ตอนที่ 642 ต้องการคุยเงื่อนไข? ว่ามาเลย!
บุรุษหมวกสูงไม่ได้เห็นสหายของเขาถูกต้อนเข้ามุมเขาแกล้งถอยเพื่อล่อนางเซียนหงส์ฟ้า เพื่อที่ว่าเขาจะได้กันคนที่แข็งแกร่งที่สุดออกพ้นทางไป
เขาไม่เคยนึกฝันเลยว่าสหายนักสู้ปราณฟ้าทั้งสองของเขาจะไม่สามารถโจมตีศัตรูได้ พวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากเขาอย่างหมดท่า
เนื่องจากการมาถึงของเย่ว์หยาง สมาชิกวังมารรู้ว่ามีความเป็นไปได้ในการล้มเหลวเป็นศูนย์ ระดับความมั่นใจของพวกเขาทะยานขึ้นทันที เมื่อเห็นวิธีที่เย่ว์หยางสามารถปั่นหัวศัตรูราวกับว่าพวกเขาไม่มีอะไร กำลังใจของพวกเขาก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นมากมายและพวกเขาทุ่มพลังโจมตีเต็มที่ ทักษะฝีมือระดับสูงถูกปล่อยออกมาขณะที่พวกเขาใช้ถี่จนดูราบรื่น และโดยการเสริมพลังให้กันและกันพลังที่ผสานของพวกเขาแข็งแกร่งมากกว่าปกติหลายเท่า
หลังจากสู้รบอย่างดุเดือดหนึ่งชั่วโมงหนอนทรายที่อยู่ใต้ดินก็ถูกมารเคราะห์ฟ้ายิงจนตาย นางได้ความดีความชอบมากที่สุดกับการฆ่าอสูรตัวแรก
สาวขี้เมาแพนด้าน้อยหนิวหนิว, เย่ว์หวี่และอสูรคลื่นพายุของนาง,นางเงือกวายุผนึกกำลังกันเอาชนะกิ้งก่าเขาศิลาได้ทำให้สัตว์ประหลาดตัวที่สองตาย อย่างไรก็ตามสัตว์ประหลาดที่น่าจะถูกฆ่าตายเป็นตัวที่สองควรเป็นแมงมุมปีศาจที่ต่อสู้กับมารแค้นฟ้า เพื่อต้องการยกระดับให้ตัวเขาเอง มารแค้นฟ้าจงใจปล่อยให้แมงมุมปีศาจมีชีวิตและใช้มันในการฝึกฝีมือ เขาต้องการความสำเร็จในการยกระดับ นอกจากนี้แมงมุมปีศาจมีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเหลือเชื่อ เมื่อมันมีเวลาพักมันจะฟื้นฟูพลังต่อสู้ได้ทั้งหมด มันคือศัตรูที่ยากลำบากมาก ในบรรดาสมาชิกวังมาร นอกจากเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้าแล้ว มีแต่มารแค้นฟ้าที่มีพลังเอาชนะสัตว์ประหลาดตนนี้ได้
มารฟ้าพิบัติผู้ยิ่งยโสสู้กับอสูรฝันร้ายไฟนรกเป็นเวลานาน
เขาลังเลใจที่จะฆ่าอสูรตนนี้ เขาอยากจะบังคับให้มันทรยศเจ้านายของมันและบังคับให้มันรับใช้เขา
น่าเสียดายดูเหมือนว่าอสูรฝันร้ายไฟนรกจะมีความภักดีต่อเจ้านายของมันมาก แม้ว่าหัวหน้าไป๋หม่าในตอนนี้จะถูกรุมเล่นงานโดยเสี่ยวเหวินหลีและอสูรอื่นๆแต่มันก็ยังปฏิเสธที่จะหักหลังเจ้านายของมันทำให้มารฟ้าพิบัติมีอารมณ์ทั้งเกลียดและทั้งมีความสุข
เขามีความสุขที่อสูรฝันร้ายไฟนรกยังมีความภักดี พิสูจน์ได้ว่ามันเป็นอสูรที่ดี สิ่งที่ทำให้เขาเกลียดก็คือมันไม่ได้เป็นของเขา
ยังมีการต่อสู้ระหว่างมารอาญาฟ้าและม้าเพลิงแดนสวรรค์ซึ่งรุนแรงจนยากจะแยกแยะว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะถ้าความสามารถของม้าเพลิงแดนสวรรค์ได้รับการขยายเพิ่มขึ้นหลายเท่าโดยอสูรลมโชยมารอาญาฟ้าก็แค่สู้ได้เสมอกับมันเท่านั้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากทักษะแสงชำระของเสี่ยวเหวินหลีมีความสามารถในการขับไล่กระจายพลังงาน ความสามารถในการเพิ่มพลังของอสูรลมโชยจึงลดลงอย่างมากมาย ทุกที่ที่สัมผัสกับแสงชำระจะทำให้พลังของศัตรูลดลงอย่างมาก ในทางตรงกันข้ามทุกคนที่อยู่ในฝ่ายเดียวกับเย่ว์หยางจะได้รับการฟื้นฟูจากความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เมื่อไม่มีการสนับสนุนจากอสูรลมโชยม้าเพลิงแดนสวรรค์ก็ไม่สามารถปล่อยพลังโจมตีได้เต็มที่เพื่อทำลายพลังป้องกันที่แข็งแกร่งของมารอาญาฟ้า ในทางตรงกันข้ามพายุที่รุนแรงซึ่งนางเงือกวายุเรียกทำให้ความเร็วในพลังต่อสู้ของม้าเพลิงแดนสวรรค์ตกลงเล็กน้อยจนมันต้องถอยทีละนิดจากพลังโจมตีของมารอาญาฟ้า
โชคดีที่มันรวดเร็วพอจะหลบหลีกจากการโจมตีที่รุนแรง
มารอาญาฟ้าไม่สามารถล้มมันได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
ก่อนที่นางเงือกวายุจะเป่าสังข์วายุเรียกพายุรุนแรงและก่อนที่เย่ว์หวี่จะเรียกอสูรคลื่นพายุออกมา งูหางกระดิ่งปีศาจมีความน่ากลัวมาก แค่อาศัยพลังของมันเอง ก็สร้างความลำบากให้กับสามมารฟ้าที่ระดับพลังต่ำที่สุดก็คือมารฟ้าพิโรธ,มารฟ้าสังหารและมารกระบี่ฟ้าจนร่วงไปอีก ไม่สามารถตอบโต้การโจมตีของมันได้
อาการบาดเจ็บสาหัสของมารกระบี่ฟ้าแทบจะทำให้เขาเกือบตายหลายครั้งแล้ว
อย่างไรก็ตามมังกรทองสามหัวที่ทรงพลังของไห่อิงอู่ได้เข้ามาช่วยชีวิตของเขาไว้อย่างกล้าหาญ
ด้วยการใช้อสูรคลื่นพายุของเย่ว์หวี่และพายุรุนแรงของนางเงือกวายุ งูหางกระดิ่งปีศาจได้รับความทรมานอย่างมากจากสภาพที่ลื่นไหล เนื่องจากโดยธรรมชาติของมันมันเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายแห้งแล้ง หลังจากเย่ว์หวี่ใช้บอลวารีบำบัดรักษามารกระบี่ฟ้า เขาโกรธจัดจนมีพลังมากกว่ามารแค้นฟ้าซึ่งถือกลองฟ้าผลาญใจ มารกระบี่ฟ้าควงกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เผชิญหน้าตรงๆกับงูหางกระดิ่งปีศาจที่ในตอนนี้ความเคลื่อนไหวและการสนองตอบของมันลดลงอย่างมากมาย เขาใช้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์แทงฟันศัตรูของเขาหลายครั้งคราพยายามสะสางความแค้นจากการที่เขาเกือบถูกฆ่าตายก่อนนั้น
หัวหน้าไป๋หม่าและเฮยถูไม่เคยคาดคิดเลยว่าแค่ทำให้ฝนตกและเรียกอสูรน้ำออกมาจะเปลี่ยนสถานะการต่อสู้ไปอย่างสิ้นเชิง
สภาพพื้นที่เปียกชื้นยังคงส่งผลใหญ่ต่ออสูรฝันร้ายไฟนรกและม้าเพลิงแดนสวรรค์ที่กำลังต่อสู้อยู่กลางอากาศ
ขณะเดียวกันเขาเกลียดนาคาสายฟ้าที่คอยเรียกสายฟ้าคอยลอบทำร้ายศัตรูเป็นครั้งๆ
แม้จะสูญเสียความสามารถในการดำดิน แต่แมงมุมปีศาจก็ยังสามารถลอยตัวอยู่บนผิดน้ำได้ ยังไม่ถึงกับได้รับผลที่แย่เกินไปนัก
อย่างไรก็ตามหนอนทราย, กิ้งก่าเขาศิลา,แมงมุมปีศาจและงูหางกระดิ่งปีศาจก็มีระดับพลังที่ตกลงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนอนทราย เนื่องจากความสามารถในการต่อสู้ตามธรรมชาติของมันอยู่ในที่ลึกต้องฝังตัวในทราย มันจึงกลายเป็นสัตว์ที่ไร้ประโยชน์เมื่อไม่มีสภาพแวดล้อมใต้ดิน มันกลายเป็นตุ๊กตาน้ำแข็งเนื่องจากทักษะของมารเคราะห์ฟ้ามหาภัยพายุหมุนและมหาภัยธารน้ำแข็ง เนื่องจากกิ้งก่าเขาศิลาไม่สามารถดำดินได้และสู้ต่อสู้ในสภาพแวดล้อมที่เปียกแฉะ มันจึงกลายเป็นตุ๊กตาหินให้ทุบตีทั้งเป็นด้วยฝีมือสาวขี้เมาและหนูน้อยแพนด้าหนิวหนิว มันตายอย่างน่าเวทนาที่สุด เนื่องจากมันตายด้วยฝีมือนักรบที่ยังไม่มีพลังปราณก่อกำเนิด
หัวหน้าไป๋หม่าเกลียดเสี่ยวเหวินหลีมากที่สุด เนื่องจากการปรากฏตัวของเธอทำให้พลังโจมตีของเขาถูกรั้งไว้หลังจากโดนพลังพันธนาการ
ปีศาจอสรพิษน้อยร้ายกาจยิ่งกว่าความชั่วของมันเอง
แต่เฮยถูไม่เห็นด้วย
เขารู้สึกว่าสิ่งที่น่ากลัวจริงๆไม่มีใครอื่นเกินกว่านางโคเงาเนื่องจากนางมีพลังหัวใจธรณีสารกับพลังที่ไม่มีหมดเหมือนกับพลังของไตตัน
แม้แต่นักสู้ปราณฟ้าระดับสองยังถูกนางทุบตีจนไม่เหลือเรี่ยวโต้ตอบ
บางครั้งเฮยถูก็สงสัยตัวเองว่าเขาเป็นนักสู้ปราณฟ้าหรือเปล่า
แน่นอนว่าเขาคงตายไปนานแล้วถ้าเขาไม่ใช่นักสู้ปราณฟ้า
อาหมันมีพลังแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นจากเงาปีศาจยักษ์จึงไม่ใช่ศัตรูที่นักรบธรรมดาจะสามารถรับมือได้
สำหรับเฮยถูเขาต้องยอมรับว่านี่เป็นการต่อสู้ที่ทรมานจริงๆ เมื่อพวกเขาต่อสู้กัน เขาตระหนักอย่างน่าเสียใจว่าวิทยายุทธของโคเงายังดีกว่าเขา นอกจากนี้การแลกหมัดโจมตีกับนางไร้ความหมาย ตราบใดที่นางยังคงยืนปักหลักอยู่กับพื้น นางจะลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วไม่ว่านางจะถูกทุบตีล้มไปกี่ครั้งก็ตาม ถ้าเขาเหนื่อยต้องการจะหลบหนี? โคเงานี้จะใช้โซ่ล่ามเทพในมือนาง ไอ้โซ่บ้านี่ก็มีความสามารถในการจำกัดฝีมือของเขาที่เป็นนักสู้ปราณฟ้า..เฮยถูผู้ติดอยู่ในสถานการณ์นี้ต้องเป็นฝ่ายถูกทุบตีบ้าง เขาเกือบร้องไห้เมื่อนางเงือกวายุเรียกพายุและเย่ว์หวี่เรียกคลื่นพายุ
