บทที่ 35 หมีตกลงมาจากท้องฟ้า?
หลี่หรานกินจนอิ่มและกำลังจะนอน แต่ทันใดนั้นก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงขึ้นเสียก่อน จนเกือบจะทำให้เขาตกลงจากกิ่งไม้
“แผ่นดินไหว?” เขาเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสับสนและตกตะลึง
มันเป็นหมีสูงเกือบสิบเมตรที่กำลังวิ่งมาทางเขา ต้นไม้สูงที่ขวางหน้ามันทั้งหมดถูกโค่นลงอย่างง่ายดายราวกับของเล่น
ตรงหน้าหมีสีดำ ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีจากมัน
ขณะที่นางวิ่ง นางก็โบกมือแล้วตะโกนว่า “หนีไป หนีไปจากที่นี่!”
หลี่หรานพูดไม่ออก “……”
‘คนกำลังนั่งเล่นอยู่ที่บ้าน แต่หมีกลับตกลงมาจากท้องฟ้า?’
ศิษย์ของวิหารโหยวหลัวตื่นขึ้นและตื่นตัวทันที ในช่วงเวลานี้ พวกเขายังคงมีความระแวดระวังในระดับสูง อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเห็นหมีสีดำที่กำลังบ้าคลั่งตรงหน้า ขาของพวกเขาก็อ่อนแรง
หมีตัวนี้มีขนาดใหญ่เกินไป
พวกเขาต้องแข็งแกร่งขนาดไหนเพื่อเอาชนะสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาเช่นนี้?
—
ร่องรอยของความขมขื่นฉายชัดอยู่ในดวงตาของเซียวชิงเกอ
เดิมทีนางต้องการหาแหล่งน้ำเพื่อซ่อนตัวและหลีกเลี่ยงการไล่ล่าของหมีปีศาจทมิฬ
แต่สิ่งที่นางไม่คาดคิดก็คือมีกลุ่มคนตั้งค่ายพักแรมอยู่ใกล้แหล่งน้ำ
ความคิดแรกของนางคือ ‘ข้ากำลังพาพวกเขาไปสู่ความตาย!’
หมีปีศาจทมิฬตัวนี้มีฐานการบ่มเพาะขอบเขตกำเนิดจิตวิญญาณเป็นอย่างน้อย เมื่อรวมกับร่างกายที่ทรงพลัง แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแก่นทองคำก็ยังต้องหวาดกลัว!
นับประสาอะไรกับชายหนุ่มและหญิงสาวกลุ่มนี้?
“เดิมทีข้าแค่อยากจะมีชีวิตอยู่ ข้าไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะต้องเป็นฆาตกรก่อนที่จะตาย...” เซียวชิงเกอกัดฟันสีขาวของนางและตัดสินใจ
—
หลี่หรานจ้องมองเด็กสาวและหมีสีดำ ดวงตาของเขาเยือกเย็นและสงบ
‘อะไรของผู้หญิงคนนั้นกัน? ต้นตอแห่งหายนะ? ต้องการยืมมีดเพื่อฆ่าหมี? หรือ... ข้าควรฆ่านางและหมีไปพร้อมกันเลย?’
[TL: ยืมมีดเพื่อฆ่า - โจมตีโดยใช้กำลังของผู้อื่นเมื่อกำลังของเราไม่เพียงพอ]
ขณะที่หลี่หรานกำลังคิด หญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าก็ทำสิ่งที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้
นางตะโกนเบาๆว่า “หนีไป!” จากนั้นนางก็หยุดและหันไปเผชิญหน้ากับหมีปีศาจทมิฬพร้อมกับกางแขนออก
การกระทำนี้เป็นการฆ่าตัวตายอย่างไม่ต้องสงสัย นางต้องการใช้ชีวิตของนางเพื่อซื้อเวลาให้หลี่หรานและคนอื่นๆหลบหนี!
อย่างไรก็ตาม ความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่นางคาดหวัง ในสายตาของหมีปีศาจทมิฬ ความเย้ายวนใจของอาหารจานเดียวกับอาหารเต็มโต๊ะนั้นแตกต่างกันอย่างมาก
ศิษย์กลุ่มนี้จากวิหารโหยวหลัวที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกระทันหันมีความน่าสนใจมากกว่าเซียวชิงเกอเพียงอย่างเดียว
โฮกกก!
หมีปีศาจทมิฬกระทืบต้นขาอวบของมันและคำรามขณะที่พุ่งเข้าหากลุ่มคน
“ไม่!” ร่องรอยของความวิตกกังวลฉายชัดอยู่ในดวงตาของเซียวชิงเกอ นางทนไม่ได้จริงๆที่ต้องเห็นคนอื่นตายเพราะนาง!
อย่างไรก็ตาม ด้วยปราศจากฐานการบ่มเพาะ นางทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างหมดหนทาง นางไม่สามารถทำอะไรได้เลย
โฮกกก!
อุ้งมือของหมีขนาดมหึมาปกคลุมท้องฟ้าและผืนดิน ในขณะที่มันตะปบลงไปยังกลุ่มคนอย่างโหดเหี้ยม!
ดวงตาของศิษย์วิหารโหยวหลัวเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ทันใดนั้นแสงสีขาวพร่างพราวก็สว่างขึ้น และโลหิตสีแดงสดก็กระเซ็นไปทั่ว!
ท่ามกลางสายฝนโลหิตที่โปรยปราย หลี่หรานถือหอกเงินขณะที่เสื้อผ้าของเขาปลิวไสวไปตามสายลม
อุ้งเท้าของหมีปีศาจทมิฬถูกตัดออก และเลือดก็ไหลออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง
กรรรจ์! กรรรจ์!
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้มันบ้าคลั่งทำลายต้นไม้จำนวนมาก
เสียงของหลี่หรานยังคงสงบในขณะที่เขาเดินผ่านความวุ่นวาย “ซ่อนตัวให้ดี ข้าไม่รับผิดชอบต่อการตายของพวกเจ้า”
ต่อหน้าหมีปีศาจทมิฬ แผ่นหลังของเขาดูเล็กจ้อย แต่ในสายตาของเหล่าศิษย์ มันกลับดูยิ่งใหญ่มาก!
“ท่านต้องระวังตัวด้วย!” ลู่ซินหรานพูดอย่างเป็นห่วง
—
หมีปีศาจทมิฬได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ดวงตาที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดและแรงกดดันจ้องมองมาที่เขา
มันยกอุ้งมืออีกข้างขึ้นมาและตะปบหลี่หรานด้วยความเร็วปานสายฟ้า
ปัง!
หลังจากเสียงดังปัง หลุมขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นบนพื้น หมีปิศาจทมิฬยกอุ้งมือขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่น่าสะพรึงกลัว แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้กลายเป็นเนื้อบดอย่างที่จินตนาการไว้
มันเอียงศีรษะด้วยความสับสน เพียงเพื่อที่จะเห็นร่างเล็กๆกระโดดออกมาจากหลุมและปลดปล่อยออร่าสีเงินที่ทำให้โดยรอบสว่างไสว
หมีปิศาจทมิฬยื่นมือออกไปโดยสัญชาตญาณและคว้าร่างที่ระยิบระยับตรงหน้า คลื่นความเจ็บปวดอันรุนแรงกระทบกับฝ่ามือ มันถูกแสงสีขาวทะลุผ่านและร่างนั้นก็ส่องสว่างราวกับดาวตกในดวงตาของมัน
“ทะลวงสุริยัน!”
ปึก!
หอกสีเงินแทงเข้าไปในดวงตาของหมีปิศาจทมิฬ เลือดและของเหลวสีโคลนทะลักออกมาจากดวงตาของมัน
กรรรจ์! กรรรจ์!
ความเจ็บปวดอันรุนแรงส่งผลให้หมีปีศาจทมิฬสูญเสียความมีเหตุมีผล
มันเริ่มอาละวาดในขณะที่เหวี่ยงฝ่ามือไปทางหลี่หรานอย่างโกรธเกรี้ยว
อย่างไรก็ตาม ร่างของหลี่หรานหายวับไปในทันที ทำให้ฝ่ามืออันทรงพลังของหมีปีศาจทมิฬตกลงบนใบหน้าของมัน
พลังฝ่ามืออันไร้ที่เปรียบบดขยี้ใบหน้าของหมีปีศาจทมิฬเอง มันเซถอยหลังไปสองก้าวพร้อมกับคำรามออกมา
ร่างของหลี่หรานลอยขึ้นไปในอากาศ หอกสีเงินของเขาส่งเสียงหึ่งๆราวกับสั่นไหว
ดวงตาสีแดงเข้มที่เหลืออยู่ของหมีปีศาจทมิฬจ้องเขม็งมาที่เขา คลื่นของความผันผวนหมุนวนอยู่บนฝ่ามือของมัน และฝ่ามือก็ขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่าในทันที
ฝ่ามือสีดำขนาดใหญ่คล้ายกับภูเขาลูกย่อมบดขยี้ลงมา แรงกดดันที่เกิดขึ้นพัดต้นไม้ที่อยู่รอบๆกระจายออกไป
ฝ่ามือที่บรรจุพลังทั้งหมดของหมีปีศาจทมิฬที่ราวกับจะบดขยี้ชั้นบรรยากาศ ทำให้รู้สึกสิ้นหวังและไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน
แม้แต่ผู้บ่มเพาะขอบเขตแก่นทองคำก็ไม่สามารถรับการโจมตีนี้ได้!
“ไม่!” เสียงของลู่ซินหรานเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
“ข้าขอโทษ...” หัวใจของเซียวชิงเกอรัดแน่น ใบหน้าซีดขาวของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
เมื่อเห็นว่าฝ่ามือของหมีปีศาจทมิฬกำลังจะโจมตีลงมา มือขวาของหลี่หรานก็เปล่งแสงสีเงิน
พลังของหมัดสยบมารพุ่งเข้าสู่หอกหยุนหลิงอย่างบ้าคลั่ง
พร้อมกับมือขวาที่ถือหอกไว้ ร่างของเขาซึ่งลอยอยู่กลางอากาศหมุนวนจากบนลงล่าง
“ตาย!”
แสงสีเงินพุ่งทะลวงท้องนภา และเจตจำนงแห่งหอกที่พยายามทำลายล้างทุกสิ่งก็ปรากฏขึ้น มันทะลวงทุกสิ่งที่ขวางหน้าและแยกออกเป็นสองส่วน
หมีปีศาจทมิฬยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความมึนงง ทั้งสถานที่เงียบลงราวกับเวลาถูกหยุดไว้
หลี่หรานร่อนลงบนพื้นอย่างนุ่มนวล
แคร่ก!
สายโลหิตปรากฏขึ้นบนร่างอันใหญ่โตของหมีปีศาจทมิฬ
ดวงตาที่ตกตะลึงของหมีปีศาจทมิฬค่อยๆแยกออกเป็นสองส่วน เส้นสายโลหิตพุ่งออกมาราวกับน้ำตก และร่างที่ถูกแยกส่วนของมันก็ลมตึงลงไปด้านหลัง ทับถมต้นไม้จำนวนนับไม่ถ้วน
สัตวอสูรที่น่าสะพรึงกลัวถูกแยกออกเป็นสองส่วนด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
หลี่หรานปัดคราบเลือดบนหอกของเขาออกและพูดอย่างเฉยเมยว่า “เราจะมีหมีดำย่างเป็นของว่างตอนเที่ยงคืน ใครมีข้อโต้แย้งอะไรไหม?”
//////////