07 Part 1.5 การประลอง!
Part 1.5 การประลอง!
ทั้งอาทิตย์ผ่านไปอย่างสงบ ทั้งสองฝ่ายอย่างแวมไพร์และแวร์วูฟพยายามอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้หัวหน้าของตนนั้นต้องมาเจอกัน วันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์ฉันเดินเข้าไปในห้องโถงเห็นเพื่อนๆฉันก็ตั้งกลุ่มเล็กๆที่โต๊ะเหมือนอย่างเคย
เมื่อไปถึงกลับเหตุกลุ่มนักเรียนกลุ่มใหญ่กำลังยืนมุงรอบโต๊ะพวกเราและฉันสังเกตุเห็นมีอีกกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มกำลังมุงรอบโต๊ะแวร์วูฟเช่นกัน ฉันเดินผ่านกลุ่มคนแบบไม่สนใจไปหาเพื่อนฉันที่กำลังยิ้มกว้างพร้อมโปกมือเรียก
"ท่านสุภาพบุรษและสุภาพสตรี! และแล้วหัวหน้าใหญ่ก็มาแล้วครับ!" ราล์ฟยืนบนโต๊ะประกาศ ในมือถือช้อนในมือแกล้งว่าเป็นไมค์ เสียงเชียร์จากเหล่าแวมไพร์ดังขึ้นโดยมีฉันเป็นศูนย์กลาง
"ยินดีด้วยค่าที่หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านหัวหน้าไม่ได้มีเรื่องกับพวกลูกหมาเลย!" อีลามีนพร้อมใช้แขนโอบไหล่ฉัน ฉันพยักไหล่
"ทีนี้เธอจะไม่ทะเลาะอีกต่อไปหรอ?" อีเมอสันถามมาฉันมองจิกตอบ เขาขำคิกคัก
"งี้เอง พวกขี้ขลาดแสร้งทำตัวดี!" ฉันมองตามเสียงที่ดังข้ามกลุ่มนักเรียนมาจากอีกฝั่งของห้อง
ฉันเห็น เฟรดดี้ แมคเคลน พวกโอเมก้ากลุ่มแวร์วูฟที่กำลังมองมาทางนี้ เขาเป็นชายร่างสูงกำยำทรงผมเหมือนไม่ถูพื้นสีน้ำตาลอ่อน ตาสีฟ้าพร้อมสมองขี้เลื่อยข้างๆกันฉันเห็นไรเดอร์ เพื่อนมองมาที่ฉันพร้อมหัวเราะกับฉัน
"นี้ อีเมอสัน?" ราล์ฟพูดทั้งยืนอยู่บนโต๊ะพร้อมช้อนไมค์ของเขา
"ว่าไง ราล์ฟ?" อีเมอสันตอบกลับ ราล์ฟผายมือให้ เขาจับมือราล์ฟขึ้นบนโต๊ะ
"นายช่วยบอกอะไรฉันหน่อยสิ?" ราล์ฟถามขณะดึงอีเมอสันขึ้นโต๊ะ
"ถามได้เลยเพื่อน!" อีเมอสันตอบ
"ใครจะเป็นฝ่ายชนะการต่อสู้กัน ระหว่าง..น้องหมาน้อย กับ ผีดูดเลือด?" คำถามราล์ฟทำฉันยิ้ม
"วาร์ฟฟี่ ก็ไม่น่าถามเลย ใครๆก็รู้กันทั้งนั้นแหละว่าใครจะชนะ!" พอร์เตอร์ตอบจากด้านล่างนักเรียนรอบๆออกท่าเห็นด้วยหร้อมมองกลับไปที่สองคนบนโต๊ะ
"แน่นอน ก็ต้องเป็นผีดูดเลือดอยู่แล้วราล์ฟ!" เสียงเชียร์ดังขึ้นตามคำพูดอีเมอสัน ทั้งแวมไพร์ปีสองโต๊ะข้างๆยังหัวเราะ
"มันคือความจริงเพื่อน ใครๆก็รู้!" เสียงเชียร์ดังอีกครั้งตามคำพูดบลู ฉันหัวเราะอยู่ข้างอีลามีนพร้อมไฮไฟว์ ฉันมองไปที่ราล์ฟ เค้าขยิบตาให้พร้อมชี้นิ้วมาที่ฉัน
"เพื่อนได้ยินเสียงอะไรไหม? " ใครบางคนตะโกนขึ้นจากฝั่งแวร์วูฟ พวกเราหัวไปพร้อมกัน
"คงเป็นคลื่นเสียงละมั้ง ที่นี่มีค้างคาวชอบส่งเสียงร้องเยอะซะด้วยสิ" วอร์ธพูดพร้อมใช้มือโอบไหล่ของแมคเคลนแล้วมองมาที่เรา
"เสียงเห่าอะไรน่ะ" อีเมอสันพูดพร้อมเอามือป้องหูมองไปทางพวกแวร์วูฟ
"นั่น ตรงนั้นไง!" ราล์ฟพูดพร้อมชี้นิ้วไปที่พวกแวร์วูฟ
"พวกแกกล้าดีนิมาแหย่พวกเราไอ้ปรสิต!" หมาป่าคนนึงตะโดน อีเมอสันกับราล์ฟนั่งย่อลงบนโต๊ะ ทั้งสองโต๊ะมองหน้ากัน
"แค่เพราะเราห้ามลูกพี่ไว้ทั้งอาทิตย์ไม่ได้หมายความกว่าแกจะทำอะไรก็ได้นะ ไอ้โง่!" พอร์เตอร์โต้
"เพราะพวกแกสู้ไม่ได้ไงถึงต้องซ่อนเธอไว้ตลอดอาทิตย์!" หมาป่าอีกคนตะโกน
"อ๋อใช่ แล้วจ่าฝูงของพวกนายละไปไหน เขาเข้าจำศีลอยู่รึไง?" ไนออล สก็อตต์จากกลุ่มเราตอบ
"ปากดีจริงๆนะไอ้ค้างคาว!"
"ปากหมาของแกก็ไม่ต่างกันหรอก?"
"พวกขี้ขลาดดีแต่ปาก ซ่อนหัวหน้าไว้ข้างหลังตัวเอง!" คำพูดวอร์ธทำฉันเริ่มเดือด
"แล้วจ่าฝูงนายละอยู่ไหน" ราล์ฟพูดทำฉันเกาหัว ฉันเดินออกไปด้านหน้ากลุ่มต่อหน้าไรเดอร์ที่กำลังยืนท่ามกลางกลุ่มของเขา เราสองคนจ้องตากันทำเซลล์แวมไพร์ในตัวฉันตื่น กว่าอาทิตย์แล้วที่ฉันไม่ได้สู้กับศตรูที่คู่ควรและตอนนี้เขาก็ยืนอยู่ต่อหน้าฉันแล้ว ขันมือจริงๆ!
"ว้าว! ดูเหมือนหัวหน้าตัวน้อยของพวกนายจะออกมาแล้ว" แวร์วูฟพูด
"เรามาตัดสินว่าใครแข็งแกร่งกว่าด้วยการประลองเถอะ!" ใครบางคนตะโกนจากด้านหลังฉัน ฉันรู้สึกถึงอะดรีนาลีนภายในร่าง
ไม่นานนักเรียนทั้งห้องเริ่มส่งเสียงเชียร์
"ประลอง"
"ประลอง"
"ประลอง"
"ประลอง"
ฉันลูบผมสีบอล์นพร้อมแอบยิ้มส่วนไรเดอร์เองก็แอบยิ้มเช่นกัน เราต่างต้องการประลอง ความต้องการที่รุนแรงในการต่อสู้กับใครสักคนที่ไม่ต้องออมแรงไว้ ไรเดอร์กับฉันต่างก้าวออกมาข้างหน้าและตอนนี้เราพร้อมสำหรับการประลองแล้ว และเหมือนเราจะลืมบทลงโทษไปแล้วด้วย
ฉันสัมพัสได้ถึงเขี้ยวตัวเอง ไรเดอร์ยืดเส้นเอียงคอ กองเชียร์ทั้งสองฝ่ายเชียร์อย่างบ้าคลั่งดังสนั่นทั่วห้อง ฉันก้มเล็กน้อยรอกรรมการพูดเพราะในสถานะการณ์แบบนี้มักจะมีใครสักคนพร้อมเป็นกรรมการเสมอ
"แอคเคอแมน พบกับ ไรเดอร์!!" อย่างที่บอกมีกรรมการพร้อม
"เริ่มการประลองได้!!" เราทั้งคู่กระโจนออกไปพร้อมหมัดที่เตรียมซัดฟันอีกฝ่ายให้ร่วง ฉันชกโดนคางทำเขาชะงัก เขาต่อยเข้าที่ท้องทำฉันหยุดหายใจชั่วขณะเป็นการแลกหมัดที่รุนแรงกัน ฉันเงยหน้าเขาต่อยมาที่ปากทำเอาปากฉันแตก ฉันก้มหลบหมัดต่อไปของเขาและเตะสีข้างกลับแต่เขากันได้อย่างง่ายดาย ฉันหมุนเตะสูงเข้าที่แขนของเขา เขาพยายามเตะช่วงท้องแต่ฉันกระโดดถอยหลังหลบได้ ฉันหมุนตัวใช้มือเท้าพื้นกระโดดหมุนตัวกลับมายืนท่าเตรียม ฉันกับเขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และจ้องกันตาไม่กระพริบ ฉันพรุ่งตรงเข้าไปพร้อมหมัดที่พร้อมจะชกดเข้าปากเขาแต่จู่ๆกลับมีบางอย่างสีดำพุ่งเข้ามาทำฉันหยุดชะงักกลางขัน สิ่งนั้นโผล่มาจากจุดอับสายตาทำฉันหยุดอึ้งเขาเองก็อึ้งเห็นกันเมื่อเห็นหน้าฉัน ทันใดนั้นไรเดอร์ก็จับเขาโยนออกไปพร้อมปล่อยอีกหมัดเข้ามาที่หน้าฉันอย่างจัง ฉันล้มหงายหลังกระแทกพื้นหินอ่อนเต็มแรงจนสะบักไหล่เจ็บ
ฉันคำรามขู่จับจมูกที่หักและจ้องเขาด้วยสายตาเบลอๆเห็นไรเดอร์ยืนยิ้มเยาะ
“ไรเดอร์ชนะ!!”
ฉันลุกขึ้นและเพื่อนต่างเข้ามาล้อมพร้อมถามอาการของฉันขณะที่ฉันกำลังหันไปมองเด็กชายผมสีดำ นักเวทปากดีคนที่ฉันเดินชนอาทิตย์ก่อน เขานั่งจ้องมองลงมาเมื่อเขารู้สึกว่าฉันกำลังจ้องอยู่ เขาหันหน้าจ้องกลับมาพร้อมตาสีเทาแสนลึกลับ
“นี่นายเป็นใคร?” พอร์เตอร์ถาม เหล่าแวมไพร์ยืนจ้องไปที่นักเวทผมดำ
“ใช่ นายเข้ามาขวางทำไมเนี่ย?”
“หัวหน้าเราแพ้เพราะนายเลย ไอ้พ่อมด!”
