CD บทที่ 308 แม่ของฉัน
สิ่งที่ทำให้จ้าวหยู่ประหลาดใจก็คือคำทำนายของระบบปาฏิหาริย์ในวันนี้คือ ‘Xun-Li’ Xun หมายถึงลมและ Li หมายถึงไฟ
อันแรกสื่อถึงครอบครัว และอีกอันสื่อถึงมิตรภาพ!
"ไม่จริงน่า' จ้าวหยู่คิด เขาสงสัยเล็กน้อย ‘อย่างน้อย ๆ น่าจะให้คำว่า 'Gen' หรือ 'Kan' ฉันจะได้เพิ่มความคืบหน้าของคดีหรือความสัมพันธ์ของฉันกับเหมี่ยวอิงได้’
ถึงกระนั้น คำทำนายที่เขาคาดหวังก็ไม่ปรากฏขึ้น และเขาก็อดไม่ได้ที่จะผิดหวังเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะต้องทุ่มเทให้กับคดีนี้ และทำงานให้หนักขึ้นจากนี้ไป
ทางด้านเหมี่ยวอิง เธอยุ่งมากจริง ๆ หลังจากพูดคุยกับจ้าวหยู่เกี่ยวกับคดีเสร็จ เธอลุกขึ้นยืนและรีบกลับไปที่สถานีตำรวจ
จ้าวหยู่ก็ต้องการไปกับเธอเช่นกัน แต่ทางแพทย์ต้องการให้จ้าวหยู่อยู่ในโรงพยาบาลต่ออีกสักคืนเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่เป็นไร และเหมี่ยวอิงก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาอยู่ในโรงพยาบาลด้วย แต่จ้าวหยู่ค้านเสียงแข็ง
ทันทีที่นางพยาบาลทำแผลให้จ้าวหยู่เสร็จ เขาก็ออกจากโรงพยาบาลพร้อมกับเหมี่ยวอิง
เดิมทีจ้าวหยู่ต้องการกลับไปที่สถานีตำรวจพร้อมกับเหมี่ยวอิง แต่เธอยืนกรานให้เขากลับบ้านไปพักผ่อน เธอบอกว่าคดีธุรกรรมอำพรางไม่ใช่คดีธรรมดา ๆ และมันอยู่ในการดูแลของแผนกสืบสวนทั้งหมด ดังนั้นในฐานะหัวหน้าทีมของทีม A และ B พวกเขาจึงต้องหมุนเวียนและพักผ่อนเติมเรี่ยวแรง
ในที่สุด จ้าวหยู่ยอมทำตามที่เหมี่ยวร้องขอ และกลับบ้านไปพักผ่อน เนื่องจากไม่มีคำว่า ‘Kan’ จ้าวหยู่จึงล้มเลิกความคิดที่จะพาเหมี่ยวอิงกลับบ้านไปกับเขา นอกจากนี้ ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน เหมี่ยวอิงก็ไม่มีทางไปกับเขาเช่นกัน
เมื่อจ้าวหยู่มาถึงบ้าน มันก็เกือบจะตีสองแล้ว แต่จ้าวหยู่ยังไม่รู้สึกง่วงเลย
เขานึกย้อนกลับไปถึงการผจญภัยในวันนี้ มันค่อนข้างหนักหนาสาหัสแรงเลยทีเดียว และอัตราสำเร็จก็สูงถึง 101% ซึ่งทำให้เขาได้รับเป็นไอเทมระดับสูงที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของเขา จากนั้น ก็เป็นการจูบสุดเร่าร้อนกับเหมี่ยวอิง
จ้าวหยู่ถือว่าวันของเขาค่อนข้างประสบความสำเร็จ แต่เขาก็ยังรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็รู้ว่าเขาไม่ได้ขาดอะไรไป นอกเสียจากเบาะแสที่นำไปสู่การไขคดีนี้!
สิ่งที่ขาดหายไป? เหตุใดคดีธุรกรรมอำพรางจึงยากขึ้นเรื่อย ๆ ในระหว่างการสืบสวนในทุกขั้นตอน
จ้าวหยู่รู้สึกว่าอิทธิพลของคดีธุรกรรมอำพรางไม่ได้ลุกลามใหญ่โตอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคาดการณ์ไว้ ถ้าพูดกันตามตรง การที่เหยื่อเจ็ดทั้งรายถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ ด้วยจำนวนเหยื่อและความรุนแรงของคดี มันได้แซงหน้าคดีลักพาตัวเมียนหลิงไปนานแล้ว!
แต่เมื่อเทียบกับความโกลาหลครั้งใหญ่ที่เกิดจากคดีลักพาตัวเมียนหลิง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากไปกว่าตรงแผนกนิติวิทยาศาสตร์กับครอบครัวของถังจ้าวหลง อีกทั้งยังมีสมาชิกในครอบครัวของเหยื่อยังมีไม่มากนัก
แม้ว่าตำรวจจะเข้มงวดในการไม่ให้เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดสู่สาธารณะชน แต่พวกเขาก็ยังบอกกับสมาชิกในครอบครัวของเหยื่อตามปกติ แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาส่วนใหญ่ไม่ค่อยรีบเร่งที่จะมารับศพกลับไปเท่าไหร่นัก
ไม่เพียงแค่นั้น ไม่มีใครพูดตรงข้อมูลของคดีอย่างตรงไปตรงมา มันเป็นเพราะตำรวจหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลเพื่อไม่มันส่งผลกระทบกับรูปคดี
แต่ไม่ว่าจะเหตุผลใด คดีนี้ยังคงทำให้จ้าวหยู่รู้สึกกระอักกระอ่วน ราวกับว่ามีชิ้นส่วนกระจายไปทั่วจนไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นต่อมันจากตรงไหนดี แต่เขาต้องเริ่มต่อมันเข้าด้วยกัน เพื่อทำให้เขารู้ว่า ความจริงเบื้องหลังคดีธุรกรรมอำพรางอันแปลกประหลาดคืออะไรกันแน่?
หลังจากคิดเกี่ยวกับคดีนี้มากขึ้น จู่ ๆ จ้าวหยู่ก็เริ่มพิจารณาความสัมพันธ์ของเขาและเหมี่ยวอิงอีกครั้ง
วันนี้ เขาได้เห็นด้านที่อ่อนแอของเหมี่ยวอิง เป็นเพราะเขาได้เห็นด้านอ่อนแอของเธอ เขาจึงรู้สึกว่าเหมี่ยวอิงนั้นสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
แน่นอนว่า ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แม้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ เธอก็ยังมีความวิตกและความกังวลของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเหมี่ยวอิงจูบเขาอย่างน่าประหลาดใจ มันทำให้เขากระตือรือร้นมากขึ้น และเต็มไปด้วยความหวังมากขึ้น
แม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะไม่ชัดเจนนัก แต่หลังจากจูบอันเร่าร้อนในโรงพยาบาล จ้าวหยู่ก็รู้สึกเหมือนว่าวันที่เขาจะทำให้เหมี่ยวอิงเป็นของเขานั้น มันอยู่ไม่ไกลอีกต่อไป!
จ้าวหยู่ชอบเหมี่ยวอิงจริง ๆ เมื่อเขาอยู่กับเหมี่ยวอิง เขารู้สึกถึงหัวใจที่เต้นรัว ความดุร้ายของเหมี่ยวอิงไม่สำคัญ ความตั้งใจของเธอขณะทำงานหรือแม้แต่ความดื้อรั้นของเธอก็ไม่สำคัญ ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอทำให้จ้าวหยู่หลงใหลในตัวเธอมากขึ้น เช่นเดียวกับที่เขาร้องเพลงที่คาราโอเกะ
"แม้ว่าฉันรู้ว่าการคิดถึงคุณมันเจ็บปวด แต่ฉันก็ยังคิดถึงคุณ...♪"
...
*ก๊อก ก๊อก… ก๊อก ก๊อก…*
แม้ว่าจะเป็นเวลาเช้าตรู่ แต่เสียงเคาะประตูก็ทำให้เขาตื่นขึ้นมา
"นั่นใคร!" จ้าวหยู่ลุกจากเตียงอย่างงุ่มง่าม และพึมพำด้วยความรำคาญ “นี่ยังเช้าอยู่เลยนะ ให้ฉันนอนอย่างสงบไม่ได้หรือไง!?”
แต่เมื่อเขามองผ่านช่องตาแมว เขาก็หยุดราวกับถูกฟ้าผ่า คนที่มาเคาะประตูบ้านไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแม่ของเขา!!!
บ้านเกิดของจ้าวหยู่เป็นเมืองเล็ก ๆ ในจังหวัดเล็ก ๆ ใกล้ฉินชานซึ่ง ห่างจากตัวเมืองเกือบหนึ่งร้อยกิโลเมตร เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าแม่ของเขาจะมาที่บ้านของเขาในตอนเช้า!
จ้าวหยู่ยังคงรู้สึกคลุมเครือเกี่ยวกับพ่อแม่ของจ้าวหยู่ในโลกนี้ เขาจึงไม่แน่ใจว่าเขาควรจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร ดังนั้น เขาจึงเลื่อนการกลับบ้านไปเยี่ยมพวกเขาด้วยสารพัดข้อแก้ตัวต่าง ๆ เช่นเรื่องงานหรือการฝึกอบรม เขาไม่ได้กลับบ้านในเทศกาลไหว้บ๊ะจ่างด้วยซ้ำ
*ก๊อกก๊อก ก๊อกก๊อก…*
หญิงชรายังคงเคาะประตูโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม่ของจ้าวหยู่มีอายุมากกว่า 60 ปีแล้ว แต่เนื่องจากเธอออกกำลังกายบ่อย ๆ เธอจึงมีสุขภาพแข็งแรงมาก
จ้าวหยู่ไม่กล้าปล่อยให้เธอรอข้างนอก แต่เมื่อเขาเปิดประตู เขาจะเผชิญหน้ากับเธออย่างไร? แม้ว่าจ้าวหยู่จะดุร้ายและกล้าหาญมากเพียงใด แต่เมื่อเผชิญหน้ากับแม่ของเขาเอง มันก็ทำให้เขาตื่นตระหนกเป็นครั้งแรก
ขณะที่หญิงชราเคาะประตู ประตูตรงข้ามบ้านของจ้าวหยู่ก็เปิดออก ฮัวฮัวเดินออกมาในชุดนอนของเธอ แปรงฟันของเธอขณะที่เธอถามแม่ของจ้าวหยู่
"เฮ้ คุณคะ? ช่วยหยุดเคาะได้ไหมคะ? คุณมาหาใครเหรอคะ?"
"จ้าว… จ้าวหยู่! ฉันกำลังตามหาจ้าวหยู่ เขาเป็นตำรวจ!" คิ้วของหญิงชราขมวดเข้าหากันขณะที่เธอพูด
เมื่อจ้าวหยู่ได้ยินการสนทนา เขาก็รู้ตัวว่าเขาไม่สามารถลังเลได้อีกต่อไป เขาจึงเปิดประตูทันที
แต่ทันทีที่ประตูเปิดออก สิ่งแรกที่เขาได้ยินคือเสียงสุนัขเห่า
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!”
สุนัขสูงเกือบหนึ่งเมตรวิ่งออกมาจากด้านหลังฮัวฮัว และเดินวนรอบจ้าวหยู่
“ต้า… ต้าเหิง?” จ้าวหยู่มองเจ้าสุนัขก่อน จากนั้นมองไปที่หญิงชรา จากนั้นจึงตะโกนว่า "แม่! มีอะไรรึเปล่า? ทำไมถึงมาที่นี่?”
"โอ้พระเจ้า คนแถวนี้เลี้ยงหมาในบ้านเหรอ?” หญิงชราตกใจมาก เธอหันกลับมามองฮัวฮัวที่นุ่งน้อยห่มน้อย จากนั้นมองไปที่ลูกชายของเธอเอง เธออึ้งไปชั่วขณะ
"โอ้... นี่คุณแม่ของจ้าวหยู่ อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณป้า!" ฮัวฮัววางแปรงสีฟันลงทันทีและทักทายหญิงชรา จากนั้นหันไปหาจ้าวหยู่ “เจ้าหน้าที่จ้าว ขาของต้าเหิงหายเป็นปกติแล้ว ตราบใดที่เขาไม่ขยับเขยื้อนมากเกินไป มันจะหายสนิทภายในสองสามวัน!”
"โอ้...เยี่ยมมาก! ขอบคุณนะ อ้อ จริงสิ แม่" จ้าวหยู่ชี้ไปที่ฮัวฮัว และแนะนำเธอ "นี่คือเพื่อนบ้านของฉัน... อืม..."
แต่หญิงชรากลับเพิกเฉยต่อฮัวฮัว และเดินเข้าไปในบ้านของจ้าวหยู่ ต้าเหิงไม่รู้ว่าหญิงชราเป็นใคร ดังนั้นมันจึงเริ่มวนเวียนอยู่รอบ ๆ หญิงชราทันที
"ไปให้พ้น!" หญิงชราคำราม ต้าเหิงหดกลับด้วยความกลัวและซ่อนตัวอยู่ข้างหลังจ้าวหยู่ทันที
“อืม…” จ้าวหยู่สามารถบอกได้ว่าแม่ของเขาค่อนข้างโกรธ เขาหันไปและยักไหล่กับฮัวฮัว จากนั้นก็ปิดประตู
"แม่ขอพูดอะไรหน่อยนะ" ทันทีที่ประตูปิดลง หญิงชราก็ชี้ไปทางฮัวฮัวด้วยความหงุดหงิด “ผู้หญิงแบบนั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก อย่าเข้าใกล้เธอมากเกินไป! แค่ดูก็รู้แล้วว่าทำงานอะไร...”
"แม่!" จ้าวหยู่ตะโกน แต่รู้สึกเหมือนอึดอัดเล็กน้อย จ้าวหยู่ในโลกเก่า เขาแทบไม่มีความสัมพันธ์กับพ่อแม่ของเขาเลย มันเป็นเวลานานมากแล้วที่เขาเรียกใครสักคนว่า ‘แม่’
"ฮึ่ม!" หญิงชราจ้องมองต้าเหิงด้วยความโกรธขณะที่เธอดุว่า "ลูกแม่ ลูกใกล้ชิดกับหมามากกว่าแม่อีก อา..." ขณะที่เธอดุ เธอเงยหน้าขึ้นมองจ้าวหยู่ ทันใดนั้นหญิงชราก็รีบโผเข้ามาและอุทาน
"ตายแล้ว! ลูกไปทำอะไรมา!? ทำไมถึงมีแผลเต็มตัวอย่างนี้!?"