ตอน ร้านทอง
ตอน ร้านทอง
ร้านขายทองตั้งอยู่ในชั้น 1 ของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ กระจกสูงจากพื้นจรดเพดานดูสะอาดตา เมื่อมองผ่านกระจก จะมองเห็นเครื่องประดับเงินประดับทองแวววาวที่ส่องประกายระยิบระยับท่ามกลางแสงไฟ
และตรงกลางทางเดินในห้างสรรพสินค้าที่กว้างขวาง หน้าร้านทองเป็นร้านชา เมื่อก่อนเจียงหลินมักแวะมาที่นี่ และชอบสั่งน้ำเสาวรสผสมน้ำผึ้งที่มีรสเปรี้ยวอมหวานมาแก้วหนึ่งเสมอ
ระหว่างรอน้ำเสาวรสผสมน้ำผึ้ง เจียงหลินเลยสังเกตเห็นป้ายหน้าร้านทอง ‘รับซื้อทองในราคาสูง’
แต่ตอนนั้นเธอไม่มีทองขาย เลยเพียงแค่มองผ่านๆอย่างไม่ใส่ใจ วันนี้คาดไม่ถึงว่าจะได้ขายทอง และทองที่ขาย ไม่ใช่แค่ชิ้นหรือสองชิ้น!
มือเจียงหลินกำกระเป๋าไว้แน่น ตลอดมาเธอแค่มองผ่านกระจกชั้นนอก ไม่เคยเข้าร้านทองจริงๆ แต่ครั้งนี้เธอกลับมาจากมิติอื่นพร้อมทองเต็มห่อ
ไม่ว่าทองพวกนี้จะเป็นของจริงหรือไม่ มันก็ทำให้เธอประหม่าเล็กน้อย แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความหวัง
เมื่อเจียงหลินผลักเปิดประตูกระจก พนักงานขายก็เข้ามาต้อนรับเธออย่างอบอุ่น
หลังจากเจียงหลินอธิบายว่าเธอมีทองมาขาย พนักงานก็แสดงรอยยิ้มแบบมืออาชีพ พาเธอไปยังเคาน์เตอร์
สำหรับเครื่องประดับที่ทำจากทอง หรือที่เรียกว่าทองรูปพรรณ มันไม่เพียงใช้สวมใส่ แต่ยังรักษามูลค่าไว้ได้อีกด้วย สำหรับครอบครัวที่พอมีเงิน มักซื้อพวกมันไว้สะสม
คราวนี้ ผู้รับผิดชอบการรับซื้อทองไม่ใช่พนักงานขายในเครื่องแบบอีกต่อไป แต่เป็นชายวัยกลางคน ชายคนนั้นมองเจียงหลินอย่างเงียบ ๆ สายตาจับจ้องไปที่กระดุมหยกมงคลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยถามอย่างสุภาพว่า “ยินดีต้อนรับ ได้ยินว่าคุณมีทองมาขาย?”
เจียงหลินพยักหน้า หยิบทองกองโตจากห่อกระดาษ
ผู้รับซื้อมองดู “ทั้งหมดนี่ซื้อมาเมื่อหลายปีก่อนใช่หรือเปล่า?”
เจียงหลินไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงถามอย่างนั้น ของพวกนี้เพิ่งอยู่ในมือเธอได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง
แต่พอคิดดูดีๆ เธอเพิ่งข้ามมิติมานี่นา ระหว่างนั้นอาจผ่านกาลเวลาเป็นหลายปีก็ได้ ฮ๊าาา!
เจียงหลินเออออตามคำพูดเขาแล้วถามว่า “คุณรู้ได้ยังไง?”
