ตอนที่แล้วตอนที่ 636 ไข่มุกบนจานหยก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 638 ดูซะ นี่คือพลังแค้น

ตอนที่ 637 คนต่อไปเป็นเจ้า!


“เป็นเจ้าเองหรือ?”  นางเซียนหงส์ฟ้าเลิกคิ้ว ความจริงนางรู้แล้วว่าราชันย์ปีศาจใต้มาที่นี่เพื่อร่วมสู้แต่นางไม่เคยคิดเลยว่านางจะมาสนับสนุนทางด้านนี้แทนที่จะตรงไปหาเย่ว์หยาง

“จะให้ข้าพลาดการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นนี้ได้ยังไง?”  ราชันย์ปีศาจใต้โบกมือนางเบาๆนิ้วของนางกรีดสายผีผาอย่างนุ่มนวล

เสียงดีดไพเราะราวกับเสียงดุริยางค์ทิพย์

เสียงดีดอีกครั้งหนึ่งดังก้องกังวาล

ช่างไพเราะและสดชื่นชุ่มฉ่ำใจเหมือนกับน้ำพุชโลมในหัวใจทำให้มึนเมาลุ่มหลงกับดนตรีนัก

ตาของจงเหลยถิงเบิกกว้างขึ้นทุกทีและตระหนักได้ว่าเสียงผีผานี้ความจริงคือไม้ตาย

ระลอกคลื่นเสียงพุ่งตรงเข้าหาเขา  ด้วยทักษะของเขา  ปกติเขาสามารถป้องกันได้  อย่างไรก็ตามองครักษ์ส่วนตัวของเขาเริ่มกระอักโลหิตทีละคนๆ ในท่ามกลางเพลงกระชากวิญญาณ  ตอนนี้เขาโกรธมากเมื่อราชันย์ปีศาจใต้สังหารคนของเขาไปมากกว่าร้อยคน  ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาวางแผนอย่างรอบคอบจนทำให้เขาไม่สามารถแทรกแซงในเรื่องนี้ได้ในตอนนี้  เขาคงจะคลั่งไปแล้วตอนนี้ราชันย์ปีศาจใต้มาตอแยเขาอีกด้วยคลื่นเสียงโจมตีฆ่าองครักษ์ส่วนตัวของเขาไปมากกว่าสิบสองคนโดยทำให้อวัยวะภายในของพวกเขาแตกสลาย

ส่วนที่แย่ที่สุดก็คือแม้ในความตาย  องครักษ์ส่วนตัวของเขาก็ยังมีอาการยินดีจากเพลงไพเราะอย่างประหลาดราวกับว่าพวกเขาไม่รู้ว่าอวัยวะภายในของพวกเขาแตกสลายไปแล้ว

หัวหน้าทหารรับจ้างกลุ่มหมาป่าประจัญบานปรบมือหัวเราะตามปกติ  “ช่างเป็นเพลงที่ไพเราะ! วิธีฆ่าศัตรูของเจ้าที่ดูสง่างาม น่าทึ่งจริงๆ”

ราชันย์ปีศาจใต้พูดด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ  “ยังมีเรื่องที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าตามมาแห!”

ไม่รอให้จงเหลยถิงพูด นางเคลื่อนไหวมือทั้งสองของนางอย่างรวดเร็ว เหมือนกับพายุฝนที่บ้าคลั่ง

เดิมที่เสียงผีผาน่าซาบซึ้ง แต่เปลี่ยนจังหวะไปอย่างกะทันหันกลายเป็นเสียงที่ดังกังวาลราวกับว่ามีทหารเดินสวนสนามในสนามรบ

