ตอนที่ 643 เคียงไหล่ร่วมสู้
การปรากฏของเรือรบสร้างความตกตะลึงให้กับทุกคน ไม่มีใครเคยคิดเลยว่าจะมีเรือรบมาซ่อนอยู่ใต้ดิน
หน้าของเหออิงเปลี่ยนไปทันที
กองพลที่สองก็มีเรือรบ แต่เรือพวกนั้นเป็นเรืองขนาดกลางหรือสูงกว่านั้นและเรือลำใหญ่ไม่สามารถสู้ในเมืองได้ ดังนั้นเขาเลือกใช้เรือโจมตีเร็ว นอกจากนี้เรือรบขนาดเล็กมีราคาแพงมาก และประโยชน์ใช้สอยในการรบสู้เรือรบขนาดใหญ่หรือขนาดกลางไม่ได้ และถ้าพวกเขาต้องสู้กันในเมืองเรือโจมตีเร็วที่คุณภาพดีแต่ราคาถูกเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
“เรือรบธนูดำ!”
“แย่แล้ว!”
เจ้าได้รับสิ่งที่เจ้าได้จ่ายเงินซื้อมาน่ะหรือ เรือรบธนูดำเป็นแค่เรือรบขนาดเล็กแต่ราคาเท่ากับเรือโจมตีเร็วถึงสิบลำและกองพลที่สองจะไม่รู้ความแข็งแกร่งของมันได้ยังไง? เรือรบอย่างเรือธนูดำมีราคาแพงหูฉี่และแม้แต่กองพลที่สองก็ยังไม่มีปัญญาซื้อ เรือรบธนูดำส่วนใหญ่จะซื้อโดยคนร่ำรวยที่ทรงอิทธิพลที่เสริมไปด้วยองครักษ์ส่วนตัว
เดี๋ยวก่อน...คนร่ำรวยที่ทรงอิทธิพล...
ทหารของกองพลที่สองนึกได้ทันทีว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับคนรวยที่ทรงอิทธิพลอยู่จริงๆ เขาเป็นคนรวยที่ทรงอิทธิพลที่ใช้เงินกวาดถนนทองได้ในคืนเดียว! คนร่ำรวยที่ทรงอิทธิพลนี้หว่านเงินซื้อกองทัพได้สองกอง!
ทุกคนค่อยรู้สึกตัวทันที
ไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับคนรวยผู้มีอิทธิพลซื้อเรือธนูดำ แต่คงแปลกแน่ถ้าไม่ใช่
และเมื่อพวกเขาเห็นตำแหน่งของเรือรบมังกรดำ ทหารทุกคนของกองพลที่สองเริ่มหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
“ปกป้องเจ้านาย!”
“หยุดมันไว้! รีบหยุดมัน!”
เสียงตะโกนดังกังวลและแตกตื่นเต็มอยู่ทั่วท้องฟ้า
หลังจากโจมตีสายฟ้าแล่บจากกองกำลังนางแอ่นเรือโจมตีเร็วเกือบทั้งหมดของกองพลที่สองถูกทำลาย เมื่อกองพลที่สองตระหนักว่าเรือของฝ่ายตรงข้ามคุกคามความปลอดภัยของเหออิง พวกเขาตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่มีเรือรบเสริมกำลังมากนัก
สัญชาตญาณแรกของพวกเขาก็คือหันกลับไปคุ้มกันเหออิง
แต่คนที่พวกเขาเจอกลับเป็นถังโฉ่ว ทันทีที่เมื่อเรือรบปรากฏ ปฏิกิริยาถังโฉ่วแตกต่างจากคนที่เหลือ เขาลอบถอนหายใจโล่งอก
‘ในที่สุดนายท่านก็ปรากฏตัว’
เขาตระหนักรู้ถึงการต่อสู้ที่เกิดขึ้นที่ใต้ดิน แต่ตั้งแต่เริ่มต้น เขาไม่ได้พยายามถ่วงเวลาตั้งแต่แรก เพราะเขามั่นใจถังเทียนอย่างแน่นอนในการต่อสู้ของเขาทั้งหมด ถังเทียนเจอศัตรูที่แทบเอาชนะไม่ได้ แต่ชัยชนะมักจะตกอยู่กับเขาเสมอ ไม่ว่าสถานการณ์จะอันตรายเพียงไหน เขาจะต้องเลือกว่าถังเทียนจะเป็นผู้ชนะเสมอ!
นี่เป็นทางเดียวที่จะได้รับชัยชนะ
เขาพนันได้ถูก
ถังโฉ่วถอนหายใจโล่งอกและสนองตอบเป็นคนแรก ความอดกลั้นของถังโฉ่วในฐานะของขุนพลที่มีความโชกโชนเต็มที่ ไม่ว่าการต่อสู้จะรุนแรงเพียงไหน จะใช้เวลาเพียงวินาทีเดียวกำหนดผู้ชนะ
“ทุกคน, โจมตี!”
โดยไม่คาดฝันถังโฉ่วเลือกโอกาสที่ดูเหมือนไม่น่าเชื่อออกคำสั่ง ถ้าเป็นผู้บัญชาการที่โดดเด่นอย่างเซี่ยอวี่อันในเวลาแบบนั้นมักจะมีความลังเลใจเสมอ เพราะว่ามักจะมีการตัดสินใจของตัวเองในสถานการณ์เช่นนั้น คำสั่งของถังโฉ่วดูเหมือนจะเกินกว่าเหตุผลปกติทำให้พวกเขาทุกคนฉวยโอกาสสู้
แต่หน่วยกะโหลกนำโดยอายะจะไม่ยอมปล่อยโอกาสบางครั้งเป็นพวกอ่อนแอก็มีประโยชน์เหมือนกัน อายะและหน่วยของนางไม่ทันเรียกคืนความรู้สึกหรือแม้แต่จะทำการตัดสินใจในสถานการณ์ พวกเขาไม่เข้าใจสถานการณ์อะไรทั้งนั้น ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้ยินคำสั่งถังโฉ่วให้โจมตี พวกเขาเคลื่อนไหวทันทีโดยไม่คิดอะไร
ทหารของกองพลที่สองซึ่งเตรียมตัวกลับไม่เคยคาดเลยว่าหน่วยกะโหลกจะหันกลับมาโจมตี ตกอยู่ในความแตกตื่นทุกคนงุ่มง่ามทำอะไรไม่ถูก
เนื่องจากความคิดของพวกเขาไม่สอดคล้องกันบางคนก็ยืนอยู่กับที่ บางคนก็กังวลบางคนก็กลับมามีอารมณ์ปกติ และเพราะสภาพใจที่แตกต่างกัน การผสานงานของพวกเขากลายเป็นสับสนยิ่งขึ้น สิ่งที่แย่ก็คือหน่วยกะโหลกตะลุยวิ่งเข้าหาพวกเขาโดยไม่มีความคิดอะไร และทหารทุกคนที่กำลังหันกลับไปสนับสนุนเหออิงไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน จึงนำไปสู่การสูญเสียชีวิตมากมาย
หน่วยกะโหลกซึ่งไม่ได้มีพลังที่เหนือกว่าความจริงไม่ได้เสียเปรียบเลย
ถังโฉ่วดีใจ ต่อให้กองพลที่ถูกตัดขาดครึ่งหนึ่งแต่ในเรื่องการปะทะ หน่วยกะโหลกก็ยังไม่ใช่ศัตรูของพวกเขา กองพลนางแอ่นก็สามารถทำการรบได้ เพราะศัตรูประมาทพวกเขา และอาศัยรูปขบวนศึกและอาวุธยุทโธปกรณ์บนเรือรบ
ถังโฉ่วรู้ว่าพลังโจมตีเต็มที่ของหน่วยกะโหลกไม่สามารถคงอยู่ได้นาน
แต่ถังโฉ่วไม่สนใจ เมื่อเรือรบธนูดำปรากฏขึ้น เขารู้ว่าผู้ตัดสินผลของการรบไม่ใช่หน่วยกะโหลก แต่เป็นถังเทียน
โดยไม่มีความลังเลใจ เขาฝากความหวังชัยชนะให้กับถังเทียน
ตราบใดที่ถังเทียนสามารถฆ่าเหออิงก่อนหน่วยกะโหลกจะพ่ายแพ้ อย่างนั้นพวกเขาก็จะชนะ ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเขาก็จะแพ้
สมาธิของถังโฉ่วทั้งหมดทุ่มอยู่ที่เรือรบธนูดำ
นายท่าน....
ถังเทียนนั่งเลือดท่วมตัวอยู่บนที่นั่งป้อมปืนใหญ่กระบี่รังผึ้ง เขายินดีอยู่ในหัวใจ โชคดีที่เขาเลือกทหารสิบคนจากหน่วยกะโหลกมาช่วยควบคุมเรือรบ ถ้าไม่อย่างนั้นเรือรบคงไม่มีทางแล่นได้ เรือรบธนูดำคือเรือรบขนาดเล็กและไม่จำเป็นต้องมีทหารควบคุมมาก
การสู้รบระหว่างถังเทียนและเซี่ยเฟยสร้างความตกตะลึงให้พวกเขา พวกเขาไม่กล้าออกไปจากเรือ ถ้ามีใครโชคร้าย พวกเขาอาจถูกรังสีดรรชนีของเซี่ยเฟยฆ่าตาย
การสู้รบระหว่างยอดฝีมือทั้งสองไวเกินกว่าพวกเขาจะมองได้ทัน นอกนี้ยังต้องพยายามหลบ
เมื่อถังเทียนเอาชนะเซี่ยเฟยได้ พวกเขาดีใจแทบบ้ากันทุกคน
แต่เมื่อเห็นถังเทียนเลือดท่วมเต็มตัวเวลาเดินก็ทิ้งรอยเท้าพร้อมกับรอยเลือด ก้าวเดินทีละก้าวขึ้นเรือรบพวกเขาเห็นเขายิ้มกว้าง ‘นายท่านต้องการนำเรือออกรบทั้งที่บาดเจ็บหนักขนาดนั้นหรือ?’
“เจ้าบุ่มบ่ามจริงๆ ทำอย่างนี้ไปก็ไม่มีความหมาย” เสี่ยวเอ้อพูดอย่างเย็นชา
ถังเทียนนั่งลงประจำที่ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้ง มือที่เปื้อนเลือดของเขาจับที่ด้ามและพูดอย่างไม่พอใจ “ข้ารู้สึกว่านี่แหละถึงจะมีความหมาย แค่นั้นก็พอแล้ว”
เมื่อเห็นสายตาดื้อรั้นยืนกรานของเขา เสี่ยวเอ้อจนใจ “ข้าจะสู้ให้เจ้าเอง”
ปัง,ถังเทียนเอนตัวลงนั่น เขาเค้นรอยยิ้ม หน้าของเขาที่มีเลือดเต็มน่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้เสียอีก เสี่ยวเอ้อคิดว่าเขาได้รับความเชื่อใจจากถังเทียน แต่ใครจะรู้กันว่าถังเทียนหัวเราะเสียงประหลาด“หึ หึ หึ หึ หึ มาร่วมสู้ด้วยกันเถอะ!”
เพียงแค่นั้นเขาหันหน้า ใบหน้าของเขาดูน่ากลัวทันที เขาโก่งคอตะโกน “เดินหน้าฆ่าพวกมัน!”
พวกทหารแตกตื่นจากอาการตะลึง และเข้าสู่สถานการณ์ร้อนแรงทันที ไม่มีอะไรที่ทำให้พวกเขาตื่นเต้นเท่ากับผู้นำพาพวกเขาออกรบ
เหมือนกับว่าพวกเขากินยาโด๊บมาอย่างหนัก ทุกคนให้ความสนใจกับการควบคุมเรือธนูดำซึ่งแล่นออกจากพื้นอย่างรวดเร็ว
“หนุ่มชาวฟ้า, ลุย ลุย ลุย!”
เสียงคำรามลั่นของเขาดังก้องไปทั้งลำเรือ
เสี่ยวเอ้อสังเกตว่าถังเทียนอยู่ในอารมณ์โกรธ เจ้าเด็กงี่เง่านี่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกว่าเสียเลือดไปมาก กล้ามเนื้อก็แดงเหมือนกับเหล็กร้อนปลดปล่อยไอประหลาดออกมามากมาย ตัวเขากำลังเผาไหม้ร้อนแรงทำให้เรือทั้งลำมีกลิ่นเลือด
‘บ้าระห่ำขนานแท้!’
‘สู้เคียงข้างกัน…’
เสี่ยวเอ้อส่ายหัว เขาเก็บกระบี่เซียนปราบสมุทรไว้และลอยตัวมาที่ป้อมปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งและนั่งลง ขนาดที่น่ารักของเสี่ยวเอ้อพอนั่งบนเก้าอี้ใหญ่กลับดูน่าขบขันและน่ารักอย่างบอกไม่ถูก
เสี่ยวเอ้อไม่สนใจ แต่สัมผัสปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งด้วยความสงสัย หน้าน้อยๆ เหมือนตุ๊กตาของเขาดูน่ารัก
ครืนนครืนน ครืนน!
เรือรบกระแทกก้อนหินข้างหน้าพวกเขา
การแสดงความห้าวในสนามรบทำให้ถังเทียนตื่นเต้นทันทีและเขาเริ่มตะโกน “ไป ไป ไป!”
‘งี่เง่าเอ๊ย!’
เสี่ยวเอ้อไม่สามารถเหลือกตาได้‘ตราบใดเจ้างี่เง่านี่ปรากฏตัว อย่าหวังเลยว่าสันติภาพกับความสงบจะเกิดขึ้นได้’
แต่,ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งนี้ ค่อนข้างน่าสนใจ...
หินก้อนใหญ่ถูกถูกเรือธนูดำชนแตก เรือทั้งลำสั่นอย่างรุนแรงทำให้ถังเทียนตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
สิ่งแรกที่ถังเทียนเห็นทันทีที่ลอยตัวขึ้นจากพื้นก็คือเหออิง
ถ้าเราจะบอกว่าถังโฉ่วมีสายตาตัดสินใจได้อย่างประหลาด อย่างนั้นถังเทียนมีสัญชาตญาณที่น่ากลัวเท่าเทียมกับสัตว์ป่า เขาเริ่มโจมตีใส่เหออิงโดยไม่ต้องคิดอะไร
เหออิงไม่สามารถตั้งตัวได้ทันจากเหตุการณ์ที่พลิกผันไปกะทันหัน และเป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก
‘โอกาส!’
กระบี่ด้านหลังเก้าอี้ของถังเทียนสว่างทันที
ฟิ้ววว!
รังสีกระบี่สายหนึ่งยิงออกไป แต่ถังเทียนได้รับพลังสะท้อนกลับจนกระอักโลหิตและสูญเสียการควบคุมรังสีกระบี่ที่บินออกไปทันที
ถังเทียนสีหน้าเปลี่ยน ยุ่งแล้ว!
แม้ว่าเรือรบธนูดำจะเป็นเรือรบขนาดเล็ก แต่ก็เป็นเรือรบระดับเงินขนานแท้ พลังของเรือรบระดับเงินติดตั้งอาวุธระดับเงินทั้งหมด คำขอของถังเทียนของให้เปลี่ยนอาวุธเรือรบเป็นของระดับเงินทั้งหมด
พลังของอาวุธเรือรบระดับเงินรุนแรง แต่เกณฑ์ในการใช้ก็แน่นมาก ตัวอย่างเช่น ‘ดาบล้างสวรรค์’ เมื่อถูกกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งใช้ ก็ต้องให้คนฝีมือดียี่สิบคนดวงดาบ ด้วยการผสานพลังที่มีความถี่ถึง 75% ก็สามารถแสดงพลังที่แท้จริงได้และถ้าความถี่ในการผสานพลังตกลง 70% มันจะใช้งานไม่ได้
และเพราะมันถูกใช้โดยคนคนเดียว จึงต้องใช้เซียนระดับเงิน
ใช่แล้วเซียนระดับเงิน
แย่จริง!
ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งมีคุณภาพที่สูงกว่าปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งบนเรือรบของฉินอวี่หรันนั่นหมายความว่าแรงสะท้อนย่อมต้องรุนแรงกว่า ถังเทียนบาดเจ็บสาหัสจึงไม่สามารถป้องกันได้ ดังนั้นจึงได้ผลที่น่าตกใจ
สิ่งที่ถังเทียนรู้สึกไม่สบายใจไม่ใช่เพราะเขากระอักเลือด แต่เป็นเพราะเขาไม่อาจคว้าโอกาสไว้ได้
รังสีกระบี่พลาดเป้าเหออิงไปทำให้เขาถึงกับเหงื่อตก
“เฉียดใกล้ข้าจริงๆ!”
เหออิงคำรามองครักษ์ฝีมือดี 20 คนรอบตัวเขาเหาะเข้ามาใกล้ๆ เขา ในเวลาอันรวดเร็วรังสีก็ผสานรวมกันเป็นหนึ่ง ความถี่ในการประสานของพวกเขาสูงมาก
สีหน้าของเซี่ยอวี่อันถึงกับไม่ดีความถี่ของพลังงานที่ผสานกับระหว่างคนทั้ง 21 คนสูงอย่างน่าประหลาด 92%!
เหออิงใช้โอกาสนี้อวดพลังกองทัพระดับเงินให้เซี่ยอวี่อันดู
ความถี่ในการประสานพลังงานสูงอย่างน่าประหลาดแฝงด้วยรังสีที่ทรงพลังมีคนแค่ 21 คนแต่พลังที่ปล่อยออกมาจากพวกเขาให้ความรู้สึกเหมือนกองทหารเล็ก
‘ทรงพลังมาก...’
เซี่ยอวี่อันกัดฟันแน่น ตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวลใจน่าเสียดายที่กองกำลังนางแอ่นทุกคนอยู่บนพื้นและเขาไม่สามารถตอบโต้ได้
รังสีดาบเพลิงสีแดงยิงออกมาจากขบวนคน21 คนและฟันใส่เรือรบธนูดำอย่างดุดัน
ปัง!
แสงรังสีแตกกระจาย ท้องฟ้ายามราตรีสว่างวาบม่านพลังงานของเรือรบธนูดำสั่นสะเทือนรุนแรง เสียงจากการปะทะทั้งสองฝ่ายได้ยินทั่วทั้งเมือง
ถังเทียนจับด้ามปืนใหญ่แน่นหน้าของเขากระตุกเล็กน้อย เรือรบโคลงเคลงอย่างรุนแรงทำให้แผลของเขาเปิดอีกครั้ง เป็นเหตุให้เลือดไหล
สีหน้าของถังเทียนยิ่งเพิ่มความน่ากลัวและดุร้าย ‘เผชิญหน้ากับเจ้าในตอนนี้แล้ว มีแต่ผู้กล้าถึงจะชนะ ขณะนี้ไม่เป็นเจ้าก็ข้า
พลังงานทะลักเข้าไปในปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งอย่างเมามัน กระบี่ที่ลอยอยู่รอบตัวเขาสว่างเจิดจ้า
วืดดด วืดดดด วืดดดดด
ร้อยกระบี่พร้อมกัน!
“ฆ่า!”
รังสีกระบี่นับร้อยระดมยิงเหมือนสายฝน