“บนทองมีคำว่าทองพันบริสุทธิ์ มันเป็นตราของเมื่อหลายปีก่อน สมัยก่อนที่จีนจะมีตราประดับบนทองว่า ทองพันบริสุทธิ์ ทองหมื่นบริสุทธิ์ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น ทอง 999 หรือทอง 9999 แล้ว”
ผู้รับซื้อมีทัศนคติที่ดี เขาอธิบายให้เจียงหลินฟังอย่างใจเย็น
เจียงหลินพยักหน้ารับความรู้ คิดในใจว่าโชคดีที่ตราประทับทองในมิติอื่นเหมือนกับของในโลกนี้ ไม่งั้นเธอคงคิดไม่ออกว่าจะหาคำอธิบายมาตอบยังไง
เรื่องนี้ทำให้เจียงหลินตระหนักได้ ว่าเธอต้องไปศึกษาความรู้ด้านนี้เอาไว้บ้าง กลับไปเมื่อไหร่จะซื้อหนังสือมาอ่าน
ในห่อกระดาษ มีเครื่องประดับหลายชิ้นที่แพ็คมารวมๆกัน ไล่ตั้งแต่สร้อยข้อมือ สร้อยคอ แหวน จี้ ฯลฯ
ผู้รับซื้อหยิบสร้อยข้อมือสองเส้นออกมา และกะน้ำหนักมันด้วยมือข้างละเส้น และสังเกตได้ว่าน้ำหนักแต่ละข้างเท่ากัน จากนั้นก็คัดแยกตามขนาดของชิ้นส่วน แล้วนำไปวางบนตาชั่งเพื่อดูน้ำหนักโดยประมาณ
เจียงหลินมองไปยังเครื่องชั่งอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่มีทศนิยมสามตำแหน่ง และเห็นว่าน้ำหนักรวมประมาณ 500 กรัม
หลังจากผู้รับซื้อขออนุญาตเจียงหลินว่าสามารถเผาได้หรือไม่ เขาก็นำชิ้นส่วนเล็กๆทั้งหมดออกไป แล้วนำสิ่งที่คล้ายกับกระบอกปืนฉีดไฟจี้พวกมัน
เจียงหลินรับชมจากด้านข้าง ในใจวิตกไม่น้อย
ไม่นานหลังจากผ่านการตรวจสอบด้วยอุปกรณ์หลายชุด ก็ได้ผลสรุปออกมา
แม้ว่าบางอันจะไม่ใช่ทองคำบริสุทธิ์ก็ตาม แต่พวกมันเป็นผลิตภัณฑ์ทองคำ 18k หรือรองลงไป ง่ายๆคือนับว่ายังเป็นทองอยู่ สามารถขายได้
เจียงหลินรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ด้านผู้รับซื้อก็เริ่มตรวจสอบสร้อยข้อมือ
“คุณไม่มีใบรับประกันทอง? งั้นเสียใจด้วยที่ต้องบอกว่าทุกวันนี้มีโรงงานเล็กๆทำของปลอมออกมาเยอะ ด้านนอกอาจเป็นทองก็จริง แต่ปัญหาคือภายใน ถ้าจะขายให้ทางเรา เราจำเป็นต้องผ่าดูข้างใน ไม่ทราบคุณยินดีไหม?” ผู้รับซื้อขออนุญาตเจียงหลินว่าผ่ามันได้หรือไม่
“เอาเลย ผ่ามันแล้วดูข้างในกัน” เจียงหลินเองก็ไม่รู้ว่าที่ซื้อมาเป็นทองจริงหรือเปล่า แต่เนื่องจากต้นทุนต่ำ ฉะนั้นต่อให้สร้อยทองที่ซื้อมาถูกผ่าเป็นชิ้นๆ เธอก็ไม่ทุกข์ร้อนใดๆ
หลังจากผู้รับซื้อผ่ามันออก มองสีข้างในสร้อย และใช้เครื่องมือตรวจอีกครั้ง ก็ยืนยันว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
การตรวจสอบทองเบื้องต้นเป็นอันเสร็จสิ้น ผู้รับซื้อเริ่มจัดประเภทเครื่องประดับทองตามหมวดหมู่ จากนั้นนับกรัมอีกครั้ง
เขาเอ่ยข้อเสนอกับเจียงหลิน “ราคาทองคำบริสุทธิ์ในตอนนี้อยู่ที่ 330 หยวนต่อกรัม ทอง K อยู่ที่ 235 หยวนต่อกรัม และในเครื่องประดับของคุณมีแพลเลเดียมผสมอยู่เล็กน้อย ราคาของแพลเลเดียมคือ 460 หยวนต่อกรัม นี่คือราคารับซื้อของเรา รับได้หรือไม่?”
เจียงหลินพยักหน้า เธอบอกเขาว่าไม่คัดค้านราคานี้ “ฉันรับได้”
การปรากฏของแพลเลเดียมในเครื่องประดับทองพวกนี้เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ
ตอนแรกเจียงหลินไม่รู้ว่าพวกมันคืออะไร เธอเคยสงสัยว่าในสร้อยทองจะมีแพลเลเดียมที่เป็นเงินอยู่ได้ยังไง เพราะแบบนั้นไม่เท่ากับวางเกวียนไว้หน้าม้าหรอกหรือ?
แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว ปรากฏว่าแพลเลเดียมมีส่วนช่วยในการคงรูปทองรูปพรรณ
และความจริงแล้วราคาของมันตามท้องตลาดแพงกว่าราคาทองคำบริสุทธ์ซะอีก
ผู้รับซื้อกดเครื่องคิดเลข เสียงของมันฟังดูรื่นหูเจียงหลินมากตอนนี้ หลังจากคำนวณราคา ผู้รับซื้อก็แสดงมันแก่เจียงหลิน
“ยอดรวม 152,000 หยวน ทางร้านเราไม่มีเงินสดมากถึงขนาดนั้น ไม่ทราบต้องการให้ทางเราโอนผ่าน Wechat หรือ Alipay? อ้อ หรือจะโอนเข้าบัญชีธนาคารของคุณก็ได้เหมือนกัน”
“มากขนาดนี้เลย ... งั้น ... โอนเข้าธนาคารแล้วกัน ...” แม้จะนำทองพวกนี้มาขาย แต่เจียงหลินเอาจริงๆไม่ได้รู้ราคาของพวกมันเลยซักนิด ตอนแรกเธอคิดว่าแค่ขายแล้วได้เงินมาซักนิดซักหน่อยก็พอใจแล้ว
ดังนั้นเมื่อผู้รับซื้อเสนอราคารวม เจียงหลินจึงตกใจมาก เพราะในอีกโลกนึง ราคาของพวกมันทั้งหมดมีค่าน้อยกว่าขนมเซาปิ่งหนึ่งกล่อง! ตอนนั้นเธอขายเซาปิ่งครึ่งกล่องได้ในราคา 150 แกนคริสตัล!
และซื้อทองกองนี้มาในราคา 10 แกนคริสตัลเท่านั้น!
เมื่อคิดว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เจียงหลินก็อดตื่นเต้นไม่ได้
การเดินทางข้ามมิตินี่มันดีจริงๆ! ทำเงินได้มหาศาล!
เจียงหลินเปิดดูข้อความแจ้งเตือนในมือถือ ใบหน้าภายนอกของเธอนิ่งเฉย แต่ภายในใจแอบนับเลขศูนย์ข้างหลังอยู่หลายครั้ง
เธอลองเปิดแอปธนาคาร ดูเงินที่เข้าบัญชี แล้วเดินออกจากร้านทองอย่างใจเย็นท่ามกลางเสียงขอบคุณและขอให้เธอได้มาใช้บริการอีกอย่างสุภาพจากพนักงานขาย
ฝีเท้าของเจียงหลินกระฉับกระเฉงไปตลอดทาง เมื่อได้เงินก้อนใหญ่มา สิ่งแรกที่เธอทำคือจัดบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลที่แพงที่สุดในเมือง และจ่ายเงินเพิ่มเพื่อจองที่นั่งริมหน้าต่าง
ไม่นาน แซลมอนซาซิมิ หอยนางรมญี่ปุ่น และปูคิงแครปก็ถูกนำมาวางบนโต๊ะ
ยังไม่พอ เธอได้สั่งซาซิมิกุ้งล็อบเตอร์ออสเตรเลียเพิ่มอีก 5,000 กรัม
มองไปยังซาซิมิเนื้อกุ้งขาวราวหิมะ จุ่มมันลงในซอสสูตรลับ เมื่อเข้าปาก สัมผัสได้ถึงไขมันนุ่มๆและความสด
ตูมมม!
ความสดชื่นที่ไม่เคยเจอมาก่อนโหมกระหน่ำในกระเพาะเธอ
แค่กัดคำเดียวยังฟินขนาดนี้
เจียงหลินถอนหายใจ นี่สินะรสชาติของเงิน!
หลังจากกินดื่มจนอิ่มแล้ว เจียงหลินกลับไปยังชั้นสองของร้านขายของชำ เอนตัวแผ่ยาวบนเก้าอี้ผ้าใบ ระหว่างนั้นปัดมือถือไปพลางเพื่อดูว่ามีที่พักดีๆให้เช่าในละแวกนี้บ้างหรือไม่
ตอนนี้เธอไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาค่าเช่าอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม เธออยู่ที่นี่มานาน ลึกๆแล้วก็ไม่เต็มใจนักที่จะจากไป
เพียงแต่ขณะนั้นเอง ในกระทู้แอปตัวแทนขายบ้านที่กำลังดูอยู่ จู่ๆก็เห็นบ้านหลังนึงที่เจียงหลินคุ้นเคยเป็นอย่างดี
เธอคลิกเข้าไปดู
นี่มันบ้านที่เธอกำลังเช่าอยู่ไม่ใช่รึ? ปรากฏว่าไอ้หมอนั่นตั้งใจขายก่อนที่เธอจะย้ายออกซะอีก!