นี่มันไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว! อย่าว่าแต่สู้กับนางโคเงาที่มีพลังหัวใจธรณีสารซึ่งเป็นจุดอ่อนของเขา พวกเขายังเริ่มต้นด้วยการสู้ในน้ำ
บุรุษหมวกสูงตีวงอ้อมกลับมาโดยไม่ได้โจมตี
ตอนแรกเขาคิดว่าเขาคงจะเห็นศพของศัตรูนอนเกลื่อนเต็มพื้น และสหายของเขาคงจะรอเขาและร่วมโจมตีมารกฎฟ้าพร้อมกันพร้อมกับรอยยิ้มเต็มใบหน้า
เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์จริงกลับตรงกันข้ามกับที่เขาคาดจำนวนของศัตรูไม่ได้ลดลง แต่สหายของเขากลับถูกทุบตีเล่นงานบาดเจ็บหนัก ศัตรูของเขากำลังหัวเราะรอให้เขากลับมา...เมื่อเห็นว่าเย่ว์หยางยิ้มสดใสรอเขา เขาตกตะลึงแทบตาย
“โธ่เว้ย, จงกวน,เจ้าเป็นตัวแทนประสาอะไรกัน? เจ้ารายงานข้อมูลผิดพลาด พาเรามาติดกับดักแล้วหนีเอาตัวรอดเอง อสูรของเรากำลังจะตายหมดในไม่ช้านี้ เจ้าหายหัวไปอยู่ไหนมา?” หัวหน้าไป๋หม่าฝืนตนเองสบถในท่ามกลางการต่อสู้ เพราะเขาโกรธมากเมื่อเขาเห็นบุรุษหมวกสูงกลับมาจนได้หลังจากไล่ตามมารกฎฟ้า
“มาตรงนี้เร็วๆ เข้า...” เฮยถูไม่มัวแต่พูดดีๆ แล้ว
มารฟ้าวิบัติ,สาวขี้เมา เย่ว์หวี่และคนอื่นๆ ฆ่าศัตรูของพวกเขาแล้วจึงมีเวลาว่างมาช่วยอาหมันสู้กับเฮยถู นี่ทำให้สถานการณ์ของเขาแย่มากกว่าแต่ก่อน
ทั้งนี้เพราะการต่อสู้ทางน้ำไม่ใช่เรื่องถนัดของเขา
มันคือจุดอ่อนของเขา
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่เป็นใจ บุรุษหมวกสูงจงกวนเริ่มรู้สึกปวดหัว
สหายของเขาที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าถูกศัตรูทุบตีเล่นงานแบบนี้ได้ยังไง? เกิดอะไรขึ้น? เขาวิ่งวนรอบสถานที่นี้กับมารกฎฟ้ารอบเดียวเท่านั้น แต่สถานการณ์ที่นี่จู่ๆก็กลายเป็นแบบนี้ช่างเหลือเชื่อจริงๆ!
เหมือนกับมีประกายไฟแว่บขึ้นมาในใจเขารู้ขึ้นมาทันที ถ้าข่าวลือเป็นจริงมีเพียงคนเดียวที่มีความสามารถแบบนี้! บุรุษหมวกสูงจงกวนร้องมาทางเย่ว์หยางที่ยังไม่ได้โจมตีตอนนี้ “เจ้า, เจ้าคือคุณชายสามตระกูลเย่ว์หรือ? ไม่, เจ้าไม่ควรจะอยู่ที่นี่ มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง? หรือว่าเย่เซียว จื่อกวงและเยี่ยซู่ไม่ได้ฉุดลากเจ้าลงไป? เจ้าถูกล่อให้ไปสู้ในผนึกโบราณอื่นเจ้าไม่ควรมาอยู่ที่นี่ เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง? เจ้า แยกร่างเป็นสองได้หรือ?”
เย่ว์หยางยังคงเงียบกริบ
เมื่อรอยยิ้มสาแก่ใจของเขาสะท้อนอยู่ในดวงตาของบุรุษหมวกสูงจงกวน ร่างของเย่ว์หยางหายไป
เขามาปรากฏอีกครั้งที่ด้านหลังจงกวน เมื่อม่านตาของจงกวนหรี่ลงและเขาเตรียมตัวหลบหนี วงจักรนิรันดร์กาลเส้นผ่าศูนย์กลางสิบเมตรปรากฏอยู่ใต้เท้าเย่ว์หยาง ร่างของจงกวนชะงักค้างอยู่ในกลางท้องฟ้า จากมุมมองของไป๋หม่าและเฮยถูจงกวนเหมือนกับหุ่นไม้ที่ถูกบดขยี้เป็นชิ้นเย่ว์หยางทุบตีเขาจนตาเขียวและจมูกบวมเป่ง ชุดที่งดงามขาดรุ่งริ่งยิ่งกว่าขอทานแม้แต่หมวกสูงที่อยู่บนหัวของจงกวนซึ่งมีค่าเท่ากับชีวิตของเขายังกระเด็นลอยไปจมน้ำระดับเข่า
สิ่งแรกที่จงกวนทำเมื่อรู้สึกตัวก็คือไปเก็บหมวกของเขา
เขาสวมมันไว้ด้วยความภาคภูมิใจ
เพียงเท่านั้นเขาก็หายใจโล่งอกราวกับว่าหมวกเป็นเหมือนชีวิตของเขาเอง
อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางไม่ยอมปล่อยเขาไป เขาควงดาบเทาเถี้ยและใช้ท่าดาบผ่าปฐพี...จงกวนรีบหลบพร้อมกับใช้มือประคองหมวก ร่างของเขาล้มลงกับน้ำอย่างทุลักทุเลจนน้ำแตกกระจาย
“มันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม?” หัวหน้าไป๋หม่าและเฮยถูรู้สึกผิดหวังอย่างมิต้องสงสัย ตอนแรกพวกเขาหวังว่าจงกวนจะมาช่วยพวกเขาให้รอด แต่เขาก็จบลงอย่างน่าอนาถ ความสามารถของบุรุษหนุ่มสูงส่งกว่าพวกเขาทุกคน ต่อให้พวกเขาทั้งสามคนโจมตีพร้อมกัน พวกเขาก็คงจะแพ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้วยการปรากฏตัวของมารกฎฟ้าผู้น่ากลัวและอสูรที่ไม่ธรรมดาอีกหลายตัว
“เราขอยอมแพ้ เราหวังว่าพวกเจ้าทุกคนจะอนุโลมตามกฎของการต่อสู้แดนสวรรค์ให้เรายอมแพ้ด้วยความภูมิใจ เรายินดีจะจ่ายชดเชยเพิ่มขึ้น” บุรุษหมวกสูงจงกวนเข้าใจดีว่าเขาไม่เคยเป็นศัตรูของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ ถ้าเขายังคงสู้ต่อไป เขาคงไม่สามารถรอดชีวิตกลับแดนสวรรค์ได้ ดังนั้นการยอมแพ้เป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ทันทีที่เขาเห็นว่าเย่ว์หยางฟุ้งซ่านเล็กน้อย เขายืนขึ้นทันที
เขาหยิบหมวกขึ้นมาก่อนแล้วดัดให้ตรง
จากนั้นเขากล่าวกับเย่ว์หยางด้วยความหยิ่ง “ในฐานะนักรบแดนสวรรค์ ต่อให้รบแพ้ก็ยังคงยอมรับและมีศักดิ์ศรี ก่อนที่เราจะจ่ายค่าชดเชยพวกเจ้าไม่ควรจะดูหมิ่นใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้เรายังมีสิทธิ์จะรักษาความลับไม่จำเป็นต้องตอบ ในฐานะนักสู้ปราณฟ้าคนหนึ่ง เรามองว่าเกียรติก็เหมือนกับชีวิตของเรา”
ตามกฎการสู้รบในแดนสวรรค์ นักสู้ปราณฟ้าได้รับอนุญาตให้ยอมจำนนศักดิ์ศรีได้เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ต่อสู้ที่ไม่เอื้ออำนวย
ตัวอย่างเช่นกลุ่มโจรเพลิงพิโรธเมื่อสองพี่น้องหัววัวเห็นว่าสถานการณ์ไม่พึงประสงค์ พวกเขายอมแพ้ให้กับราชาใจสิงห์
ไม่มีใครเยาะเย้ยพวกเขา เพราะในแดนสวรรค์ถือเป็นเรื่องปกติที่สมบูรณ์แบบเพื่อรักษากำลังของตนถ้าสถานการณ์นั้นจำเป็น
ในฐานะนักสู้ปราณฟ้าชีวิตของพวกเขาอยู่เหนือสิ่งใดอื่น.. มีกฎเกณฑ์ดีๆหลายอย่างสำหรับการยอมแพ้ของนักสู้ปราณฟ้า ตัวอย่างเช่น แม้ว่าพี่น้องมนุษย์วัวจะยอมแพ้ แต่พวกเขายังคงรักษาศักดิ์ศรีและชื่อเสียงเอาไว้แม้แต่เสี่ยวโฉ่วก็ยังไม่สามารถดูถูกหรือบังคับพวกเขาให้เปิดเผยความลับได้ เขาสามารถกักตัวพวกเขาจากการต่อสู้ได้
แน่นอนว่าสถานการณ์นี้แตกต่างไปจากหอทงเทียนอย่างสิ้นเชิง
หอทงเทียนมองว่าการยอมจำนนเป็นเรื่องที่ควรดูถูกอย่างหนึ่ง
โดยเฉพาะในสถานที่ทั้งสามแห่งนี้คือทวีปมังกรทะยาน บันไดสวรรค์ แดนอเวจี ในที่เหล่านี้การตายในการสู้รบจะได้รับเกียรติสูงสุด ขณะที่ยอมแพ้จะถือว่าน่ารังเกียจที่สุดและมีการกระทำที่อ่อนแอที่สุด
นี่คือเหตุผลที่บุรุษหมวกสูงจงกวนรีบอธิบายกฎทันทีเพราะกลัวเย่ว์หยางไม่รู้กฎของแดนสวรรค์
เย่ว์หยางฟังและผงกศีรษะพร้อมกับยิ้ม “ดี, แดนสวรรค์อาจจะเป็นเช่นนั้น แต่พวกเจ้าต้องจดจำไว้ในใจให้ดีว่านี่คือหอทงเทียนและนี่คือบันไดสวรรค์ แน่นอนเรื่องนี้ไม่มีอะไรสำคัญ ที่สำคัญที่สุด ข้าเป็นผู้ควบคุมที่นี่ไว้เข้าใจไหม? มีแต่คำพูดข้าที่เป็นกฎ มิฉะนั้นจะกลายเป็นว่าข้ายืนยันว่าเจ้าจะได้สนุกเพลิดเพลินกับการเดินทางมาหอทงเทียนสินะ”
“อา..ไม่ ข้าขอประท้วง..” บุรุษหมวดสูงจงกวนโกรธเหมือนกับว่าเขาพบกับคนเถื่อนไร้เหตุผล
“กฎของข้าข้อแรกคือต้องการจะพูดเรื่องเงื่อนไขก็ต้องมีอำนาจต่อรอง” เย่ว์หยางหัวเราะไม่สนใจการประท้วง
“อย่างนั้นเราจะกำหนดเงื่อนไขอำนาจต่อรองกันยังไง?” นางเซียนหงส์ฟ้าถามพลางหัวเราะ
“ตัวอย่างเช่นไม่พูดอะไรสักคำหลังจากถูกทุบตีไปสองสามชั่วโมง” เย่ว์หยางเข้าใจ
“เข้าใจแล้ว!” ทุกคนตอบรับ
คนที่ตอบสนองได้ไวที่สุดก็คือโคเงาอาหมัน นางต่อยใส่เฮยถูเต็มแรงทำให้เขาร้องลั่นอย่างสิ้นหวัง “เจ้ามันโง่จริงๆ จงกวน! เนื่องจากเราขอความปราณีจากเขาเราต้องก้มหัวให้เขา ทำไมเจ้าถึงมาพูดศักดิ์ศรีที่ไร้สาระของนักสู้ปราณฟ้า?ยอมแพ้แล้วยังจะมีศักดิ์ศรีอะไรอยู่อีก? การทุบตีและการเย้ยหยันทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากความหยิ่งยโสของเจ้า! เจ้าโง่! ก็แค่ตอบตกลงกับเขาไป ข้าโดนนังโคเถื่อนทุบตีเกือบจะตายอยู่แล้ว!”
จงกวนไม่มีโอกาสเอ่ยปากอีกเนื่องจากเขาทุบตีไล่ต้อนจากการร่วมมือกันทั้งจากนางเซียนหงส์ฟ้าและนางพญาซัคคิวบัส เขาไม่มีเวลาร้องขอความเมตตา
ในหลายๆอย่างไป๋หม่ายังดีกว่าเล็กน้อย
หลังจากโดนเสี่ยวเหวินหลีและนางพญากระหายเลือดเล่นงานอย่างดุดันในที่สุดเขาก็มีโอกาสพักหายใจและร้องขอยอมแพ้
เย่ว์หยางทำเป็นมองท้องฟ้าและใช้นิ้วก้อยไชหูเล่นแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไร
รอยยิ้มหยิ่งยโสปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขาจนน่าทุบตีนัก....