวดพราดออกมาจากน้ำเลิ่กลั่กมองหาภูตแสง อย่างไรก็ตามเมื่อเขามองดูฉากภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา เขาถึงกับตะลึง ภูตแสงที่ลอยอยู่ด้านหลังเขาบัดนี้อยู่ในท้องฟ้า ร่างของนางเปล่งแสงอยู่ นางถูกล้างความทรงจำออกไปด้วยวิชาลับบางอย่าง และตอนนี้นางกำลังร้องไห้
ตาของนางซึ่งไร้ชีวิตชีวาอย่างสิ้นเชิงค่อยๆกลับมามีประกายพลังงานอีกครั้ง
รัศมีดำนับไม่ถ้วนฉายออกมาจากร่างสีขาวบริสุทธิ์ของนางและถูกขับสลายไปในฝ่ามือน้อยของเสี่ยวเหวินหลี
ในแสงสีขาวแม้ว่าร่างของภูตแสงยังคงเลือนราง แต่ค่อยๆกลับคืนสู่ร่างเทพธิดา ดวงตาของนางกลับกลายเป็นหวาดกลัวเหมือนกับว่านางจำเรื่องราวที่น่ากลัวบางเรื่องได้
กรี๊ดดดดดดดดดด
ทันใดนั้นภูตแสงเงยหน้าและกรีดร้องทันทีเพราะนางไม่มีร่างกายที่แท้จริง ฉะนั้นจึงไม่มีเสียงรอดออกมา
แต่ความกลัวของนางติดลามไปถึงทุกคน
หัวหน้าหย่งฮุยรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ดีเลย
ยกเลิกการเรียกทันที!
แม้ว่าตั้งแต่สมัยโบราณไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ภูตแสงทรยศ แต่สถานการณ์นี้แปลกประหลาดเกินไป หย่งฮุยรู้สึกกลัวเล็กน้อย
ขณะที่จะเรียกกลับหย่งฮุยรู้สึกว่าภูตแสงดูเหมือนจะรู้สึกตัวว่าถูกเขาเรียกกลับ นางฟื้นคืนจากความกลัวและมองเขา ดวงตาของภูตแสงเบิกกว้างราวกับว่านางจำเรื่องบางอย่างได้ แต่ยังสับสนเล็กน้อยอย่างไรก็ตามเหมือนกับเป็นสัญชาตญาณ นางเลือกที่จะขัดขืนและทำลายสัญญากับหย่งฮุยและอาบอยู่ในแสงขาว ร่างของนางบินกลับขึ้นไปบนท้องฟ้าตัวสั่นหนีไปราวกับว่าทุกคนเป็นศัตรูของนาง
ข้าจะฆ่าเจ้า! หัวหน้าหย่งฮุยแทบคลั่ง
ขณะที่มองภูตแสงยกเลิกทำลายสัญญากับเขา เขารู้สึกเจ็บปวดไม่มีอะไรเปรียบปานได้
ความเจ็บปวดแบบนี้หนักยิ่งกว่าความเจ็บปวดที่ได้รับจากหมัดของโคสาวอาหมัน ภูตแสงที่เขาได้รับมาอย่างยากเย็นฟื้นคืนความทรงจำหลังจากปีศาจอสรพิษน้อยใช้พลังงานลับด้วยแสงนั่น
ภูตแสงราคาหกสิบล้านเหรียญทองสวรรค์ที่เขาได้มาเป็นสิ่งมีชีวิตแดนสวรรค์ไม่มีใดเทียบดังนั้นหลายคนจึงทุ่มเงินเพื่อให้ได้สักตน
คาดไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่ฉายแสงสีขาวหกสิบล้านทองถึงกับหายวับไปในทันที
หย่งฮุยชี้ไปที่เสี่ยวเหวินหลีโดยไม่ยั้งคิด
เขี้ยวแสง
วิ้ววว
ถ้าเขาไม่สามารถฆ่าปีศาจอสรพิษน้อยนี้ได้ก็คงยากจะสลายความชิงชังในใจของเขาได้ การสูญเสียตะวันฉายทานตะวันทำให้เขาแทบจะระเบิดอารมณ์โมโห ตอนนี้ภูตแสงก็หนีไปอีก ก็เท่ากับกำลังฆ่าเขา ต่อให้เขาต้องฆ่าปีศาจอสรพิษน้อย เขาก็คงไม่สามารถดับความโกรธของเขาได้ ตอนนี้หย่งฮุยไม่เพียงแต่ต้องการฆ่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์เท่านั้น แต่ยังต้องการเฆี่ยนศพและเผาศพของเขาให้เป็นจุล
เมื่อเผชิญกับเขี้ยวแสงเสี่ยวเหวินหลีสร้างผลึกกลมใสอย่างสงบ
