ตอนที่แล้วบทที่ 9 ประกาศฟอรั่ม 20 สังหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11 ไม่มีผู้รอดชีวิต

บทที่ 10 คำพูดสุดท้าย


บทที่ 10 คำพูดสุดท้าย

.

บนระเบียงที่ไหนสักแห่งในเมือง

ชายสวมฮู้ด หน้าซีดมองโทรศัพท์และคำรามออกมาด้วยความโกรธ “เหลืออีกนิดเดียว แต่ชายคนนี้กลับนำหน้าไปก่อน”

ชายร่างกำยำถือแท่งเหล็กที่เต็มไปด้วยเลือดสีดำ เดินออกมาจากห้องด้านหลังพร้อมกับหัวเราะ

“ฮ่าฮ่า ฉันก็บอกแล้วให้รีบ แต่นายประมาทเอง ตอนนี้เป็นไงล่ะ ฉายาถูกขโมยไปแล้ว ถึงฉันไม่รู้ว่าฉายามีไว้เพื่ออะไรก็เถอะ”

ชายสวมฮู้ดพูดอย่างหงุดหงิด “นั่นไม่ใช่เพราะนายมาแย่งฉันฆ่าซอมบี้เรอะ”

ชายถือแท่งเหล็กพูดอย่างอ่อนใจ “ใครจะคิดว่าการสังหารครั้งแรกจะมีรางวัลตอบแทน ไม่งั้นฉันไม่แย่งนายแน่ ใครจะยอมปล่อยให้ของดีๆหลุดไปให้คนนอกล่ะ”

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป “ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าคะแนนมีไว้เพื่ออะไร แต่ดูเหมือนว่าคนที่ใช้ไอดีชื่อเด็กโชคดีจะรู้ และกำลังกวาดล้าง ‘ซอมบี้’ จำนวนมากเพื่อสะสมคะแนน

ชายสวมฮู้ดพูดอย่างคนใจร้อน “ยังต้องพูดอะไรอีก? ต่อให้เขารู้แล้วจะมีประโยชน์อะไร ถ้าเขาไม่บอกเรา”

ชายถือแท่งเหล็กพยักหน้า “นอกจากนี้ ภารกิจเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้ก็คือรวบรวมผู้คนจากองค์กรต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียง”

ชายสวมฮู้ดขมวดคิ้ว “เรามาที่นี่แล้ว ยังต้องฟังตาแก่พวกนั้นอยู่อีกเหรอ? เกมวันโลกาวินาศนี้ไม่ใช่หายนะสำหรับเรา แต่เป็นโอกาส”

“นั่นแหละที่จะพูด เราสามารถดูสถานการณ์ไปก่อน แต่ยังไงก็ควรกลับไป”

สิ้นสุดประโยคนั้น ชายสวมฮู้ดก็กระโดดลงจากระเบียงชั้นสอง มาเตะซอมบี้ที่อยู่ชั้นล่าง ต่อด้วยทุบด้วยไม้จบชีวิตของมัน

……

ซูฉางซิงเห็นข้อความจากสัตว์น้อยผู้โหดเหี้ยมในข้อความส่วนตัว

สัตว์น้อยผู้โหดเหี้ยม: เฮ้ น้องชายเก่งจัง เป็นคนแรกที่ฆ่าได้ 20 ตัว ยินดีด้วย ผมจะกลับไปทำงานเก่า ไม่รู้ว่าน้องชายสนใจจะเข้าร่วมไหม?

เด็กโชคดี: งานเก่า?

