ตอนที่แล้วยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 499 พื้นที่เก่าแก่ที่แท้จริง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 501 ภัยจากพื้นที่เก่าแก่

ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 500 ตายแบบไม่รู้ตัว (ฟรี)


หากจะกล่าวถึงชุนหยางนั้น ตัวตนนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวตนโบราณของพิภพมหาพันภพหลัก และเป็นที่นับน่าถือตาอย่างมาก เหล่าสาวกและลูกศิษของนิกายวังจิตวิญญาณเหนือภพนั้นรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตัวตนนี้ แต่กลับกันซู่เสี่ยวไป่นั้นมองว่าชุนหยางไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น เพราะเขารู้ว่าที่เหนือกว่าเขตแดนโบราณมีอะไรอยู่

ยังมีตัวตนที่ทรงพลังกว่าเขตแดนโบราณอยู่อีกมาก ตัวตนระดับนั้นเป็นอะไรที่แม้แต่เขตแดนโบราณก็ต้องก้มหัวให้ ซึ่งซู่เสี่ยวไป่ยังไม่รู้รายละเอียดมาก แต่หากวันหนึ่งเขาได้สัมผัสกับเขตแดนโบราณแล้วจริงๆ เขาอาจจะรู้อะไรมากขึ้นก็ได้

ความแตกต่างระหว่างเขตแดนโบราณกับเขตแดนที่อยู่สูงขึ้นไปอีกมีอะไรที่แตกต่างกันอยู่มาก นอกจากพลังที่มากกว่าอย่างเดียว

ซู่เสี่ยวไป่สังเกตเห็นว่าตั้งแต่มาถึงที่นี่ ทุกสิ่งที่เขาสัมผัสตรวจสอบนั้นมันอัดแน่นไปด้วยพลัง และมีกลิ่นไอที่แข็งแกร่งมาก เขาลองพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงบรรยากาศรอบตัวเองให้ทรงพลังเท่ากับบรรยากาศรอบๆ ซึ่งทำให้เขารู้ว่ามันเป็นบรรยากาศที่เท่ากับบรรพชนบรรพกาลที่ปล่อยพลังเต็มที่

แล้วมีดทมิฬก็ปรากฏขึ้นในมือของเงาหมายเลข 2 ก่อนที่เงานั้นจะฟันมีดออกไปใส่ซากโบราณสถานที่อยู่ไกลออกไป

พลังในการฟันครั้งนี้เทียบเท่าพลังของบรรพชนบรรพกาลก้าวที่ 8 แต่เอากันตามจริงหากซู่เสี่ยวไป่ทุ่มสุดกำลัง พลังก็พอที่จะทำให้บรรพชนบรรพกาลก้าวที่ 10 บาดเจ็บได้  แต่การฟันครั้งนี้ก็ถือว่ารุนแรงมากพอที่จะกวาดทุกสิ่ง และทำลายมิติกับความว่างเปล่าได้แล้ว

เมื่อคลื่นพลังปะทะเข้ากับซากโบราณสถาน มันไม่ต่างจากท่อนซุงที่พุ่งชนกับกำแพงเหล็กกล้า ซากโบราณสถานแค่สั่นสะเทือนเล็กน้อยเท่านั้น และไม่มีสิ่งใดพังทลายลง แม้แต่พื้นแผ่นดินก็ยังไม่ถูกตัดขาดเลยด้วยซ้ำ

ในพื้นที่ก่อนหน้านี้ พลังของเขตแดนบรรพชนบรรพกาลสามารถทำลายทั้งแผ่นดินได้อย่างไม่ยากเย็นนัก และหากเป็นที่จักรวาลทวีปใหญ่การฟันเมื่อครู่ของซู่เสี่ยวไป่ก็พอแล้วที่จะตัดผ่าดาวทั้งดวง

พลังของบรรพชนบรรพกาลนั้นตกลงที่ไหนก็จะเกิดความพินาศขึ้นที่นั่น ตกลงน้ำก็ทำให้น้ำแห้งเหือด ตกลงดินก็เปลี่ยนจากแผ่นดินเป็นผุยผง หากอยู่ในห้วงอวกาศก็ฉีกกระชากช่องว่างมิติ หรือกาลเวลาออกจากัน สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อย

เมื่อได้เห็นฉากนี้ซู่เสี่ยวไป่ก็รู้ว่าสถานที่แห่งนี้มีกฎเกณฑ์ที่แตกต่างจากเดิม

“ไอ้พื้นที่ก่อนหน้านี้มันคือการจำลองสถานที่แห่งนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย และนี้คือพื้นที่เก่าแก่ที่แท้จริง!”