ลูกแก้วกลมระยิบระยับนี้ อย่าว่าแต่คนภายนอกเลย แม้แต่เย่ว์หยางที่รู้จักเธอดีที่สุดก็ยังนับว่าเป็นครั้งแรกที่เห็นเธอใช้วิชานี้ออกมา
ทันทีที่ผลึกดวงแก้วกลมปรากฏขึ้น ท้องฟ้าสว่างเจิดจ้า แม้แต่แสงของอสูรตะวันฉายทานตะวันก็ยังพลอยถูกข่มไปด้วย แม้ว่าแสงรัศมีจะสว่างเจิดจ้ามากแต่ก็ไม่แสบเคืองตา
ในแสงนั้นเขี้ยวแสงเป็นเหมือนปลาที่ว่ายทวนอยู่ในกระแสน้ำเร็วแรง ช้าลงๆ ทุกที ในที่สุดมันก็ช้าจนพอๆ กับทากคลาน ในท้องฟ้าแสงจากตะวันฉายทานตะวันกลับกลายเป็นหมอง เมื่ออยู่ต่อหน้าแสงสว่างเจิดจ้านี้มังกรเขาเดียวที่กำลังพุ่งเข้าหาเสี่ยวเหวินหลีอย่างดุร้ายร้องโหยหวนเจ็บปวดร่างของมันดูเหมือนกำลังถูกแผดเผา ผิวของมันพุพองอย่างต่อเนื่องและควันก็ไม่สามารถปกป้องร่างของมันได้อีกต่อไป มันต้องลงไปซ่อนตัวอยู่ในน้ำลึกเพื่อป้องกันตัวมันเองไม่กล้าออกมาเป็นเวลานาน
แขนทั้งหกข้างของเสี่ยวเหวินหลีเคลื่อนไหวเป็นจังหวะงดงาม
เหมือนกับจะทำท่าโอบกอด
น่าทึ่งมาก
ดูเหมือนเธอจะทำพิธีผนึกอะไรบางอย่าง แม้แต่เย่ว์หยางก็ไม่เห็นพิธีอย่างนั้นมาก่อนเช่นกัน
เป็นไปได้ไหมว่าแม่หนูน้อยนี้ระลึกชีวิตในชาติก่อนของเธอได้? เย่ว์หยางงุนงงหรือว่าความจริงเธอไม่ใช่ธิดาของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีกับตัวเขาเอง แต่เป็นหัวหน้าองครักษ์? แต่เขาไม่ต้องการคิดอีกต่อไป ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอในชาติก่อนแต่เธอยังเป็นดรุณีน้อย, ไม่ใช่แค่ลูกสาว แต่เป็นยิ่งกว่าลูกสาวคนหนึ่ง
ท้องฟ้าสว่างเจิดจ้าถูกเสี่ยวเหวินหลีควบแน่นจนเป็นริ้วหนาอย่างน่าอัศจรรย์
ตัวมิติเริ่มบิดเบี้ยว
รัศมีแสงนับไม่ถ้วนทั้งหมดถูกผนึกเข้าไว้ในผลึกแก้วของเสี่ยวเหวินหลี แม้แต่อสูรเขี้ยวแสงก็ถูกผนึกไปด้วยโดยไม่มีโอกาสต่อต้าน
มีเพียงภูตแสงที่ซ่อนตัวอยู่ด้านบนรีบเก็บแสงเลือนรางจากร่างของนาง นางจึงรอดตัวจากการถูกผนึกไว้
แน่นอนว่า อาจเป็นเพราะเสี่ยวเหวินหลีไว้ไมตรีให้กับนาง
แสงทั้งหมดถูกเธอผนึกไว้ และโลกวารีทั้งหมดมืดสนิท
หลังจากนั้นเป็นเวลานาน
โลกวารีก็ค่อยๆ มีแสงสว่างของอสูรตะวันฉายทานตะวันกลับคืนมา
อสูรฝันร้ายของหัวหน้าไป๋หม่าและแมงมุมปีศาจของเฮยถูตัวสั่นงันงกเพราะกลัวจะโดนผนึกไปด้วย
แม้ว่าจะไม่ใช่พวกมันที่โดนเสี่ยวเหวินหลีผนึกเอาไว้ แต่เป็นเขี้ยวแสงของหย่งฮุย พวกมันอดกลัวในใจไม่ได้และแอบซ่อนตัวสั่นงันงกอยู่หลังเจ้านายของพวกมัน ไป๋หม่า, เฮยถู จงกวนและหย่งฮุยไม่เคยเห็นผนึกแบบนั้นมาก่อน พวกเขาได้ยินว่าสุดยอดฝีมือนักสู้ปราณฟ้ามีพลังผนึกชีวิตได้ แต่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน วันนี้นับว่าพวกเขาได้เห็นแล้ว
ปัญหาก็คือปีศาจอสรพิษน้อยนี้ไม่ใช่สุดยอดฝีมือนักสู้ปราณฟ้าดูเหมือนเธอจะยังไม่ใช่ระดับนักสู้ปราณฟ้าด้วยซ้ำ แล้วเธอผนึกเขี้ยวแสงได้ยังไง?
สิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้มากที่สุดก็คือเธอเป็นอสูรพิทักษ์ทั้งที่ยังเป็นทาริกาน้อย
ทันใดนั้นพวกเขาเข้าใจทันที
เทพอสูร!
นอกจากเทพอสูรแล้วไม่มีอสูรอื่นที่มีความปรารถนาที่กล้าแข็ง สติปัญญาที่ฉลาดและพลังที่น่าตกใจ
“ไม่, ไม่!” หัวหน้าหย่งฮุยกระวนกระวายหนักจนแทบจะฆ่าตัวตาย เขาสูญเสียตะวันฉายทานตะวัน,ภูตแสงทรยศและตีจาก ตอนนี้อสูรเขี้ยวแสงยังถูกคู่ต่อสู้ผนึกเอาไว้ ยังจะมีอะไรเหลือให้เขาอีก? เขาวิ่งตะบึงไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่งเหวี่ยงหมัดใส่เสี่ยวเหวินหลี แต่กฎสวรรค์ห้ามใช้วิทยายุทธจึงทำให้เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปล่อยหมัดออกไปได้
เสี่ยวเหวินหลีเงยหน้าและใช้ดวงตาที่เย็นยะเยือกจ้องหย่งฮุย
นี่ไม่ได้ใช้ทักษะแฝงเร้นพันธนาการ แต่เป็นพลังกดดัน
ปณิธานของเทพอสูรรุกรานเข้ามาในวิญญาณของหย่งฮุยทำให้เขาตื่นตระหนก
หมัดของเขาคลายตัวภายใต้การจ้องมองของเสี่ยวเหวินหลีเขาสั่นและลดหมัดลง จากนั้นค่อยๆ ถอยทีละนิดๆ เกรงว่าเสี่ยวเหวินหลีจะฆ่าเขา ขณะนั้นเสี่ยวเหวินหลีไม่ใช่อสูรที่เขาเกลียดอีกต่อไป แต่เป็นสุดยอดเทพอสูรที่มีพลังฆ่าสิ่งมีชีวิตทุกอย่างได้ ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าหย่งฮุยมีพลังปราณฟ้าระดับสี่ และจิตใจเขามั่นคง เขาคงต้องคุกเข่าต่อหน้าเธอแล้ว โชคดีที่นี่ยังเป็นอสูรเทพเด็กอยู่ ถ้าเธอเป็นผู้ใหญ่พลังจะอยู่ในระดับสุดยอดและเขาอาจถูกฆ่าได้
เมื่อหย่งฮุยอยู่ห่างได้ร้อยเมตรเขาพบว่าตนเองหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
ในหัวใจเขา เขาไม่เคยรู้สึกถึงเงาความตายที่ชัดเจนอย่างนั้นมาก่อน
เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่เขาพบว่าเขากระตือรือร้นที่จะมีชีวิต เป็นความตายที่กลัว
“นั่นช่างน่ากลัวจริง!” จงกวนไป๋หม่าและเฮยถูก็หลั่งเหงื่อพรั่งพรูกลับกลายเป็นว่าปีศาจอสรพิษน้อยยังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ของเธอด้วยซ้ำ ถ้าเธอปล่อยพลังของเทพอสูรศัตรูทั้งหมดที่ดูแคลนเธอคงจะตายกันหมด!