สัตว์น้อยผู้โหดเหี้ยม: มันเป็นการรวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่ม เพื่อเผชิญอันตรายไปด้วยกัน

ซูฉางซิงเข้าใจทันทีว่าคนผู้นี้เป็นหัวหน้าแก๊งอันธพาลที่ล้างมือไปแล้วมาก่อน

ซูฉางซิงคิดอยู่ชั่วครู่และตอบกลับไปว่า: ไม่ใช่ทุกคนที่อยู่ในสถานที่เดียวกัน มันดูไม่สมเหตุสมผลนักที่จะพูดแบบนี้

สัตว์น้อยผู้โหดเหี้ยม: ที่ผมพูดมันสมเหตุสมผลแน่ จากการวิเคราะห์ ผมพบว่า มันควรมีหลายฟอรั่ม ผู้คนที่อยู่ในบริเวณเดียวกันจะได้รับมอบหมายให้อยู่ในฟอรั่มเดียวกัน เพราะถ้าผู้คน 10,000 ล้านคนอยู่ในฟอรั่มเดียวกัน ฟอรั่มคงแตกไปแล้ว ดังนั้นจึงมีโอกาสมากที่เราจะอยู่ในเมืองเดียวกัน และแม้กระทั่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

สิ่งนี้คล้ายกับที่ซูฉางซิงคิด ที่ว่าทุกคนอาจไม่ได้อยู่ในฟอรั่มเดียวกัน แต่จะอยู่ในบริเวณเดียวกันหรือไม่นั้น เขาไม่แน่ใจ จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันถูกกำหนดให้แบบสุ่ม

เด็กโชคดี: มันก็ใช่ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

สัตว์น้อยผู้โหดเหี้ยม: ชุดหมายเลขประจำตัวของคุณมีอักษรอะไร ของผมเริ่มต้นด้วย 191 ลงท้ายด้วย 0A น้องชาย หมายเลขของคุณก็น่าจะเหมือนกัน

แม้จะไม่รู้ว่าหมายเลขประจำตัวมีประโยชน์อะไร แต่คนๆนี้ก็ยังระมัดระวังตัวมาก เขาเพียงแค่บอกตัวเลขหน้าและอักษรลงท้ายมาเท่านั้น

ซูฉางซิงจำได้ว่ามีหมายเลขประจำตัวอยู่หลายชุด ซึ่งก่อนหน้านี้เขาไม่เคยสนใจที่จะศึกษามันมาก่อน ตัวเขาเองก็มีตัวเลขขึ้นต้นด้วย 191 และลงท้ายด้วย 0A เหมือนกัน

เด็กโชคดี: สำหรับเรื่องนี้ ผมขอคิดดูก่อน ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง

สัตว์น้อยผู้โหดเหี้ยม: โอเค ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือก็มาหาผม จำไว้ว่าผมยังเป็นหนี้บุญคุณ คุณอยู่

“นับว่าเป็นขิงแก่คนหนึ่ง”

ซูฉางซิงตัดสินอย่างคร่าวๆขณะที่วางโทรศัพท์ จากนั้นก็หยิบมีดเหล็กเดินออกนอกประตูไป ตอนนี้เขากระตือรือร้นที่จะลองใช้พลังของความสามารถแยกหัว

แต่หลังจากมาถึงชั้นนี้ จำนวนซอมบี้น้อยลงมาก หลังจากเดินสำรวจก็ยังไม่พบซอมบี้เลย

“พูดได้ว่ารู้สึกเกลียดซอมบี้น้อยลง เมื่อสูญเสียบางสิ่งไปเท่านั้น เราถึงจะรู้วิธีถนอมสิ่งนั้นไว้”

“หือ? นี่คือ…”

ในห้องสุดท้าย ซูฉางซิงพบมัมมี่ 2 ศพ ห้อยโตงเตงอยู่กับเชือก ร่างท่อนล่างหายไป ผิวเป็นสีดำ เลือดเนื้อแห้งกรังไปหมดแล้ว

ชัดเจนว่านี่เป็นสองคนที่สิ้นหวังกับโลกนี้และฆ่าตัวตายไปพร้อมกัน บางทีอาจเป็นคู่รัก พี่น้อง หรือไม่ก็เพื่อนร่วมงานกัน

“การฆ่าตัวตายเป็นการกระทำของคนขี้ขลาด… แต่จากมุมมองนี้ มนุษย์จะไม่กลายเป็นซอมบี้หลังความตาย ดังนั้นซอมบี้จึงน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่ง เป็นสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่ง”

