ตอนที่ 33 ความตื่นเต้นขั้นสุดของจางดงและหลี่เฉิง
"ข้า ข้าขอโทษ " ลูกศิษย์สองคนของโรงเรียนศิลปะการต่อสู้เหล็กเมฆาต่างขอโทษหยานฉี
ปรมาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้ขั้นต้นหรือโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ตัวอสรพิษสายฟ้า
ไม่ว่าจะเป็นสถานะไหนก็ทั้งสองคนนั้นก็ไม่สามารถเทียบหยานฉีได้
หยานฉีไม่ต้องการที่จะมีปัญหากับพวกเขาทั้งสองคน
หลังจากขอโทษแล้ว ลูกศิษย์ทั้ง 2 คนนั้นก็รีบวิ่งหนีออกจากตรงนั้นไป
"หยานฉี นี่เจ้า เจ้าอยู่ในระดับปรมาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้ขั้นต้นแล้วงั้นหรือ ? "
จางดงพึ่งจะรู้สึกตัวเลยถามหยานฉีออกไปแบบนั้น
"อืม ใช่แล้ว"
หยานฉีพยักหน้า
จางดงตกใจกับคำตอบที่ยืนยันจากปากของหยานฉี
ทันใดนั้น หยานฉีก็ถอดตราสัญลักษณ์รูปอินทรีทองคำที่หน้าอกของเขาออกแล้วมอบให้จางตง
จางดงถึงกับทำอะไรไม่ถูก
"หยานฉี นี่เจ้าจะทำอะไร..."
"พี่จาง นี่คือตราที่แสดงถึงระดับของปรมาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้ขั้นต้น หากพี่มีตรานี้ พี่สามารถนำมันออกขู่ได้เมื่อมีใครเข้ามาหาเรื่อง เพราะพวกเขาจะรู้ว่ามีปรมาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้ขั้นต้นคอยช่วยเหลืออยู่!"
หลี่เฉิงรีบพูดอย่างรีบร้อน "จะ จริงๆเหรอ? "
จางดงตกตะลึง
เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้หยานฉีเป็นปรมาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้ขั้นต้น
ถ้าลูกศิษย์สองคนของโรงเรียนศิลปะการต่อสู้เหล็กเมฆาไม่เข้ามาหาเรื่องจนหยานฉีต้องเข้ามาช่วย
เขายกมือที่สั่นมากและรับตราอินทรีทองคำนั้นมาจากหยานฉี
หัวใจของจางดงกำลังลุกเป็นไฟ
"เจ้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของจางดงหรือ?"
"ครับ ข้าชื่อหลี่เฉิง"
หลี่เฉิงตื่นเต้นมาก นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาได้พูดคุยกับกับปรมาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้
หลังจากที่หยานฉีครุ่นคิดอยู่สองสามวินาที
เขาก็มองไปที่ซู่ซุนเอ๋อที่อยู่ข้างๆเขา
"ซุนเอ๋อ เจ้าช่วยจัดการพาเขาเข้าโรงเรียนศิลปะการต่อสู้อสรพิษสายฟ้าได้ไหม"?
"เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ"?
ซู่ซุนเอ๋อมองไปที่หยานฉีด้วยสายตากลมๆของเธอ
"ซุนเอ๋อ เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า"?
หยานฉีมีข้อสงสัยบางอย่าง
ซู่ซุนเอ๋ออยู่ในอาการงุนงงและรีบฟื้นสติอย่างรวดเร็ว
เธอไม่คิดว่าหยานฉีจะเรียกเธอแบบนั้น
หลี่เฉิงลูกพี่ลูกน้องของจางดงรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อเขาได้ยินหยานฉีพูดแบบนั้น
"ขอบคุณมากครับ ท่านปรมาจารย์"
เขาไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะสามารถเข้าไปที่โรงเรียนศิลปะการต่อสู้อสรพิษสายฟ้าได้!
เพราะอายุของเขาคือ 32 ปี ซึ่งไม่ใช่อายุของลูกศิษย์ทั่วไป
"นี่เจ้าเป็นอะไรไปน่ะ?"
หยานฉีถามซู่ซุนเอ๋อเพราะรอคำตอบอยู่ ว่าได้หรือไม่ แล้วถ้าไม่ได้ทำไมเธอถึงไม่พูด?
ซู่ซุนเอ๋อกลับมามีสติอีกครั้ง
เธอกลืนน้ำลายของเธอและมองหน้าของหยานฉีแต่หัวใจของเธอเต้นแรงมาก
"ได้สิ เรื่องของเจ้าเลย"
“ข้า ข้า ข้า ข้าตื่นเต้นมาก นายท่านให้ข้าคุกเข่าให้ท่านสักครั้งหนึ่งได้ไหม”?
ด้วยเหตุนี้หลี่เฉิงจึงคุกเข่าลง
หยานฉีพยายามห้ามเขา
"ไม่ต้องหรอก ยังไงจางดงเองก็เป็นคนสนิทของข้า"
หยานฉีพูด
จางดงรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน เขาคิดว่าการคอยดูแลหยานฉีในเมืองเจียงนั้นเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุดในชีวิตของเขา
“ตอนนี้เจ้ารีบไปโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้อสรพิสายฟ้าได้แล้ว เราจะรอเจ้าอยู่ข้างนอกโรงเรียนนั้น”
ซู่ซุนเอ๋อพูดกับหลี่เฉิง
"ครับ นายหญิง"
หลี่เฉิงพยักหน้าด้วยความกระตือรือร้น
"ซุนเอ๋อ เจ้ากลับไปก่อน ข้ากับจางดงจะเดินกลับไปที่ฐานหลินไห่เอง"
"ได้"
เมื่อเสียงเงียบลง ซู่ซุนเอ๋อก็ขึ้นเฟอร์รารี่สีแดงและจากไป
"ท่านปรมาจารย์ ,จางดง, ข้าขอตัวไปที่โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้อสรพิสายฟ้าก่อน"
หลังจากที่หลี่เฉินพูดจบเขาก็จากไป
หยานฉีและจางดงเริ่มเดินเล่นบนถนนแถวๆฐานหลินไห่
“บอกตามตรงนะหยานฉี ข้ายังรู้สึกว่าทั้งหมดนี้เป็นความฝันอยู่เลย”
จางดงมองไปที่หยานฉี
“ตอนนั้นข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นปรมาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้ขั้นต้นได้แล้ว”