ตอนที่ 645 ห้าตระกูลเกาะใต้

“โอ๊ย,อู๊ยยยยยยย...”

เสียงโอดครวญของถังเทียนดังออกมาจากบ้าน,เขานอนอยู่บนเตียง ตลอดทั้งร่างพันด้วยผ้าพันแผลที่มีเลือดซึม เหลือไว้แต่ดวงตาของเขาโผล่ให้เห็น  เขาไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้ว  เมื่อเขาขึ้นเรือไปสู้กับเหออิง ในช่วงเวลานั้นร่างของเขาต้องทนต่อพลังงานสะท้อนกลับรุนแรงจึงทำให้เขารู้สึกว่าตลอดทั้งร่างของเขาเหมือนถูกค้อนหวดใส่นับครั้งไม่ถ้วนจนรู้สึกปวดชาไปทั้งตัว

และความเจ็บปวดก็มาจากบาดแผลสดซึ่งยังคงมีเลือดไหลอยู่

เมื่อถังเทียนถูกลากออกมาจากเรือรบ  ทุกคนตกตะลึง บนตัวของเขาทุกตารางนิ้วล้วนแต่หลั่งโลหิตเหมือนกับว่าเขาถูกลากออกมาจากบ่อเลือด และมีบาดแผลมากมายที่ยังหลั่งเลือดอยู่

ทุกคนคิดว่าถังเทียนอ่อนแอเนื่องจากเสียเลือด  แต่หลังจากให้หมอตรวจดูแล้ว  พวกเขาก็ตระหนักว่าถังเทียนยังคงแข็งแรงดี อาการเจ็บปวดของถังเทียนไม่ได้มาจากอาการอ่อนแอ  แต่เพราะเขาหลั่งเลือดมากเกินไป  ทำให้เส้นเลือดทั้งหมดเจ็บปวดระบม

ผลลัพธ์เช่นนี้สร้างความตกใจให้กับทุกคน  ทุกคนได้แต่หัวเราะอย่างเคอะเขิน  ‘ผิดมนุษย์มนาอย่างที่คาดไว้เลย  หลังจากเสียเลือดมากมายขนาดนั้นเขาก็ยังแข็งแรงและสุขภาพดีอยู่ได้’

ในท่ามกลางเสียงร้องโอดโอยของถังเทียนสือเซินรายงานผลการสู้รบของเขาโดยเคารพ ขณะที่หัวชิงยืนอยู่ข้างๆ มองดูเจ้านายที่อายุเยาว์ของพวกเขาด้วยความสงสัย

การสู้รบยังไม่จบเพียงเพราะเหออิงตาย  เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เกินกว่าจะควบคุมได้  ท่านหญิงโหรวออกคำสั่งให้โจรสลัดโจมตี  เมื่อเห็นว่าทวีปทรายขาวกำลังจะถูกโจรสลัดรุมกินโต๊ะ คุณชายใหญ่ได้ปรากฏตัวในค่ายทหารกองพลที่สองและกองพลที่สาม  เหออิงและเจ้าครองทวีปตายแล้ว  ท่านหญิงโหรวหายไปโดยไร้ร่องรอย  ผู้บัญชาการทั้งสองลังเลเล็กน้อย  ก่อนจะเลือกยอมแพ้

แต่คุณชายใหญ่ตัดสินใจให้โอกาสพวกเขาแก้ตัว  และขอให้ไปป้องกันโจรสลัดไว้ กองทัพใหญ่ทั้งสองที่ตอนแรกคิดว่าพวกเขาจะต้องถูกประหารชีวิตก็ยิ่งดีใจ  พวกเขาต่อต้านโจรสลัดอย่างสุดกำลังได้ปะทะและหยุดยั้งโจรสลัดไว้ได้

กองพลที่หนึ่งซึ่งหายสาบสูญไปหลายวันปรากฏออกมาตลบหลังโจรสลัดและเปิดฉากโจมตีอย่างรุนแรง