ซูฉางซิงสังเกตมัมมี่อย่างระมัดระวัง แต่ก็ไม่พบอะไรมากนัก แต่กลับพบสมุดบันทึกเปิดอยู่บนโต๊ะที่เต็มไปด้วยฝุ่นข้างๆ ลายมือที่อยู่ในนั้นทั้งเป็นระเบียบและสวยงาม

[ส่งถึงผู้มาภายหลัง: ไม่รู้ว่าจะมีใครได้อ่านบันทึกนี้หรือไม่ อาจมีหรือไม่มีก็ได้

แต่ฉันหวังว่าจะมีคนเห็นบันทึกนี้ อย่างน้อยก็หมายความว่ายังมีมนุษย์อยู่

ฉันชื่อหวังไหลตง เป็นนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ระดับ A ที่ถูกส่งมาโดยบริษัทโล่เทพเจ้า ฉันมาที่นี่เพื่อควบคุมและรายงาน แต่แล้วจุดจบก็มาถึง

ตอนแรกมีเพียงไม่กี่คนในเมืองที่กลายเป็นสัตว์ประหลาด ต่อมาก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วสถานการณ์ก็อยู่เหนือการควบคุมโดยสิ้นเชิง ไฟฟ้าและการสื่อสารทั้งหมดถูกตัดขาด ส่งผลให้เราไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้อย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้เรายังไม่มีวิธีติดต่อกับสำนักงานใหญ่อีกด้วย

ทั้งเมืองถูกตัดขาดจากโลกภายนอกกลายเป็นเกาะโดดเดี่ยว

หลังวันโลกาวินาศปะทุขึ้น เราเริ่มศึกษาสาเหตุของการเกิดสัตว์ประหลาด แต่ยิ่งวิจัยมากขึ้นก็ยิ่งหมดหวังมากขึ้น

เราพบว่าสาเหตุของการระบาดวันโลกาวินาศนั้น เกี่ยวข้องกับแผนเครือข่ายพลังงานของโล่เทพเจ้า

และเมื่อเวลาผ่านไป รังสีของเชื้อนี้ก็แรงขึ้นเรื่อยๆ และความเร็วในการกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดของมนุษย์ก็เร็วขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาเดียวกันประสิทธิภาพในการวิจัยของเราก็สูงขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน จนกระทั่งเราทุกคนแสดงอาการของเนื้อร้าย

เมื่ออาการป่วยปรากฏ ก็จะกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดที่เราตั้งชื่อเรียกชั่วคราวว่าซอมบี้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน

ดังนั้นเมื่อปรากฏอาการของการกลายร่างแล้ว เราจะให้คนๆนั้นฆ่าตัวตายเอง เพื่อไม่ให้เป็นภาระของคนอื่น

หากคุณต้องการศึกษาซอมบี้ คุณสามารถไปที่ชั้นบนสุดเพื่อดูผลการวิจัยของเรา

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการต่อสู้ที่ไร้ประโยชน์ มนุษยชาติกำลังมุ่งหน้าสู่การสูญพันธุ์ในที่สุด เราถูกทำลายด้วยมือของเราเอง]

“แผนเครือข่ายพลังงาน? ไฟฟ้าและการสื่อสารถูกตัดขาด? เป็นเพราะอะไรหรือว่ามีอะไรพิเศษอยู่ในอากาศ?”

ซูฉางซิงสามารถยืนยันได้คร่าวๆแล้วว่า เชื้อแพร่กระจายอยู่ในอากาศ ตราบใดที่อยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ก็จะติดเชื้อ

ดังนั้นตอนนี้เขาก็ติดเชื้อแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่แสดงอาการ ตามที่บันทึกระบุ เมื่อปรากฏอาการก็จะกลายร่างเป็นซอมบี้อย่างรวดเร็ว

“หรือว่ามนุษย์บนโลกนี้กลายเป็นซอมบี้กันหมดแล้ว อืม เป็นไปได้สูงมาก”

ซูฉางซิงสูดลมหายใจเข้าลึก เดินขึ้นไปอีกชั้นทันที และที่นี่ก็ไม่น่าจะไกลจากชั้นบนสุด ภาพที่แท้จริงในการปะทุของวันโลกาวินาศอาจอยู่ชั้นบน

  

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด