ตอนที่ 645 นึกว่าเจ้าไวหรือ? ข้าไวกว่า!
เขี้ยวแสง!
หัวหน้าหย่งฮุยแค่เสียงเย็นชาและชี้หน้าเฮยถู
ในโลกวารีเฮยถูผู้ดูดซับพลังงานดินเพื่อให้ตัวเองใช้งานจะอ่อนแอที่สุด ในที่นี้เฮยถูไม่อาจแสดงฝีมือของเขาเองได้อสูรศึกไม่สามารถดูดซับพลังงานแผ่นดินขนาดใหญ่ได้ ดังนั้นเขาจึงอ่อนแอที่สุดในสามคน แม้แต่หัวหน้าไป๋หม่าจะสู้รบได้ดีในอากาศ ก็ไม่ใช่สู้รบได้ดีในน้ำ แต่ก็ยังดีกว่าเฮยถูผู้เด่นที่สุดในการสู้บนพื้นสำหรับจงกวนเขามีทักษะย้ายเงา เขาสู้ได้ดีในอากาศ ในน้ำและบนภาคพื้นหย่งฮุยไม่ต้องการเปลืองพลังงานกับเขา
ปลายนิ้วชี้ของหย่งฮุยมีประกายแสงเล็กๆที่เขาเรียกออกมา
เล็กกว่าธนู ไวกว่าสายฟ้า
เมื่อประกายในดวงตาของเฮยถูฉายแสงลำแสงที่แฝงไปด้วยพลังมรณะก็ยิงมาที่อกของเขาไปแล้ว
เร็วเกินไป แม้ด้วยความคล่องแคล่วของเฮยถูที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสองก็ยังไม่สามารถหลบพลังโจมตีได้เลย แม้แต่จงกวนไป๋หม่าและเฮยถูก็รู้ว่าหัวหน้าหย่งฮุยมีพลังเขี้ยวแสงเป็นอสูรที่ว่องไวและพวกเขาตื่นตัวอยู่นานแล้ว อย่างไรก็ตามเฮยถูไม่สามารถหลบพลังโจมตีนี้ได้ ได้แต่มองแสงทะลวงผ่านอกของเขา
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการหลบ แต่เทียบกับความเร็วของเขี้ยวแสงแล้ว
ใครๆก็กลายเป็นมึนเมางุ่มง่าม ขณะที่อีกฝ่ายเหมือนธนูที่ว่องไว
ไม่มีทางที่เขาจะหลบได้ เฮยถูเต็มไปด้วยความกลัว เขาเตรียมทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อต่อต้าน
มั่นใจมากเกินไป! แม้ว่าเขี้ยวแสงจะมีพลังปราณฟ้าระดับหนึ่ง แต่มันเป็นอสูรที่ใช้รุกเต็มร้อยโดยไม่มีการตั้งรับ ถ้าเฮยถูถูกมันโจมตีโดยตรง ต่อให้เขาไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บหนักอยู่ดี
เฮยถูรับพลังโจมตีได้ครั้งเดียว และการโจมตีครั้งอื่นเล่า?
ในเวลาแค่หนึ่งวินาทีหย่งฮุยก็สามารถโจมตีได้ทันทีด้วยเขี้ยวแสง ภายใต้พลังโจมตีของเขา เฮยถูจะทนได้นานเท่าใด?