“นายต้องได้ชดใช้เรื่องนี้แน่ๆ”
ถ้าเขาโดนรุมละก็มีหวังได้ตายแน่ๆอีกอย่างเหมือนที่เขาโผล่มานั้นจะไม่ได้ตั้งใจ ฉันหันหน้าไปเจอพวกนักเวทปีสองเฮงซวยที่เคยเจอตรงโถงทางเดินกำลังยืนมองหัวเราะเยาะอยู่อีกฝากเหมือนรอให้เราฉีกเขาให้เป็นชิ้นๆ สก๊อตจับคอเสื้อเขาไว้ในมี อีกมือกำพร้อมชกหน้าให้จมูกดันเข้าไปถึงสมอง เพื่อนฉันไม่หยุดแน่ถ้าฉันไม่เข้าไปห้ามเพื่อช่วยนักเวท ฉันถอนหายใจและยืนขึ้นขาสั่น อีลามีนจ้องมาที่ฉันด้วยความสงสัย
“เดี๋ยวแกจะได้รู้ว่าทำไมถึงไม่ควรเข้ามายุ่งกับแวมไพร์” สก๊อตขู่พร้อมพุ่งหมัดใส่หน้านักเวท ฉันเข้าไปจับมือเขาก่อนจะถึง นักเวทหน้าซีดหลับตาสนิทด้วยความกลัว เขาบืมตาขึ้นเมื่อรู้ว่าไม่ได้โดนต่อย สก๊อตกับเพื่อนมองฉันด้วยหน้างง
“หัวหน้า เขา-”
“ปล่อยเขาไปเถอะ” ฉันพูดพร้อมปาดคราบเลือดที่กำลังไหลลงมาจากจมูก
เพื่อนมองฉันคิ้วขมวดและไม่พอใจกับคำพูดของฉัน
“ขอโทษนะทุกคนที่ฉันแพ้” ฉันพูดพร้อมเดินพางเช็ดเลือดออกจากห้องไป ฉันเห็นฮาเปอร์กำลังยืนกอดอกพิงกำลังอยู่นอกห้อง เราสองคนมองกันด้วยสายตาที่ว่างเปลาระหว่างที่ฉันกำลังเดินจากไป
“ทำไมเธอถึงหยุดหมัดนั้นละ? จริงๆเธอต่อยด้วยสองมือเพื่อใช้หัวของเด็กนั่นชนเข้าจมูกไรเดอร์ได้นะ” ฮาเปอร์ยิงคำถามขณะที่เขาห่างจากฉันเพียงเอื้อมมือ ฉันหันกลับไปมองและเขาก็รู้ว่าฉันจะไม่ตอบเพราะฉันเองก็ไม่รู้ว่าต้องตอบยังไง ใช่จริงๆฉันสามารถใช้หัวของนักเวทนั่นได้แต่ฉันไม่ทำ
“อ้า..ดูไม่ได้เลยนะเนี่ย” เขาชี้มาที่จมูกที่กำลังเลือดไหลของฉัน “ไปห้องพยาบาลเถอะ” เขาพูดแล้วเดินจากไป
หมอจิออร์ดาโนดูอาการจมูกฉันแล้วมองด้วยสายตาของคนแก่ที่จ้องเด็กวัยซน
“ฉันคิดว่าครูใหญ่ได้เตือนเธอเรื่องทะเลาะกันแล้วซะอีก” เขาพูดพร้อมเช็ดเลือดออกจากปากฉัน ฉันตอบกลับในลำคอ เขาถอนหายใจ
“ฉันว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เธอห่างจากเรื่องนี้” เขาพูดพร้อมยิ้มหัวเราะคิกคัก
หลังออกจากห้องพยาบาล ฉันเดินไปที่ต้นโอกขนาดใหญ่ทางตะวันตกของโรงเรียนครึ่งหนึ่งของเปลือกอยู่ภายในเขตของโรงเรียน ส่วนอีกครึ่งนั้นอยู่ข้างนอก กิ่งของต้นยื่นแผ่ขยายไปทั่วทำให้เกิดเงามหึมาบนพื้นดิน รากบางส่วนโผล่ขึ้นจากดินเหมือนเสาสีน้ำตาลที่คอยปกป้องต้นไม้อยู่ ใบไม้ที่ร่วงลงมาใหญ่ราวกับพรมสีแดง ฉันมักจะมาที่นี่เพื่อสงบใจบ่อยๆในช่วงเข้าเรียนแรกๆ ตอนนี้ฉันมาเพื่อเจอเพื่อนของฉัน เธอนั่งอยู่บนกิ่งไม้ด้านบนกำลังจ้องมองท้องฟ้าสำดำยามค่ำคืน ฉันปีนขึ้นถึงกิ่งที่อยู่ด้านใต้เธอ
“ไง แครอล” ฉันเรียกเธอหันลงมองมาที่ฉัน สีผมดำสนิทสลวยเหมือนสายธารสีดำ กับหน้าขาวส่างราวกับดวงจันทร์ เธอส่งยิ้มด้วยริมฝีปากสีน้ำเงินและดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
“อีฟ เองหรอ” เสียงเรียกเบาๆด้วยความร่าเริง