แม้แต่พวกที่คิดช้าและไม่ค่อยเข้าใจดนตรีก็แทบเห็นพวกเขาเดินเป็นขบวน  คำสั่งของผู้บัญชาการทั้งหมดพวกเขาพุ่งตะลุยออกมาหาศัตรูฉากภาพทำให้ผู้คนเต็มไปด้วยอารมณ์ที่มิอาจควบคุมได้ ราวกับว่ามีเลือดเดือด ดูเถิดธงรบโบกสะบัดพัดพลิ้วอยู่ต่อหน้ากองทัพ นำทหารให้พุ่งไปข้างหน้า ฟังเถิด,เสียงกลองศึกดังขึ้น... เสียงกีบเท้าม้ากระทบพื้น พื้นสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นด้วยพลังมหาศาล จนกระทั่งสีของท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนไป.. พวกเขาเจอกับฝนธนูนับหมื่นพบกับหลาวแทงใส่ ทหารเหล่านั้นที่ถูกฆ่าตายยังไม่หยุดเคลื่อนไหวขณะที่พวกเขาตะลุยขึ้นหน้าอย่างไม่เกรงกลัว

คนพวกนั้นถูกฆ่าก็ล้มลงกับพื้น

กองทัพที่ไร้เทียมทานไม่หยุดเคลื่อนที่แม้ว่าม้าของพวกเขาจะย่ำศพของสหายพวกเขาก็ตาม...

ทั่วทั้งบริเวณถูกครอบคลุมไปด้วยบทเพลงแห่งความตายของของราชันย์ปีศาจใต้ สมาชิกของกองกำลังสายฟ้าพอได้ยินเพลงแล้วก็ล้มลงกับพื้นทีละคนๆบางคนมองดูเหมือนว่าหน้าผากของพวกเขาถูกธนูยิง บางคนก็มีท่าทางเหมือนถูกหอกปักหัวใจ บางคนเหมือนกับถูกม้าย่ำใส่ ความตายของพวกเขาคล้ายกับทหารในบทเพลงของนาง วิญญาณของพวกเขาคร่ำครวญอย่างเงียบๆและตายทีละคนๆ โดยเริ่มจากคนที่อ่อนแอก่อน

บรรดาผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเล็กน้อยจะฝืนตัวเองไว้อย่างยากลำบาก แต่ความเปลี่ยนแปลงในบทเพลงที่ตามมาทำให้พวกเขาถูกบทเพลงมอมเมาจนถึงกับไม่สามารถปลดปล่อยตนเองได้

ถ้าขณะนั้นจงเหลยถิงออกมายืนตวาดเขาอาจทำลายบทเพลงและช่วยพวกเขาได้

น่าเศร้าที่ปัจจุบันนี้จงเหลยถิงยังจมอยู่ในบทเพลง  แม้ว่าเขาจะใช้นิ้วอุดหูเขาก็ไม่สามารถห้ามวิญญาณตนได้ ไม่ใช่เพียงแต่จงเหลยถิงเท่านั้น แต่สมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบาน แม้แต่หัวหน้ารองหัวหน้าก็ไม่สามารถหนีพ้นไปจากบทเพลงลวงวิญญาณได้

คนแรกที่หลุดเป็นอิสระจากบทเพลงลวงวิญญาณก็คือบุรุษที่สวมหมวกสูงจากกลุ่มโจรตัวตลก

เขาไม่พูดเพื่อรบกวนการแสดงฝีมือของราชันย์ปีศาจใต้

เหตุผลข้อแรกเพราะเขาชอบเพลงจึงไม่อาจทนทำลายบทเพลงสะท้านวิญญาณนี้เป็นธรรมดา  ประการที่สองสมาชิกทหารของจงเหลยถิงจะกลายเป็นเครื่องบูชายัญซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการยืมมือศัตรูฆ่าพวกเขาจะไม่ทำให้จงเหลยถิงรู้สึกรังเกียจแม้ว่าเขาจะไม่ใส่ใจเงื่อนไขของจงเหลยถิง แต่เขาก็ยังต้องการอาศัยเขาในการบูชายัญสำหรับผนึกโบราณ และยังต้องอาศัยเขาในการค้นหาแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ  ประการที่สาม มารกฎฟ้ายังอยู่อีกด้านหนึ่งและพลังกฎสายฟ้าของนางร้ายกาจน่ากลัว ทันทีที่เขาทำลายบทเพลงของราชันย์ปีศาจใต้ พลังกฎสายฟ้าที่น่ากลัวจะต้องโจมตีใส่ศีรษะของเขาแน่นอน

