ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 501 ภัยจากพื้นที่เก่าแก่
เงาหมายเลข 2 นั้น อยู่ใต้การควบคุมของซู่เสี่ยวไป่ ทำให้มันทรงพลังมากที่สุดในหมู่ร่างเงาทั้งหมด
หากว่าเงาหมายเลข 2 นั้นแสดงพลังเต็มที่ มันสามารถที่ตัดหัวบรรพชนบรรพกาลก้าวที่ 9 ได้ และในทางกลับกัน หากต้องการจะกำราบร่างเงานี้อย่างน้อยก็ต้องเขตแดนบรรพชนบรรพกาลก้าวที่ 9 หรือ 10 เท่านั้น หรือกระทั่งเขตแดนโบราณถึงจะกำจัดเงาหมายเลข 2 ได้
“บ้าน่า….มันไปเจอตัวอะไรเข้าเนี่ย เรายังไม่ทันจะเห็นหรือรู้สึกอะไรเลย”
ซู่เสี่ยวไป่ที่อยู่ภายในมิติโลกส่วนตัวนั้นถึงกับลุกพรวดขึ้นมาด้วยความตกตะลึง แล้วเมื่อเงาหมายเเลข 2 ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้งภาพที่เห็นกลับไม่เหมือนเดิม
ที่อยู่ต่อหน้านั้นมีสิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์มันกำลังจะหันหลังกลับและจากไป แต่เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าเงาหมายเลข 2 ฟื้นกลับมาอีกครั้งมันก็หยุดชะงัก
หน้าตาของมันดูดุร้ายไม่ต่างจากยักษ์มาร หัวเป็นมังกร มีผิวหนังเป็นเกล็ดเหมือนงู สวมเสื้อผ้าที่เปื้อนไปด้วยเลือด บนหน้าผากนั้นมีรอยตราสีแดงที่มองได้เห็นอย่างชัดเจน และตรานี้มันแผ่กลิ่นไอที่น่ากลัวอย่างมากออกมา ราวกับจะเตือนทุกคนที่เห็นตรานี้ให้ถอยหนีจากมัน!
ตัวตนนี้อันตรายเกินไป!!
ในชีวิตซู่เสี่ยวไป่ไม่เคยที่ร่างกายจะต่อต้านและพยายามที่จะหลีกหนีจากสิ่งใด แม้ว่าเขายังไม่เคยสัมผัสกับกลิ่นไอของสิ่งมีชีวิตทุกเผ่าพันธ์ในจักรวาลทวีปใหญ่ก็ตาม แต่กลิ่นไอที่แผ่ออกมาจากสิ่งมีชีวิตนี้กลับรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือสิ่งมีชีวิตในพื้นที่เก่าแก่!
ในสถานที่แห่งนี้ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของเหล่าอัจฉริยะไม่ใช่อัจฉริยะด้วยกันเอง แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่โหดร้ายพวกนี้
ขนาดที่ว่ามันเจอเงาหมายเลข 2 ครั้งแรกมันก็ลงมือฆ่าทันทีแบบไม่พูดจาอะไรด้วยสักคำ!
หากว่านี้ไม่ใช่ร่างเงา และเป็นตัวจริงของซู่เสี่ยวไป่ เขาคงบาดเจ็บหนักไม่ก็เสียชีวิตไปแล้ว
“ไม่คิดว่ามันจะทรงพลังขนาดนี้ พวกสิ่งมีชีวิตในพื้นที่เก่าแก่ มันสามารถฆ่าเงาของเราได้ทันทีที่เจอ หากว่าเมื่อกี้เงาเป็นพวกศิษอัจฉริยะคนอื่นละก็ คงได้ตายไปแบบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ!”
ซู่เสี่ยวไป่ถึงกับประหลาดใจ กับความทรงพลังของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่เก่าแก่แห่งนี้ ขนาดขอบเขตพลังบรรพชนบรรพกาลก้าวที่ 8 ก็ยังไม่อาจจะต้านทานได้
เห็นได้ชัดเลยว่าเมื่อเงาหมายเลข 2 ฟื้นกลับมา เจ้าสิ่งมีชีวิตรูปหัวมังกรนั้นก็ได้หันกลับมามอง พร้อมกับถอนหายใจ ก่อนที่จะมีเส้นสายพลังฟาดเข้ามาใส่อีกครั้ง
พลังในครั้งนี้มันรุนแรงและน่าหวาดหวั่นอย่างมาก มันสร้างแรงกดดันปกคลุมไปทั่วทุกทิศ ราวกับสวรรค์กำลังจะลงทัณฆ์พิพากษา มันกดขี่และกดทับทุกอย่างไม่ให้เคลื่อนไหวไปไหนได้ แต่สิ่งนี้ยังเป็นหนึ่งในเส้นทางสู่สวรรค์ที่ซู่เสี่ยวไป่รู้จักและบรรลุ และเขาเองก็เชี่ยวชาญในเส้นทางแห่งมหาอวกาศ ทำให้พลังในการกดขี่พวกนี้ส่งผลกับซู่เสี่ยวไป่ไม่มากพอ
แต่นอกจากการกดขี่ที่รุนแรงแล้ว พลังที่ตัวตนนี้ปล่อยออกมานั้นรุนแรงมาก แม้แต่เขตแดนบรรพชนบรรพกาลก็ยากที่จะทำเช่นนี้ได้ การโจมตีจากสิ่งมีชีวิตในพื้นที่เก่าแก่นั้นน่ากลัวมาก
แม้แต่ดวงดาวที่อยู่ไกลออกไปยังถึงกับสั่นไหวกับพลังโจมตีนี้ และแทบจะพังทลายลง
ท่าโจมตีนี้ไร้ซึ่งความปราณีใดๆ ทั้งสิ้น แต่เงาหมายเลข 2 เองก็ไม่ได้โง้เขลา มันได้ผ่านการต่อสู้มามากมาย แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ใต้การควบคุมของซู่เสี่ยวไป่ มันก็พอที่จะหลบเลี่ยงการโจมตีนี้ได้ หากไม่ใช่การลอบโจมตีไม่มีทางที่เงาหมายเลข 2 จะเสียท่าง่ายๆ แบบตอนแรกอีก!
สิ่งมีชีวิตหัวมังกรมันแสดงท่าที่ที่สงสัย ที่อยู่ๆ สิ่งมีชีวิตที่ดูอ่อนแอนี้กลับหลบการโจมตีครั้งที่สองได้ และนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันเจอสิ่งมีชีวิตแบบนี้มาก่อน
และการโจมตีครั้งที่สองของมันนั้นอัดแน่นไปด้วยพลังของวิถีและเส้นทางต่างๆ มันต้องการจะฆ่าเงาหมายเลข 2 ให้เร็วที่สุด แต่กลายเป็นว่าเงาหมายเลข 2 สามารถหลบการโจมตีได้ ไม่พอมันยังรู้อีกว่าเงาหมายเลข 2 กำลังเร่งเร้าพลังขึ้นมาอย่างกะทันหัน จากการประเมินแล้วตัวตนเล็กๆ นี้อาจจะมีพลังทัดเทียมตัวมันเอง
ซู่เสี่ยวไป่นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่กดดัน
“พลังโจมตีเมื่อครู่ แค่สัมผัสถากๆ ก็พอรู้ได้เลยว่ามันต้องมีพลังเท่ากับเขตแดนบรรพชนบรรพกาลก้าวที่ 10”
ตามความเข้าใจของซู่เสี่ยวไป่ในงานประลองอัจฉริยะจักรวาลนั้นมีเพียงปีศาจอัจฉริยะเท่านั้นที่มีขอบเขตพลังเท่ากับบรรพชนบรรพกาลก้าวที่ 10 แล้วหากว่าศิษอัจฉริยะคนอื่นๆ ที่ขอบเขตพลังไม่เท่ากับก้าวที่ 10 มาเจอกับหัวมังกรตัวนี้เข้า คงตายแบบไม่รู้ตัว แล้วถ้าในอาณาเขตคุ้มกันยังมีตัวตนที่ทรงพลังขนาดนี้ แล้วถ้านอกอาณาเขตจะมีสิ่งมีชีวิตแบบไหนอยู่อีก!
ขนาดภายในอาณาเขตคุ้มกันยังสามารถพบเจอสิ่งมีชีวิตจากพื้นที่เก่าแก่ได้ไม่ยากเย็นนัก หากไม่ระมัดระวังทุกย่างก้าวคงได้เสียชีวิตแบบที่หาศพไม่พบเลยด้วยซ้ำ และการโจมตีของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่เก่าแก่ก็ทรงพลังเกินไป แต่นั้นแปลว่าพวกมันแข็งแกร่งและทั้งตัวต้องเต็มไปด้วยสมบัติ หากว่าสามารถที่จะตอบโต้กลับไปได้ และฆ่าพวกมันได้คงจะได้รับทรัพย์สมบัติมากมาย
แต่ซู่เสี่ยวไป่ยังไม่ต้องการจะสู้จริงจังกับตัวตนนี้ เขาจึงหยั่งเชิงก่อนแล้วตะโกนถามผ่านร่างเงาของเขาออกไป
“แกเป็นใคร!!”
ตัวตนพวกนี้อยู่มาอย่างยาวนาน และอาจจะมากกว่า 1 ยุคและด้วยพื้นที่เก่าแก่นั้นมีอายุขัยที่ยาวนานกว่าจักรวาลทวีปใหญ่ และมันต้องรู้เรื่องอะไรมากมายกว่าที่คิด หากได้ลองพูดคุยอาจจะได้ข้อมูล
การได้รู้จักตัวตนแบบนี้จะดีกว่าการสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง
+และอีกอย่างซู่เสี่ยวไป่ไม่รู้ว่าตัวตนนี้ปรากฏตัวออกมาได้อย่างไง และมาตอนนั้น อยู่ๆ มันก็ฆ่าเงาหมายเลข 2 ในทันที และเป็นการโจมตีที่เด็ดขาดมากมันพอแล้วที่จะฆ่าศิษอัจฉริยะได้เกือบทุกคน ถ้าตัวตนเช่นนี้มีอีกมากในอาณาเขตคุ้มกัน ซู่เสี่ยวไป่จะต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น
แล้วอีกฝ่ายก็จ้องมองเงาหมายเลข 2 ด้วยสายตาที่ระมัดระวังมากขึ้น ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายก็พอจะรู้ว่าตอนนี้มันเองก็ยังฆ่าตัวตนนี้ไม่ได้ และไม่ต้องพูดถึงว่าเงาของซู่เสี่ยวไป่ฟื้นตัวได้แทบจะเป็นอมตะ
สิ่งมีชีวิตหัวมังกรก็เงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะเปล่งวาจาด้วยคลื่นเสียงแบบเดียวกับสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรโบราณ!”
“เดี๋ยว!! นั้นมันภาษาแบบเดียวกับพวกอาณาจักรคลื่นโบราณ! หรือว่าพวกอาณาจักรคลื่นโบราณจะเคยมาที่นี่….หรือมีความเกี่ยวข้องอะไรกันมาก่อน?”
ซู่เสี่ยวไป่นั้นมีเงาที่ท่องไปทั่วอาณาจักรคลื่นโบราณ และบุกไปยังฐานใหญ่ของพวกมันมาแล้ว ทำให้เขานั้นคุ้นเคยกับภาษาเหล่านี้ดี และพอที่จะสื่อสารรับฟังภาษานี้ได้
สิ่งมีชีวิตหัวมังกรได้ตอบกลับมาอย่างช้าๆ
“ข้าเป็นนักโทษของสถานที่แห่งนี้….ที่นี่พวกเจ้าคงเรียกว่าพื้นที่พิพากษา แต่สำหรับข้ามันคือคุก สำหรับผู้ถูกเนรเทศ!!”
“เจ้าเป็นนักโทษที่ถูกขับไล่ออกมางั้นหรอ? งั้นเจ้าก็เป็นผู้ฝึกตนในพื้นที่เก่าแก่มาก่อนสินะ!”
“ถูกต้อง….ข้าได้ก่อความผิดร้ายแรงขึ้นจนถูกกักขังไว้ที่นี่ไม่สามารถออกไปไหนได้ตลอดชีวิต!”
สิ่งมีชีวิตหัวมังกรตอบกลับมา และในน้ำเสียงของเขานั้นดูไม่ได้โกหกเลยแม้แต่น้อย!