ตอนที่ 638 ดูซะ นี่คือพลังแค้น
กูตู!
หลังจากที่เขาเห็นว่าหัวหน้ากลุ่มถูกนางเซียนหงส์ฟ้าโจมตีทำร้ายจนตายในกระบวนท่าเดียว รองหัวหน้าเพียงแต่ตกตะลึงและทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือกลืนน้ำลายนัยน์ตาแสดงความหวาดกลัว
ความจริงไม่ใช่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่สมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบานทั้งหมดก็กลัวตายไปครึ่งชีวิตแล้ว
นักรบแดนสวรรค์ร้องด้วยความกลัว!
ดูเหมือนว่าการจัดการคนจากหอทงเทียนไม่ใช่เรื่องเล็กเสียแล้ว มิฉะนั้น ทำไมแดนสวรรค์ตะวันตกถึงได้ยุ่งยากยอมปิดประตูแดนสวรรค์และผนึกเอาไว้เล่า? โชคดีที่ไม่มีคนอื่นที่คล้ายกับจักรพรรดิอวี้ การที่กลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบานมาที่นี่เป็นการส่งอาหารกันชัดๆ
บุรุษสวมหมวกสูงลอบดีใจที่หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบานตาย ไม่สำคัญหรอก เพราะเขาจะเป็นแพะรับบาปอยู่ดี
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าพลังงานของมารกฎฟ้าไม่สามารถคงไว้ตลอดเวลาที่แน่นอนหลังจากใช้ไปแต่ละครั้งจะต้องใช้ระยะเวลานานสำหรับนางเพื่อให้สามารถกู้คืนพลังได้อีกครั้ง หัวหน้ากลุ่มหมาป่าประจัญบานตายไปแล้ว เขาไม่ได้ตายแบบสูญเปล่า อย่างน้อยที่สุดเขาช่วยคนหมวกสูงให้พ้นจากอันตรายโดยอ้อม ตราบใดที่มารกฎฟ้าใช้พลังของนางฆ่ามนุษย์หมีตอนนั้นพลังของนางน่าจะตกลงไปมาก บุรุษหมวกสูงก็อาจจะได้รับชัยชนะสุดท้าย... บุรุษหมวกสูงพบว่าแผนเดิมไม่ได้ดำเนินไปตามแผนแม้ว่าจะมีเหตุเปลี่ยนแปลงบางอย่าง แผนการโดยรวมไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก เนื่องจากพันธมิตรของเขาตายไปหมดแล้วในตอนนี้ ตราบใดที่เขายังมีชีวิต นั่นก็ไม่เป็นไร
“เดินหน้า, ทุกคน...โจมตี...”
มนุษย์หมีพบว่านางเซียนหงส์ฟ้ากำลังจ้องมองเขาและเขารู้สึกกระวนกระวายใจ ทันใดนั้นเขาสั่งให้สมาชิกคนอื่นโจมตี เพื่อทำให้นางเสียสมาธิ
เขาต้องได้ตัวประกันเพื่อรักษาชีวิตของเขา
นอกจากนี้หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบานคงไม่ใช่มีเพียงคนเดียวที่ล้มลงไปแบบนั้น
ก่อนที่กลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มหมาป่าประจัญบานตะลุยเดินหน้า คนจากกลุ่มวังมารก็บุกโจมตีเอาเปรียบไว้ก่อน มีแต่เพียงมารเคราะห์ฟ้าที่เผชิญหน้ากับสามรองผู้บัญชาการของกองกำลังสายฟ้าสามรองผู้บัญชาการกองกำลังสายฟ้านี้มาจากกลุ่มของจงเหลยถิง,และกองทัพของจ้านหู่และเป่ยเหลียวหยา แต่ละคนอาจเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหก และอาจเป็นนักสู้ระดับเจ็ดก็ได้
ทั้งสามคนรวมกลุ่มเพื่อโจมตี พลังที่พวกเขารวมกำลังกัน ไม่ใช่เรื่องเล็ก
มารเคราะห์ฟ้าแทบจะตกอยู่ในการต่อสู้ที่ยากลำบากทันที
ยังคงมีนักสู้จากแดนอเวจีอีกสองสามคน เป็นไปได้ว่าทุกคนเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดและพวกเขาบุกใส่สาวขี้เมาเย่ว์หวี่และเย่ว์ปิง
พวกเขาเกลียดที่ราชันย์ปีศาจใต้ฆ่าทหารของพวกเขาทั้งหมดนอกจากนี้เย่ว์ซานยังฆ่าราชาเฮยอวี้และคุณชายสามตระกูลเย่ว์เอาชนะในสังเวียนมรณะทำให้จ้านหู่และเป่ยเหลียวหยาต้องตาย พวกเขาจึงไม่มีความรู้สึกที่ดีกับตระกูลเย่ว์
“เจ้าคิดหรือว่าแค่ด้วยพลังปราณก่อนกำเนิดจะสามารถเอาชนะเราได้? เจ้าเข้าใจผิดไปแล้ว!” สาวขี้เมาไม่มีความกลัวใดๆใช้พลังเต็มที่ของนางบุกเข้าสมรภูมิ นางถูกเย่ว์หยางข่มและได้รับประสบการณ์ต่อสู้มากมาย นางเคยแต่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่มีผู้เคารพ แต่ตอนนี้ผู้ที่นางจะสู้ด้วยเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด
นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่ง ปราณก่อกำเนิดระดับสอง พวกเขาจะมีค่าอะไร?
เมื่อนางเคยฝึกกับเย่ว์หยาง เขาใช้พลังปราณก่อกำเนิดระดับสี่หรือห้าข่มนางไว้ พลังปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่งหรือสองไม่มีผลอะไรมากต่อนางจริงๆ
ก่อนที่การสู้รบจะเริ่มขึ้น แพนด้าน้อยหนิวหนิวห่อขนมเปี๊ยะของโปรดด้วยผ้าเช็ดหน้าที่แม่สี่ทำให้นางเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรเสียหาย หลังจากที่นางเก็บขนมเปี๊ยะไว้อย่างดีแล้ว นางต้องไปเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ นางตั้งท่าและใช้เสียงสาวน้อยของนาง “ขอบคุณที่รอกัน, หนิวหนิวพร้อมแล้ว มาสู้กัน!”
ที่ฝ่ายตรงข้าม ปีศาจจากแดนอเวจีคิดว่าคงจะหลอกล่อนางได้ง่ายๆจึงแกล้งใช้แผน “แม่หนู,ทำไมสองเราไม่มานั่งคุยกันและแบ่งขนมเล่า ข้ามีขนมตั้งเยอะแยะ ของหวานทั้งนั้นข้าจะแบ่งให้เจ้าก็ได้”
“ขอบคุณ, หนิวหนิวไม่รับของจากคนไม่ดี!” แพนด้าน้อยหนิวหนิวเต็มไปด้วยหลักการ อย่างไรก็ตามนาง ทางหนึ่งนางกลืนน้ำลายเนื่องจากนางชอบ อีกทางหนึ่งนางปฏิเสธข้อเสนอโดยการส่ายศีรษะ
“ข้า,ข้าไม่ใช่คนเลว ทั้งหมดที่ข้าต้องการก็คือเงิน!” นักสู้จากแดนอเวจีทำท่าเหมือนกับเป็นคนดีมาก
มันเหยียดมือออก
ลูกอมหลากสีสันมากมาย ปรากฏขึ้นในมือของมันเหมือนเล่นกลทำเอาหนิวหนิวตาลาย
แพนด้าน้อยหนิวหนิวจ้องมองและต้องใช้ความพยายามอย่างหนักสั่นศีรษะปฏิเสธ ทันใดนั้นสายตานางหันไปมองดูลูกอมอีกครั้งและนางพูดอย่างอ่อนแรงว่า “นั่นขนมหวานจริงๆหรือ?”
ทันทีที่นักสู้จากแดนปีศาจเห็นว่ามีโอกาส มันพยักหน้าให้นางและใช้ความพยายามกับนางอีกครั้ง “ทั้งหมดเป็นของเจ้าและที่ๆข้าจากมาก็มีมากมาย เจ้าสามารถกินได้เท่าที่ต้องการ จนกว่าเจ้าจะพอใจ!”
แพนด้าน้อยหนิวหนิวไม่อาจต้านทานความอยากขนมได้เดินเข้าไปหาขนมสองก้าวจากนั้นหยุด
นางเดินออกไปสองก้าวจากนั้นก็หยุดอีกครั้ง
นักสู้แดนอเวจียังคงปะเหลาะนาง หลอกล่อนางเขาแก้ห่อลูกอมเม็ดหนึ่งแล้วโยนใส่ปาก จากนั้นเคี้ยวเสียงดังและทำทีว่าลูกอมนั้นอร่อยและหวานมาก
หนิวหนิวถูกหลอกล่ออย่างเห็นได้ชัด
นางเดินเข้าไปใกล้ทุกที
มันยังคงยิ้มให้นาง กระตุ้นให้นางเข้าไปหามัน มันรู้และผยองใจในสิ่งที่มันทำเพื่อล่อนางจัดการกับอสูรที่มีปัญญาต่ำนั้นง่ายดายมาก
ด้วยสติปัญญาของพวกเขาสามารถบอกได้ว่าแพนด้าน้อยหนิวหนิวชอบของหวานและทั้งหมดที่พวกมันทำก็คือเตรียมของหวานพิษไว้นางกิน พวกมันไม่จำเป็นต้องสู้ ก็สามารถจับนางได้ง่าย
เมื่อมันรู้สึกยินดีกับตัวเองเต็มที่ที่สามารถใช้พิษหลอกล่อนาง ทันใดนั้นแพนด้าน้อยหนิวหนิวพุ่งเข้าหาราวกับสายฟ้าพร้อมกับหมัดที่ทรงพลัง
นางต่อยใส่ที่หัวใจของมัน
นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่งที่ถูกทำร้ายปลิวกระเด็น
ซี่โครงของมันทั้งหมดถูกบดขยี้ ขณะที่มันล้มกับพื้นก็กระอักโลหิตออกมา
“เจ้าต้องการล่อลวงหนิวหนิวด้วยลูกอมอร่อยจริงๆ ด้วย เจ้าต้องเป็นคนไม่ดี พี่ชายบอกข้าแล้ว เว้นแต่คนที่รู้จัก ใครก็ตามที่ให้ขนมข้าล้วนเป็นคนไม่ดีทั้งนั้น! เจ้ามันน่ารังเกียจ เจ้ารู้ว่าหนิวหนิวชอบลูกอมอร่อยๆ ดังนั้นเจ้าจึงใช้วิธีนั้นล่อลวงหนิวหนิว ข้าเกลียดเจ้า!พี่ชายบอกข้าแล้วว่าคนไม่ดีอย่างเจ้า ต้องให้หนิวหนิวลงโทษอย่างดุร้าย มิฉะนั้นข้าจะถูกโกง หนิวหนิวจะไม่มีวันถูกโกง เจ้าคนเลวที่ชอบรังแกเด็ก จงรับความตายซะ!” แพนด้าน้อยหนิวหนิวโกรธจัดจนพลังของนางสูงขึ้นกว่าเดิมนางวิ่งเข้าไปทุบนักสู้แดนอเวจีจนเขาลุกไม่ขึ้น ได้แต่ครวญครางกับพื้น..
เย่ว์หยางรู้จุดอ่อนของแพนด้าน้อยหนิวหนิวอยู่ก่อนแล้วซึ่งก็คือสาเหตุให้เขาฝึกนางให้อดทนต่อต้านของล่อใจเหล่านี้เป็นพิเศษ
เว้นแต่ตัวเขา แม่สี่ สาวขี้เมา เย่ว์หวี่และสาวๆ แล้ว เขาห้ามมิให้นางรับอาหารจากคนอื่นในการฝึกพิเศษนาง พวกเขาทดสอบนางโดยให้เย่คงและเจ้าอ้วนไห่มาปะเหลาะหลอกล่อนางและนางบอกว่านางไม่รับ นี่คือการพัฒนาความมุ่งมั่นเพื่อให้ต้านทานและปรับปรุงความทรงจำของนางเพื่อที่ว่านี่จะกลายเป็นสิ่งที่นางสามารถจำใส่ใจได้จริงๆ
คนอื่นๆที่ต้องการล่อลวงนางด้วยขนมไม่ว่าจะด้วยเหตุผลหรือวัตถุประสงค์อะไร นางต้องทำกับพวกเขาเหมือนเป็นศัตรู
ตามบทฝึกพิเศษของเย่ว์หยางหนิวหนิวจะต้องแกล้งทำเป็นหลงกลของศัตรูและเข้าไปใกล้ศัตรูจากนั้นโจมตีพวกเขาด้วยหมัดที่แข็งแกร่งที่สุดของนาง!
การฝึกพิเศษนี้ที่ทำให้นางเปลี่ยนไปประสบความสำเร็จอย่างมาก
สุดท้ายสิ่งที่คนมั่นใจเกินไปได้รับจากนาง ก็คือโศกนาฏกรรม
“ข้าตีเขาแล้วตีแล้วตีอีก เจ้าคือคนเลวที่ชอบรังแกเด็ก เจ้าต้องได้รับบทเรียนเสียบ้าง ตี ตี ตี ตี!” ถ้าแพนด้าน้อยหนิวหนิวไม่ลอบทำร้ายมันด้วยพลังหมัดเต็มแรงและต่อสู้ตรงๆมีโอกาสเพียงครึ่งต่อครึ่งเท่านั้นที่จะชนะการต่อสู้ เนื่องจากการโจมตีที่น่าทึ่งนี้ทำได้สำเร็จจึงทำร้ายนักสู้แดนอเวจีจนบาดเจ็บหนัก และทุบตีมันจนไม่สามารถตอบโต้ได้ มันได้แต่ทนเจ็บและคลานหนีออกไป
“หลีกทางข้า!” ในการเคลื่อนไหว พันธมิตรของมันทำร้ายเย่ว์หวี่จนกระเด็นออกไปได้เข้ามาใกล้ “เจ้ายังเอาชนะอสูรศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ แล้วยังจะมีน้ำยาอะไรอีก?”
“ระวังแพนด้าน้อยนี่ไม่ใช่ธรรมดา” ปีศาจแดนอเวจีที่ยังอยู่บนพื้นเตือนสหาย
“เจ้าก็แค่ตัวไร้ประโยชน์ไม่เช่นนั้นก็คงเป็นเพราะนางแข็งแกร่งมีฝีมือ อย่ามาเกะกะทางข้า เป็นเด็กเป็นเล็ก กลับไปดูดนมมารดาเจ้าซะ นี่คือสนามต่อสู้ ไม่มีที่ให้เด็กน้อยอยู่รอดที่นี่ได้!” ปีศาจแดนอเวจีอีกคนเชี่ยวชาญในการใช้เพลิงนรกเพิ่งใช้กรงเล็บตวัดต้อนไล่แพนด้าน้อยหนิวหนิว ปากของเขาพ่นไฟยาวเป็นลำจนทำให้หนิวหนิวตกใจร้องด้วยความเจ็บปวดและถอยหนี
“ข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไปแน่ เจ้าบังอาจทุบตีพี่รองและหนิวหนิว!” เย่ว์ปิงเห็นเย่ว์หวี่กระเด็นออกไปและหนิวหนิวถูกไฟลวก ความโกรธของนางเพิ่มขึ้นจนถึงจุดเดือด เดิมทีนางสังเกตเห็นมารเคราะห์ฟ้าตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายที่สุดและเตรียมจะช่วยเหลือนาง พอตอนนี้นางเห็นว่าทั้งเย่ว์หวี่และหนิวหนิวแพ้นางเรียกพญาไม้ไตตันโบราณทั้งสองของนางและนางไม้แสงเขียว ขณะที่ตัวนางเองเข้าต่อสู้กับนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสองที่มาจากแดนอเวจี แม้ว่าเย่ว์ปิงจะเป็นหญิงสาวที่ดึงดัน แต่นางจะอารมณ์ดีและโกรธยาก แต่เมื่อนางโกรธ นางก็เหมือนเย่ว์หยางที่เข้าสู่สภาวะคลั่งได้
ตาของเย่ว์ปิงเบิกกว้างม่านตานางเปลี่ยนเป็นสีเขียวขณะที่เปล่งแสงนวลตา
ผมดำของนางตั้งชัน ทั้งที่ไม่มีลม
พลังที่น่าสะพรึงกลัวพุ่งขึ้นมาจากนิ้วทั้งสิบของนาง มันขยายจนเป็นพื้นที่สนามพลังงานขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว... ภายในสนามพลังงานพญาไม้ไตตันโบราณทั้งสอง และนางไม้แสงเขียวจะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าแต่ก่อน และกลายเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าของๆ มัน
นักสู้ปราณก่อกำเนิดทั้งสองที่เพิ่งมาถึงเขตต่อสู้ตระหนักได้ว่าพวกเขาติดอยู่ภายในสนามพลังงานนี้ และรู้สึกประหลาดใจ