แล้วมีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องไปรับสายฟ้านี้แทนกลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบานเล่า

กลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบานเดิมทีกะให้เป็นแพะรับบาปอยู่แล้ว

บุรุษหมวกสูงไม่พูด เขายังคงอยู่เงียบๆ คอยหนุนหลังช้าๆหาระยะที่ปลอดภัยที่สุดหลบเลี่ยงการโจมตีของมารกฎฟ้า...เขาเคลื่อนหนีรังสีสังหารของมารกฎฟ้าผลักดันจากตัวเองไปหาหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบาน

ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีผู้ใดขัดขวางการแสดงของนางราชันย์ปีศาจใต้ยังคงเล่นบทเพลงของนางไปโดยไม่รู้สึกฝืน ขณะที่นางบรรเลงช้าๆ

จังหวะช้าลงเหมือนช่วงเวลาสงบสั้นๆ หลังพายุรุนแรง...เมื่อเพลงท่อนนี้ทำให้ผู้คนแทบเห็นโลหิตสีแดงฉีดพุ่งเต็มท้องฟ้า  หลังจากพายุรุนแรงสงบ ทหารผู้โกรธเกรี้ยวกระหายเลือดก็ล้มลงกับพื้น  ศพของพวกเขากระจัดกระจายอยู่บนภูเขาและทุ่งร้างสมรภูมิเย็นยะเยือก

ทหารผู้รอดตายในกองซากศพเริ่มคลานออกไปช้าๆ

พวกเขาไม่กระตือรือร้น  เพียงแต่นั่งอยู่กองซากศพอย่างมึนชา  สายตาเหม่อมองดูเหมือนไม่มีพลังอยู่ในแววตาเลย

ท้องฟ้าเริ่มมีฝนตกความเย็นยะเยือกและคราบเลือด สายลมยามเย็นพัดผ่านสนามรบ  โลหิตของหลายศพก่อตัวเป็นสายธารและเปลี่ยนสภาพไปเป็นบ่อ

นอกจากธงที่โบกสะบัด  ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดที่สามารถเคลื่อนไหว

ความมืดเริ่มโรยตัว

เมฆครึ้มครอบคลุมฟ้าบดบังจันทราเหมือนใจที่มืดมนของทหาร

สายลมเย็นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดยังคงพัดผ่านเหมือนกับว่าจะพัดพาไปไกลจากแผ่นดินเกิด

บิดามารดาผมหงอกขาวโพลนหลายคนนับไม่ถ้วนเหล่าภรรยาผู้หวังจะได้พึ่งพานับไม่ถ้วนต่างเช็ดน้ำตาเงียบงัน พวกเขาไม่อาจหวังให้บุคคลผู้เป็นที่รักกลับมาได้อีกตลอดไป  เฉพาะเด็กเหล่านั้นผู้ไม่สามารถเข้าใจได้ถึงความกังวลยังคงยิ้มอย่างมีความสุขภายใต้โคมไฟและถามมารดาของพวกเขาโดยไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกเขากินอาจเป็นอาหารมื้อสุดท้ายพ่อแม่สูงอายุเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ขณะที่สะใภ้ของพวกท่านต้องแกล้งทำเป็นสุขใจปลอบประโลมพวกท่าน แต่ตนเองกลับลอบร้องไห้ในราตรีที่มืดมิดยามที่ไม่มีผู้ใดรู้

หิมะมากมายเริ่มปกคลุมสมรภูมิเลือดทหารแก่สองสามคนที่รอดชีวิตเดินฝ่าหิมะไปทีละก้าว

ในแต่ละก้าวบางคนก็ล้มกับพื้นและหลับไปตลอดกาล

กองกำลังที่เหลืออยู่คืนกลับถูกทิ้งไว้เพียงคนเดียว ร่างที่โดดเด่นขยับก้าวออกไปอีกห่างไกลออกไปในท่ามกลางหิมะ

จนกระทั่งกลางวันเมื่อตะวันอุทัยจากทิศตะวันออก  ทุกคนเห็นได้ว่าคนสุดท้ายไม่อาจเดินออกมาจากหิมะกว้างไกล  เขากลายเป็นตุ๊กตาหิมะ แต่สายตาของเขาเหม่อเมองไปทิศทางถิ่นเกิดของเขา.. เบื้องหลังตุ๊กตาน้ำแข็งมีรอยเท้าเปื้อนเลือด สายลมเย็นพัดกระโชกรุนแรงราวกับฟ้าและดินสูญเสียพลังทั้งปวด

“แฮก แฮก!” เมื่อจงเหลยถิงฟื้นจากบทเพลง เขาตระหนักได้ว่าร่างของเขาแข็งกระด้างเหมือนไม้  มีกระทั่งเกล็ดน้ำแข็งเกาะอยู่ที่หน้าและลมหายใจที่พ่นออกมาจากตัวเขามีไอสีขาว

เขาไม่อยากเชื่อได้เลยว่าเขาเองเป็นถึงนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเก้ายังไม่สามารถต้านทานบทเพลงลวงตานี้ได้ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับบริวารของเขา?

เมื่อเขาหันไปดูรอบๆสิ่งที่เขาเห็นก็มีแต่เพียงทุ่งที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาน้ำแข็ง

กลุ่มกองสายฟ้าที่ประกอบไปด้วยนักรบฝีมือดีนับพันคนกลายเป็นตุ๊กตาน้ำแข็งไปหมด

นอกจากนักสู้ปราณก่อกำเนิดจำนวนเล็กน้อยที่ยังรอดอยู่ได้  ส่วนทหารที่เหลือถูกกำจัดหมด

“ไม่นะ ไม่!”

จงเหลยถิงร้องโหยหวนทรมานและกอดอกตัวเองแน่น

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้สึกปวดใจ!

เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกสิ้นหวัง

ความเจ็บปวดที่เขารู้สึกแย่พอๆกับเมื่อตอนที่เขาทราบข่าวการตายของราชาเฮยอวี้

แม้ว่าแม่ทัพจงเหลยถิงตื่นตัวระดับสูงและป้องกันหูของเขาได้แล้วก็ตาม แต่เขาไม่เคยคิดว่าบทเพลงมอมประสาทของราชันย์ปีศาจใต้จะสั่นสะท้านก้องในวิญญาณเขาด้วยและยังสามารถทำให้ร่างกายของเขาเกิดอาการตอบสนองไปด้วยเขาตกอยู่ในบทเพลงมอมประสาทไม่สามารถหยุดยั้งตัวเองให้ดื่มด่ำกับบทเพลงได้ สิ่งที่ทำให้จงเหลยถิงสิ้นหวังก็คือเป็นเพราะราชันย์ปีศาจใต้ได้ปล่อยคลื่นเสียงโจมตีก่อนหน้านั้นสองครั้งแล้ว  เขาประมาทพลังที่แท้จริงของนางอย่างเข้าใจผิด เขาคิดว่าเขาจะสามารถป้องกันบทเพลงโจมตีของนางได้ ใครจะคิดกันว่าเมื่อนางปล่อยพลังโจมตีสูงสุดของนางกลับทำให้กองพลสายฟ้าถูกกำจัด

ถ้ากองกำลังสายฟ้าถูกนักสู้ปราณฟ้าอย่างมารกฎฟ้าทำลาย  จงเหลยถิงจะไม่รู้สึกเสียใจอย่างนั้น แต่ราชันย์ปีศาจใต้เป็นแค่เด็กสาวที่มีระดับพลังพอๆ กับเขา

ทำไมต้องเป็นนางที่กำจัดกองทัพของเขาโดยการโจมตีเพียงครั้งเดียว  ทหารที่ใช้เวลาฝึกฝนมาหลายร้อยปี?

จงเหลยถิงโกรธจัดจนปอดแทบระเบิด

“ฆ่า!” เขาบุกเข้าหาราชันย์ปีศาจใต้  ไม่ว่าทักษะสู้รบกฎหรือแผนอะไรก็ตาม เขาไม่ต้องการมันอีกต่อไป

ในใจของเขาเพียงต้องการกำจัดสตรีที่ทำลายกองทัพของเขา

นางต้องตายด้วยมือของเขา

ราชันย์ปีศาจใต้ยังถือผีผาหยกในอ้อมกอดนางลอยตัวอยู่ในอากาศด้วยสีหน้าเหยียดหยามเล็กน้อย

นางเหมือนนางฟ้าเลื่อนลอยลงมายังพื้นโลก

ความเคลื่อนไหวของนางงดงามเหมือนกับภาพฝัน

แม้ยามที่นางหลบหลีกพลังโจมตีด้วยความโกรธของจงเหลยถิงก็เหมือนกับนางกำลังร่ายรำอยู่ในอากาศ

นางรู้ว่านางไม่แข็งแกร่งเท่ามารกฎฟ้า แต่การกำจัดกองกำลังสายฟ้าและล่อลวงให้ผู้บัญชาการกิ้งก่าสายฟ้าโกรธยังเป็นเรื่องที่นางทำได้  สำหรับการต่อสู้กับนักสู้ปราณฟ้าทั้งสามคนนางจะปล่อยให้มารกฎฟ้าจัดการ นางไม่มีโอกาสสู้กับศัตรูแบบนั้นได้ทันที

เป็นไปตามแผนที่วางไว้ตอนแรกราชันย์ปีศาจใต้ล่อให้จงเหลยถิงออกไปเพื่อลดภาระของสหายของนางและหายลับขอบฟ้าไปทันที

จงเหลยถิงรีบไล่ตามทันที

ทั้งสองคนหายลับสนามต่อสู้ไปอย่างรวดเร็ว

มารแค้นฟ้า,มารฟ้าวิบัติและสมาชิกวังมารมองหน้ากันเองด้วยความกลัว!

โชคดีที่ราชันย์ปีศาจใต้ไม่ใช่ศัตรูของพวกเขา  มิฉะนั้นพวกเขาคงได้ปวดหัวหนัก  ใครจะหลบหนีบทเพลงลวงประสาทได้เล่า? ราชันย์ปีศาจใต้ตอนนี้เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเก้า ถ้านางยกระดับขึ้นเป็นนักสู้ปราณฟ้าและมีพลังรู้แจ้งขอบเขตสุดยอดปราณก่อกำเนิดและใช้พลังคลื่นเสียงโจมตีของนาง อย่างนั้นจะมีใครในโลกนี้เป็นคู่ต่อสู้นางได้?  ต่อให้มี ก็เพียงไม่กี่คนเท่านั้น!

เผ่าภูตบูรพาไม่ใช่ศัตรูที่จัดการง่ายเลย,มิน่าเล่าเผ่าพันธุ์พวกเขาถึงได้เป็นที่รู้จักว่าแข็งแกร่งที่สุดในหอทงเทียน

“ไม่เลย ข้าชอบมาก” หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบานจากแดนสวรรค์แกล้งทำเป็นโบกมืออย่างผ่อนคลาย  แต่ความจริงเขาคือนักสู้ปราณฟ้าก็ยังติดอยู่ในบทเพลงลวงวิญญาณเช่นกัน

โชคดีที่ศัตรูของเขาไม่ได้ฉวยโอกาสโจมตีเขา  มิฉะนั้นเขาคงอับอายขายหน้าเป็นแน่

เพื่อกลบเกลื่อนความจริงว่าเขาสูญเสียการควบคุมจิตวิญญาณเขาตัดสินใจเคลื่อนไหวบางอย่าง

กองกำลังสายฟ้าที่ถูกกำจัดเหมาะเป็นเครื่องบูชายัญเพื่อกระตุ้นประตูเทเลพอร์ตโบราณ  เขาชี้นิ้วของเขาเลียนแบบท่าของนางเซียนหงส์ฟ้า ระเบิดพลังระดับปราณฟ้าพุ่งผ่านพื้นเป็นร่องยาวหลายร้อยเมตรกว้างสองเมตรและลึกสามเมตรจากตัวเขาไปถึงตัวผนึกโบราณ ขณะเดียวกันเขางอนิ้วอย่างมั่นใจสร้างเปลวเพลิงด้วยนิ้วของเขาครอบคลุมตลอดสนามรบและละลายน้ำแข็งของตุ๊กตาน้ำแข็งที่ราชันย์ปีศาจใต้สร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว

ธารโลหิตไหลผ่านไปตามร่อง

มันไหลเข้าหาผนึกโบราณอย่างช้าๆ  ... แม้ว่าผลที่ได้จะไม่ดีเท่ากับบูชายัญด้วยชีวิตบนผนึกโบราณเองแต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้เสียเปล่า!