“ข้ามีธุระสำคัญต้องไปจัดการก่อนแล้วค่อยเจอกับพวกเจ้าทีหลัง!” เย่ว์หยางกางแขนและกอดเสี่ยวเหวินหลีที่บินกลับมาหาเขาพร้อมกับรอยยิ้ม เขาจูบรับขวัญเป็นรางวัลให้กับลูกสาว เสี่ยวเหวินหลีโถมตัวเข้ากอดเย่ว์หยาง ราศีของอสูรเทพหายไป และทำตัวเหมือนลูกสาวที่ทำงานได้ดีและออดอ้อนอยู่อ้อมแขนบิดาของเธอ
เจ้าเมืองโล่วฮัวก็จูบเสี่ยวเหวินหลีและลูบศีรษะเธอแสดงความรักเอ็นดู
เย่ว์หยางพาเสี่ยวเหวินหลีและอาหมันพร้อมกับจูงมือเจ้าเมืองโล่วฮัวจากไป
พวกเขามุ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และหายลับไปในระยะไกล
เมื่อเขาจากไปแล้ว ทั้งจงกวนไป๋หม่าและเฮยถูยิ้มเย็นชารายล้อมหัวหน้าหย่งฮุย
“เราทุกคนมาจากแดนสวรรค์ ทำไมเราถึงไม่พูดเรื่องนี้กันดีๆด้วย? บางทีเราอาจรวมกำลังสู้กับคุณชายสามตระกูลเย่ว์ได้ อ่า... ข้าหมายถึงข้าไม่มีความแค้นอะไรกับพวกเจ้า เราอาจจะร่วมมือกันได้” หย่งฮุยรู้สึกแย่ ถ้าเขายังมีเขี้ยวแสงทั้งสามนี้ยังจะกล้าสู้ด้วยหรือ นั่นเท่ากับหาที่ตาย
“หัวหน้าหย่งฮุยไม่มีตะวันฉายทานตะวันและภูตแสงคอยปกป้องร่างของท่านและเขี้ยวแสงเอาไว้ข่มคนอื่น? ข้าสงสัยจริงๆทำไมเจ้าถึงไม่ถูกหรือร่วมมือกับเราก่อนจะสูญเสียอสูรของเจ้า?” จงกวนถามตรงประเด็น
“แน่นอน เราสามารถพูดได้ ต่อเมื่อเสร็จการต่อสู้ เราค่อยเริ่มพูดกัน” ม้าเพลิงสวรรค์ของไป๋หม่าเกือบถูกทำลาย ความโกรธในใจเขายังไม่คลายหายไป!
“พูดไปก็ไม่มีประโยชน์”เฮยถูสั่งให้แมงมุมปีศาจโจมตีทันที
“เจ้านึกว่าข้ากลัวพวกเจ้าทั้งสามนักหรือ?” หัวหน้าหย่งฮุยโกรธ เนื่องจากหลายอย่างดูน่าเกลียดจึงเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนในสถานการณ์นั้น
เขาสูญเสียตะวันฉายทานตะวัน ภูตแสงและเขี้ยวแสง แต่ก็ไม่ใช่ลูกพลับที่อ่อนเหลาะแหละที่จะบีบคั้นย่ำยีกันง่ายๆ เขาเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่ คงเป็นเรื่องน่าอับอายที่กลัวจนต้องหนีนักสู้ปราณฟ้าระดับสองสามคน “ไม่ใช่ว่าทุกคนจะน่ากลัวเท่ากับคุณชายสามตระกูลเย่ว์ เจ้าต้องการสู้ใช่ไหม? ไม่มีใครกลัวสักหน่อย!” ขณะที่หย่งฮุยสั่งมังกรเขาเดียวให้กลับมาสู้ เขาเรียกอสูรน้อยตาทองเขาเงินออกมา
ด้วยความฉลาดของเจ้าตัวน้อยนี้ลูกไม้ของมันสามารถจัดการกับอสูรของศัตรูได้?
เป็นไปไม่ได้!
แต่เมื่อหย่งฮุยเรียกอสูรน้อยออกมามันกลับทรยศเขาทันทีเปลี่ยนเป็นแสงสีเขียวและไล่ติดตามเย่ว์หยางเพื่อขอให้เขาปกป้องหรือเข้าร่วมกับเขา
หย่งฮุยตกตะลึง เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะจบลงในลักษณะนี้ มันฉลาดเกินไป ฉลาดเหลือเชื่อ
โชคดีที่เจ้ามังกรเขาเดียวโง่จึงไม่ได้ทรยศเขา มิฉะนั้นเขาคงฆ่าตัวตายทันที
“อ๋า? ก๊ากๆๆๆๆ!” จงกวนไป๋หม่าและเฮยถูทั้งสามคนตะลึงในตอนแรก จากนั้นก็หัวเราะขำกลิ้งจนแทบจะทรงตัวอยู่ในอากาศไม่ได้และร่วงลงน้ำ “หัวหน้าหย่งฮุย เจ้ามีอสูรอยู่มากมายไม่ใช่หรือ จากเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดกลายเป็นยาจกที่ยากจนที่สุด, แค่เพียงวันเดียว! ตอนนี้ขอดูซิว่าเจ้าจะหยิ่งได้ขนาดไหน!” พวกเขาทราบว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์มีธุระต้องจัดการ ถ้าไม่อย่างนั้นเรื่องน่าอนาถของหย่งฮุยคงไม่จบลงเพียงเท่านี้แน่!
ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม เขาต้องมีสมบัติบางส่วนบ้างจริงไหม?
พวกเขาไม่คิดว่าเย่ว์หยางจะใจดีมากยอมปล่อยสมบัติเหล่านั้นหลุดมือไป