ตอนที่ 637 คนต่อไปเป็นเจ้า!
“เป็นเจ้าเองหรือ?” นางเซียนหงส์ฟ้าเลิกคิ้ว ความจริงนางรู้แล้วว่าราชันย์ปีศาจใต้มาที่นี่เพื่อร่วมสู้แต่นางไม่เคยคิดเลยว่านางจะมาสนับสนุนทางด้านนี้แทนที่จะตรงไปหาเย่ว์หยาง
“จะให้ข้าพลาดการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นนี้ได้ยังไง?” ราชันย์ปีศาจใต้โบกมือนางเบาๆนิ้วของนางกรีดสายผีผาอย่างนุ่มนวล
เสียงดีดไพเราะราวกับเสียงดุริยางค์ทิพย์
เสียงดีดอีกครั้งหนึ่งดังก้องกังวาล
ช่างไพเราะและสดชื่นชุ่มฉ่ำใจเหมือนกับน้ำพุชโลมในหัวใจทำให้มึนเมาลุ่มหลงกับดนตรีนัก
ตาของจงเหลยถิงเบิกกว้างขึ้นทุกทีและตระหนักได้ว่าเสียงผีผานี้ความจริงคือไม้ตาย
ระลอกคลื่นเสียงพุ่งตรงเข้าหาเขา ด้วยทักษะของเขา ปกติเขาสามารถป้องกันได้ อย่างไรก็ตามองครักษ์ส่วนตัวของเขาเริ่มกระอักโลหิตทีละคนๆ ในท่ามกลางเพลงกระชากวิญญาณ ตอนนี้เขาโกรธมากเมื่อราชันย์ปีศาจใต้สังหารคนของเขาไปมากกว่าร้อยคน ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาวางแผนอย่างรอบคอบจนทำให้เขาไม่สามารถแทรกแซงในเรื่องนี้ได้ในตอนนี้ เขาคงจะคลั่งไปแล้วตอนนี้ราชันย์ปีศาจใต้มาตอแยเขาอีกด้วยคลื่นเสียงโจมตีฆ่าองครักษ์ส่วนตัวของเขาไปมากกว่าสิบสองคนโดยทำให้อวัยวะภายในของพวกเขาแตกสลาย
ส่วนที่แย่ที่สุดก็คือแม้ในความตาย องครักษ์ส่วนตัวของเขาก็ยังมีอาการยินดีจากเพลงไพเราะอย่างประหลาดราวกับว่าพวกเขาไม่รู้ว่าอวัยวะภายในของพวกเขาแตกสลายไปแล้ว
หัวหน้าทหารรับจ้างกลุ่มหมาป่าประจัญบานปรบมือหัวเราะตามปกติ “ช่างเป็นเพลงที่ไพเราะ! วิธีฆ่าศัตรูของเจ้าที่ดูสง่างาม น่าทึ่งจริงๆ”
ราชันย์ปีศาจใต้พูดด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ “ยังมีเรื่องที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าตามมาแห!”
ไม่รอให้จงเหลยถิงพูด นางเคลื่อนไหวมือทั้งสองของนางอย่างรวดเร็ว เหมือนกับพายุฝนที่บ้าคลั่ง
เดิมที่เสียงผีผาน่าซาบซึ้ง แต่เปลี่ยนจังหวะไปอย่างกะทันหันกลายเป็นเสียงที่ดังกังวาลราวกับว่ามีทหารเดินสวนสนามในสนามรบ
แม้แต่พวกที่คิดช้าและไม่ค่อยเข้าใจดนตรีก็แทบเห็นพวกเขาเดินเป็นขบวน คำสั่งของผู้บัญชาการทั้งหมดพวกเขาพุ่งตะลุยออกมาหาศัตรูฉากภาพทำให้ผู้คนเต็มไปด้วยอารมณ์ที่มิอาจควบคุมได้ ราวกับว่ามีเลือดเดือด ดูเถิดธงรบโบกสะบัดพัดพลิ้วอยู่ต่อหน้ากองทัพ นำทหารให้พุ่งไปข้างหน้า ฟังเถิด,เสียงกลองศึกดังขึ้น... เสียงกีบเท้าม้ากระทบพื้น พื้นสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นด้วยพลังมหาศาล จนกระทั่งสีของท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนไป.. พวกเขาเจอกับฝนธนูนับหมื่นพบกับหลาวแทงใส่ ทหารเหล่านั้นที่ถูกฆ่าตายยังไม่หยุดเคลื่อนไหวขณะที่พวกเขาตะลุยขึ้นหน้าอย่างไม่เกรงกลัว
คนพวกนั้นถูกฆ่าก็ล้มลงกับพื้น
กองทัพที่ไร้เทียมทานไม่หยุดเคลื่อนที่แม้ว่าม้าของพวกเขาจะย่ำศพของสหายพวกเขาก็ตาม...
