ตอนที่แล้วบทที่ 7 ใช้ความเป็นเด็กให้คุ้มค่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 9 ดาบเกล็ดมังกร VS ง้าวกระหายเลือด

บทที่ 8 รัฐมนตรี


เมื่อมองไปที่ชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำ เตียนอุยก็อดขมวดคิ้ว

เขารู้สึกได้ว่าศิลปะในการต่อสู้ของชายผู้นี้ไม่ธรรมดาแน่นอน ออร่าที่เปล่งออกมาและจิตสังหารแบบนี้ไม่ใช่จอมยุทธ์ธรรมดาอย่างแน่นอน

แต่เตียนอุยก็ไม่รู้สึกว่าว่าเป็นภัยคุมคาม แม้ว่าชายวัยกลางคนนี้จะดูแข็งแกร่งแต่ชายตรงหน้าก็ยังไม่ดีพอที่จะสร้างความลำบากให้แก่เขาได้

“สวัสดียามค่ำท่านรัฐมนตรี”

เมื่อมองไปที่ชายชราที่ยืนอยู่ต่อหน้าชายวัยกลางคน เตียนอุยอดไม่ได้ที่จะโค้งคำนับตามหน้าที่อย่างช่วยไม่ได้ แต่โค้งคำนับให้เฉยแบบไม่ถ่อมตัวหรือเคารพแต่อย่างใด

ชายชราคนนี้คือรัฐมนตรีภายในพระราชวัง หลู่บูเว่ย

ชายผู้เริ่มต้นเป็นพ่อค้าธรรมดา เมื่อมีความมั่งคั่งก็มาเป็นนักธุรกิจและกลายมาเป็นรัฐมนตรีราชวงศ์ฉินที่ปกครองผู้คนนับหมื่น

“เจ้าเป็นใคร”

หลู่บูเว่ยขมวดคิ้วแสดงความแปลกใจ เนื่องจากเขาไม่เคยเห็นเตียนอุยมาก่อนในพระราชวัง มีทหารหลายคนเขาสามารถจดจำได้หมด

แต่เตียนอุยนั้นคอบปกป้องฝูซูอยู่ข้างกายตลอดและไม่ค่อยปรากฏตัวให้ผู้คนพบเห็นเท่าไหร่นัก

กล่าวได้ว่า แถบนับจำนวนคนที่เคยพบเห็นเตียนอุยได้เลย

นับตั้งแต่เตียนอุยถูกอัญเชิญ เขาก็ซ่อนตัวและอยู่ข้างกายฝูซูตลอดไม่เคยห่างสักเพียงฉื่อเดียว

ขนาดฉินหวังเจิ้งยังรู้เพียงว่า เตียนอุยเป็นองครักษ์ประจำกายของฝูซู ไม่รู้ที่มาที่ไปมากนักและรู้เพียงไว้ เขาแข็งแกร่งและซื่อสัตย์รับใช้ต่อฝูซูเพียงคนเดียว

“ข้าคือหัวหน้าองครักษ์ในวัง” เตียนอุยกล่าวตอบหลู่บูเว่ย

“หัวหน้าองครักษ์ ทำไมเจ้ามาอยู่ตรงนี้?”

หลู่บูเว่ยยิ่งไม่พอใจมากขึ้นไปอีก เนื่องจากหัวหน้าองครักษ์กำลังขวางทางจุดประสงค์ที่เขามาที่นี่

“ไม่มีเหตุจำเป็นใดให้เจ้าอยู่ที่นี่ ออกไปซะ”

หลู่บูเว่ยกำลังเริ่งรีบ เขาต้องการให้หัวหน้าองครักษ์ผู้นี้หลีกทางให้เขา

เพื่อที่เขาต้องการจะเข้าไปพบและพูดคุย รื้อฟื้นความสัมพันธ์เก่าของเขากับจ้าวจี

หลู่บูเว่ยรู้ดีว่าจ้าวจีเกลียดเขามาก เนื่องจากสิ่งที่เขาเคยทำกับเธอไว้ในอดีต

แต่เขาก็รู้ว่าจ้าวจีจะต้องยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขา ตราบใดที่เขาพยายามง้อเธอ เขาก็สามารถกลับไปสานต่อความสัมพันธ์เมื่อครั้งอดีตได้

“คงไม่ได้ นายท่านของข้ากำลังนอนหลับอยู่ข้างในและข้าไม่สามารถให้ใครไปรบกวนการนอนของท่านได้”

เตียนอุยกล่าวปฏิเสธที่จะหลีกทางหรือปล่อยให้ใครเข้ามา หากไม่มีคำสั่งจากฝูซู แม้จะเป็นอิ๋งเจิ้งมาเข้าก็จะไม่ให้เข้ามาอยู่ดี

“เจ้าว่าอะไรนะ!”

สีหน้าของหลู่บูเว่ยแสดงความโกรธออกมาอย่างชัดเจน นายท่านกำลังนอนอยู่ข้างในซึ่งมันคือห้องของจ้าวจีพักอยู่

“นางเพศยานั้น กล้าเล่นชู้ในวังเชียวงั้นเรอะ” หลู่บูเว่ยตะโกนด่าออกมา

“หึ ข้าจะหั่นเจ้าผู้ชายนั่นให้เป็นชิ้นๆเลย บังอาจนัก” เขากำหมัดแน่นและสบถออกมา พร้อมเตรียมพุ่งเข้าไปในวัง

จ้าวจีซึ่งกำหลังหลับไหลอยู่นั้น ถึงกับสะดุ้งตื่นออกมาเมื่อได้ยินเสียงคำรามอยู่ที่ด้านนอกห้อง แต่เธอก็ไม่กล้าออกไปดู

และฝูซูก็ตื่นขึ้นมาจากการหลับไหล เพราะเขารับรู้ได้ถึงจิตสังหารที่ส่งตรงมายังห้องนี้

ฝูซูแกล้งทำเป็นงัวเงียเหมือนเพิ่งตื่นและพูดขึ้้นมา

“คุณย่า มีอะไรหรือเปล่า?”

“ไม่ต้องกลัวนะ มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นข้างนอกเฉยๆหลานรัก ย่าจะไปดูให้นะ”

จ้าวจีกล่าวปลอบและต้อการให้ฝูซูนอนลงต่อ เธอเอาชุดคลุมฟินิกซ์มาคลุมและเดินเหยียบพรมด้วยเท้าอันสีขาวนวลของเธอ

ฝูซูขมวดคิ้วและลุกตามเธอไป

จ้าวจีตกใจมาก ขณะที่เดินไปใกล้ประตูและเธอได้ยินเสียงของหลู่บูเว่ยกำลังสบถด่าเธออยู่

หัวใจของจ้าวจีรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอย่างมาก ความทรงจำที่เลวร้ายในอดีตกำลังย้อนกลับมาในหัวของเธอและทำให้ดวงตาของเธอเริ่มเต็มไปด้วยน้ำตา

ฝูซูขณะเดินตามจ้าวจีมาได้ยินเสียงสบถด่าของหลู่บูเว่ย กำลังด่าทอย่าของเขา

เจ้านั้นกล้าดียังไงมาด่าว่าย่าของเขาเรอะเดียววจะได้รู้ว่าฉันจะจัดการกับแกยังไงที่กล้าใช้ปากนั้น

เมื่อฝูซูมองไปที่หน้าจ้าวจีที่มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตา หัวใจของฝูซูก็เจ็บปวดทันที

จ้าวจีแม้จะอายุมากแล้วแต่เธอยังคงความงามเหมือนสาววัยรุ่น

“ท่านย่า”ฝูซูยื่นมือออกไปเช็คน้ำตาบนใบหน้าของจ้าวจี

“ท่านย่า ซูเอ๋อจะออกสั่งสอนบทเรียนคนที่มาทำให้คุณย่าต้องเสียน้ำตาเอง”

ฝูซูกล่าวออกมาพร้อมลุกขึ้นยืนจะเปิดประตูออกไป

“ไม่!” จ้าวจีรีบจับตัวฝูซูไว้

“ซูเอ๋อ เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา” จ้าวจีกังวลใจว่า หลู่บูเว่ยจะทำอันตรายต่อฝูซู

“ฮึ่ม เขายังไม่มีคุณสมบัติพอ”ฝูซูพูดออกมาอย่างเย็นชา

“ท่านรัฐมนตรี โปรดตั้งสติและสำรวมในคำพูดของท่านด้วย”

ใบหน้าของเตียนอุยกล่าวออกมาอย่างเย็นชา เขาไม่ยอมให้ใครกล้ามาดูถูกฝูซูอย่างแน่อน

เตียนอุยพยายามอดกลั้น เขาอยากที่จะทำให้รัฐมนตรีผู้นี้ได้รู้บาปของการกล้ามาดูถูกผู้เป็นนายของเขา

“ห้ะ หัวหน้าองครักษ์เจ้ากล้าดียังไงมาพูดกับข้าผู้นี้ ช่างกล้าเสียจริง”

หลู่บูเว่ยกำลังอยู่ในอารมณ์โกรด แต่เขาก็คาดคิดว่าจะมีใครกล้ามาพูดจาเช่นนี้กับเขา

“ฆ่ามันซะ”

หลู่บูเว่ยแม้จะโกรธอยู่ แต่ก็ยังไม่เสียสติเขาเข้าใจว่านี่คือภายในวัง และการที่หัวหน้าองครักษ์นี่มีส่วนรู้เห็น

ดังนั้นเขาจะต้องปิดปากพยานรู้เห็นนี้เสีย มิฉะนั้นจะมีปัญหาตามมามากมาย

เพราะท้ายที่สุดไม่เพียงแต่การที่เขาเข้ามาที่วังฮั่วหยวนของอดีตจักพรรดินีดึกดื่นเช่นนี้โดยพลการเท่านั้น

แต่เขายังพูดจาดูถูกอดีตจักพรรดินีไปแล้วด้วย

หลู่บูเว่ยจะไม่มีวันปล่อยให้เรื่องนี้ทำให้สถานะของเขาถูกสั่นคลอน ดังนั้นเตียนอุยจะต้องตายที่นี้

“ได้เลย ท่านรัฐมนตรี”

ชายวันกลางคนที่อยู่ด้านหลังหลู่บูเว่ย ก้าวออกมาและมองตรงไปทีเตียนอุย

ด้วยจิตสังหารและสายตาที่ต้องการล่าเหยื่อ และเปล่งปราณในร่างกายของเขาออกมาพุ่งไปหาเตียนอุย โดยหวังใช้ปราณคุมคามเตียนอุย

บนร่างกายของชายวัยกลางคนมีกลิ่นเลือดจากการพรากชีวิตผู้คนมามากมาย หลู่บูเว่ยได้ทำการคัดผู้ที่จะมาเป็นแขนขาจัดการศัตรูต่างๆให้เขา

ซึ่งชายวัยกลางคนคือมือหนึ่งที่เขาคัดมาด้วยตัวเอง เป็นสาเหตุที่หลู่บูเว่ยกล้ามาแค่สองคน

“เหอะ!”

เตียนอุยสบถอออกมาอย่างเย็นชา และเปล่งปราณที่ทรงพลังในร่างระเบิดออกมา

ด้านหลังเตียนอุย ปรากฏร่างปีศาจสีแดง ราวกับปีศาจจามขุมนรก จ้องมองไปที่ชายวัยกลางคนด้วยดวงตาสีแดงก่ำราวกับจะดูดวิญญาญของผู้ที่มันพบเห็นเข้ามา

“เอ่อ… ซวยละ”

สีหน้าของจอมยุท์วัยกลางคนเริ่มเปลี่ยนไป เขารู้สึกได้ถึงวิกฤตครั้งใหญ่ สัญชาตญษของเขากำลังบอกว่ามีกลิ่นความตายกำลังใกล้เข้ามา

เขาไม่คิดว่าจะมาเจอบุคคลที่น่ากลัวเช่นนี้ ในพระราชวังตอนนี้

แต่เขารู้สึกได้โดยทันที เขาต้องหาทางเอาตัวรอดและหากปกป้องจิตใจของเขา

หากไม่ทำอะไร จิตใจของเขาจะถูกปราณของคนตรงหน้านี้บดขยี้แน่นอน

ดังนั้นจอมยุทธ์วัยกลางคนจึงตัดสินใจ จะเปิดฉากโจมตีก่อน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด