ตอนที่ 36 บางครั้งก็สุขบางครั้งก็ทุกข์
“เจ้ายังไม่บอกชื่อของเจ้าเลย พ่อหนุ่ม”
“ข้าชื่อหยานฉี”
เสียงของหยานฉีมีความเคารพมาก
ปรมาจารย์ซู่มูผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้พิทักษ์ฐานหลินไห่และหลายร้อยเมืองที่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของฐานหลินไห่ ถ้าไม่ใช่เพราะการมีตัวตนอยู่ของเขา ฐานทัพหลินไห่คงถูกทำลายโดยปีศาจไปนานแล้ว
"ยังไงก็ตาม เจ้าเอาตรานี้ไป"
ด้วยเหตุนี้ซู่มูจึงหยิบป้ายสีทองที่มีดาวสามดวงอยู่ข้างใต้
มันคือตราประจำตัวของปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นสูง!
เนื่องจากหยานฉีอยู่ในระดับปรมาจารย์เหมือนกันเขารู้ว่าด้วยตรานี้คือตราของระดับอะไร
ในตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องปกปิดพลังของเขาอีกต่อไป เขาสามารถแสดงต่อหน้าคนอื่นได้ว่าพลังต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งขนาดไหน!
"หยานฉี เจ้าสามารถไปที่สภาหลินไห่ได้ตลอดเวลา ข้าจะกลับไปและประกาศเรื่องนี้ให้ทุกคนได้รู้ทันที"
เมื่อเสียงของเขาจบลง ซู่มูจากไป
หยานฉีมองดูตราในมือของเขา เขายิ้มออกมาเล็กน้อย จริงๆแล้วเขาแค่มาที่นี่เพื่อลองพลังของหมัดเงาปีศาจหมาป่า แต่เขาไม่คาดคิดว่าได้เจอกับซู่มูและได้รับตราปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นสูงและถูกเชิญให้เข้าสภาหลินไห่
นี่มันเกินอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย!
จากนั้นเขาก็เก็บดาบกระทิงแดงฉานเข้าไปในฝักด้านหลังและกำลังจะออกไปขากที่นี่
ทันทีที่เขามาถึงด้านนอกโรงเรียนศิลปะการต่อสู้อสรพิษสายฟ้า
มีเสียงเรียกเข้าในโทรศัพท์มือถือของเขา
หยานฉีรู้ว่านี่เป็นข่าวสำคัญ
ในโลกของปีศาจโทรศัพท์มือถือ ทีวี รถยนต์ และอื่นๆ จะถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี
ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือไม่มีทีวีซีรีส์ ไม่มีภาพยนตร์ และไม่มีรายการวาไรตี้ไอดอล
มีแต่ข่าวผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้กับปีศาจเท่านั้น!
หยานฉีหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูและข่าวเรื่องหนึ่งก็สะกิดหางตาของเขา
ประกาศสำคัญ: "สมาชิกใหม่ของสภาหลินไห่! ขณะนี้มีสมาชิกของสภาหลินไห่มีทั้งหมด13 คน"
มันเป็นเพียงหัวข้อข่างสั้นๆ
หยานฉีรู้ทันทีว่าสมาชิกใหม่ก็คือตัวเขาเอง
และสิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือผู้คนรอบตัวเขากำลังพูดคุยกัน
“สมาชิกใหม่ของสภาหลินไห่เหรอ?”
"เยี่ยมมาก เรามีปรมาจารย์ที่เก่งกาจอีกคนหนึ่งในฐานหลินไห่ของเราแล้ว"
“ข้าหวังว่าฐานหลินไห่ของเราจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆเพราะมันจะทำให้ปีศาจจะไม่กล้าโจมตีฐานหลินไห่ของเรา”
หยานฉียืนงงอยู่ครู่หนึ่ง
ผู้คนในฐานหลินไห่ทั้งหมดต่างรับรู้ถึงข่าวนี้ได้อย่างรวดเร็ว
ไม่เพียงแค่ข่าวในโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทีวีในลานกว้างและทีวีที่บ้านของผู้อาศัยในฐานแห่งนี้ด้วย
มันชั่วขณะหนึ่งที่ฐานหลินไห่เต็มไปด้วยเสียงกับคำพูดที่เต็มไปด้วยความหวังและความยินดี
ทุกๆคนต่างมีความสุขกับข่าวนี้
เงื่อนไขขั้นต่ำสำหรับการเข้าสู่สภาหลินไห่คือปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นต้นเป็นอย่างต่ำ
เท่าที่พวกเขารู้ ตอนนี้มีปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นสูง 1 คน ปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นกลาง 4 คน และปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้น 7 คน
ตอนนี้มีสมาชิกอีกคนหนึ่งซึ่งมันช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฐานหลินไห่ของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย!
หยานฉีส่ายหัวและยิ้มออกมานี่มันไม่ใช่ความฝันใช่ไหม?
ก่อนหน้านี้เขายังเป็นคนที่ห่วยแตกไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยความสามารถของระบบในช่วงเวลาสั้นๆเพียงแค่หนึ่งเดือนเขาก็ได้มาอยู่ในจุดนี้แล้ว
นี่คือระบบที่สุดยอดจริงๆและข้าก็มีมันในโลกนี้แล้ว!
หยานฉีเดินเข้าโรงเรียนศิลปะการต่อสู้อสรพิษสายฟ้าโดยพยายามไม่คิดอะไรมาก
หลังจากเข้าโรงเรียนศิลปะการต่อสู้อสรพิษสายฟ้าได้ไม่นาน ซู่ซุนเอ๋อก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา ใบหน้าสีขาวของเธอเต็มไปด้วยความสุข
"หยานฉี เจ้ารู้ไหมว่าเรามีปรมาจารย์อีกคนที่ฐานหลินไห่แล้ว"
"อันที่จริงเขาอาจจะไม่ใช่ปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้นก็ได้"
"ทำไมเจ้าถึงคิดแบบนั้น? ข้าคิดว่าเขาจะต้องเป็นปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่แน่ๆ"
ซู่ซุนเอ๋อกล่าว
ในตอนเป็นเวลาเย็นแล้ว หยานฉีไม่ได้ฟาดฟันดาบอีก แต่กับผล็อยหลับไปแล้วตื่นขึ้นมาอีกทีในวันรุ่นขึ้น
หลังจากที่เขาจัดการอะไรเสร็จหลังจากตื่นนอนแล้ว เสียงของซู่ซุนเอ๋อก็ดังขึ้นอีกครั้ง
"หยานฉี ท่านพ่อของข้าขอให้เจ้าไปที่ห้องของเขา ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องเร่งด่วน"