ทั่วทั้งบริเวณถูกครอบคลุมไปด้วยบทเพลงแห่งความตายของของราชันย์ปีศาจใต้ สมาชิกของกองกำลังสายฟ้าพอได้ยินเพลงแล้วก็ล้มลงกับพื้นทีละคนๆบางคนมองดูเหมือนว่าหน้าผากของพวกเขาถูกธนูยิง บางคนก็มีท่าทางเหมือนถูกหอกปักหัวใจ บางคนเหมือนกับถูกม้าย่ำใส่ ความตายของพวกเขาคล้ายกับทหารในบทเพลงของนาง วิญญาณของพวกเขาคร่ำครวญอย่างเงียบๆและตายทีละคนๆ โดยเริ่มจากคนที่อ่อนแอก่อน
บรรดาผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเล็กน้อยจะฝืนตัวเองไว้อย่างยากลำบาก แต่ความเปลี่ยนแปลงในบทเพลงที่ตามมาทำให้พวกเขาถูกบทเพลงมอมเมาจนถึงกับไม่สามารถปลดปล่อยตนเองได้
ถ้าขณะนั้นจงเหลยถิงออกมายืนตวาดเขาอาจทำลายบทเพลงและช่วยพวกเขาได้
น่าเศร้าที่ปัจจุบันนี้จงเหลยถิงยังจมอยู่ในบทเพลง แม้ว่าเขาจะใช้นิ้วอุดหูเขาก็ไม่สามารถห้ามวิญญาณตนได้ ไม่ใช่เพียงแต่จงเหลยถิงเท่านั้น แต่สมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบาน แม้แต่หัวหน้ารองหัวหน้าก็ไม่สามารถหนีพ้นไปจากบทเพลงลวงวิญญาณได้
คนแรกที่หลุดเป็นอิสระจากบทเพลงลวงวิญญาณก็คือบุรุษที่สวมหมวกสูงจากกลุ่มโจรตัวตลก
เขาไม่พูดเพื่อรบกวนการแสดงฝีมือของราชันย์ปีศาจใต้
เหตุผลข้อแรกเพราะเขาชอบเพลงจึงไม่อาจทนทำลายบทเพลงสะท้านวิญญาณนี้เป็นธรรมดา ประการที่สองสมาชิกทหารของจงเหลยถิงจะกลายเป็นเครื่องบูชายัญซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการยืมมือศัตรูฆ่าพวกเขาจะไม่ทำให้จงเหลยถิงรู้สึกรังเกียจแม้ว่าเขาจะไม่ใส่ใจเงื่อนไขของจงเหลยถิง แต่เขาก็ยังต้องการอาศัยเขาในการบูชายัญสำหรับผนึกโบราณ และยังต้องอาศัยเขาในการค้นหาแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ ประการที่สาม มารกฎฟ้ายังอยู่อีกด้านหนึ่งและพลังกฎสายฟ้าของนางร้ายกาจน่ากลัว ทันทีที่เขาทำลายบทเพลงของราชันย์ปีศาจใต้ พลังกฎสายฟ้าที่น่ากลัวจะต้องโจมตีใส่ศีรษะของเขาแน่นอน
แล้วมีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องไปรับสายฟ้านี้แทนกลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบานเล่า
กลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบานเดิมทีกะให้เป็นแพะรับบาปอยู่แล้ว
บุรุษหมวกสูงไม่พูด เขายังคงอยู่เงียบๆ คอยหนุนหลังช้าๆหาระยะที่ปลอดภัยที่สุดหลบเลี่ยงการโจมตีของมารกฎฟ้า...เขาเคลื่อนหนีรังสีสังหารของมารกฎฟ้าผลักดันจากตัวเองไปหาหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบาน
ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีผู้ใดขัดขวางการแสดงของนางราชันย์ปีศาจใต้ยังคงเล่นบทเพลงของนางไปโดยไม่รู้สึกฝืน ขณะที่นางบรรเลงช้าๆ
จังหวะช้าลงเหมือนช่วงเวลาสงบสั้นๆ หลังพายุรุนแรง...เมื่อเพลงท่อนนี้ทำให้ผู้คนแทบเห็นโลหิตสีแดงฉีดพุ่งเต็มท้องฟ้า หลังจากพายุรุนแรงสงบ ทหารผู้โกรธเกรี้ยวกระหายเลือดก็ล้มลงกับพื้น ศพของพวกเขากระจัดกระจายอยู่บนภูเขาและทุ่งร้างสมรภูมิเย็นยะเยือก
ทหารผู้รอดตายในกองซากศพเริ่มคลานออกไปช้าๆ
พวกเขาไม่กระตือรือร้น เพียงแต่นั่งอยู่กองซากศพอย่างมึนชา สายตาเหม่อมองดูเหมือนไม่มีพลังอยู่ในแววตาเลย
ท้องฟ้าเริ่มมีฝนตกความเย็นยะเยือกและคราบเลือด สายลมยามเย็นพัดผ่านสนามรบ โลหิตของหลายศพก่อตัวเป็นสายธารและเปลี่ยนสภาพไปเป็นบ่อ
นอกจากธงที่โบกสะบัด ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดที่สามารถเคลื่อนไหว
ความมืดเริ่มโรยตัว
เมฆครึ้มครอบคลุมฟ้าบดบังจันทราเหมือนใจที่มืดมนของทหาร
สายลมเย็นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดยังคงพัดผ่านเหมือนกับว่าจะพัดพาไปไกลจากแผ่นดินเกิด
บิดามารดาผมหงอกขาวโพลนหลายคนนับไม่ถ้วนเหล่าภรรยาผู้หวังจะได้พึ่งพานับไม่ถ้วนต่างเช็ดน้ำตาเงียบงัน พวกเขาไม่อาจหวังให้บุคคลผู้เป็นที่รักกลับมาได้อีกตลอดไป เฉพาะเด็กเหล่านั้นผู้ไม่สามารถเข้าใจได้ถึงความกังวลยังคงยิ้มอย่างมีความสุขภายใต้โคมไฟและถามมารดาของพวกเขาโดยไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกเขากินอาจเป็นอาหารมื้อสุดท้ายพ่อแม่สูงอายุเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ขณะที่สะใภ้ของพวกท่านต้องแกล้งทำเป็นสุขใจปลอบประโลมพวกท่าน แต่ตนเองกลับลอบร้องไห้ในราตรีที่มืดมิดยามที่ไม่มีผู้ใดรู้
หิมะมากมายเริ่มปกคลุมสมรภูมิเลือดทหารแก่สองสามคนที่รอดชีวิตเดินฝ่าหิมะไปทีละก้าว
ในแต่ละก้าวบางคนก็ล้มกับพื้นและหลับไปตลอดกาล
กองกำลังที่เหลืออยู่คืนกลับถูกทิ้งไว้เพียงคนเดียว ร่างที่โดดเด่นขยับก้าวออกไปอีกห่างไกลออกไปในท่ามกลางหิมะ
จนกระทั่งกลางวันเมื่อตะวันอุทัยจากทิศตะวันออก ทุกคนเห็นได้ว่าคนสุดท้ายไม่อาจเดินออกมาจากหิมะกว้างไกล เขากลายเป็นตุ๊กตาหิมะ แต่สายตาของเขาเหม่อเมองไปทิศทางถิ่นเกิดของเขา.. เบื้องหลังตุ๊กตาน้ำแข็งมีรอยเท้าเปื้อนเลือด สายลมเย็นพัดกระโชกรุนแรงราวกับฟ้าและดินสูญเสียพลังทั้งปวด
“แฮก แฮก!” เมื่อจงเหลยถิงฟื้นจากบทเพลง เขาตระหนักได้ว่าร่างของเขาแข็งกระด้างเหมือนไม้ มีกระทั่งเกล็ดน้ำแข็งเกาะอยู่ที่หน้าและลมหายใจที่พ่นออกมาจากตัวเขามีไอสีขาว
เขาไม่อยากเชื่อได้เลยว่าเขาเองเป็นถึงนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเก้ายังไม่สามารถต้านทานบทเพลงลวงตานี้ได้ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับบริวารของเขา?
เมื่อเขาหันไปดูรอบๆสิ่งที่เขาเห็นก็มีแต่เพียงทุ่งที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาน้ำแข็ง
กลุ่มกองสายฟ้าที่ประกอบไปด้วยนักรบฝีมือดีนับพันคนกลายเป็นตุ๊กตาน้ำแข็งไปหมด
นอกจากนักสู้ปราณก่อกำเนิดจำนวนเล็กน้อยที่ยังรอดอยู่ได้ ส่วนทหารที่เหลือถูกกำจัดหมด
“ไม่นะ ไม่!”
จงเหลยถิงร้องโหยหวนทรมานและกอดอกตัวเองแน่น
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้สึกปวดใจ!
เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกสิ้นหวัง
ความเจ็บปวดที่เขารู้สึกแย่พอๆกับเมื่อตอนที่เขาทราบข่าวการตายของราชาเฮยอวี้
แม้ว่าแม่ทัพจงเหลยถิงตื่นตัวระดับสูงและป้องกันหูของเขาได้แล้วก็ตาม แต่เขาไม่เคยคิดว่าบทเพลงมอมประสาทของราชันย์ปีศาจใต้จะสั่นสะท้านก้องในวิญญาณเขาด้วยและยังสามารถทำให้ร่างกายของเขาเกิดอาการตอบสนองไปด้วยเขาตกอยู่ในบทเพลงมอมประสาทไม่สามารถหยุดยั้งตัวเองให้ดื่มด่ำกับบทเพลงได้ สิ่งที่ทำให้จงเหลยถิงสิ้นหวังก็คือเป็นเพราะราชันย์ปีศาจใต้ได้ปล่อยคลื่นเสียงโจมตีก่อนหน้านั้นสองครั้งแล้ว เขาประมาทพลังที่แท้จริงของนางอย่างเข้าใจผิด เขาคิดว่าเขาจะสามารถป้องกันบทเพลงโจมตีของนางได้ ใครจะคิดกันว่าเมื่อนางปล่อยพลังโจมตีสูงสุดของนางกลับทำให้กองพลสายฟ้าถูกกำจัด
ถ้ากองกำลังสายฟ้าถูกนักสู้ปราณฟ้าอย่างมารกฎฟ้าทำลาย จงเหลยถิงจะไม่รู้สึกเสียใจอย่างนั้น แต่ราชันย์ปีศาจใต้เป็นแค่เด็กสาวที่มีระดับพลังพอๆ กับเขา
ทำไมต้องเป็นนางที่กำจัดกองทัพของเขาโดยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ทหารที่ใช้เวลาฝึกฝนมาหลายร้อยปี?
จงเหลยถิงโกรธจัดจนปอดแทบระเบิด
“ฆ่า!” เขาบุกเข้าหาราชันย์ปีศาจใต้ ไม่ว่าทักษะสู้รบกฎหรือแผนอะไรก็ตาม เขาไม่ต้องการมันอีกต่อไป
ในใจของเขาเพียงต้องการกำจัดสตรีที่ทำลายกองทัพของเขา
นางต้องตายด้วยมือของเขา
ราชันย์ปีศาจใต้ยังถือผีผาหยกในอ้อมกอดนางลอยตัวอยู่ในอากาศด้วยสีหน้าเหยียดหยามเล็กน้อย
นางเหมือนนางฟ้าเลื่อนลอยลงมายังพื้นโลก
ความเคลื่อนไหวของนางงดงามเหมือนกับภาพฝัน
แม้ยามที่นางหลบหลีกพลังโจมตีด้วยความโกรธของจงเหลยถิงก็เหมือนกับนางกำลังร่ายรำอยู่ในอากาศ
นางรู้ว่านางไม่แข็งแกร่งเท่ามารกฎฟ้า แต่การกำจัดกองกำลังสายฟ้าและล่อลวงให้ผู้บัญชาการกิ้งก่าสายฟ้าโกรธยังเป็นเรื่องที่นางทำได้ สำหรับการต่อสู้กับนักสู้ปราณฟ้าทั้งสามคนนางจะปล่อยให้มารกฎฟ้าจัดการ นางไม่มีโอกาสสู้กับศัตรูแบบนั้นได้ทันที
เป็นไปตามแผนที่วางไว้ตอนแรกราชันย์ปีศาจใต้ล่อให้จงเหลยถิงออกไปเพื่อลดภาระของสหายของนางและหายลับขอบฟ้าไปทันที
จงเหลยถิงรีบไล่ตามทันที
ทั้งสองคนหายลับสนามต่อสู้ไปอย่างรวดเร็ว
มารแค้นฟ้า,มารฟ้าวิบัติและสมาชิกวังมารมองหน้ากันเองด้วยความกลัว!
โชคดีที่ราชันย์ปีศาจใต้ไม่ใช่ศัตรูของพวกเขา มิฉะนั้นพวกเขาคงได้ปวดหัวหนัก ใครจะหลบหนีบทเพลงลวงประสาทได้เล่า? ราชันย์ปีศาจใต้ตอนนี้เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเก้า ถ้านางยกระดับขึ้นเป็นนักสู้ปราณฟ้าและมีพลังรู้แจ้งขอบเขตสุดยอดปราณก่อกำเนิดและใช้พลังคลื่นเสียงโจมตีของนาง อย่างนั้นจะมีใครในโลกนี้เป็นคู่ต่อสู้นางได้? ต่อให้มี ก็เพียงไม่กี่คนเท่านั้น!
เผ่าภูตบูรพาไม่ใช่ศัตรูที่จัดการง่ายเลย,มิน่าเล่าเผ่าพันธุ์พวกเขาถึงได้เป็นที่รู้จักว่าแข็งแกร่งที่สุดในหอทงเทียน
“ไม่เลย ข้าชอบมาก” หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบานจากแดนสวรรค์แกล้งทำเป็นโบกมืออย่างผ่อนคลาย แต่ความจริงเขาคือนักสู้ปราณฟ้าก็ยังติดอยู่ในบทเพลงลวงวิญญาณเช่นกัน
โชคดีที่ศัตรูของเขาไม่ได้ฉวยโอกาสโจมตีเขา มิฉะนั้นเขาคงอับอายขายหน้าเป็นแน่
เพื่อกลบเกลื่อนความจริงว่าเขาสูญเสียการควบคุมจิตวิญญาณเขาตัดสินใจเคลื่อนไหวบางอย่าง
กองกำลังสายฟ้าที่ถูกกำจัดเหมาะเป็นเครื่องบูชายัญเพื่อกระตุ้นประตูเทเลพอร์ตโบราณ เขาชี้นิ้วของเขาเลียนแบบท่าของนางเซียนหงส์ฟ้า ระเบิดพลังระดับปราณฟ้าพุ่งผ่านพื้นเป็นร่องยาวหลายร้อยเมตรกว้างสองเมตรและลึกสามเมตรจากตัวเขาไปถึงตัวผนึกโบราณ ขณะเดียวกันเขางอนิ้วอย่างมั่นใจสร้างเปลวเพลิงด้วยนิ้วของเขาครอบคลุมตลอดสนามรบและละลายน้ำแข็งของตุ๊กตาน้ำแข็งที่ราชันย์ปีศาจใต้สร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว
ธารโลหิตไหลผ่านไปตามร่อง
มันไหลเข้าหาผนึกโบราณอย่างช้าๆ ... แม้ว่าผลที่ได้จะไม่ดีเท่ากับบูชายัญด้วยชีวิตบนผนึกโบราณเองแต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้เสียเปล่า!
“งั้นเพิ่มเลือดของเจ้าไปด้วย!” ร่างของนางเซียนหงส์ฟ้าหายไปและปรากฏอยู่ด้านหลังของหัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าประจัญบาน นักสู้ปราณฟ้าทั้งสามคนตกใจโจมตีพร้อมกันทันที หัวหน้าทหารรับจ้างดูเหมือนจะคาดการณ์เรื่องนี้ไว้แล้วเขาตวัดกรงเล็บผ่าพสุธาของเขาโจมตีใส่หลังของนางเซียนหงส์ฟ้ามนุษย์หมีรองหัวหน้ากลุ่มปล่อยหมัดที่แข็งแกร่งเพียงพอจะบดขยี้นางเซียนหงส์ฟ้าได้ บุรุษที่สวมหมวกสูงยังไวกว่าอีกสองคน นิ้วสีเขียวเหมือนภูตพรายเหมือนกับศพอาบยาพิษแทงใส่หลังของนางเซียนหงส์ฟ้า
“เจ้าตกเข้ามาอยู่ในกับดักของเราแล้ว!” หัวหน้าทหารรับจ้างยิ้ม ความร่าเริงยินดีกับการดักจับศัตรูได้ฉายอยู่ในดวงตาของเขา
“ตาย!”
คำตอบของนางเซียนหงส์ฟ้ามีเพียงคำเดียว
นางไม่ได้หลบเลี่ยงหรือหายไป นางเหยียดมือออกและผลักระเบิดพลังงานใส่ศีรษะศัตรู...เนื่องเป็นท่าไม้ตายโจมตีของนักสู้ปราณฟ้าถึงสามคน ส่งผลให้ร่างนางปลิวทันทีร่างของนางปลิวเป็นแนวโค้งและร่วงลงจากอากาศ เมื่อลงมายืนบนพื้น ร่างของนางสั่นสะท้านเล็กน้อย มีบาดแผลถูกแทงสิบแผลบนหลังของนางบาดแผลฟันที่ไหล่ของนาง และแขนซ้ายนางมีเลือดหยด
อย่างไรก็ตาม ทุกคนยังคงมองดูมารกฎฟ้าด้วยความประหลาดใจเหมือนกับว่าพวกเขาไม่อาจเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้
พวกเขาตกใจไม่ใช่เพราะบาดแผลของนาง แต่เป็นเพราะศักยภาพสังหารที่น่ากลัวของนาง
หัวหน้าทหารรับจ้างกลุ่มหมาป่าประจัญบานจากแดนสวรรค์เป็นนักสู้ปราณฟ้าผู้ป่าเถื่อน
ในท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของทุกคน ศีรษะของเขาระเบิดเป็นเสี่ยง!
สลายวิญญาณ!
ฆ่าทันที!
ศพที่ไร้ศีรษะล้มลงกับพื้นโลหิตกระจายไปทั่วพื้นที่! สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือคนผู้นี้ยังไม่รู้ตัวว่าเขาตายแล้ว ก่อนที่ศีรษะเขาจะระเบิดก็ยังยิ้มหยิ่งยโสอยู่เพราะเขาคิดว่าเขากักศัตรูได้สำเร็จ... สำหรับนางเซียนหงส์ฟ้าเพิ่งฆ่าศัตรูแข็งแกร่งได้สำเร็จนางเช็ดเลือดที่มุมปากอย่างไม่สะทกสะท้านนางพุ่งเข้าหารองหัวหน้ามนุษย์หมีด้วยรอยยิ้มที่งดงามแต่แฝงแววอำมหิต “คนต่อไปเป็นเจ้า!”