ตอนที่ 35 ปรมาจาย์ขั้นสูงซู่มู
หยานฉีนเห็นชายวัยกลางคนเดินออกมา รูปร่างหน้าตาของชายคล้ายกับคนวัยสี่สิบหกปีนั้นมีรูปร่างสูงใหญ่
สีหน้าของหยานฉีตกตะลึง เขามองไปที่ชายวัยกลางคนที่กำลังเดินมาและหัวใจของเขาก็ตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม!
เพราะชายวัยกลางคนคนนี้ให้ความรู้สึกแรกแก่หยานฉีคือความแข็งแกร่งที่เกือบทำให้เขาเป็นอมตะ!
แม้ว่าหยานฉีจะใช้ทุกๆอย่างที่เขามีในตอนนี้ ชายวัยกลางคนคนนี้ก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
"ท่านเป็นใคร?"
หยานฉีจ้องมองชายวัยกลางคนอย่างระมัดระวัง
ชายวัยกลางคนยิ้มอย่างอ่อนโยน "ข้าชื่อซู่มู"
ซู่มู?!
รูม่านตาของหยานฉีหดตัว!
ชายผู้แข็งแกร่งคนแรกของฐานหลินไห่เคยเข้าไปในถ้ำปีศาจที่ภูเขาหมางชานสามครั้งเพื่อกำจัดจอมมารปีศาจขั้นต้น
ปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นสูงซู่มูคนนั้นเหรอ?
หัวใจของหยานฉีเต้นอย่างรวดเร็ว
ชายคที่อยู่ต่อหน้าหยานฉีคนนี้ ในสายตาของผู้คนนับสิบล้านในฐานหลินไห่ เขาเปรียบเสมือนพระเจ้า
แน่นอนว่าหยานฉีไม่เคยคาดคิดว่าซู่มูคนนั้นจะปรากฏตัวต่อหน้าเขา
“พ่อหนุ่ม เจ้ามีร่างจิตวิญญาณกับการเข้าของระดับการรวบรวมขั้นต้นแล้วสินะ เพราะดาบในมือเจ้าดูน่าเกรงขามยิ่งนัก”
ซู่มูพูดด้วยรอยยิ้มให้หยานฉี
หยานฉีรู้ว่าซู่มูเป็นปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นสูง!
ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่จะสามารถมองเห็นถึงความสามารถทั้งหมดที่หยานฉีมี
นอกจากนี้เขายังรู้ว่า ซู่มูได้มาถึงระดับการรวบรวมพลังขั้นต้นเหมือนกัน
ในตอนนี้เขาและซู่มูเป็นสองคนในฐานหลินไห่ที่มีระดับการรวบรวมพลังขั้นต้นเท่านั้น
"อย่าเข้าใจข้าผิด แม้ว่าเจ้าจะมีร่างจิตวิญญาณและถึงระดับการรวบรวมพลังขั้นต้น แต่เจ้าก็เป็นปรมาจารย์ผู้สอนศิลปะการต่อสู้ขั้นต้น ข้าไม่ได้เห็นพรสวรรค์ที่น่ากลัวเช่นนี้มานานแล้ว แต่ข้าเองก็ไม่มีความเกลียดชังระหว่างเจ้ากับข้า ดังนั้นข้าจะไม่ทำอะไรเจ้าแน่นอน"
ซู่มูพูดอย่างนั้น เขาหยุดไปสองสามวินาทีแล้วพูดว่า "ข้าแค่อยากเห็นเจ้าฟาดฟันดาบอีกสักครั้ง"
หยานฉีรู้ว่าเขาไม่สามารถปฏิเสธได้
สิ่งที่ปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นสูงกล่าวนั้นไม่สามารถปฏิเสธได้ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเขา
หยานฉีจึงต้องชักดาบออกมา!
"แต้มการฟาดฟันดาบ + 10"
"แต้มการฟาดฟันดาบ + 10"
"แต้มการฟาดฟันดาบ + 10"
ด้วยการฟาดฟันดาบของหยานฉี ทำให้สีหน้าของซู่มูแข็งทื่อ
เพราะเขาพบว่าหลังจากที่หยานฉีฟาดฟันดาบกระทิงแดงฉานออกมา พลังการต่อสู้ของหยานฉีก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของพลังจะน้อยมาก แต่ถ้าเขาฟาดฟันต่อไปเรื่อยๆพลังของเขาก็สูงขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน
ในฐานะปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นสูง ซู่มูเองก็ตกใจเช่นกันที่ได้รู้เรื่องนี้
เขาไม่เคยเห็นอะไรที่เหลือเชื่อแบบนี้มาก่อน
"พ่อหนุ่ม เจ้ามาจากที่ใดกัน"?
ซู่มูรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนอย่างหยานฉีจะมาอยู่ที่ฐานหลินไห่
“ข้ามาจากโรงเรียนศิลปะการต่อสู้อสรพิษสายฟ้า”
"โรงเรียนศิลปะการต่อสู้อสรพิษในฐานหลินไห่งั้นเหรอ?"
ซู่มูตกตะลึง เขาไม่ได้คาดหวังว่าหยานฉีจะเป็นคนในฐานทัพหลินไห่จริงๆ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า!
ทันใดนั้นซู่มูก็หัวเราะออกมาราวกับว่าเขาได้ค้นพบสมบัติล้ำค่า
“พ่อหนุ่มเจ้าสนใจเข้าร่วมสภาหลินไห่ของข้าไหม”
หยานฉีตกตะลึง
แน่นอนว่าเขารู้เกี่ยวกับสภาหลินไห่
สภาหลินไห่เป็นกองกำลังที่มีอำนาจมากที่สุดในฐานหลินไห่ หากต้องการที่จะเข้าร่วม อย่างน้อยที่สุดจะต้องอยู่ในระดับปรมาจาย์ผู้สอนการศิลปะการต่อสู้ขั้นต้น!
คำพูดที่เต็มไปด้วยแรงกดดันนั้น ทำให้หยานฉีรู้สึกอึดอัด
"ท่านซู่มู ถ้าข้าไม่ต้องการเข้าร่วมสภาหลินไห่มันก็อาจจะดูโกหกเกินไป แต่ข้ายังไม่อยากเข้าร่วมสภาหลินไห่ในตอนนี้จริงๆ ข้าไม่รู้ว่าข้าสมควรที่จะเข้าร่วมในตอนนี้จริงๆหรือเปล่า"
หยานฉีมองไปที่ซู่มู
แน่นอนว่าซู่มูก็เห็นด้วยโดยไม่ได้บังคับอะไร
ซู่มูรู้สึกโชคดีมากถึงมากที่สุดที่เขาได้ออกมาเดินรอบๆฐานแล้วได้พบกับหยานฉี
นอกจากตัวเขาที่เคยไปที่ถ้ำปีศาจที่ภูเขาหมางชานแล้วได้รับรู้ถึงพลังของปีศาจที่นั่น
ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฐานหลินไห่ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำลายปีศาจที่ถ้ำนั้นให้หมดได้
เขาได้รู้ว่าหยานฉี มีร่างจิตวิญญาณและได้เข้าถึงระดับการรวบรวมพลังขั้นต้นแล้ว
และเมื่อเขาได้รู้อีกว่าการฟาดฟันดาบของหยานฉีจะเพิ่มพลังการต่อสู้ของเขาด้วยเช่นกัน เขารู้สามารถรู้ได้เลยว่าหยานฉีจะต้องเป็นคนที่สุดยอดที่สุดอีกไม่นาน
เขาได้แต่เก็บความอึ้งของเขานั้นไว้ในใจ!