พวกโจรสลัดตกอยู่ในสถานการณ์ที่ปั่นป่วนทันที

โจรสลัดภูผาดำของเหลียนปั่วจวินกับพวกโจรสลัดกลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย  ความเป็นพันธมิตรระหว่างโจรสลัดพังทลายและกองพลที่สองและที่สามฉวยโอกาสไล่ฆ่าสังหารโจรสลัดไปมากมาย

สือเซินเพิ่งลอบเข้ามาในทวีปทรายขาวและบังเอิญเห็นกองพลที่หนึ่งเปิดฉากโจมตีของพวกเขา  เขารีบฉวยโอกาสทำร้ายพวกโจรสลัดด้วยเช่นกัน

หลังจากสู้รบ ก็ได้รับข่าวดีอีกข่าวหนึ่ง พวกเขาพบกับริชาร์ด

ที่จวนเจ้าครองทวีป คุณชายใหญ่, โอวไม่,ตอนนี้ควรบอกว่าเจ้าครองทวีปทรายขาวคนใหม่ มองดูซัวปี่อย่างขอบคุณ

“ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน  ครั้งนี้คง...”

ซัวปี่ส่ายศีรษะ “ปกป้องทวีปทรายขาวเป็นความรับผิดชอบของซัวปี่อยู่แล้ว”

ข้างๆ เขา,ผู้บัญชาการกองพลที่สองและกองพลที่สามมีสีหน้าละอาย

หลิงเซี่ยถามด้วยความสงสัย  “ท่านแม่ทัพซัวปี่ ท่านรู้แผนการของเหออิงได้ยังไง?”

กับการหายสาบสูญไปอย่างกะทันหันของกองพลที่หนึ่ง  ก่อนออกไปซัวปี่ได้ให้หลิงเซี่ยพาคุณชายใหญ่ไปขอความคุ้มครองจากเหมิ่งหนานและก่อนที่โจรสลัดจะเปิดฉากโจมตี  จู่ๆ พวกเขาปรากฏตัวออกมาตลบหลังพันธมิตรโจรสลัด  แผนการต่อเนื่องนี้ช่างคาดไม่ถึงจริงๆ

ซัวปี่ลอบถอนหายใจ  “เป็นเพราะเหลยเอ้อฟู่”

“หัวหน้าของกลุ่มกุหลาบทองเนตรอสรพิษเหลยเอ้อฟู่?” หลิงเซี่ยร้องออกมาอย่างตื่นตกใจ คนอื่นๆ ก็ตกใจพอกัน

ซัวปี่พยักหน้า  “สามวันหลังจากเขาตาย  ข้าได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง  เป็นแผนการที่เตรียมไว้ก่อนในกรณีฉุกเฉินที่เขาตาย  จดหมายฉบับนั้นส่งมาให้ข้า  ถ้าเขาไม่ตายจดหมายจะไม่มีทางถูกส่งออกมา  บุรุษผู้นั้นเจ้าเล่ห์มาก  จดหมายนี้เก็บงำความลับเอาไว้หลายอย่างหนึ่งในนั้นก็คือท่านหญิงโหรวมาจากทวีปกวงหมิง”

คำพูดเหล่านี้เหมือนกับระเบิดใหญ่ที่โยนใส่หัวใจพวกเขาทุกคน

“ทวีปกวงหมิง?  เป็นพวกเขาไปได้ยังไง?”

“เราไม่มีความแค้นเคืองใดๆกับทวีปกวงหมิง!”

……

แม้แต่ผู้บัญชาการกองพลที่สองและที่สามก็ยังรู้สึกเหลือเชื่อ พวกเขาคิดถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดเกี่ยวกับเบื้องหลังของท่านหญิงโหรว แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่านางจะมีความเกี่ยวข้องกับทวีปกวงหมิง

“ความทะเยอทะยาน  ทวีปกวงหมิงทะเยอทะยานมากเกินไป”  ซัวปี่กล่าวเย็นชา  “ทวีปทรายขาวของเราตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคใต้  ตราบใดที่ตกอยู่ในความวุ่นวายพวกเขาจะสามารถขยายอิทธิพลเข้ามายังภูมิภาคใต้ แผนการของพวกเขาแยบยลมาก ใช้อิทธิพลของแม่นางอวี่หรัน ไม่เพียงแต่ในทวีปทรายขาวของเราเท่านั้น แต่ยังใช้ตระกูลของชนชั้นสูงและจัดการกับเราทุกคน  ใช้สตรีเรียกค่าไถ่และใช้โจรสลัด ไม่มีใครคิดว่าความปั่นป่วนในภูมิภาคใต้ทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับทวีปกวงหมิง”

“แต่จะดีต่อพวกเขายังไงกัน?”  หลิงเซี่ยไม่เข้าใจ

“พวกเขาได้ควบคุมภูมิภาคตะวันตกไว้หมดแล้ว”ซัวปี่พูดเฉยชา “เป้าหมายต่อไปของพวกเขาก็คือดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์”

“ทั้งหมดเลยทั่วทั้งดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์!”

ทุกคนตกใจกับคำพูดของท่านซัวปี่ มีทวีปเป็นหมื่นในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ นั่นก็หมายความว่าการสู้รบที่ยาวนานที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนถ้ามีสักหนึ่งคนที่ต้องการดาราจักรเซียนศักดิ์ไว้ทั้งหมด จะไม่สะดุดกับคนอื่นได้ยังไง?

เงียบเหมือนป่าช้า

ถ้าทฤษฎีนี้ท่านซัวปี่ไม่พูดออกมา  จะไม่มีใครเชื่อแม้แต่น้อย

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งเจ้าครองทวีปคนใหม่ก็พูดทำลายความเงียบ และพึมพำ “ใครจะรู้ว่าความทะเยอทะยานของทวีปกวงหมิงนั้นใหญ่หลวงนัก”  เขามองดูสิ้นหวังและทันใดนั้นเขาเงยหน้าขึ้น  “ท่านซัวปี่ ทำไมท่านถึงเชื่อว่าเหมิ่งหนานสามารถปกป้องข้าได้?”

“เพราะเหมิ่งหนานก็คือศัตรูของทวีปกวงหมิง”  ซัวปี่ตอบ

“ศัตรูของทวีปกวงหมิง?”  หลิงเซี่ยถาม “เป็นไปได้ไหมว่าเหมิ่งหนานเคยเป็นเจ้าครองทวีปในภูมิภาคตะวันตก?”

ทุกคนตระหนักได้ทันที  สิ่งที่หลิงเซี่ยพูดอาจเป็นความจริง  ปัจจุบันนี้ในภูมิภาคตะวันตก  มีเกินกว่าพันทวีปที่ถูกทวีปกวงหมิงผนวกหรือทำลาย  ถ้าเหมิ่งหนานเป็นเชื้อสายหนึ่งในทวีปเหล่านั้นความเกลียดที่พวกเขามีต่อทวีปกวงหมิงก็คงลึกซึ้งมาก

แต่คาดไม่ถึงว่าซัวปี่จะส่ายศีรษะ  “ข้าไม่คิดเช่นนั้น”

“เขาไม่ใช่แน่”  เจ้าครองทวีปคนใหม่พูด “ทวีปทั้งหมดที่ถูกทวีปกวงหมิงทำลายย่อมดิ้นรนเพื่อตัวเอง  พวกเขาจะมีพลังมาปกป้องข้าได้ยังไง?”

เจ้าครองทวีปคนใหม่เห็นพลังของเหมิ่งหนานมาด้วยตัวเองและวิธีที่เขาแสดงฝีมือนั้นไม่ใช่ผู้สืบเชื้อสายมาจากทวีปใดๆ  เขาไม่เคยถอยหลังมีแต่ห้าวหาญดุดันเข้าปะทะอย่างเดียว แล้วยังจะเป็นลูกหลานของคนที่หลีกหนีหรือ?  และบริวารของเหมิ่งหนานก็เป็นคนน่ากลัวเช่นกันและคู่หูวิญญาณก็น่ากลัว ถ้าพวกเขามาจากภูมิภาคตะวันตกจริงๆพวกทวีปกวงหมิงไม่มีทางทำลายพวกเขาได้ง่ายขนาดนั้นแน่

สายตาของทุกคนมองดูซัวปี่

ซัวปี่กล่าว “นั่นคือเหตุผลที่ข้าขอให้ท่านเจ้าครองทวีปไปขอความคุ้มครองจากเหมิ่งหนานหนึ่งในเหตุผลก็คือเราไม่มีที่จะไป และไม่มีคนอื่นสนับสนุน  อีกอย่างหนึ่ง เป็นจดหมายของเหลยเอ้อฟู่ที่แนะนำบางสิ่งที่ทำให้ข้าระมัดระวัง  เหลยเอ้อฟู่บอกว่าบุคคลลึกลับเบื้องหลังเขามีเป้าหมายที่สำคัญมากก็คือการตามหาตระกูลสองสามตระกูล”

“ตระกูลใด?”