หัวหน้าไป๋หม่าขี่อสูรฝันนรกพุ่งลงมาจากท้องฟ้าตั้งใจจะช่วยเฮยถู แต่สายเกินไปแล้ว ความเร็วของเขี้ยวแสงและความเร็วของอสูรฝันนรกต่างกันเหมือนฝ่ายหนึ่งวิ่งอีกฝ่ายหนึ่งเดิน ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน ไป๋หม่าหลั่งเหงื่อพรั่งพรู หัวหน้าหย่งฮุยเป็นสุดยอดนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่ระดับเดียวกับผู้นำกลุ่มโจรตัวตลก เขาคงไม่แพ้นักสู้ปราณฟ้าระดับสอง สามคนที่ร่วมมือกันแน่
เมื่อเฮยถูกำลังจะถูกเขี้ยวแสงฆ่าเขาหายตัวไป
จากนั้นเขามาปรากฏตัวด้านหลังจงกวนผู้สวมหมวกสูง
จงกวนช่วยเขาไว้
แม้ว่าจงกวนจะช่วยเฮยถูได้ไว้ได้ด้วยวิชาย้ายเงา เขาก็ยังอดหลั่งเหงื่อเยียบเย็นมิได้ โชคดีที่สามารถทำได้ทัน ถ้าช้าไปเพียงเสี้ยววินาทีหัวใจของเฮยถูคงถูกทะลวง
ดูซิว่าเจ้าจะช่วยเขาได้สักกี่ครั้ง! หัวหน้าหย่งฮุยชี้นิ้วไปที่เฮยถูอีกครั้ง
เขี้ยวแสงถูกยิงอีกครั้ง
ในขณะที่มันเกือบจะถึงหน้าผากของเฮยถู ถ้าหากเขี้ยวแสงกระทบถูกหน้าผาก กะโหลกของเฮยถูจะต้องถูกเปิดออก วิชาร่างเงาของจงกวนไม่มีจำกัดเวลาของเขาเอง แต่ เขาทำได้แต่ใช้เงาตนเองช่วยสหายของเขา เขาทำได้แค่ย้ายเฮยถูเข้ามาในเงาของเขา แต่ก็พบว่าหัวหน้าหย่งฮุยลดนิ้วลงชี้เขี้ยวแสงดักรออยู่เส้นทางย้ายร่างของเขา
นั่นแสงของตะวันฉายทานตะวัน ใจของจงกวนเต็มไปด้วยอาการตกใจ เขาเข้าใจทันทีถึงเหตุผลที่หย่งฮุยใช้ตะวันฉายทานตะวันเพื่อปรับมุมยิงแสง
ศัตรูรู้จุดอ่อนในการย้ายร่างเงาแล้วและขึ้นอยู่กับมุมของแสงฉาย เขาสามารถคำนวณร่องรอยของเงาได้
การโจมตีนี้ศัตรูคำนวณไว้ก่อนแล้ว
หัวหน้าหย่งฮุยเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่แล้วจึงไม่ใช่เป็นคนรับมือง่ายๆแน่นอน
จบแล้ว!
ถ้าเฮยถูไม่อยู่ในเงาที่ย้ายเขายังสามารถหลบได้ แต่ตอนนี้เขาอยู่ภายใต้การควบคุมจากจงกวนได้แต่ดูเขี้ยวแสงพุ่งเข้าหาตัวเขาเอง
ม้าเพลิงสวรรค์ป้องกันเฮยถูไว้และเตะเขาลอยไปในอากาศ
ร่างของมันถูกเขี้ยวแสงทะลวงทันทีอาการของมันบาดเจ็บหนักปางตาย หัวหน้าไป๋หม่าไม่มีเวลาเรียกมัน เขาตะโกนอย่างบ้าคลั่งขี่อสูรฝันนรกชนเฮยถูให้กระเด็นห่างออกไปหลบจากพลังเขี้ยวแสงโจมตีได้อย่างหวุดหวิด หย่งฮุยแค่นเสียงจากนั้นเหยียดมือเพื่อเรียกอสูรที่แปลกประหลาดมันมีปีกอยู่ด้านหลังสี่ปีกคล้ายมังกรมีกรงเล็บดำ หางอสรพิษตาสีน้ำเงิน เขาเดียว
ควันดำถูกพ่นออกมาจากปากอสูร จากนั้นมันซ่อนตัวอยู่ในควันดำ
ควันสีดำขยายเพิ่มมากขึ้นทุกทีจนคลุมทั้งท้องฟ้า
นี่คืออสูรรบที่ทรงพลังอีกตัวหนึ่งของหัวหน้าหย่งฮุย มังกรเขาเดียว แม้ว่ามันจะไม่ใช่มังกรยักษ์ของแดนสวรรค์ เป็นเพียงมังกรสายรอง แต่มันก็เหมือนกับมังกรแดนสวรรค์ เพียงแต่ไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกัน อย่างไรก็ตามพลังของมันแข็งแกร่ง ในควันของมันนอกจากจะมีกรดที่ทำให้สิ่งมีชีวิตมึนงงและอ่อนแอแล้ว ยังมีผลพิเศษอย่างที่ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่สิ่งมีชีวิตอื่นจะหามันได้พบ ในแง่พลังโจมตีของมัน มังกรเขาเดียวยังด้อยกว่าเขี้ยวแสงเล็กน้อย แต่ความสามารถในการสู้ต่อเนื่องจะทำได้ดีมาก
จับมัน! เฮยถูเดิมพันด้วยชีวิต เรียกแมงมุมปีศาจที่ได้รับบาดเจ็บหนักอยู่ก่อนนั้นออกมา
แมงมุมพ่นใยออกมานับไม่ถ้วนสร้างเป็นรังสีเทา
ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีแมงมุมก็จับมังกรเขาเดียวจากท้องฟ้าได้และเกือบจะลากมันลงมาได้ ในบรรดาอสูรที่รับมือการสู้ในกลางอากาศได้ดีแมงมุมปีศาจรับมือได้ดีและอาจกล่าวได้ว่าสามารถเอาชนะสัตว์ปีกได้หมด
ร่างของมังกรเขาเดียวควันดำเปลี่ยนเป็นควัน จากนั้นก็หลบออกไปจากใยแมงมุมได้อย่างง่ายๆ
แมงมุมร่วงลงไป
ที่เหนือแมงมุมปีศาจมังกรพุ่งโฉบลงพร้อมกับพ่นไฟ และเกือบจะแผดเผาแมงมุมปีศาจให้กลายเป็นแมงมุมปิ้งได้ แต่มันพลาด จากนั้นมันซ่อนตัวอยู่ในควันดำอีกครั้งมันมาอยู่ด้านหลังของเฮยถูเมื่อมันปรากฏตัวอีกครั้ง หย่งฮุยยกมือก่อนที่เฮยถูจะทันรู้ตัวและยิงคลื่นเขี้ยวแสงอีกครั้ง
มีเพียงสองทางเลือกให้เฮยถู หนึ่งถูกมังกรเขาเดียวเผาตาย หรือสองถูกเขี้ยวแสงยิง
ไม่มีทางเลือกที่สาม
ในท่ามกลางควันเลือนรางไม่มีเงา พลังย้ายเงาของจงกวนไม่สามารถช่วยเขาได้ ขณะที่หัวหน้าไป๋หม่ายังอยู่บนอสูรฝันร้าย เขาไวเมื่อเทียบกับอสูรบินธรรมดา แต่เมื่อเทียบกับเขี้ยวแสง เขายังช้าไป
เฮยถูอยู่ไกลเกินความสามารถของพวกเขา
ข้าต้องสู้! เฮยถูคิดว่าไม่มีโอกาสที่เขาจะรอดชีวิตได้ ด้วยคลื่นความโกรธในใจเขาสั่งแมงมุมปีศาจให้โจมตีหัวหน้าหย่งฮุย
สู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
แม้ว่าเฮยถูจะไม่สามารถฆ่าหย่งฮุยได้ แต่การใช้แมงมุมให้ใช้พิษเล่นงานเขาก็เป็นทางเลือกที่ดี อย่างไรก็ตามเขาไม่อาจปล่อยให้เจ้าผู้นี้หลุดมือไปได้อย่างง่ายดายแน่!
แต่ไม่มีใครรู้ว่าหัวหน้าหย่งฮุยยังเรียกอสูรออกมาไว้อีกตัวหนึ่ง
มันเป็นสัตว์ประหลาดขนาดเล็กตัวมีเกล็ดสีเขียวตาสีทองเขาสีเงิน เมื่อมันถูกหย่งฮุยเรียก น้ำภายในรัศมีร้อยเมตรเกิดระลอกทั้งหมด เกิดเป็นภาพที่น่าตื่นตะลึงก่อนที่แมงมุมจะเข้ามากัด มันค่อยๆ หย่อนอุ้งเท้าเล็กๆลงในน้ำและเกิดเป็นผิวน้ำวน แมงมุมตกลงไปในแอ่งน้ำวน จึงเป็นไปไม่ได้ที่มันจะร่วมสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย พลังของมันเพียงแค่ปราณดินระดับหนึ่งต่ำกว่าแมงมุมปีศาจที่เกือบจะถึงระดับหนึ่งของระดับปราณฟ้า
แต่ตาของมันฉลาด
แม้ว่ามันจะไม่สามารถเปลี่ยนเป็นมนุษย์ไม่สามารถพูดได้ แต่มันมีความรู้สึกใกล้กับอสูรศักดิ์สิทธิ์
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเจ้าตัวเล็กนี้ยังอยู่ในวัยเด็กและระดับของมันต่ำเกินไปบางทีมันอาจเอาชนะแมงมุมปีศาจที่มีระดับสูงด้วยสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดของมัน
หย่งฮุยรักอสูรน้อยตัวนี้มาก หลังจากเขาเรียกมันออกมา เขาจับมันไว้ในมือไม่ยอมปล่อยมัน เขากลัวว่าเจ้าตัวน้อยที่ฉลาดนี้จะหักหลังเขาและหนีไป
ตอนนี้จงกวนไป๋หม่าและเฮยถูรู้สึกอยากตาย และกำลังใจของพวกเขาหดหายหมดไม่มีเหลือ
เขาแข็งแกร่งมาก
หัวหน้าหย่งฮุยผู้นี้เป็นยอดฝีมือระดับหัวหน้ากลุ่ม นอกจากมีพลังปราณฟ้าระดับสี่ขั้นสูงแล้ว เขายังมีอสูรรบที่แข็งแกร่งอีกหลายตนความจริงไม่มีทางสู้ได้เลย! ผสานพลังกันระหว่างตะวันฉายทานตะวันและภูตแสงก็รับรองได้ว่าไม่มีวันตายอยู่แล้ว ยังมีเขี้ยวแสง และมังกรเขาเดียวควันดำก็เป็นการผสานพลังฆ่าที่แข็งแกร่ง เรื่องที่แย่ที่สุดก็คือเพื่อเป้าหมายฝึกอสูรรบ หย่งฮุยเรียกอสูรเด็กออกมาร่วมรบด้วย ดูเหมือนว่าการสู้ครั้งนี้ไม่มีอะไรสำหรับหย่งฮุย เขาก็แค่มีเวลาบำรุงเลี้ยงอสูรเด็กของเขา
ตอนนี้พวกเขาต้องการถอย
พวกเขาเตรียมรับการโจมตีจากหย่งฮุยสองสามครั้งและจะรีบถอยจากการต่อสู้ แม้ว่าจะต้องถูกเย่ว์หยางทุบตีก็ตาม แต่พวกเขาไม่ต้องการสู้อีกต่อไป
ไม่มีประโยชน์เลยในการสู้แบบนี้ หัวหน้าหย่งฮุยผู้นี้ไม่ใช่คนที่ทั้งสามจะสู้ได้แม้จะสู้พัวพันก็ยังเป็นไปไม่ได้
ในขณะที่พวกเขารู้สึกสิ้นหวัง และเสียงหัวเราะของหย่งฮุยแฝงไปด้วยความหยิ่งยโส มีบางอย่างที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นในดวงตาของหย่งฮุยที่เตรียมจะเริ่มโจมตีเฮยถู ตาของเขาหรี่แคบขณะมองดูท้องฟ้า ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แม้แต่เฮยถูที่เกือบจะถูกกัด ไป๋หม่าที่กำลังมาช่วย จงกวนที่เตรียมใช้พลังไร้เงา ทั้งหมดลืมเรื่องการสู้รบและจ้องมองท้องฟ้าในขณะนั้นอย่างว่างเปล่า
ท้องฟ้าสว่าง
ในพริบตาเดียว
กลับมืด
ตะวันฉายทานตะวันหายไปต่อหน้าต่อตาทั้งที่ทุกคนมองดูอยู่
เหมือนกับว่ามีคนตบหน้าเขา หย่งฮุยตระหนักได้ว่าตะวันฉายทานตะวันทรยศเขา
เป็นไปได้ยังไง?
อสูรสายพฤกษามีความเป็นไปได้ยากที่สุดที่จะหักหลังเมื่อเทียบกับอสูรสายอื่น เว้นแต่อสูรหุ่นที่ไม่เคยทรยศและอสูรพิทักษ์ก็มีแต่เพียงอสูรพฤกษาเพียงไม่กี่พันธุ์ที่ต่อต้านเจ้านายของพวกมัน ยกเว้นแต่อสูรพฤกษามีความคิดที่เป็นอิสระและสติปัญญาใกล้เคียงกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นพวกมันก็ยังมีสัญชาตญาณ แม้ว่าเจ้านายของพวกมันกำลังเผชิญกับความตาย พวกมันก็ยังไม่ทรยศ
ทำไม?
ทำไมตะวันฉายทานตะวันถึงทรยศหย่งฮุย เมื่อเขาได้เปรียบ และยังจะเอาชนะศัตรูได้?
ข้อสงสัยนี้ทำให้หย่งฮุยรู้สึกระอาเหมือนกับมีหนูกัดแทะหัวใจของเขา ทำให้เขารู้สึกทุกข์ทรมานมาก ไม่เพียงแต่หย่งฮุยจะรู้สึกอับอายเท่านั้นแต่เขายังโกรธและรู้สึกกดดัน เสน่ห์ของเขาดูแย่นักหรือ? แม้แต่ตะวันฉายทานตะวันก็ไร้สติปัญญาไม่ใช่หรือ? สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือความขายหน้าที่ถูกทรยศนี้เกิดขึ้นต่อหน้าจงกวนไป๋หม่าและเฮยถู เขาโกรธจัดจนรู้สึกเจ็บ
คำตอบออกมาโดยเร็ว
สำหรับหย่งฮุยคำตอบก็หมายถึงความโกรธ
สำหรับทั้งสามคนกลับมีความสุข
ตะวันฉายทานตะวันปรากฏในท้องฟ้าอีกครั้ง ส่องแสงสว่าง แต่มันเปลี่ยนเจ้าของเสียแล้ว
เจ้าของใหม่เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง หญิงสาวกำลังกุมมือเย่ว์หยางเลื่อนลงมาจากท้องฟ้าเหมือนเหมือนเทพธิดาสายลม ราศีของนางอ่อนโยนนุ่มนวลทำให้เกิดกลิ่นสดชื่นไปทั่วโลกวารี
เจ้าทำเรื่องนี้เองหรือ? หัวหน้าหย่งฮุยตะโกนลั่นด้วยความโกรธ เขาไม่เคยคิดว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์จะชิงตะวันฉายทานตะวันไปได้
“ภูตแสงไม่มีปัญญา ข้าไม่ชอบเท่าใดนัก แต่ถ้าเป็นเขี้ยวแสงสามารถหลอมรวมกับแสงอุษาเกลียวของข้าได้อย่างนั้นนั่นก็ไม่เลวนัก” สตรีผู้มาพร้อมกับกลิ่นดอกไม้ก็คือเจ้าเมืองโล่วฮัว นางไม่สนใจอาการโกรธของหย่งฮุยในสายตาของนางมีแต่เย่ว์หยาง นางยิ้มให้พร้อมกับคำแนะนำของนางพลางโบกมือ“ปิงเอ๋อให้ข้ายืมตะวันฉายทานตะวันในตอนนี้ ดังนั้นเหลือภูตแสงไว้ให้พวกเขาเถอะ! ข้าชอบโจมตี อสูรบำบัดก็มีประโยชน์ ดังนั้นเอาไว้ให้เย่ว์หวี่เถอะ”
“เจ้ากล้าท้าทายศักดิ์ศรีของข้าหรือ? บังอาจ พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!” หย่งฮุยเงื้อมือด้วยความโกรธและชี้นิ้วมาที่เย่ว์หยาง เตรียมใช้เขี้ยวแสงเพื่อให้บทเรียนที่แสนสาหัสกับเขาสักครา
แสงอุษา!
ที่ไวกว่าหย่งฮุยลำแสงอุษาขนาดมหึมาพร้อมกับพลังหมุนเกลียวทำลายล้างยิงตรงเข้าหาเขา