นักสู้ปราณก่อกำเนิดที่พยายามล่อลวงหนิวหนิวด้วยลูกอมก็ติดอยู่ในสนามพลังงาน เขาบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นจึงรีบถอยอย่างรวดเร็วและเขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับเย่ว์ปิงตรงๆ
ในทางตรงกันข้าม คู่หูที่รู้สึกว่าเขาฝีมือดีกว่าเดินเข้าหานางยืดกรงเล็บมาที่หน้าเย่ว์ปิงและพ่นไฟออกจากปาก เขาไม่เชื่อว่าคนๆเดียวอย่างนางที่ไม่ใช่นักสู้ปราณก่อกำเนิด จะสามารถสู้และเอาชนะเขานักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสองได้ แม้ว่านางจะเป็นน้องสาวของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ก็ตาม การจะเอาชนะเขาให้ได้ยังเป็นไปไม่ได้!
ในข่าวกรองรายงานของพวกเขา เย่ว์ปิงนี้ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟงชิซา
แม้ว่านางจะมีความก้าวหน้าภายใต้การแนะนำของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ก็ตาม แต่นางยังไม่ใช่คู่ต่อกรกับเขาในสนามรบ นางยังไม่ได้เป็นแม้แต่นักสู้ปราณก่อกำเนิด ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะเอาชนะเขา....
“ตาย! ต่อให้พี่ชายของเจ้าคือคุณชายสามตระกูลเย่ว์ก็ตามแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้ารอดมาสู้กับข้าได้!” ในใจของเขา เขายังคงเยาะเย้ยนางขณะที่กรงเล็บของเขาเกือบมาถึงดวงตาของนางอยู่แล้วดังนั้นเขายิ่งเพิ่มความมั่นใจว่าเขาสามารถฆ่าเย่ว์ปิงได้แน่นอน
“พระจันทร์มีความโค้งมองดูเหมือนตาขอ!” เย่ว์ปิงไม่ได้ป้องกันตัวเองนางแค่ตีลังการอบหนึ่งแล้วหันหน้ามาอย่างสง่างาม ขณะที่ขาทั้งสองยังลอยอยู่ในอากาศ นางกวาดขาเตะเป็นแสงสีเงินพระจันทร์เสี้ยว ท่าเตะนี้พัฒนาให้โดยเย่ว์หยาง เขาออกแบบมาให้น้องสาวโดยเฉพาะ และนี่เป็นไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกใช้ออกมาพลังของมันเกินกว่าตอนที่ใช้ครั้งแรก ตอนนี้พลังเพิ่มขึ้นมาเป็นร้อยเท่า พลังผกผันบิดตัวของนางส่งผลให้นักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้ภูมิใจกระเด็นลอยจากพื้น
มันรู้สึกว่าพลังเตะมีความรุนแรงและรู้สึกว่าความเจ็บแล่นอยู่ตามอกและตรงท้องส่งตัวมันกระเด็นออกไป
ในขณะที่ลอยอยู่ในอากาศพญาไม้ไตตันโบราณใช้มือขนาดยักษ์ตบมันลงกับพื้นเหมือนใช้ไม้ตีแมลงวัน
พญาไม้ไตตันตีโดยตรงจากนั้นฟาดมันลงกับพื้น
กับศัตรูที่ยังมีความเจ็บปวดอยู่ในร่างกาย เมื่อมันไม่สามารถหลบหรือเคลื่อนที่ได้อีกต่อไป พญาไม้ไตตันโบราณจึงก้าวขามหึมาออกและย่ำลงบนร่างมัน
ปีศาจนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสองใช้แขนทั้งสองป้องกันตนเองไม่ให้ตาย แต่มันก็ยังโดนย่ำจนจมลึกลงไปในพื้น พญาไม้ไตตันโบราณเหยียดมือและควักร่างศัตรูขึ้นมา จากนั้นปาลงพื้นอย่างรุนแรง ขณะที่ร่างของศัตรูกระแทกกับพื้นและกระอักโลหิตหนามแหลมนับไม่ถ้วนได้มัดร่างศัตรูไว้อย่างเหนียวแน่น หนามแหลมงอกออกมาจากพื้นและแทงทะลุร่างศัตรู
นักสู้ปีศาจที่บาดเจ็บก่อนหน้านี้ได้วิ่งเข้ามาช่วยคู่หูของเขา อย่างไรก็ตามทั้งหมดที่เขาเห็นก็คือคู่หูของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มตั้งแต่หัวจรดเท้า
คู่หูของเขาต้องพิษ
ต่อให้มันสามารถนำคู่หูไปด้วย มันก็ยังต้องตายอยู่ดี
มันต้องการหนี ความกลัวที่มันรู้สึกมิอาจจินตนาการได้ ทันใดนั้นมีร่างหนึ่งปรากฏจากท้องฟ้า เป็นเย่ว์ปิงกำลังเลื่อนลงมา ด้วยท่าเท้าจันทรา
เย่ว์ปิงไม่สามารถฆ่าได้ในการจู่โจมคราเดียว สิ่งที่น่ากลัวก็คือพญาไม้ไตตันโบราณซึ่งมีเวลาตอบสนองที่เหนือกว่าอสูรสายพฤกษาทั้งปวง แค่เพียงหลังจากเย่ว์ปิงโจมตีศัตรูกระเด็นลอยไปในอากาศมันเหยียดมือออกมาจับปีศาจนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่หลอกหนิวหนิว จากนั้นมันตบและกดร่างของนักสู้ชาวปีศาจลงกับพื้นด้วยมือมหึมาฝังมันลงไปในใต้ดินลึกเกือบสิบเมตรด้วยพลังที่มหาศาลทำให้พื้นสั่นสะเทือนเสียงดัง
มันรอจนกระทั่งเถาหนามแหลมรัดร่างของนักสู้ชาวปีศาจก่อนจะปล่อยมือ
จากนั้นย่ำใส่มันอย่างไม่ปราณี
นักสู้ชาวปีศาจยังไม่ตาย มันพยายามดิ้นรนให้เป็นอิสระจากเถาหนามและหลบหนีออกมา อย่างไรก็ตาม เย่ว์ปิงไม่สนใจมันต่อไป ในอากาศเย่ว์หวี่พุ่งลงมาพร้อมกับดาบปีกนางฟ้าที่อยู่หลังนาง
เพียงฟันแค่ครั้งเดียวนักสู้ชาวปีศาจก็ถูกตัดศีรษะ ศีรษะของมันกระเด็นลอยขึ้นไปในอากาศ
“พญาไม้, เหยียบย่ำ!” เย่ว์ปิงกล่าวขณะที่เพิ่งมาถึงทางด้านการต่อสู้ของมารเคราะห์ฟ้า พญาไม้ไตตันวงเข้ามาในพื้นที่ต่อสู้ขณะที่มันไม่สนใจคลื่นกระแทกโจมตีจากพลังของนักสู้ปราณก่อกำเนิดมันทำตามคำสั่งเย่ว์ปิงและเหยียบใส่นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเจ็ด รองผู้บัญชาการกองกำลังสายฟ้า ท่านสามารถเห็นความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานของรองผู้บัญชาการได้รับตอนอยู่ใต้เท้า เขาต้องทำอุโมงค์ออกมาการขุดช่องใต้เท้าเหมือนหนอนขณะที่พญาไม้ไตตันยังคงย่ำพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งเขาหลบออกไปได้ เขาอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้เลย
จนถึงตอนนี้เขาถึงตระหนักได้ในที่สุดว่าน้องสาวของคุณชายสามตระกูลเย่ว์เป็นศัตรูที่ยากลำบากคนหนึ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอสูรของนาง ไม่สามารถดูแคลนได้เลย
อสูรของรองผู้บัญชาการ ตะกวดสายฟ้าขนาดมหึมาเดิมทีเป็นอสูรที่แข็งแกร่ง แต่มันไม่มีโอกาสแม้แต่จะผายลมต่อหน้าพญาไม้ตันเนื่องจากมันถูกข่มมิด
“ฆ่า!” รองผู้บัญชาการของกองกำลังเขี้ยวเหนือโจมตีใส่เย่ว์ปิงโดยไม่คาดคิดด้วยหวังจะฆ่าเด็กสาวผู้นี้ให้ได้
“พญาไม้โบราณแทนที่..” นางไม้แสงเขียวที่อยู่ข้างเจ้านายนางจะปกป้องนางเมื่อศัตรูโจมตีทั้งหมดที่นางทำคือโบกมือ พญาไม้ไตตันกับเย่ว์ปิงก็สลับตำแหน่งทันที พญาไม้ไตตันรับการโจมตีจากรองผู้บัญชาการกองพันเขี้ยวเหนือ จากนั้นตอบโต้ด้วยวงแขนใหญ่ของมันมันยืดแขนได้ตามที่ต้องการ มันยืดแขนและไล่ฟาดเหมือนกับตีแมลงวัน
“นางไม้แสงเขียวคือเคล็ดสำคัญในการใช้” รองผู้บัญการกองพันเขี้ยวเหนือรู้ได้ทันทีว่านางคือปัญหาที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม มันสายเกินไป มารเคราะห์ฟ้ามีโอกาสพักหายใจแล้วนางตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าพวกชั่วร้ายลองเจอพลังของข้าก่อน พลังเคราะห์ฟ้า!”
เมื่อมารเคราะห์ฟ้าระเบิดความโกรธของนางออกมา ก็ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอีกต่อไป
ก่อนหน้านี้ นางถูกรองผู้บัญชาการสามคนบีบคั้นให้ต้องหลบหนีถูกไล่ต้อนจนมิอาจขยับตัวได้ นางจึงหงุดหงิดศัตรูของนางมาก
เย่ว์ปิงมาช่วยทันเวลา และยังให้โอกาสนางได้พัก เมื่อมารเคราะห์ฟ้าปลดปล่อยพลังของนาง คนจากวังมารที่รู้จักพลังของนางล้วนถอยห่าง
นางเซียนหงส์ฟ้าลืมการต่อสู้ทางด้านนางไว้ก่อนและกลับมาป้องกันเย่ว์ปิง เย่ว์หวี่และแพนด้าน้อยหนิวหนิวโดยให้อยู่ด้านหลังนาง
ไห่อิงอู่และสาวขี้เมายังคงฉวยโอกาสโต้ตอบศัตรูของพวกนางและมาอยู่ข้างกายนางเซียนหงส์ฟ้า ในที่สุดเมื่อศัตรูตระหนักถึงความผิดปกติบางอย่าง พวกเขาพยายามแยกย้ายกันออกไป แต่ว่าสายเกินไปแล้ว มารเคราะห์ฟ้าลอยตัวอยู่เหนือพื้นแล้ว ความโกรธของนางถึงระดับสูงสุดและปล่อยพลังเคราะห์ฟ้า
ลาวาไหลออกจากพื้นไหลนองกระจายไปทั่วบริเวณ
ดาวตกนับล้านปรากฏอยู่บนท้องฟ้าเสียงหวีดหวิวพุ่งลงมาราวกับถึงวันสิ้นโลก
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของสิ่งเหล่านี้คือภัยพิบัติตามธรรมชาติทั้งหมดไม่ได้มีวัตถุประสงค์แบบสุ่ม ดาวตกล้วนแต่ไล่ตามศัตรู
ทักษะเฉพาะที่ไม่เหมือนใครของมารเคราะห์ฟ้าจำเป็นต้องใช้เวลาดำเนินการ เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งพลังของมารเคราะห์ฟ้าไม่สามารถแสดงออกมาได้เต็มที่
อย่างไรก็ตามถ้านางใช้ผิดวิธี และนางถือโอกาสใช้สิ่งนี้นั่นอาจทำให้เป็นวันสิ้นโลกได้
แผ่นดินสั่นไหว และพื้นเริ่มแยกจากกัน!
วันสิ้นโลก!
พลังเคราะห์ฟ้านี้คือพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของนาง