ตอนที่ 642 ตอบโต้
ปัง!
อีกร้านหนึ่งถูกทำลายเป็นชิ้นๆ ทหารทุกคนในที่อยู่ภายในมีประสบการณ์ดีอยู่แล้วดังนั้นก่อนที่ม่านพลังจะแตกสลาย พวกเขารีบถอยทันทีแต่ก็ยังมีสิบคนที่ไม่สามารถถอยได้ทันถูกฝังอยู่ในนั้นทั้งเป็น
หลายร้านถูกทำลายเป็นชิ้นๆและเหลืออยู่เพียงไม่กี่ร้านที่รอดพ้นจากการระเบิด ทุกร้านที่ยังเหลืออยู่เป็นร้านค้าธุรกิจของตระกูลใหญ่อยู่บนถนนทอง ตัวอย่างเช่นห้างของสมาคมการค้าสวีจี้ ธุรกิจของพวกเขามักจะเจริญรุ่งเรืองและมีสินค้าดีๆ ราคาแพงอยู่ภายในดังนั้นโครงสร้างของร้านค้าจึงไม่อ่อนแอ
เหออิงยิ้มเยาะอย่างชั่วร้าย,หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความปีติยินดีท่วมท้นยิ่งกว่าความอับอายที่เขาได้รับที่คฤหาสน์จันทราหลังจากที่อีกร้านหนึ่งถูกทำลายเป็นชิ้น ทำให้เขาตื่นเต้นยินดี ‘เจ้าพวกมดแมลง ไปตายซะเถอะ พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!’
“บุก!”
“กดดันพวกมัน!”
“ทลายถนนสายนี้ให้กับข้า!”
เสียงของเหออิงดังออกมาในบริเวณใกล้เคียง
เรือรบโจมตีเร็วและพวกทหารพากันตื่นเต้นกระเหี้ยนกระหือจะสู้อย่างสุดกำลัง จนถึงตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามยังไม่มีโอกาสโจมตีเลยสักครั้ง อาจกล่าวได้ว่าทั้งสองกองทัพข้างล่างที่เพิ่งซื้อมา พวกเขาไม่เคยได้ยินว่ามีกองทัพที่สามารถซื้อได้ ในกองพลที่สองเต็มไปด้วยความรังเกียจและเหยียดหยามศัตรูเช่นนั้น
สถานการณ์การสู้รบเป็นไปตามคาดการณ์ของพวกเขา
‘เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังที่แน่นอน ศัตรูข้างล่างเป็นแค่ฝูงมดแมลงเท่านั้น’
‘สู้กับมดแมลงทำไมต้องใช้กลยุทธ์ด้วย? ก็แค่ชนกันตรงๆ ตะลุยเข้าไปก็พอ!’
เมื่อเห็นว่าศัตรูเข้ามาใกล้ และเรือโจมตีเร็วอยู่ในระยะน้อยกว่า 100เมตรจากพวกเขา เซี่ยอวี่อันก็สามารถเห็นศัตรูอยู่บนเรือโจมตีเร็วกำลังยกนิ้วกลางและหัวเราะเยาะพวกเขา ขบวนเรือโจมตีเร็วกำลังโอบล้อมพวกเขาไว้หนาแน่น
‘เรารอมาเป็นเวลานานแล้วในที่สุดก็ได้เวลาเสียที...’
‘ในที่สุดก็ได้เวลาที่พวกเจ้าทุกคนจะได้ลิ้มรสพลังของพวกเรา’
เซี่ยอวี่อันใช้พลังในตัวทั้งหมดตวาดลั่น “โจมตี!”
กองกำลังนางแอ่นเตรียมพร้อมรออยู่นานแล้วระบายความโกรธทั้งหมดทันที ลำแสงนับไม่ถ้วนยิงขึ้นมาในท้องฟ้าเหมือนกับกระสุนปืนฝนกระบี่ที่หนาแน่นยิงออกไปโดยไม่มีการเตือนศัตรูให้รู้แต่อย่างใด
ประจัญบานทันที
ทุกคนรวมทั้งเหออิงคิดว่าศัตรูสูญเสียพลังต้านทานไปแล้ว และไม่คาดเลยว่าจะถูกซุ่มโจมตีหนักหน่วงขนาดนั้น
ตอนแรกเริ่มพวกเขายังคงระมัดระวังตัวอย่างมาก เนื่องจากหน่วยกองหน้าทะลวงฟันของพวกเขาถูกทำลายทำให้เหออิงระมัดระวังตัวมาก แต่ด้วยความได้เปรียบมากมายและความโกรธจากความอับอาย ในที่สุดเขาก็สูญเสียความระมัดระวังตัวต้องการย่ำยีมดแมลงทั้งหมด ทหารของกองพลที่สองเป็นกลุ่มของทหารที่หยิ่งยโส ทั่วทั้งถนนทองถูกพวกเขาทำลายจนเกือบหมด และศัตรูยังคงหดหัวอยู่ในกระดอง ดังนั้นพวกเขาเริ่มดูหมิ่นศัตรู การสู้รบดูเหมือนเป็นผลงานอย่างหนึ่ง เป็นผลงานที่งดงามในเมืองทรายขาว
เรือโจมตีเร็วบางลำที่กำจัดม่านพลังป้องกันได้ก็แสดงความกล้าหาญของพวกเขา
และเมื่อการโจมตีที่รุนแรงมาถึงอย่างกะทันหัน พวกเขาพากันตะลึงกันหมด
ปังปัง ปัง!
เรือโจมตีเร็วที่บินระดับต่ำสองสามลำไฟลุกท่วมทันทีตามมาด้วยการระเบิดที่รุนแรงส่วนต่างๆของเรือปลิวกระเด็นไปทุกแห่งและรังสีกระบี่แสงที่หนาแน่นดังหวีดหวิวเต็มท้องฟ้าภายใต้การโจมตีที่หนาแน่น ยอดฝีมือที่กำลังบินเองถูกกระบี่แทงทะลุทันที เลือดกระเซ็นไปทุกหนแห่ง เสียงกรีดร้องระงมผสมกับเสียงหวีดหวิวของกระบี่
ทหารกองกำลังนางแอ่นโห่ร้องอย่างบ้าคลั่งทุกคน หูของพวกเขาไม่ได้ยินอะไรอื่นนอกจากเสียงกรีดร้องของพวกเขาพวกเขาไม่ยั้งมือในการปล่อยพลังงานจากร่างพวกเขาใส่อาวุธบนเรือ อาวุธบนเรือรบทุกอย่างติดตั้งเป็นรูปขบวนและกลายเป็นเครื่องจักรฆ่าที่ทรงอานุภาพ
พวกเขาใช้กองทัพบรอนซ์ในพื้นที่เล็ก ไม่ว่าการฝึกประจำวันจะเข้มงวดเพียงไหนพวกเขาไม่เคยผ่านสงครามที่แท้จริง ต่อหน้าทหารระดับเงิน พวกเขาไม่มีพลังพอต่อสู้ แม้ว่าการโจมตีอย่างหนาแน่นของศัตรูจะทำให้พวกเขาทั้งหมดสำลักด้วยความกลัว
ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่มีทางถอย ถ้าไม่ใช่เพราะการฝึกฝนอย่างเข้มงวดภายใต้การกำกับของถังโฉ่ว ถ้าไม่ใช่เพราะความเคารพที่มีต่อผู้บัญชาการของเขาอย่างลึกซึ้งและความสัมพันธ์ที่สนิทสนม พวกเขาคงพังทลายไปก่อนนั้นแล้ว
แต่ขณะที่เมื่อเซี่ยอวี่อันออกคำสั่งให้โจมตี ความกลัวทั้งหมดเปลี่ยนเป็นความบ้าคลั่งในการรบ
‘เจ้าไม่ตาย ก็เป็นข้าสิ้น!’
บึ้ม!
ระเบิดทำให้เกิดไฟลุกไหม้ในขบวนเนื่องจากหนึ่งในอาวุธเรือรบไม่สามารถทนความหนาแน่นของพลังานได้การระเบิดมีผลต่อทหารที่อยู่ภายใน แต่โชคดีที่ระดับการระเบิดไม่รุนแรงเท่าใดนั้นดังนั้นจึงไม่มีทหารบาดเจ็บ แต่หลังจากสูญเสียอาวุธทหารก็อยู่ในสภาพสูญเสีย พวกเขายังไม่มีอารมณ์ต้องการสู้
บึ้มบึ้ม บึ้ม!
การระเบิดยังคงต่อเนื่องมาจากวงล้อมจากท้องฟ้า ขณะที่กลุ่มเปลวเพลิงร้อนแรงและแสงรัศมีฉายอยู่ในท้องฟ้า
ถังโฉ่วมองดูเซี่ยอวี่อัน เซี่ยอวี่อันที่มีนิสัยสงบใจเย็นแต่ในขณะนั้นมองดูเหมือนคนบ้า แต่ถังโฉ่วไม่ล้อเขาแม้แต่น้อยมีแต่ชื่นชมเขามากขึ้น
เซี่ยอวี่อันคือผู้นำทหารที่มีพรสวรรค์โดดเด่น ถังโฉ่วไม่เข้าใจว่าผู้นำที่โดดเด่นจะลงเอยกลายเป็นกองทัพที่ถูกซื้อได้ยังไง เทียบกันที่มาตรฐานผู้นำแล้ว เซี่ยอวี่อันมีมากกว่าอายะหลายเท่า
เซี่ยอวี่อันจัดกระบวนทัพได้ดี แม้แต่ถังโฉ่วที่เป็นคนจุกจิกก็ยังหาข้อบกพร่องไม่ได้ แม้จะมีกรอบเวลาที่จำกัดเซี่ยอวี่อันมีการเตรียมตัวจัดกระบวนรบเป็นอย่างดี เขาไม่ใช้ร้านค้าเป็นหลักใหญ่โดยตรงในการจัดกระบวน แต่ใช้คลังสินค้าที่อยู่ใต้ร้านและร้านค้าผิวเผินด้านหน้า
คลังสินค้าใต้ดินทั้งหมดนี้มีห้องลับเป็นสถานที่สำคัญที่สุดสำหรับตระกูลที่ทำธุรกิจทุกตระกูล เนื่องจากพวกเขาใช้เก็บสินค้าที่มีค่า
ร้านค้าด้านบนถูกกระแทกทำลายเป็นชิ้น แต่ส่วนหลักของกระบวนทัพไม่ได้เสียหายมาก และอาวุธยุทโธปกรณ์จัดอยู่ในตำแหน่งที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นการวางกำลังหนาแน่นจนน้ำไม่สามารถรั่วซึมเข้าไปได้ นั่นผ่านการวางแผนอย่างพิถีพิถันและแม่นยำลำแสงนั่น กระสุนแสงนั่นและกระบี่แสงในท้องฟ้าสานกันเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ ตาข่ายมรณะที่แท้จริง
นอกจากนั้นสิ่งที่ถังโฉ่วชื่นชมที่สุดก็คือความมั่นคงของเซี่ยอวี่อัน
เพื่อให้แน่ใจว่าศัตรูไม่ได้ตระหนักถึงความตั้งใจที่แท้จริงของพวกเขา รูปขบวนปลอมบนพื้นผิวและมีทหารรักษาการณ์อยู่ในนั้น การโจมตีรุนแรงจากกองพลที่สองทำให้ทหารบนภาคพื้นตาย แต่เซี่ยอวี่อันยังคงรักษาความสงบและรอให้โอกาสดีที่สุดมาถึง
ทหารคนสนิทของเขาเรียกร้องให้เขาดำเนินตามแผนหลายครั้ง แต่เซี่ยอวี่อันยังคงยืนกรานไม่หวั่นไหว
ผู้บัญชาการทหารที่โดดเด่น
ถังโฉ่วยังคงรักษาความนิ่งเฉยไว้ แต่ละคนในกองกำลังนางแอ่นยังไม่นับว่าแข็งแกร่ง มีเซียนระดับเงินในหน่วยน้อยเกินไป ดังนั้นพวกเขาไม่สามารถทนต่อการโจมตีรุนแรงได้นานเกินไป
แต่เซี่ยอวี่อันทำได้ดีมากกว่าที่เขาคาดไว้ และการสู้รบหลังจากนั้นจะตกเป็นของเขา
ตาของถังโฉ่วเป็นประกายเย็นชา หน่วยกะโหลกรวมตัวกันเรียบร้อยและเตรียมโจมตีตอบโต้
ภายใต้การคาดการณ์ของเขาในช่วงเวลาสั้นๆ ห้านาทีพลังโจมตีที่กองกำลังนางแอ่นได้เริ่มไว้จะมีกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว ทหารของกองกำลังนางแอ่นยังขาดประสบการณ์และไม่รู้วิธียืนสู้ระยะยาวและรูปขบวนการป้องกันชั่วคราวยังไม่อาจเทียบเรือโจมตีเร็วได้
เรือโจมตีเร็วต้องใช้พลังงานดังนั้นพวกทหารจำเป็นต้องคำนวณและวางแผนว่าจะต้องเหลือพลังงานเท่าใดนอกจากใช้รุกสู้ แต่อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ในกระบวนของกองกำลังได้ใช้พลังงานของพวกเขาไปหมดแล้ว
แต่ในช่วงเวลาห้านาทีก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง
เรือโจมตีเร็วในอากาศถูกกวาดล้างไปหลายลำ ขณะที่เรือโจมตีเร็วถูกศัตรูโจมตีพวกเขาถูกกวาดล้างไปมาก เพราะทหารในท้องฟ้าถูกฆ่าตายไปถึงหนึ่งในสาม
เรือโจมตีที่มีพลังทำลายมากก็ต้องใช้ทหารมากเนื่องจากสร้างความเสียหายได้มาก
เหออิงจ้องมองสนามรบอย่างว่างเปล่า เขาไม่เคยคิดเลยว่าสถานการณ์จะกลับกลายเป็นเช่นนั้นกะทันหันนอกจากกองพลที่สองของเขา เขาสูญเสียกำลังพลไปเกือบครึ่ง และความสูญเสียเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
‘เป็นไปไม่ได้....’
เหออิงไม่อยากเชื่อตาตนเอง ‘ข้าติดกับหรือนี่?’
เขามองดูถนนที่คล้ายกับซากปรักหักพังด้วยใจว่างเปล่า ใจของเขามึนงง ใจของเขารู้สึกเหมือนถูกมดกัด
เขาไม่ทันสังเกตว่ามีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งวิ่งออกมาทันที
หลังจากได้พักแล้วหน่วยกะโหลกได้ฟื้นคืนความสามารถในการต่อสู้ โดยมีอายะเป็นผู้นำออกมาแถวหน้า พวกเขาจัดเป็นกลุ่ม 15คนเหมือนกับมีหนามพิษหลายเล่ม เป้าหมายของพวกเขาก็คือทหารกองพลที่สองในท้องฟ้าที่พ่ายแพ้แตกขบวน
หลายร่างเฉียดผ่านสายตาของเขาไปทำให้เหออิงตกใจและฟื้นคืนความรู้สึก
เมื่อเขาเห็นสถานการณ์ชัดเจน เขาเกิดอาการเลือดขึ้นหน้า
‘เจ้ามดแมลงพวกนี้ บังอาจโจมตีข้า!’
‘พวกมันช่างห่ามจริงๆ’
‘กองทหารรับจ้างบังอาจโจมตีใส่กองทัพเงิน...’
เหออิงไม่เคยรู้สึกอายแบบนั้นมาก่อนในชีวิต พวกเขาคือกองพลที่สอง นอกจากซัวปี่ในทวีปทรายขาวแล้วไม่มีใครแข็งแกร่งมากกว่าเขา!
‘กองพลที่สองคือทหารฝีมือสูง!’
‘กองทหารรับจ้างบังอาจชูอาวุธต่อหน้าเราเชียวหรือ?’
เหออิงโกรธจนตัวสั่น ‘ฆ่าพวกมันให้หมด!”
กองพลที่สองค่อยเรียกความรู้สึกกลับมาได้ ทุกคนบินเข้ามาด้วยความโกรธ ตาพวกเขากลายเป็นสีแดงและพวกเขาไม่มีความลังเลใจตรงรี่เข้าหาศัตรู พวกเขาต้องการฟันศัตรูให้ขาดเป็นชิ้นๆ
แต่ใครจะรู้กันเล่าเมื่อกองทหารรับจ้างเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี พวกเขาก็เริ่มหันหลังหนี
‘หนี? พวกมันจะหนีไปไหน?’
กองพลที่สองไล่ตามศัตรูของพวกเขาอย่างไม่เลิกรา ในอกของทุกคนเต็มไปด้วยเพลิงโกรธ พวกเขาเป็นทหารที่มีประสบการณ์ และรู้ทันทีว่าทหารที่อยู่ในรูปกระบวนศึกไม่มีพลังเหลือแล้ว ดังนั้นตราบใดที่พวกเขากำจัดเจ้าพวกที่วิ่งหนีได้ พวกเขาจะชนะ
ไม่,เวลานี้ไม่มีใครคิดเรื่องชัยชนะ พวกเขาแค่ต้องการสังหาร ขอเพียงสังหารศัตรูของพวกเขาก็จะทำให้พวกเขาระบายความแค้นในอก
เหออิงก็รู้สึกทำนองเดียวกันเมื่อเห็นทหารของเขาไล่ล่าศัตรูเหมือนกับเสือที่มีความแค้นต่อหมาป่า เพลิงอำมหิตในใจของเหออิงยิ่งลุกโชน
ในพริบตาเดียวเหออิงตระหนักได้ทันทีว่ารอบๆตัวเขาว่างเปล่า
เขาก้มหน้ามองดูทหารของเขาไล่ตามศัตรูทิ้งระยะห่างออกไป
แย่แล้ว!
หน้าของเหออิงซีดขาว รอบๆ ตัวเขาเหลือผู้คุ้มกันเพียง 20 คน
“รวม...”
เหออิงตวาดร้องเรียกยังไม่ทันจบเมื่อถนนที่อยู่ด้านใต้เขาเริ่มมีรอยแตกร้าวเหมือนรูปใยแมงมุม
รอยร้าวรูปใยแมงมุมเผยอเปิดออก
ทั่วท้องฟ้าเต็มไปด้วยฝุ่นหินปลิวกระเด็นเหมือนเหมือนฝน เรือรบลำหนึ่งถูกทำลายร่วงกับพื้นทันที