ตอนที่แล้วตอนที่ 638 สู้ระยะประชิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 640 ต้องสู้เท่านั้น

ตอนที่ 639 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก


นอกจากวิทยายุทธทั้งหมดที่ถังเทียนได้ฝึกมาแล้ววิทยายุทธพื้นฐานของเขาใช้ได้เร็วที่สุด แม้ว่าเขาจะรู้จักวิทยายุทธหลายอย่างที่สามารถเพิ่มลงในการแสดงฝีมือของเขาซึ่งจะเพิ่มความเร็วในการแสดงวิชาของเขา  แต่สำหรับถังเทียน  เขารู้สึกว่าสิ่งเหล่านั้นฟุ่มเฟือย

ถังเทียนฝึกฝนวิทยายุทธแบบพื้นฐานมาอย่างลึกซึ้ง อาจกล่าวได้ว่าลึกซึ้งแบบไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนเนื่องจากเวลาที่ทุ่มเทไป

วิทยายุทธพื้นฐานจะอ่อนด้อยเรื่องการเปลี่ยนแปลงและจำเป็นต้องใช้ปราณแท้เพื่อสร้างพลังอ่อนๆ แต่แทบจะไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้  แต่เพราะไม่มีรูปแบบแน่นอน ไม่มีการใช้ปราณแท้จึงทำให้มีพลังมาก

การโจมตีของถังเทียนถี่และไวมากและแม้แต่หลิงซิ่วยังหน้าซีดเมื่อเทียบกับเขา ในการต่อสู้ถังเทียนพบกับสถานการณ์มาทุกประเภท แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตระหนักว่าความถี่ในการโจมตีของเขายังสูงไม่พอ

ความตกใจที่ถังเทียนเผชิญอยู่นั้นใหญ่หลวงมาก เซียนทุกคนจะพบว่าจุดที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาถูกฝ่ายตรงข้ามทำลาย  ผลกระทบดังกล่าวย่อมมีผลอย่างร้ายแรงมิต้องสงสัย

แม้แต่ถังเทียนที่เป็นคนที่แน่วแน่มั่นคงก็ยังอดรู้สึกสิ้นหวังในขณะนั้นไม่ได้

ข้าจะทำยังไงดี?

รังสีดรรชนีที่หนาแน่นเหมือนสายฝนบดบังสายตาของเขา  มันมีมากเกินไปและหนาแน่นจนเขาไม่มีที่หลบ

ชี่ ชี่ ชี่!

ขณะนั้นเวลาดูเหมือนเวลาจะช้าลงมากขึ้นจนเกือบจะหยุด

รังสีดรรชนีแทงเข้าไปในผนังพื้นและเรือรบด้านหลังของเขา มันแทงและตัดสิ่งเหล่านี้ได้ง่ายเหมือนกับหั่นเต้าหู้ทิ้งรูนับไม่ถ้วนไว้ด้านหลังของเขา ด้านหลังของเขามองดูพรุนเป็นรังผึ้ง  แม้แต่เรืองรบที่มีพลังป้องกัน  แต่พออยู่ต่อหน้าพลังดรรชนีก็ไม่มีความสามารถป้องกันได้ ไม้กระดานปลิวว่อน ดาดฟ้าเต็มไปด้วยรู และรังสีดรรชนีแทงทะลุพื้นทิ้งไว้แต่รูลึกให้เห็น

ภายในแสงร่างของถังเทียนลอยไปมาเหมือนกับใบไม้ อย่างจนใจและอ่อนแอ

ตลอดทั้งร่างของเซี่ยเฟยคลุมไปด้วยชั้นแสงจางสีขาว พลังที่เยือกเย็นของนางดูเหมือนว่าแม้แต่เทพก็ต้องคารวะ  ตาของนางไร้ความรู้สึกอารมณ์คมกล้าเหมือนกับว่านางกำลังบรรลุเข้าสู่ระดับใหม่

รังสีดรรชนีค่อยๆ ใกล้เข้ามา  ถังเทียนอยู่ในสภาพประหลาดใจ สถานการณ์ของเขาชัดเจนมากและดรรชนีสายที่เจ็ดนี้เขาไม่สามารถตามทันความเร็วของมันอีกต่อไป และถูกพลังนั้น

ถังเทียนเหมือนถูกบังให้สั่นสะท้านเพราะเหตุผลบางอย่าง ความโกรธพลุ่งขึ้นจากอกของเขา

‘หรือว่าข้าใช้ความพยายามตั้งมากมายผ่านอันตรายมามาก จะต้องมาจบลงที่นี่หรือ?’