ทุกคนให้ความสนใจถึงกับเคลื่อนไหวใหญ่ขนาดนั้นเพียงเพราะตระกูลไม่กี่ตระกูลก็แสดงว่าพวกเขามีความสำคัญต่อทวีปกวงหมิงมาก และทุกคนก็ลืมมัน

“ห้าตระกูลเกาะใต้”

ทุกคนตกใจ พวกเขารู้จักห้าตระกูลเกาะใต้กันทุกคน ประมาณร้อยปีที่แล้วห้าตระกูลเดินทางมาจากที่ไกลเข้าสู่ทวีปทรายขาวและบังเอิญมาถึงเมื่อตอนโจรสลัดโจมตีทวีปทรายขาว  ห้าตระกูลนี้ช่วยเหลือทวีปทรายขาวทันทีและทำให้พวกเขาได้รับชัยชนะ  เจ้าครองทวีปในเวลานั้นให้รางวัลห้าตระกูลโดยอำนวยความสะดวกให้พวกเขาให้ดินแดนในเขตเกาะใต้ของทวีปทรายขาวกับพวกเขาเป็นถิ่นที่อยู่ และจากนั้นมาพวกเขาก็ได้รับขนานนามว่าห้าตระกูลเกาะใต้

ห้าตระกูลเกาะใต้ค่อยๆ ตั้งตัวและเติบโตอยู่ในเกาะใต้  แต่พวกเขายากจะเปิดเผยตนเอง และไม่เคยข้องเกี่ยวกับตระกูลอื่นถึงขนาดที่คนอื่นคิดว่าพวกเขาปลีกตัวจากกิจกรรมโลก ดังนั้นเมื่อทุกคนได้ยินท่านซัวปี่พูดถึงพวกเขา  พวกเขาประหลาดใจ

“ใช่แล้ว,เหลยเอ้อฟู่ใช้เวลาสืบเรื่องสองสามตระกูลส่งผลให้เกิดการเชื่อมโยงกับห้าตระกูลเกาะใต้” ซัวปี่กล่าว  “ข้าเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ  แต่ไม่เคยตั้งใจสืบสวนดูเนื่องจากเรามีคนทำงานจำกัด แต่หลังจากนั้นบังเอิญข้าสะดุดกับบริวารของเหมิ่งหนานที่กำลังสืบดูเรื่องของห้าตระกูล  ดังนั้นข้าสามารถคาดเดาความสัมพันธ์ระหว่างเหมิ่งหนานและทวีปกวงหมิงได้

“เบื้องหลังของเหมิ่งหนานนั้นลึกลับมากและไม่ธรรมดา”  หน้าของซัวปี่เขียวคล้ำ  “เราจับตาดูเขา เกี่ยวกับกิจการของเขาและสามารถพูดได้ว่าเขาเป็นคนกล้ามาก ไม่มีความกลัวอะไร  ทุกครั้งที่เราเห็นว่าสถานการณ์แย่  แต่เขากลับคว้าชัยชนะได้  และไม่มีใครรู้ว่าเขามีไพ่เด็ดอะไรที่เหลือยังไม่ได้เล่นอีก  นอกจากนี้คู่หูวิญญาณนั้นต้องเป็นระดับผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียงแน่  มาตรฐานคู่หูวิญญาณระดับนั้น  อำนาจที่อยู่เบื้องหลังเหมิ่งหนานย่อมไม่ธรรมดา  เราทำได้แต่เพียงเป็นมิตรกับเขา  และจะไม่เป็นศัตรู