ซู่เสี่ยวไป่นั้นสั่งให้เงาเหาะขึ้นไปบนท้องฟ้า ที่เต็มไปด้วยดวงดาวน้อยใหญ่มากมาย แม้จะเห็นว่าขนาดของดวงดาวนั้นว่าใหญ่โต แต่มันกลับห่างออกไปแบบที่ไม่สามารถไปถึงได้ในเวลาอันสั้น จากการคาดการแล้ว ระยะทางระหว่างดวงดาวที่เห็นนั้นไม่ได้เหมือนระยะทางโลกกับดวงจันทร์ แต่มันอยู่ไกลออกไปมากๆ และต้องมีขนาดใหญ่มากจนเห็นเป็นดวงดาวที่ใหญ่โตได้จากมุมนี้

และเมื่อซู่เสี่ยวไป่ได้มองออกไปรอบๆ ก็รู้เลยว่าสถานที่แห่งนี้มีอะไรให้เขาค้นหาอีกมาก!

ที่บนท้องฟ้าแห่งนี้แม้จะดูอ้างว้างไร้ซึ่งสิ่งใด แต่มันกลับอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย

หากเป็นในจักรวาลทวีปใหญ่ พื้นที่ที่ทำให้รู้สึกแบบนี้ได้คงเรียกว่าอาณาเขตมรณะ ปกติแล้วอาณาเขตมรณะนั้นไม่ได้มีขนาดใหญ่ แต่พื้นทีมรณะนั้นจะเป็นเพียงพื้นที่เล็กๆ เท่านั้น

-“จากตรงนี้มันสามารถมองเห็นกลุ่มกาแล็กซีได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งมีขนาดไม่ต่างจากพิภพมหาพันภพ แล้วจะเห็นแต่ดาวฤกษ์ขนาดใหญ่เคลื่อนตัวอยู่ในนั้น  เท่าที่ดูแล้วแต่ละดวงคงผ่านมาหลายยุคหลายสมัยแล้วด้วย ขนาดใช้สายธารแห่งกาลเวลาก็ยังไม่มองเห็นถึงจดเริ่มต้นของมันเลยด้วยซ้ำ”

ซู่เสี่ยวไป่นั้นสูดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับปรับเปลี่ยนความคิดตัวเองใหม่หลังจากที่ได้เห็นโครตดาวฤกษ์ที่อยู่ในกาแล็กซีที่ห่างไกลออกไป ไม่อาจจะพูดได้เลยว่าขนาดของมันจะใหญ่มโหฬารขนาดไหน

และท่ามกลางหมู่ดาวมากมายบนท้องฟ้าที่ร่างเงาอยู่นั้น ซู่เสี่ยวไป่สัมผัสทุกอย่างอีกครั้ง พบว่าระยะห่างระหว่างดวงดาวนั้นกว้างใหญ่มาก ระยะมันต่างจากดวงดาวในจักรวาลทวีปใหญ่เสียอีก

ด้วยเส้นทางสู่สวรรค์ที่เกี่ยวข้องกับมิติ เวลา และอวกาศของซู่เสี่ยวไป่ทำให้เขารับรู้ได้ถึงสิ่งนี้

และท่ามกลางท้องทะเลดวงดาวตรงจุดนี้มันเป็นเหมือนจุดพื้นที่จุดหนึ่ง ในพื้นที่เก่าแก่ และจุดที่ซู่เสี่ยวไป่อยู่นั้นเป็นเหมือนพื้นที่พิเศษที่ไม่มีอะไรเลยแม้แต่ผู้ฝึกตน แต่ถึงอย่างนั้นกลับแฝงไปด้วยกลิ่นไออันตรายเต็มไปหมด และทุกย่างก้าวที่ออกไปสำรวจนั้นต้องระมัดระวังอย่างมาก

แล้วในเมื่อมาถึงสถานที่ใหม่ๆ ดินแดนใหม่ๆ ซู่เสี่ยวไป่ก็ไม่รอช้านำร่างเงาทั้งหมดของเขามาที่นี่พร้อมกับแบ่งกลุ่มของพวกมันออกไปเป็นกลุ่มละ 10 ร่าง ให้ออกไปสำรวจพื้นที่เก่าแก่แห่งนี้

หากตอนนี้ซู่เสี่ยวไป่เข้าใจไม่ผิดเขาน่าจะอยู่ในพื้นที่พิพากษาแล้ว และในครั้งนี้มันไม่ใช่การต่อสู้กันเองระหว่างศิษอัฉริยะอีกแล้ว แต่มันเป็นการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดในพื้นที่เก่าแก่แห่งนี้

หากเป็นตามที่หมิงหยาได้บอกกับศิษนิกายทุกคนก่อนหน้านี้ว่าสิ่งมีชีวิตในพื้นที่เก่าแก่นั้นสามารถที่จะคุกคามได้กระทั้งตัวตนเขตแดนโบราณ แม้แต่ตัวตนโบราณที่ยิ่งใหญ่ก็ยังอ่อนแอสำหรับพวกมัน และเป็นเรื่องที่อันตรายมากหากพบเจอเข้า

แต่สำหรับซู่เสี่ยวไป่นั้นคิดว่ายิ่งศัตรูแข็งแกร่งเท่าไร ผลกำไรที่ได้จากการเก็บเกี่ยวก็จะมากขึ้น

ก่อนที่จะถูกเคลื่อนย้ายมาที่นี่ ซู่เสี่ยวไป่นั้นอยู่ในสถานการณ์คอขวดเนื่องจากศิษระดับบรรพชนบรรพกาลไม่สามารถตอบสนองความต้องการของระบบได้อีกแล้ว ทองคำเอกภพที่ได้จากการฆ่าตัวตนระดับนี้ไม่เพียงพออีกต่อไป

ทำให้เขาต้องรีบแก้ไขปัญหานี้ให้ได้โดยเร็ว

และการที่จะได้เจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นนั้นจะหมายถึงทองคำเอกภพจำนวนมากที่จะได้รับ และการเพิ่มระดับให้กับความสามารถครั้งใหญ่อีกครั้ง จนกว่าที่เขาจะบรรลุวิชาระดับโบราณได้ เขาจะต้องเก็บเกี่ยวทรัพย์สมบัติให้ได้มากที่สุด

สิ่งที่ซู่เสี่ยวไป่ต้องการในตอนนี้คือแปรรูปสิ่งมีชีวิตในพื้นที่เก่าแก่ให้กลายเป็นบันไดให้เขาเหยียบข้ามขึ้นไปในจุดที่สูงขึ้น

เวลานี้ซู่เสี่ยวไป่บังคับให้เงาหมายเลข 7 พุ่งตรงออกไปสำรวจด้านหน้าของสถานที่แห่งนี้

ซู่เสี่ยวไป่ไม่ลืมสิ่งที่ตัวตนจ้าวโบราณทั้งสามกล่าวเอาไว้ก่อนเข้ามาในพื้นที่เก่าแก่ ว่าพวกเขาทั้งหมดยังได้รับการดูแลและปกป้องอยู่ในระดับหนึ่งจากภัยต่างๆ ของพื้นที่เก่าแก่

และหากออกนอกพื้นที่อาณาเขตจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต

“ชักอย่างรู้แล้วสิ…ว่าไอ้สิ่งที่เรียกว่าน่ากลัวกว่าความตายในพื้นที่เก่าแก่คืออะไร มันมีอะไรอยู่นอกอาณาเขตคุ้มกัน? ที่ข้างนอกนั้นคือพื้นที่เก่าแก่ที่แท้จริงงั้นหรอ? แล้วจะมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังแบบไหนอาศัยอยู่อีก?”

ซู่เสี่ยวไป่นั้นมีคำถามเต็มหัวไปหมด เขามองต่างในเรื่องนี้ และต้องการออกไปสำรวจ

ก่อนที่เขาจะควบคุมร่างเงาหมายเลข 2 ที่ภายนอกคือรูปลักษณ์ของไป่หยิน มุ่งหน้าไปยังกลุ่มดาวที่ใกล้ที่สุดจากตรงนี้

กลุ่มดาวกลุ่มนี้มันโคจรรอบหลุมดำขนาดยักษ์ และมีแรงดึงดูดอันมหาศาล หากเป็นบรรพชนบรรพกาลระดับต่ำมายังที่นี่ พวกเขาจะรู้สึกถึงแรงกดทับและแรงดึงดูดอันมหาศาล ก่อนที่ร่างจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ

แต่ด้วยขอบเขตพลังของซู่เสี่ยวไป่นั้นเข้าใกล้กับเขตแดนโบราณมากแล้ว ทำให้เขาสามารถปรับตัวเข้ากับแรงดึงดูดขนาดนี้ได้

“ขนาดว่าเส้นทางแห่งมหาอวกาศรวมกับดาราจักรแห่งชีวิตไปแล้ว และกลายเป็นดาราจักรแห่งมหาอวกาศ มันก็พอที่จะทนรับแรงดึงดูดและแรงกดทับที่มากขึ้นเป็นร้อยเท่าได้ แต่ในที่แห่งนี้แรงดึงดูดกับแรงกดทับมันมากกว่านั้นมาก”

ซู่เสี่ยวไป่ได้รู้แล้วว่าเขายังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพื้นที่เก่าแก่เลยแม้แต่นิดเดียว และยังไม่อาจจะเข้าใจได้ อีกทั้งยังมีเส้นทางสู่สวรรค์ที่เขายังไม่รู้จักอยู่อีก

เงาหมายเลข 2 ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของซู่เสี่ยวไป่นั้นกำลังบินตรงเข้าไปในกลุ่มดาวนี้

แต่วินาทีต่อมาก่อนที่ซู่เสี่ยวไป่จะทันทำอะไร ภาพทุกอย่างที่มองผ่านร่างเงาหมายเลข 2 นั้นก็มืดบอดไป และการเชื่อมต่อระหว่างเงากับร่างจริงก็ถูกขัดขวาง

“เงา 2 ถูกทำลาย…ตอนไหนกัน?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด