ตอนที่ 646 ดู... มีดาวตก
เมื่อใบหน้าสีเทาของหย่งฮุยปรากฏขึ้นหลังจากควันสลายไปแล้ว
รูปลักษณ์ของเขา
ดูทุลักทุเลน่าตลกมาก
เป็นความเหลือเชื่อและสับสนแม้ว่าเขี้ยวแสงไม่ได้ไวที่สุดในแดนสวรรค์แต่คงไม่มีปัญหากับการติดอันดับหนึ่งในสิบ
อย่างไรก็ตามมันไม่อาจทาบรัศมีแสงอุษาของศัตรูได้เลย ที่น่าผิดหวังที่สุดก็คือก่อนที่แสงอุษาจะโจมตี หย่งฮุยสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าสตรีผู้รวมพลังของนางตามวิธีปกติ แต่กลับไวกว่าเขี้ยวแสง นั่นเป็นเรื่องไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง! เขายกมือและชี้นิ้วไปที่ศัตรู เขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาเห็นเขี้ยวแสงของเขาแพ้ในเรื่องความเร็ว
ไม่,ศัตรูต้องใช้กลอุบายแน่นอน!
เอาอีกครั้งเดี๋ยวเขาก็คงจะรู้
แสงอุษา! ของเจ้าเมืองโล่วฮัวยกมือพร้อมกับที่หย่งฮุยทำ นางไม่ได้ทำตามขั้นตอนแรก แต่ก็ทำได้ในจังหวะเดียวกับหยุ่งฮุยและในเวลาที่น้อยยิ่งกว่าเสี้ยววินาที นางก็เคลื่อนไหวแสงอุษาได้ทันที ความเคลื่อนไหวของนางไม่สามารถไวกว่าเขี้ยวแสงที่กระทำการตามนิ้ว อย่างไรก็ตาม ฉากภาพที่ทำให้คนอับอายแทบตายก็คือแม้ว่านางจะต้องใช้เวลารวบรวมพลังงาน แต่นางก็ระเบิดพลังอุษาที่ไวกว่าเขี้ยวแสง
ในขณะที่หย่งฮุยโจมตีแสงอุษาก็มาถึง
หย่งฮุยปลิวกระเด็นอีก
ถ้าเจ้าเมืองโล่วฮัวอยู่ในระดับปราณฟ้าหรือว่าอสูรแสงอุษาของนางเทียบเท่านักสู้ปราณฟ้า หย่งฮุยคงล้มไปแล้ว เขาคงไม่มีโอกาสหลบ เขาจะไม่มีเวลาได้ตั้งตัว พอนางโจมตีก็ตรงเข้าที่ตัวหย่งฮุย
ตลอดชีวิตของเขา เขามีแต่เอาชนะคนอื่นโดยใช้ความเร็วของเขา
แม้แต่แดนสวรรค์มีศัตรูผู้ใดที่มีความเร็วเท่ากับเขี้ยวแสงบ้าง
มีเพียงสิ่งเดียวที่สามารถเอาชนะหย่งฮุยได้ก็คือการไม่ยอมให้เขี้ยวแสงได้ใช้ความเร็วเพียงเท่านั้นก็ข่มเขาได้แล้ว เป็นพลังที่ข่มได้อย่างสิ้นเชิงไม่ต้องคำนึงถึงพลังของเขี้ยวแสงก็เอาชนะเขาได้โดยตรงแล้ว เขาไม่คาดฝันเลยว่าหลังจากที่เขาเข้ามายังหอทงเทียนซึ่งลดพลังปราณฟ้าไปหนึ่งระดับ แต่เขาก็แพ้ใครไม่แพ้กลับมาแพ้นักสู้ปราณดินระดับสี่
เรื่องแบบนี้เขาไม่อยากจะเชื่อเลย อย่าว่าแต่คนอื่น
เป็นไปไม่ได้! นี่เป็นไปไม่ได้! ภูตแสงของหย่งฮุยสามารถรักษาบาดแผลบนร่างของเขาได้โดยง่าย นอกจากนี้ ในฐานะเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่เขาแทบจะละเลยพลังแสงอุษาของเจ้าเมืองโล่วฮัวได้
แต่ปัญหาก็คือเขาไม่สามารถยอมรับผลกระทบกระเทือนเช่นนี้ได้
ความรู้สึกเหมือนยักษ์ไตตันที่ถูกคนแคระเอาชนะได้ หรือเหมือนกับมังกรพ่ายแพ้แมลงตัวเล็กๆ
หย่งฮุยโกรธอยู่ในใจจนแทบกระอักโลหิต
เขาชูแขนอีกครั้งต้องการจะด่าทอเจ้าเมืองโล่วฮัว แต่หญิงสาวเข้าใจผิดเขากำลังจะโจมตีอีกครั้งดังนั้นนางจึงยิงแสงอุษาเป็นครั้งที่สาม
หัวหน้าหย่งฮุยผู้น่าสมเพชปลิวไปในอากาศและร่วงลงน้ำน่วมไปทั้งตัวและหมดแรง
จงกวนไป๋หม่าและเฮยถู สามคนที่พ่ายแพ้ไปแล้วหวาดกลัว ตาค้างเหมือนกับผีดิบซอมบี้ คนผู้หนึ่งที่ตัวดำตั้งแต่หัวจรดเท้าผมเผ้ายุ่งเหยิงยิ่งกว่ารังนก นั่นคือหย่งฮุยจริงๆ หรือ? นั่นคือหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างหย่งฮุยที่เอาชนะเขาได้หรือ? ทั้งสามคนมองหน้ากันเองและกลืนน้ำลายอย่างหวาดผวา
ช่างน่ากลัวไม่เพียงแต่คุณชายสามตระกูลเย่เท่านั้น ยังมีคนที่ไม่ธรรมดาอยู่รอบๆตัวเขาอีกหรือนี่
สตรีผู้นี้ไม่ได้ปรากฏตัวในสนามรบเก่อนนี้ ถ้านางออกมาก็จะเป็นสามคนนี้แทนที่จะกลายเป็นหย่งฮุยผู้โชคร้าย
การยอมแพ้ต่อคุณชายสามตระกูลเย่ว์เป็นเรื่องฉลาดแน่นอน พวกเขาอาจค่อนข้างผิดหวังอยู่บ้าง เพราะพวกเขาทั้งสามเป็นนักสู้ระดับปราณฟ้าพ่ายแพ้แต่นักสู้ปราณดินระดับสี่ และเป็นเรื่องน่าอับอายอยู่บ้าง แต่ความภูมิใจของพวกเขาตอนนี้ ใครจะรู้ว่าคนผิดปกติธรรมดาที่คุณชายสามตระกูลเย่ว์นำมาด้วยจะมีอยู่กี่คน และแค่ทัณฑ์สวรรค์ก็เพียงพอทำให้เขาปวดหัวพออยู่แล้วและตอนนี้กลับมีหญิงงามที่ไม่รู้จักเพิ่มเข้ามาอีก
ข้าเข้าใจแล้วหัวหน้าหย่งฮุยเข้าใจแล้ว
อสูรแสงอุษาของสตรีผู้แตกต่างจากเขี้ยวแสงของเขา
ในกระบวนการโจมตีเขี้ยวแสงมีขีดจำกัดเวลา แม้ว่ามันจะรวดเร็ว แต่มันมีขีดจำกัดหนึ่งวินาที นั่นหมายความว่าต้องใช้เวลาในการยิง มันแค่เร็วเกินไป และมันถูกเร่งรัดตลอดเวลาจึงเป็นธรรมดาที่ศัตรูไม่มีเวลาโต้ตอบ
อย่างไรก็ตามแสงอุษาของนางไม่มีขีดจำกัดเวลา นั่นเป็นแค่เพียงความคิดอย่างหนึ่ง ไม่มีช่วงเวลาเริ่มต้นของการโจมตีของสตรีผู้และพลังโจมตีที่มาถึงร่างของหย่งฮุยมันใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวินาที เขี้ยวแสงของเขาไม่อาจเทียบได้กับความเร็วของแสงอุษาของนาง อีกจุดหนึ่งก็คือเมื่อเขาชูมือเตรียมโจมตี เขาพบว่าเขาต้องยกมือและเล็งไปที่ศัตรูของเขา
ไม่มีอะไรผิดปกติในเรื่องนั้น แต่สตรีนางนั้นทำได้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกับหายใจและหัวใจเต้น
พวกเขาไม่อยู่ในระดับเดียวกัน
บางทีสตรีผู้นั้นคงฝึกมาเป็นพันครั้งจนถึงระดับที่นางไม่จำเป็นต้องยกมือขึ้นเล็ง นางแค่โจมตีตามสัญชาตญาณ ถ้าเขามีโอกาสกลับไปแดนสวรรค์ เขาจะฝึกเขี้ยวแสงให้มากกว่าพันครั้งเพื่อที่ว่าเขาจะได้ใช้เขี้ยวแสงโดยไม่ต้องใช้นิ้วสั่งการ
เขาเสียใจที่เขาไม่เข้าใจเรื่องง่ายๆนี้จนกระทั่งวันนี้
เป็นที่มั่นใจได้เลยว่าเขี้ยวแสงจะต้องแข็งแกร่งมากกว่าแสงอุษานั่น
อย่างไรก็ตามเจ้าของอสูรแสงอุษาก็ดีกว่าเจ้าของเขี้ยวแสงเป็นพันเท่าไม่ว่าจะเป็นการเรียกหรือควบคุม
ไม่ใช่แค่เรื่องของเขี้ยวแสงเท่านั้น นี่เป็นการประชันกันระหว่างเจ้าของทั้งสอง ถ้าพวกเขาสลับตำแหน่งกันและสตรีนั้นใช้เขี้ยวแสงแทน หย่งฮุยเชื่อว่าเขาคงถูกฆ่าไปแล้ว
เขาถึงกับหลั่งเหงื่อเยียบเย็นเมื่อคิดถึงเรื่องนี้
โฮกกกกกกก!
ทันใดนั้นมังกรเขาเดียวควันดำโจมตีอยู่ในท่ามกลางควันดำมันพ่นเปลวไฟยาวมาทางเจ้าเมืองโล่วฮัว
หย่งฮุยคิดว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวคงจะใช้แสงอุษายิงใส่อสูรของเขา อย่างไรก็ตามเหตุเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ทำให้เขาต้องต้องมองด้วยสายตาที่เหลือเชื่อ
เด็กสาวครึ่งจิ้งจอกครึ่งมนุษย์ปรากฏออกมาข้างหน้าของเจ้าเมืองโล่วฮัวแขนที่บอบบางของนางวาดไปมาอย่างช่ำชอง เช่นเดียวกันกับที่อสูรน้อยตาทองที่สร้างน้ำวนเพื่อดูดแมงมุมปีศาจ แต่ความเคลื่อนไหวของนางมั่นคงและช่ำชองมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นความช่ำชองหรือพลังทั้งหมดอยู่ในระดับเชี่ยวชาญ
เปลวเพลิงของมังกรเขาเดียวทำให้นางใช้กระแสอากาศสร้างเป็นแนวโค้งและหมุนปั่นย้อนกลับไปด้วยความเชี่ยวชาญเมื่อเสียงปังดังขึ้น เพลิงก็พุ่งกลับไปที่หัวขนาดใหญ่ของมังกรเขาเดียว
มังกรตาเหลือกด้วยความตกใจ
ราวกับว่ามันไม่อาจเชื่อได้ว่าเพลิงของมันสามารถเผาร่างของมันได้ยังไง
มันโกรธเกรี้ยวเด็กสาวจิ้งจอกที่แข็งแกร่งยังไม่ถึงหนึ่งในร้อยของมันบังอาจตอแยโทสะของมันได้ยังไง?
มังกรเขาเดียวพ่นควันจนมองไม่เห็นและพร้อมจะโจมตีศัตรูในม่านควันบนผิวน้ำหย่งฮุยมองเห็นสีหน้าสงบเย็นของศัตรูและลอบอุทานในใจ ไม่ถูกต้องแล้ว โดยไม่รีรอเขาเตือนมังกรเขาเดียว ทันใดนั้นเขาเห็นว่าเด็กสาวจิ้งจอกผู้งดงามยิ้ม ราวกับว่าเห็นคนโง่ที่แสดงกลอุบายโง่ๆที่แม้แต่เด็กอมมือก็ยังไม่ทำกัน
หางขาวด้านหลังนางโบกไปมาเบาๆ
มือทั้งสองของนางวาดไปมาในท้องฟ้าราวกับว่าจิตรกรกำลังวาดภาพ
ทุกคนได้กลิ่นอย่างหนึ่ง
เป็นกลิ่นที่สดชื่น
ควันดำที่ครอบคลุมท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนรูปกลายเป็นดอกไม้สีดำทันทีราวกับว่ากลิ่นถูกปล่อยออกมาจากดอกไม้ดำเหล่านั้น มังกรเขาเดียวที่ล่องหนไปชั่วขณะทำลายม่านล่องหนของมันทันทีและร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดปรากฏร่างในท้องฟ้า
มังกรเขาเดียวดูเหมือนจะเกลียดควันดำที่กลายเป็นดอกไม้ดำ และมันรีบหนีออกห่างอย่างรวดเร็ว
มันหนีไปหาเจ้านายของมันด้วยความโกรธและสุดฝืน
มันไม่ยอมอยู่จนกระทั่งควันที่พ่นออกมาคลุมร่างและผิวของมันที่เริ่มสลายไปภายใต้แสงอาทิตย์และรีบกลับคืนเป็นปกติในที่สุด
จงกวนและคนอื่นๆเริ่มจะเข้าใจ มังกรเขาเดียวแข็งแกร่งทรงพลังมาก แต่มันกลัวแสงอาทิตย์ มันไม่อาจสูญเสียควันเอาไว้ปกป้องตัวมัน และถ้ามันสูญเสียการป้องกันตัวมัน ผิวของมันจะเป็นแผลพุพอง สาวน้อยจิ้งจอกใช้ตรงจุดนี้สามารถขับไล่มังกรเขาเดียวที่ทรงพลังให้หนีไปได้ง่ายๆในการสู้กันระหว่างเจ้าเมืองโล่วฮัวและหัวหน้าหย่งฮุยไม่ว่าจะเป็นเจ้าของหรืออสูรนักสู้ อดีตมักจะเป็นผู้ชนะเสมอ
ทั้งหมดที่พวกเขาขาดก็คือเวลา
ตราบใดที่พวกเขามีเวลาฝึกฝนเพียงพอ พวกเขาจะสามารถเอาชนะนักสู้ปราณฟ้าได้
“ถ้าเป็นกรณีนั้น และเจ้ายังคิดว่าเจ้าสามารถเอาชนะข้าได้ พวกเจ้าก็คิดผิดกันหมด ผิดอย่างสิ้นเชิง” ความหยิ่งยโสของหัวหน้าหย่งฮุยกลับคืนมาที่ใบหน้าของเขา ไม่มีข้อสงสัยใดๆ ทั้งนั้นเขาคือยอดฝีมือปราณฟ้าระดับสี่ ต่อให้เขี้ยวแสงของเขาไม่เร็วเท่าแสงอุษาของนาง และมังกรเขาเดียวของเขาไม่สามารถต่อต้านสาวน้อยจิ้งจอกได้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคู่ต่อสู้จะสามารถเอาชนะเขาที่เป็นนักสู้ระดับปราณฟ้าได้ ด้วยพลังแสงอุษาของนางต่อให้ไม่มีภูตแสงที่มีพลังรักษา อาศัยแค่เพียงพลังป้องกันของปราณฟ้าระดับสี่ ก็ไม่ใช่สิ่งที่นางสามารถท้าทายได้
“อา, ถ้าเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นนักสู้ปราณฟ้า ข้าคงไม่สามารถเอาชนะเจ้าได้, เจ้าคงเข้าใจผิด เข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิง” เย่ว์หยางลอกเลียนแบบเขา
เจ้าเมืองโล่วฮัวไม่สามารถเอาชนะหย่งฮุยได้ นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาเอาชนะไม่ได้
ทันทีที่เขาพูดจบเขาก็มาถึงด้านหลังของหัวหน้าหย่งฮุยแล้ว
จงกวนปิดตา
เขาผู้มีความสามารถเปลี่ยนและแปลงร่างได้ยังไม่สามารถหลบวิชาท่าร่างของเย่ว์หยางได้ หย่งฮุยต้องแพ้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าหัวหน้าหย่งฮุยไม่คิดอย่างนั้น เขาหมุนตัวไปจ้องเย่ว์หยางอย่างใจเย็นและแค่นเสียงเหยียดหยามเย็นชา “ท่าร่างที่ดี แต่จะใช้ทำอะไรได้?เจ้าเอาชนะข้าได้หรือ? เพลิงอมฤตของเจ้าวงจักรล้างโลกของเจ้า เอามาทุ่มใช้เอาชนะข้าให้หมดเลย! ได้หรือเปล่าเล่า?นี่คือโลกวารีเต็มไปด้วยกฎสวรรค์ห้ามใช้วิทยายุทธและห้ามก่อสงครามข้าไม่ได้ต่อต้าน และเจ้าไม่สามารถโจมตีข้าได้เช่นกัน! ด้วยพลังของเจ้า ด้วยอสูรของเจ้า เจ้าต้องการเอาชนะข้า สุดยอดนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่หรือ? ข้าแค่ยื่นหน้าข้าออกไป เจ้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้!”
เผียะ!
เย่ว์หยางตบเขาสองครั้ง
เขาไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อยและนี่ไม่ใช่ความเคลื่อนไหวที่ถือว่าเป็นการปะทะกันเพราะว่าถูกห้ามไว้ด้วยกฎห้ามการต่อสู้
หัวหน้าหย่งฮุยตะลึงในตอนแรก แต่จากนั้นเขากลายเป็นโกรธ
เขาต้องการเอาคืนเย่ว์หยางด้วยต่อยและตบสักสองสามหมัด อย่างไรก็ตามการโจมตีด้วยรังสีและพลังงานฆ่าฟันถูกห้ามไว้ด้วยกฎห้ามใช้วิทยายุทธสู้ แต่นี้ทำให้อยากร้องไห้มากขึ้น เว้นแต่ว่าเขาจะขับพลังของเขาและกำจัดเจตนาฆ่าของเขาและกวาดมือไปที่หน้าของเย่ว์หยางตามปกติ เป็นไปได้ว่าจะลงมือโจมตี แต่เห็นได้ชัดว่าเย่ว์หยางไม่ให้โอกาสเขา
เผียะ! เย่ว์หยางตบเขาอีกครั้งก่อนที่เขาจะทันได้ตอบโต้
เมื่อจงกวนเห็นเย่ว์หยางทำหยิ่งใส่หย่งฮุยอย่างนี้ เขาทั้งรู้สึกดีใจและละอาย เขาดีใจเพราะหย่งฮุยผู้นี้เพิ่งเล่นงานพวกเขาสามคนอย่างหนัก แต่ตอนนี้เขารู้สึกดีที่ได้เห็นเย่ว์หยางตบหน้าของเขา สิ่งที่น่าอายก็คือเขาและสหายของเขานี้ทุกคนมากจากแดนสวรรค์ และพวกเขาคุ้นเคยกับการร่วมมือกัน และตอนนี้ หย่งฮุยถูกเย่ว์หยางตบหน้า นี่ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาเองนั่นแหละที่ถูกตบ
หัวหน้าหย่งฮุยรู้สึกโกรธ มังกรเขาเดียวอ้าปากทันทีพยายามจะกลืนกินเย่ว์หยาง
ช่วงขณะที่มันเตรียมตัวจะกัดเย่ว์หยางเท้าข้างหนึ่งปรากฏขึ้นและยันใส่มังกรเขาเดียวกระเด็นออกไปร้อยเมตรเสียงระเบิดดังบึ้มมันกระแทกเข้ากับน้ำ มังกรเขาเดียวอยู่ในสภาพทุลักทุเล จงกวน ไป๋หม่าและเฮยถูเอามือปิดหน้า ไม่มีความจำเป็นต้องดู พวกเขารู้ผู้นี้เป็นใครเป็นนางวัวสาวที่ครอบครองพลังของยักษ์ไตตันและหัวใจธรณีสารนั่นเอง
ฮึ่ม! เมื่ออาหมันปรากฏตัวเย่ว์หยางเสริมเงายักษ์ให้นาง นางปล่อยหมัดกระแทกใส่อกของหัวหน้าหย่งฮุย
“หลีกไปให้พ้น” เขาต้องการชูมือเสี่ยวเหวินหลีก็ออกมาอีกและใช้ทักษะพันธนาการของเธอหยุดความเคลื่อนไหวของเขาทันที อาหมันไม่ใช่อสูรที่สุภาพอยู่แล้วนางปล่อยหมัดออกราวกับดาวตกกระแทกใส่อกของหย่งฮุย ในฐานะที่เป็นสุดยอดนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่ ทันทีที่เขากลับมามีอิสระ หย่งฮุยเริ่มรวบรวมพลังงานปกป้องตัวของเขาเอง เขาพ่ายแพ้หมัดของอาหมัน และคำรามใส่เย่ว์หยางด้วยน้ำเสียงที่หยิ่งยโสแหบแห้ง เจ้าต้องการทุบตีข้าด้วยพลังมากแค่นั้นเองหรือ? ฮื่ม.. มันไม่มีอะไรเลย”
ภูตแสงที่กำลังโฉบลังมาที่ด้านหลังหัวหน้าหย่งฮุยรักษาอาการบาดเจ็บภายในให้เขาทันทีและฟื้นฟูสภาพภายนอกให้เขาจนอยู่ในสภาพปกติ
ด้วยพลังป้องกันของหย่งฮุยและพลังรักษาที่สุดจะแข็งแกร่งของภูตแสง
ต่อให้อาหมันเหวี่ยวหมัดเป็นพันครั้งนางคงไม่สามารถทำอันตรายเขาได้
อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางยิ้มและถามหย่งฮุย จริงหรือ?
เขาเพิ่มเงายักษ์ให้อาหมัน และอาหมัดผสานงานกับทักษะพันธนาการของเสี่ยวเหวินหลีและโจมตีด้วยหมัดนี้ ในแง่พลังเมื่อเทียบกับพลังโจมตีก่อนนี้และมันค่อนข้างมากไปนิดสำหรับหย่งฮุย ภูตแสงรักษาเขาได้ทันเวลาทำให้ร่างกายของเขาฟื้นฟู
เมื่อเขาเห็นว่าเย่ว์หยางเพิ่งเงายักษ์ให้อาหมัน เขารู้สึกว่าแข้งขาของเขาอ่อน
เขาไม่สามารถทนได้ถ้าเจ้าเด็กนี่ลงมืออีก
จงกวนและคนอื่นๆไม่สามารถทนดูได้ต่อไป พลังของเจ้าผู้นี้ก็ไม่เลวแต่เมื่อเทียบกับเย่ว์หยาง คุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้ไม่ธรรมดา เขาก็ยังอ่อนแอห่างไกล เขาต้องการสู้กับเย่ว์หยางหรือ?คงมีผลออกมาเพียงประการเดียว และนั่นก็คือเจ็บตัว
อาหมันได้รับเสริมเงาปีศาจยักษ์อีกสิบร่างไล่ต่อยตีหย่งฮุยจนเขาแทบปัสสาวะราด และเขาไม่สามารถหลบได้ เพราะไม่ว่าเขาจะหนีไปที่ใด เย่ว์หยางเป็นเหมือนเงาติดตามตัว และเขาจะไปดักอยู่ที่ทางถอย เขาพบว่าเขาหนีมาหลายชั่วโมงแล้ว แต่ก็ห่างออกไปเพียงครึ่งเมตรเท่านั้น ถ้าร่างของเขาเคลื่อนไหวออกไปมากกว่าครึ่งเมตร เย่ว์หยางผู้ว่องไวกว่าเขี้ยวแสงก็จะเข้ามาหยุดเขา เขาไม่สามารถโจมตีเย่ว์หยางได้ แต่เย่ว์หยางสามารถใช้ร่างกายขัดขวางเขาไว้ได้ หัวหน้าหย่งฮุยไม่เคยนึกฝันเลยว่าภายใต้การจำกัดของกฎโบราณ ยังมีวิธีต่อสู้ได้จริงๆ
“งั้นก็มาแลกหมัดกัน!” หย่งฮุยแค่นเสียง ตราบใดที่ร่างของเขาสัมผัสกับร่างของเขา พลังหมัดครึ่งหนึ่งของอาหมันจะถูกกำจัดออกไป
ความคิดของเขาทำให้เด็กหนุ่มดีใจที่โคเงาอาหมันมีหมัดที่หนักหน่วง
ถ้าเย่ว์หยางถูกหมัดอย่างนั้นเข้าเขาคงจะล้มลงแน่นอน
ความคิดของหย่งฮุยนับว่ายอดเยี่ยม
ความจริงมันไม่สามารถรู้ตัวได้!
เมื่อหัวหน้าหย่งฮุยถูกเย่ว์หยางใช้หมัดต่อยร่างของเขา เขาพบว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์หายไป เขาบินออกมาเหมือนลูกกระสุน ถึงตอนนี้เขาตระหนักได้ว่าเขาถูกหลอก เด็กหนุ่มแค่มาหยุดเขาเพื่อต้องการยืมพลังจากเขา นี่เป็นกับดัก เขาคำรามทันที “เจ้าช่างเจ้าเล่ห์นัก”
เย่ว์หยางทำท่าเอามือป้องหน้าผากราวกับว่าเขากำลังมองดูระยะไกล เขาตะโกนว่า “ดูสิ มีดาวตกกำลังพุ่งห่างออกไป!
จงกวนเฮยถูและไป๋หม่าทำท่าเป็นลมร่วงลงน้ำ