“งั้นเพิ่มเลือดของเจ้าไปด้วย!” ร่างของนางเซียนหงส์ฟ้าหายไปและปรากฏอยู่ด้านหลังของหัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบาน นักสู้ปราณฟ้าทั้งสามคนตกใจโจมตีพร้อมกันทันที  หัวหน้าทหารรับจ้างดูเหมือนจะคาดการณ์เรื่องนี้ไว้แล้วเขาตวัดกรงเล็บผ่าพสุธาของเขาโจมตีใส่หลังของนางเซียนหงส์ฟ้ามนุษย์หมีรองหัวหน้ากลุ่มปล่อยหมัดที่แข็งแกร่งเพียงพอจะบดขยี้นางเซียนหงส์ฟ้าได้  บุรุษที่สวมหมวกสูงยังไวกว่าอีกสองคน นิ้วสีเขียวเหมือนภูตพรายเหมือนกับศพอาบยาพิษแทงใส่หลังของนางเซียนหงส์ฟ้า

“เจ้าตกเข้ามาอยู่ในกับดักของเราแล้ว!” หัวหน้าทหารรับจ้างยิ้ม ความร่าเริงยินดีกับการดักจับศัตรูได้ฉายอยู่ในดวงตาของเขา

“ตาย!”

คำตอบของนางเซียนหงส์ฟ้ามีเพียงคำเดียว

นางไม่ได้หลบเลี่ยงหรือหายไป นางเหยียดมือออกและผลักระเบิดพลังงานใส่ศีรษะศัตรู...เนื่องเป็นท่าไม้ตายโจมตีของนักสู้ปราณฟ้าถึงสามคน  ส่งผลให้ร่างนางปลิวทันทีร่างของนางปลิวเป็นแนวโค้งและร่วงลงจากอากาศ เมื่อลงมายืนบนพื้น ร่างของนางสั่นสะท้านเล็กน้อย  มีบาดแผลถูกแทงสิบแผลบนหลังของนางบาดแผลฟันที่ไหล่ของนาง และแขนซ้ายนางมีเลือดหยด

อย่างไรก็ตาม ทุกคนยังคงมองดูมารกฎฟ้าด้วยความประหลาดใจเหมือนกับว่าพวกเขาไม่อาจเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้

พวกเขาตกใจไม่ใช่เพราะบาดแผลของนาง  แต่เป็นเพราะศักยภาพสังหารที่น่ากลัวของนาง

หัวหน้าทหารรับจ้างกลุ่มหมาป่าประจัญบานจากแดนสวรรค์เป็นนักสู้ปราณฟ้าผู้ป่าเถื่อน

ในท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของทุกคน  ศีรษะของเขาระเบิดเป็นเสี่ยง!

สลายวิญญาณ!

ฆ่าทันที!

ศพที่ไร้ศีรษะล้มลงกับพื้นโลหิตกระจายไปทั่วพื้นที่! สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือคนผู้นี้ยังไม่รู้ตัวว่าเขาตายแล้ว ก่อนที่ศีรษะเขาจะระเบิดก็ยังยิ้มหยิ่งยโสอยู่เพราะเขาคิดว่าเขากักศัตรูได้สำเร็จ... สำหรับนางเซียนหงส์ฟ้าเพิ่งฆ่าศัตรูแข็งแกร่งได้สำเร็จนางเช็ดเลือดที่มุมปากอย่างไม่สะทกสะท้านนางพุ่งเข้าหารองหัวหน้ามนุษย์หมีด้วยรอยยิ้มที่งดงามแต่แฝงแววอำมหิต  “คนต่อไปเป็นเจ้า!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด