บทที่ 5 - ขายปืน
บทที่ 5 - ขายปืน
“คงได้เวลาบอกลากันแล้ว ...”
หยางซือเล่ยเลื่อนมือไปแตะปืนพกไทป์54ในกระเป๋า พยายามดื่มด่ำไปกับรางวัลมือใหม่กระบอกนี้
ด้วยแต้มเสริมพลังในปัจจุบัน คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจำใจขายมัน
จะมองในแง่มุมไหน ปืนก็เป็นอาวุธสังหารที่แปลกใหม่ในโลกนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
อย่างไรก็ตาม การเสนอขายจำเป็นต้องแสดงตัวอย่าง และนั่นเท่ากับการเสียกระสุน
ปืนพกไทป์54 บรรจุกระสุนได้แปดนัด ก่อนหน้านี้ในห้องใต้ดินยิงไปแล้ว 6 นัด เหลือกระสุนเพียง 2 นัด
ทบทวนถึงเรื่องนี้ หยางซือเล่ยเปิดฟังก์ชั่นร้านค้าอาวุธเพื่อซื้อแม็กกาซีนบรรจุกระสุนใหม่ ราคาแลกเปลี่ยนคือ 10 แต้มพลัง
หลังจากเตรียมตัวพร้อม หยางซือเล่ยมองไปรอบๆ ไม่นาน ร้านขายอาวุธที่มีซุ้มประตูค่อนข้างโอ่อ่าก็ดึงดูดความสนใจของเขา
เดินเข้าไปในร้าน อาวุธเย็นทุกชนิดปรากฏสู่สายตา ที่มากสุดย่อมไม่พ้นกระบี่
“ท่านลูกค้า ไม่ทราบสนใจสิ่งใด?”
เถ้าแก่ร้านก้าวเข้ามาต้อนรับทันที แต่เมื่อเห็นว่าเป็นหยางซือเล่ย รอยยิ้มบนใบหน้าของเขากลับกลายเป็นดูแคลน
ทุกคนรู้ หยางซือเล่ยคือบุตรชายของผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงในเมืองชิงหยาง แต่ด้วยเหตุการณ์เมื่อวานที่เสียเงินจนหมดตัวในบ่อน มันได้กลายเป็นเรื่องขบขันของทุกคนหลังดื่มชาหรือตอนรับประทานอาหาร
“ที่แท้ก็นายน้อยหยาง ดูเหมือนท่านจะยังสบายดี นึกว่าถูกตัดมือตัดเท้าในบ่อนไปเสียแล้ว”
เถ้าแก่ร้านเยาะเย้ยแล้วพูดต่อว่า “เพื่อความชัดเจน ร้านข้าไม่มีนโยบายรับค้างชำระ”
หยางซือเล่ยพูดอย่างใจเย็น “ข้าไม่ได้มาเพื่อซื้อ แต่มาเพื่อขายอาวุธสังหารที่เรียกว่าปืน”
“ปืน? มันคืออาวุธสังหารแบบใดกัน?”
ได้ยินคำนี้ เถ้าแก่ร้านเริ่มสงสัยเล็กน้อย
โครม!
หยางซือเล่ยหยิบปืนพกสีดำออกมา แล้วตบมันลงบนโต๊ะ
“อะไร? เจ้าสิ่งนี้น่ะหรือ? ปราศจากคมมีด กล้าดีอย่างไรเรียกมันว่าอาวุธสังหาร?”
มุมปากของเถ้าแก่ร้านกระตุกเล็กน้อย ในชีวิตเขาเคยเห็นการคุยโม้โอ้อวดมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่โม้ได้ถึงขนาดนี้!
เจ้าคนฉาวโฉ่ผู้นี้คงสูญเงินจนหมดตัวและเสียสติไปแล้ว!
อีกฝ่ายจงใจใช้เศษเหล็กเพื่อคิดโกงเงินเขา!
เถ้าแก่ยิ้มแล้วเอ่ยถามว่า “เอาล่ะ เช่นนั้นถ้ามันคืออาวุธสังหาร ท่านเสนอราคาเท่าใด?”
หยางซือเล่ยพูดด้วยริมฝีปากที่แข็งทื่อ “หนึ่งร้อยตำลึงทอง”
จากข้อมูลความจำเจ้าของร่างเดิม เงินตราที่ใช้หมุนเวียนในโลกนี้ก็เหมือนกับในสมัยโบราณในชาติที่แล้ว ใช้สกุลเงินทองคำเป็นหลัก
หนึ่งร้อยตำลึงทอง นับว่าเหลือเฟือหากคิดนำไปซื้อโลหะ 300 จิน
แม้นี่จะเป็นภารกิจ แต่ราคาแลกเปลี่ยนของปืนพกไทป์54คือ 300 แต้มเสริมพลัง ไม่ว่ายังไงหยางซือเล่ยก็ไม่ยอมให้ตัวเองขาดทุน
เฮ้อ!
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินราคา เถ้าแก่ร้านถอนหายใจออกมาทันที
“นี่ท่านบ้าไปแล้วหรือ? ดาบยาวที่มีคุณภาพดีที่สุดในร้านข้ายังราคาแค่ 10 ตำลึงทองเท่านั้น แต่ท่านกลับขายเจ้าสิ่งนี้สูงกว่าของแพงในร้านข้าถึง 10 เท่า!”
ว่าจบ เถ้าแก่ร้านส่งสัญญาณขยิบตาให้พนักงาน
พนักงานรู้หน้าที่ ตรงเข้ามาทันที พร้อมที่จะพาตัวหยางซือเล่ยออกไป
แต่ในขณะนั้นเอง หยางซือเล่ยหยิบปืนพกบนโต๊ะขึ้นมา
กริ๊ก~!
เขาดึงสันปืนและเล็งไปทางเถ้าแก่ร้าน
เสียงด่าทอของเถ้าแก่ร้านขาดห้วงลงอย่างกะทันหัน มองไปยังปากกระบอกปืนเล็กๆ หัวใจเขาสั่นไหวเล็กน้อย
ไม่รู้ทำไม ด้วยเหตุผลบางอย่าง สัมผัสอันตรายอย่างแรงกล้าพลุ่งพล่านใจเขา!
ความรู้สึกทำให้เขาอึดอัดมาก ปรารถนาอย่างยิ่งยวดที่จะเลี่ยงทิศทางของปากกระบอกปืน
หยางซือเล่ยไม่พูดไร้สาระ เหนี่ยวไกอย่างเฉียบขาด
ปัง!
เสียงดังบาดหู เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง กระสุนที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า พุ่งผ่านหูของเถ้าแก่ร้านไป ยิงใส่เกราะเหล็กข้างหลังโต๊ะ
เคร้ง--!
เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น เกราะเหล็กถูกกระสุนเจาะทะลุในทันที หลุมดำปรากฏขึ้น
เสียงปืนดังขึ้นอย่างกระทันหัน เถ้าแก่ร้านกลัวมากจนแข้งขาอ่อนแรง เกือบจะนั่งลง
“นี่ …”
และฉากนี้ ถูกชายวัยกลางคนที่เพิ่งเดินเข้ามาจากนอกร้านเห็นเข้าพอดี
เขารีบเดินเข้าหาหยางซือเล่ยอย่างรวดเร็ว ในดวงตาเต็มไปด้วยประกายวิบวับ จดจ้องปืนพกไทป์54ด้วยความสนใจ เอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “น้องชายผู้นี้ ขอข้าดูสิ่งที่อยู่ในมือเจ้าหน่อยจะได้ไหม?”