คำพูดของเขาได้รับการเห็นชอบจากทุกคน

เจ้าครองทวีปคนใหม่พูดทันที  “เขาช่วยชีวิตเรา นอกจากนี้ดูเหมือนเขาไม่ได้สนใจทวีปทรายขาว  เขาบอกว่าเขามีเงื่อนไขเดียวสำหรับเรา  เมื่อข้าถามเขาว่าคืออะไร  เขาบอกว่า เขาเพียงต้องการให้เราช่วยเหลือในเรื่องเปิดช่องทางการค้าให้”

ทุกคนมีความสงสัย เงื่อนไขนับว่าต่ำมาก

หลิงเซี่ยพูดเสริม“ท่านเหมิ่งพูดเช่นนั้นจริง”

“ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเรื่องสมบัติและความมั่งคั่งของเราเลย”  ซัวปี่ถอนหายใจโล่งอก  เขาก็โล่งใจเช่นกัน เขามักเชื่อว่าพลังของเหมิ่งหนานแข็งแกร่งกว่าทวีปทรายขาวมาก  และนี่คือการคาดเดาที่สมเหตุผลที่สุด การคาดเดาที่ทำให้ทุกคนรู้สึกดีใจทวีปทรายขาวในปัจจุบันมีเรื่องให้ทุกข์ใจมากอยู่แล้ว  มีปัญหาให้แก้ไขอีกมากมาย พวกเขาไม่สามารถชิงดีชิงกับคนอื่นได้

“อย่างนั้นเรื่องราวของตระกูลทั้งห้าเล่าจะเป็นยังไง?”  เจ้าครองทวีปคนใหม่ถามซัวปี่ เขารู้ว่าความมั่งคั่งของเขายังน้อยและไม่มีประสบการณ์  เขาได้แต่พึ่งพาอาศัยซัวปี่เท่านั้น

ซัวปี่กล่าว “เขาเป็นพันธมิตรที่สำคัญของเรา ถ้าเราสามารถช่วยเขาได้  เราก็ควรทำอย่างสุดกำลัง  พวกเราสามารถพาเขาไปหาห้าตระกูลได้  แต่พวกเขาอาจไม่ได้รับการต้อนรับ  ทำไมเราไม่ส่งคนนำทางของเราไปที่นั่นโดยเปิดเผยและติดต่อให้พวกเขา แต่เราจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องของพวกเขา”

เจ้าครองทวีปคนใหม่ตาเป็นประกาย  “ความคิดที่ดี”

“ฝ่าบาท,งานเร่งด่วนตอนนี้ก็คือเรียกประชุมประมุขตระกูลของทุกตระกูลและปลอบขวัญประชาชน”  ซัวปี่ให้เหตุผล  “ทุกคนรู้สึกไม่มั่นคงในตอนนี้  พวกเขาหวังว่าจะมีสันติภาพ”

“ก็ดี!” เจ้าครองทวีปคนใหม่พยักหน้า แต่เขาสงสัยเล็กน้อย “ข้าเกรงว่าข้าจะมีศักดิ์ศรีไม่พอ”

“ฝ่าบาทวางใจได้,ถึงเวลาก็มาเอง” ซัวปี่ยังคงสงบใจเย็น  “ตอนนี้เราต้องจัดการกับคนที่สมรู้ร่วมคิดกับโจรสลัดและวางแผนก่อกบฏ  คนพวกนี้ชั่วร้ายจริงๆ เกินกว่าจะเยียวยา เมื่อได้เวลาเราจำเป็นต้องกำจัดพวกสอดแนมของทวีปกวงหมิงให้หมดและชำระทวีปของเรา ถ้าไม่อย่างนั้นเราจะหลับอย่างไม่เป็นสุข

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย

หลิงเซี่ยไม่พูดอะไร  นางรู้ว่าคำพูดของแม่ทัพซัวปี่หมายความว่าหลังจากผ่านคืนนี้ไปแล้วหลายศีรษะจะต้องเกลือกกลิ้ง  และหลายตระกูลจะถูกทำลาย

นางเชิดหน้า “ข้าน้อยยินดีจะนำทางท่านเหมิ่งไปค้นหาที่เกาะใต้”