‘ไม่!”

‘ข้าจะไม่มีทางยอมแพ้ ข้าบอกไว้แล้วว่าข้าจะสู้จนถึงที่สุด ข้าจะไม่ยอมทิ้งความหวังแม้จะเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่มีความหวัง! ข้าจะต้องไปให้ถึงนั่น!  ต่อให้ข้าโดนเล่นงานสะบักสะบอมก็ตาม ต่อให้ข้าไม่สามารถรักษาได้ ต่อให้ข้าต้องดิ้นรนที่ปากประตูแห่งความตาย   ต่อให้ข้าต้องคืบคลาน  ต่อให้ข้าต้องตายก็ตาม!’

‘ข้าจะตายต่อเมื่อถึงจุดสิ้นสุดเท่านั้น!’

ทันใดนั้นเลือดในร่างกายของเขาเดือดเหมือนกับลาวา ความรู้สึกเผาไหม้ที่รุนแรงทำให้ทั่วร่างกายแทบมอดไหม้เหมือนกับว่ามีบางอย่างกำลังเผาไหม้อยู่ภายในตัวของเขา  บางสิ่งบางอย่างที่กำลังดิ้นรนเพื่อให้หลุดออกมารู้สึกเหมือนกับมีบางอย่างคำรามด้วยความโกรธ มุ่งมั่นจะแสดงความหยิ่งออกมาอย่างย่ามใจ

‘ข้าสามารถเร็วได้กว่านี้!’

‘ข้าทำได้!’

เปลวเพลิงศรัทธาลุกโหมและขัดเกลาร่างที่เหมือนเหล็กกล้าของถังเทียน  เขาเป็นเหมือนมนุษย์โลหะที่โดดออกมาจากเตา ตลอดทั้งร่างเป็นสีแดงเขาโจมตีอย่างบ้าคลั่งไม่มีถอนถอย เขาไม่ต้องการถอย วิทยายุทธพื้นฐานผสานกับจิตตานุภาพที่เผาไหม้ร้อนแรงและระเบิดพลังขึ้นไปในท้องฟ้า

หลังจากฝึกฝนในวิทยายุทธพื้นฐานมานับครั้งไม่ถ้วน  เขาคุ้นเคยกับทุกความเคลื่อนไหวที่ไม่สามารถจะคุ้นมากไปกว่านั้นแล้ว  ความเคลื่อนไหวเหล่านั้นเป็นสัญชาตญาณไปแล้ว ‘ไม่พอ!  แค่นี้ยังไม่พอ!  ต้องมีทางให้ไวกว่านี้’

‘ต้องมีสักทาง...’

ถังเทียนเป็นเหมือนปลาที่พยายามกระเสือกกระสนหายใจพยายามอย่างบ้าคลั่งเพื่อหาทางรอดชีวิต

‘ต้องมีสักทางแน่นอน!’

เขากรีดร้องคร่ำครวญในใจ ตะโกนบอกตัวเองซ้ำๆราวกับคนเป็นโรคประสาท ทั้งหมดที่เขารู้สึก สัญชาตญาณทั้งหมดของเขา จิตสำนึก อารมณ์ ทุกสิ่งทุกอย่างของเขาทั้งหมดนี้รวมอยู่ในวิทยายุทธพื้นฐานในมือของเขา

ทุกๆรายละเอียดมีความชัดเจนอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ความรู้สึกคุ้นเคยหลังจากฝึกฝนมาเป็นเวลานานเหมือนก้อนน้ำแข็งหนาที่ถูกละลายช้าๆ  รายละเอียดที่แปลกตาไม่คุ้นเคยเริ่มผุดขึ้นมา

แต่, ยังไม่มีเวลาพอ...

เผียะ เผียะ เผียะ!

หลังจากทำลายพลังดรรชนีไปเก้าสาย  ในที่สุดถังเทียนก็โดนไปหนึ่งดรรชนีเลือดฉีดพุ่งกระจายไปทุกที่ และมีรูใหม่เพิ่มขึ้นที่ต้นขาของเขา

เซี่ยเฟยถอนหายใจโล่งอก  คู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บในที่สุด และกำลังจะตาย!

แต่เมื่อสายตาของนางมองดูใบหน้าของถังเทียน  นางตะลึง ‘ขะ..เขา...กำลังยิ้มจริงๆ..’

ถังเทียนเริ่มหัวเราะ

รังสีดรรชนีสายที่เก้าเทียบกับสายที่เจ็ดครั้งก่อน เพิ่มมาอีกสองเอง  เขาทำลายพลังดรรชนีได้เพิ่มอีกสองสาย  นั่นทำให้เขามีประกายแห่งความหวัง  หวังถึงชัยชนะ!

ความสนใจของเขาถูกรวมเอาไว้ที่มือของเขา  สำหรับวิทยายุทธพื้นฐานและไม่สนใจรังสีดรรชนีที่เต็มท้องฟ้าแต่อย่างใด เขายังคงทำลายสามดรรชนี และเมื่อเห็นว่าเขาไม่สามารถหลบดรรชนีที่สี่ไม่ได้เขาปล่อยมัน และให้พลังทะลวงผ่านร่างเขาไป

ฉัวะ!

อกของเขามีรูเพิ่ม และมีรูลึก

ถังเทียนไม่ส่งเสียงคราง  เขายังคงแยกเขี้ยวอวดฟันขาว  อาการบาดเจ็บจะทำให้เขามีเวลาเอาชนะ

ปัง ปัง ปัง...ฉัวะ...

เสียงระเบิดต่อเนื่องดังมาจากพลังดรรชนีที่แตกระเบิดผสมกับเสียดรรชนีที่แทงใส่ร่าง และฉากภาพที่เต็มไปด้วยแสงรังสีและหยดเลือดลอยกระเซ็น  หน้าของเด็กหนุ่มจริงจังแน่วแน่ดูคล้ายรูปปั้น

‘ต่อให้ข้าตาย ข้าจะตายเมื่อบรรลุเป้าหมายสุดท้ายแล้ว!’

ถังเทียนยืนกรานมากกว่าที่เซี่ยเฟยคาดคิดไว้มากนัก  เขาถูกพลังดรรชนีไป 12 แผลแล้ว  แม้ว่าแผลเหล่านั้นจะไม่รุนแรง  แต่โลหิตก็ยังไหลอยู่ ทำให้เขาดูเหมือนเป็นมนุษย์โลหิต

‘ทนทายาดจริงๆ’

ใจของเซี่ยเฟยเต็มไปด้วยความนับถือ  แต่นางยังคงเงียบสงบ  คู่ต่อสู้ของนางบาดเจ็บหลายแผล  และทุ่มเทอย่างเห็นได้ชัด

‘ได้เวลาปิดฉากแล้วเจ้าคือทหารกล้าคนหนึ่ง ข้าจะใช้อีกวิธีเพื่อปิดการต่อสู้ครั้งนี้’

ทั่วทั้งตัวนางเปล่งแสงออกมาเหมือนคลื่นแสงลอยเข้ามาในฝ่ามือนาง สีหน้านางเริ่มเคร่งขรึม  นางค่อยๆยกฝ่ามือทั้งสอง และในระหว่างฝ่ามือนั้น มีบอลแสงอบอุ่นอยู่เหนือศีรษะนาง

“พลังแสงเอยจงลบล้างทุกอย่างออกไป!”

นางพึมพำเบาๆ และเสียงระเบิดดังเหมือนฟ้าผ่าพลังงานทั้งหมดที่อยู่รอบแผ่พุ่งออกไปทันที

แสงรังสีที่ละเอียดยิงออกมาจากบอลแสงและรังสีขนาดเข็มเล่มหนึ่งปรากฏบนหน้าผากของถังเทียน

ถังเทียนถูกล็อคเป้าแล้ว

********

การสู้รบที่ภาคพื้นล่างก็รุนแรงพอๆ กัน

หลังจากที่พวกคนชุดดำวูบวาอยู่ตามสิ่งก่อสร้าง  พวกเขาเคลื่อนไหวกันอย่างรวดเร็วเหมือนภูตพรายยามราตรีและคร่าชีวิตผู้คนไปหลายคน เซี่ยเฟยไม่ได้โกหก งานของนางคือฆ่าเหมิ่งหนาน ขณะที่พวกนักฆ่าฝีมือดีมีเป้าหมายทำลายและสร้างความปั่นป่วนและไม่ให้โอกาสถังโฉ่วได้จัดตั้งกระบวนป้องกัน

อยู่ต่อหน้ายอดฝีมือที่แท้จริง  ทหารของกองกำลังนางแอ่นไม่อาจป้องกันตัวได้และในช่วงเวลาสั้นๆ สิบวินาที พวกเขาเสียคนไปถึง 20 คน

ถังโฉ่วคำรามลั่นอย่างไร้ความรู้สึก  “กองกำลังนางแอ่น  อย่าหลงตามศัตรู  หน่วยกะโหลก ถึงคราวของพวกเจ้าแล้ว!”

ถังโฉ่วออกคำสั่งทันที  กองกำลังนางแอ่นรีบสลายขบวนทันทีขณะที่หน่วยกะโหลกวิ่งเข้ามา

“กลยุทธ์หมายเลข7!”

เสียงคำสั่งที่เยือกเย็นของถังโฉ่วดังก้องในยามค่ำคืน

หน่วยกะโหลกทะยานลงมาเหมือนหิมะถล่มและจัดเป็นกลุ่มเจ็ดคนอย่างรวดเร็ว พวกเขาเหมือนกับงูเล็กหลายตัวเข้าประชิดกับนักฆ่าฝีมือดีจากทั่วทุกตำแหน่ง

เป็นวิธีการที่พบมากที่สุดที่กองทัพจะจ้างยอดฝีมือเอาไว้ กลุ่มคนเจ็ดคนแม้ว่าทักษะต่อสู้จะไม่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็มั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกฆ่าตายอย่างง่ายๆและความคล่องตัวของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

แต่คู่ต่อสู้คือมือดีจากทวีปกวงหมิง  พวกเขาแข็งแกร่งและมีประสบการณ์มากมาย

พวกเขาเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้มาเป็นแบบกลุ่มซึ่งครอบคลุมกันและกัน

การบาดเจ็บล้มตายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกับหน่วยกะโหลก

ถังโฉ่วรู้ว่าการต่อสู้จะไม่จบเร็วเกินไป  เขาหันไปบอกเซี่ยอวี่อัน“ฉวยเวลาตอนนี้เตรียมตั้งกระบวนป้องกัน”

เซี่ยอวี่อันผงกศีรษะด้วยสีหน้าจริงจัง  และหมุนตัวบินออกไป  เขาเองก็เห็นความตั้งใจของศัตรู ถ้ากองพลที่สองมาถึงก่อนตั้งขบวนป้องกันในพื้นที่สำเร็จ  พวกเขาจะไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย

และนอกจากนี้เวลาที่พวกเขาได้รับนั้นแลกเปลี่ยนมาจากชีวิตของทหารหน่วยกะโหลก

เซี่ยอวี่อันลอบกำหมัดแน่น

อายะเงื้อดาบเคลย์มอร์ของนางวิ่งเข้าหา  นางเคยนำทหารของนางอยู่แถวหน้า  นางเป็นสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของหน่วยกะโหลก  นางจึงเป็นแกนหลักของหน่วยไปโดยปริยาย

สหายที่เสียสละชีวิตไปทุกคนทำให้หัวใจของอายะเหมือนมีหยาดเลือด ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าพื้นที่สู้รบเป็นโลกที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงและโหดร้ายทารุณมากกว่าการสู้รบธรรมดา

ภูมิประเทศเอื้ออำนวยให้พวกเขาได้ประโยชน์สูง  พวกเขาไม่อาจทุ่มสมาชิกเข้าไปสู้ได้อีก  เนื่องจากการสู้รบถูกจำกัดให้มีขนาดเล็ก  และสนามสู้รบทั้งหมดยิ่งดูน่ากลัวมากและหน้าของผู้ชมก็ดูน่าเกลียดมาก

หน่วยกะโหลกสูญเสียคนไปเกินหกสิบคน  แต่พวกเขาก็ฆ่าศัตรูฝีมือดีไปหกคน แม้ว่าอายะและคนของนางจะได้เปรียบเรื่องจำนวน  แต่โดยเฉลี่ยแล้วการฆ่านักฆ่าฝีมือดีได้แต่ละคนจะต้องแลกด้วยชีวิตทหารถึงสิบคน

อายะและหน่วยกะโหลกโกรธมาก

ที่สำคัญยิ่งกว่า นางกดดันพวกเขาออกถนนได้สำเร็จ

มันโหดเหี้ยมอำมหิตมาก  เพราะร้านคือส่วนสำคัญสำหรับตั้งกระบวน  ตราบใดที่พวกเขาผลักดันนักฆ่าออกจากเงาได้จากนั้นเซี่ยอวี่อันจะจัดรูปขบวนได้

หลังจากทุ่มชีวิตคนไป 80 คนในที่สุดอายะก็สามารถฟันนักฆ่าคนสุดท้ายได้

โลหิตไหลนองพื้น และนักฆ่ากระอักโลหิต

ขณะนั้นเองเสียงระเบิดดังขึ้นกระจายไปในท้องฟ้า

“แสงเอย,..จงล้างผลาญให้หมด!!”

พลังงานทั้งหมดในทั่วถนนสั่นสะเทือน  อายะและทุกคนตกใจ นักฆ่าที่เลือดโทรมกายปล่อยแสงอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน  แววบ้าคลั่งยังคงหลงค้างอยู่ในใบหน้าของเขา

แย่แล้ว!

นายท่าน!

ใจของอายะและเซี่ยอวี่อันหดเกร็งพร้อมกัน  ใบหน้าซีดไร้สีเลือด  ถ้ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับนายท่าน  อย่างนั้นทุกอย่างที่ทุ่มเทมาจะสูญเปล่า และนั่นคือความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง

ขณะที่พวกเขายังคงคิดอยู่  ถังโฉ่วออกคำสั่งทันที  “หน่วยกะโหลก กลับเข้ากระบวน  ทุกคนเตรียมตัวสู้รบ!”

เซี่ยอวี่อันและอายะตกใจ  ทั้งสองคนมองดูท้องฟ้าพร้อมกัน

ในที่ไกลออกไป จุดแสงเริ่มปรากฏขึ้นในท้องฟ้าที่มืดมิดทีละจุดๆ

กองพลที่สอง!

“กลับเข้ากระบวน!”

“ทุกคน,กลับเข้ากระบวนเดี๋ยวนี้!”

เซี่ยอวี่อันคำรามก้องไปทั้งถนนทอง  เขารู้ว่าช่วงเวลาวิกฤติที่สุดมาถึงแล้ว  การสู้รบที่จะตามมาจะมีความรุนแรง  แนวป้องกันทั้งหมดก่อตั้งโดยกองกำลังนางแอ่น นั่นหมายความว่ากองกำลังนางแอ่นจำเป็นต้องต่อต้านกองพลที่สองที่โดดเด่นด้วยตัวพวกเขาเอง

เวลากระชั้นตำแหน่งของพวกเขายังตั้งไม่สมบูรณ์ดี ยังไม่อยู่ในสภาพไร้พ่าย

กองพลที่สองพุ่งเข้ามาใกล้ทุกทีและเมื่อเซี่ยอวี่อันเห็นเรือโจมตีเร็วลำแล้วลำเล่า สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที

เรือโจมตีเร็ว!  กองพลที่สองนำเรือโจมตีเร็วมาด้วย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด