บทที่ 6 ปล้นคะแนน
บทที่ 6 ปล้นคะแนน
.
ชั้นเจ็ด
นี่เป็นตัวอักษรที่มองเห็นได้ไม่ชัดนักบนป้ายแขวนเหล็กที่เป็นสนิม
โครงสร้างของชั้นนี้คล้ายกับชั้นที่แล้ว นั่นคือมีโครงสร้างทางเดินเป็นวงกลม
ซูฉางซิงถือมีดลงจากบันไดมาที่ชั้นนี้อย่างช้าๆ เมื่อเข้าไปยังทางเดิน เขาก็เห็นรอยเลือดแห้งเป็นทางยาวหลายจุดบนพื้น และมีกลิ่นเหม็นเน่าจางๆ อวลอยู่ในอากาศ
“แจ๊บๆ~”
ดูเหมือนมีใครกำลังเคี้ยวอะไรบางอย่างอยู่
เป็นไปได้ไหมว่ามีเพื่อนร่วมโลกที่ถูกส่งมาอยู่ที่เดียวกับเขาถูกฆ่าตายไปแล้ว?
ซูฉางซิงตามเสียงนั้นเข้าไปดู เมื่อโผล่หน้าไปตรงมุมเพื่อสำรวจดู รูม่านตาของเขาก็หดลงทันที
ซอมบี้สองตัวหมอบอยู่กับพื้นโดยหันหลังให้กับซูฉางซิง พวกมันกำลังกัดทึ้งซากศพเปื้อนเลือด บนพื้นมีเศษอวัยวะภายในชิ้นเล็กๆ บนผนังมีคราบฝ่ามือเปื้อนเลือดหลายรอย
ในขณะที่ซูฉางซิงเห็นพวกมัน ซอมบี้ทั้งสองตัวก็ดูเหมือนจะรู้ตัวเช่นกัน เพราะพวกมันหน้าหันมามองซูฉางซิง
ตาประสานตา ดวงตาของซอมบี้เป็นสีเลือดแดงก่ำ
ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายใกล้มากไม่เกิน 4-5 เมตร
ซูฉางซิงก้าวไปข้างหน้าสามก้าว เงื้อมีดเหล็กจ้วงแทงไปยังหน้าผากของซอมบี้ตัวที่อยู่ทางซ้ายทันที ในขณะที่พวกมันเพิ่งรู้สึกตัวและยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
ซอมบี้ทางด้านซ้ายถูกซูฉางซิงแทงลงไปอย่างแรง แต่ความแรงและมุมได้เบี่ยงเบนไปจากตำแหน่งที่เขาได้คำนวณไว้ มีดจึงลากผ่านแก้มกรีดเป็นแผลลึกครึ่งเซนติเมตรแล้วสับลงไปที่แขนของมันแทน
ซอมบี้ตัวด้านขวาพุ่งเข้าจู่โจมซูฉางซิงด้วยฟันและกรงเล็บทั้งหมดของมันทันที
ซูฉางซิงรีบดึงมีดออกมาและก้าวถอยหลังไปสองก้าว ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าซอมบี้ในตอนกลางวันเล็กน้อย ทำให้เขาสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของซอมบี้ไปได้
เขาเงื้อมีดขึ้นฟันหัวซอมบี้ตัวที่อยู่ใกล้จนหัวของมันขาดแหว่ง ด้วยแรงนี้ทำให้มันล้มลง แต่ก็ยังไม่สามารถฆ่ามันได้
มีความคลาดเคลื่อนระหว่างการกระทำของร่างกายกับความคาดหวัง
ซูฉางซิงขมวดคิ้ว เงื้อมีดแล้วสับลงไปอีกครั้งและจบชีวิตของมันลง ในเวลาเดียวกันกับที่มีการแจ้งแต้มคะแนน ซอมบี้อีกตัวที่ยืนโงนเงนได้สะบัดแขนที่ขาดครึ่งไปมา แล้วพุ่งเข้ามาหา
เมื่อเหลือซอมบี้อยู่เพียงตัวเดียว แรงกดดันของซูฉางซิงก็น้อยลงมาก เขาถอยหลังไป 2 ก้าว รวบรวมกำลัง ปรับมุมเพื่อฟันใส่ซอมบี้ที่พุ่งเข้ามา เขาฟันมีดไปตามแนวนอนเข้าไปที่ขมับของมัน
มีดเหล็กผ่าสมองของซอมบี้
เลือดสีดำที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นกระเด็นใส่ใบหน้าของซูฉางซิง
[ฆ่าซอมบี้ รับ 10 คะแนน]
“มุมนี้ดูเหมือนจะแยกสมองได้ง่ายกว่า”
“ฉันแข็งแกร่งก็จริง แต่การเคลื่อนไหวก็มีข้อผิดพลาดมากเช่นกัน นอกจากนี้ยังต้องฝึกฝนอีกมากเพื่อให้แม่นยำขึ้น”
ซูฉางซิงมองไปที่มือของตัวเอง และตระหนักได้ว่า แม้ว่าเขาจะสามารถฆ่าซอมบี้ได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่เขาก็ไม่สามารถรับประกันความสำเร็จ 100% ได้
เขาเพิ่งทำพลาดสองครั้งติดๆกัน
โชคดีที่เป็นความผิดพลาดเล็กน้อยและอยู่ในขอบเขตที่พอรับได้
“นี่คือ?”
ซูฉางซิงมองไปที่ศพ และเห็นโทรศัพท์มือถือแบบเดียวกับที่เขามีจมอยู่ในกองเลือด หน้าจอของมันเป็นสีดำ
“ดูเหมือนจะไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือของคนอื่น? บนโทรศัพท์ไม่มีส่วนแจ้งระดับพลังงาน ไม่มีปุ่มเปิดปิด นี่เป็นเทคโนโลยีต่างดาวอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าพลังงานของมันคืออะไร”
ซูฉางซิงหยิบโทรศัพท์บนพื้นขึ้นมาลองเทียบกับโทรศัพท์ของตัวเองดู ในขณะที่ตกอยู่ในห้วงความคิด เขาก็สังเกตเห็นข้อความบนโทรศัพท์ของตัวเอง
[ต้องการถอนคะแนนของผู้ถูกกำจัดหรือไม่]
ต้องการ
ซูฉางซิงเห็นโทรศัพท์มือถือที่เขาหยิบขึ้นมาจากพื้นกลายเป็นแสงและเงาสีดำกระจายไปในอากาศ
[รับ 10 คะแนน]
[คะแนนรวม: 178]
“หายไปแล้ว?”
ซูฉางซิงตกตะลึง
นี่เป็นการปล้นคะแนนของผู้อื่นโดยตรง ซึ่งเท่ากับเป็นการผลักให้ทุกคนกลายเป็นศัตรูกัน
ซูฉางซิงเดาว่าเกมวันโลกาวินาศนี้เป็นเกมที่กระตุ้นให้มนุษย์ต่อสู้กันเอง
มันเป็นเรื่องยากมากที่คนส่วนใหญ่จะสามารถได้รับ 1,000 คะแนนภายใน 30 วัน
อย่ามองว่าตอนนี้มันง่ายที่จะฆ่าซอมบี้ เพราะสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับสมมติฐานที่ว่า ซูฉางซิงทรงพลังและมีอาวุธที่ยอดเยี่ยม
แม้ว่าซอมบี้จะไม่มีสติปัญญา แต่หากถูกซอมบี้กัดหรือข่วนก็อาจติดเชื้อได้ บางครั้งการแย่งชิงคะแนนจากผู้อื่นก็ง่ายและปลอดภัยกว่า
ซูฉางซิงไม่สามารถยืนยันได้ว่าซอมบี้เหล่านั้นมีความสามารถในการแพร่เชื้อหรือไม่ แต่ในใจก็รู้สึกว่าทำได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วสิ่งเหล่านี้ก็มักเห็นได้ในภาพยนตร์ และสอดคล้องกับตรรกะของซอมบี้จำนวนมาก
เขาเพิ่งเดินเข้าไปในห้องที่อยู่ถัดไปเพื่อพักผ่อน ซูฉางซิงก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากทางเดิน หนึ่งใกล้ หนึ่งไกล
เสียงฝีเท้าที่อยู่ใกล้ ดังหนักกว่าซอมบี้ตัวอื่นที่เคยได้ยิน ขนาดของเจ้าของฝีเท้าควรจะตัวโตพอสมควร
ซูฉางซิงจับมีดเหล็กมั่น เดินไปที่ทางเดิน เขาเห็นร่างสูงกว่า 2 เมตร ซอมบี้ร่างกำยำพุ่งเข้ามาหาเขาด้วยแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ
ทางเดินสั่นสะเทือนด้วยการวิ่งที่มีท่าทางน่ากลัวมากของมัน
เดิมทีซอมบี้ก็กลายร่างมาจากมนุษย์ ดังนั้นยิ่งร่างกายมนุษย์แต่เดิมแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ร่างซอมบี้ก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
ซูฉางซิงยังคงสงบนิ่ง เขาจ้องมองตรงไปยังซอมบี้ที่กำลังวิ่งเข้ามา เขาสามารถแยกสมองซอมบี้ตัวก่อนหน้านี้ด้วยการลงมีดเพียงครั้งเดียว ดังนั้นเขาย่อมสามารถแยกสมองของซอมบี้ตัวนี้ได้
นอกเสียจากกล้ามเนื้อของมันจะแข็งราวกับกระดูก จนแม้กระทั่งถูกกำปั้นของไมค์ ไทสันชกก็ไม่สะเทือน
หรือเว้นเสียแต่มันจะมีภาวะกระดูกที่แข็งอย่างผิดปกติ
ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้
มีดเหล็กวาดโค้งลื่นไหลราวกับสายน้ำไหล สับเข้าไปที่หน้าผากของซอมบี้ตรงๆ และเป็นไปตามที่จินตนาการไว้ หัวของมันแยกออกเลือดสาดกระเซ็น
ซอมบี้ตัวใหญ่ล้มลงกับพื้นอย่างแรง ในเวลาเดียวกัน ซอมบี้อีกตัวที่อยู่ด้านหลังก็ปรากฏตัวขึ้นที่มุมทางเดิน
หลังจากฟาดฟันไปหลายครั้งด้วยพลังทั้งหมดที่มี ซูฉางซิงรู้สึกว่ามือชาและอ่อนแรง โดยไม่ลังเลเขากระโจนเข้าไปซ่อนตัวในห้องที่อยู่ถัดไปอย่างเด็ดเดี่ยว และปิดประตู
“โชคดีที่ซอมบี้พวกนี้ไม่มีสมอง และเข้ามาทีละตัว”
ซูฉางซิงนั่งลงบนโต๊ะไม้ที่มีรอยแตกร้าวและเต็มไปด้วยฝุ่น มองไปยังประตูไม้ที่ถูกซอมบี้ทุบอย่างรุนแรง
“ประตูนี้น่าจะอยู่ได้ไม่นาน ซอมบี้พวกนี้มีพลังมากกว่าที่คิด และพวกมันก็ไม่กลัวการได้รับบาดเจ็บ แต่ความแข็งแกร่งทางกายภาพของพวกมันควรมีขีดจำกัดใช่ไหม?”
จู่ๆ ซูฉางซิงก็เกิดคำถามขึ้นในใจ ถ้าซอมบี้พวกนี้นับเป็นสิ่งมีชีวิต การเอาตัวรอดและการกระทำของพวกมันก็ควรจะใช้พลังงานเช่นกัน
ดังนั้นด้วยวิธีนี้ ถ้าจำนวนมนุษย์ลดลงอย่างมาก ภายในระยะเวลาหนึ่งซอมบี้ก็จะลดลงอย่างมากเช่นกัน
พวกมันไม่มีสมอง ทำให้ไม่สามารถผลิตอาหาร แต่พวกมันจำเป็นต้องกิน พวกมันมีเพียงความต้องการฆ่าที่เป็นความปรารถนาดั้งเดิมที่สุด
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่ามีซอมบี้จำนวนมากอยู่ภายในเมืองนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝูงซอมบี้ที่เดินเตร่อยู่ตามถนน
ผ่านไป 5-6 นาทีก็ยังคงมีเสียงทุบประตูอย่างรุนแรงด้านนอกประตู และความถี่ของการทุบก็ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
ซอมบี้ด้านนอกเป็นเหมือนเครื่องจักรที่มีความแข็งแกร่งทางกายภาพไม่จำกัด
เมื่อฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ซูฉางซิงหายใจเข้าลึกๆ จับมีดเหล็กเปื้อนเลือดเดินไปที่ประตู แล้วเปิดประตูออกและฟันลงไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี
“อ๊ากก~”
ซอมบี้ส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด ด้วยแรงส่งจากการฟันของมีดเหล็ก ทำให้มันล้มลงกับพื้นอย่างแรง มีดเหล็กถูกดึงออกจากรอยร้าวบนหัวของซอมบี้ พร้อมกับเลือดเหนียวๆหลายเส้น
ซูฉางซิงหยิบเศษผ้าออกมาจากกระเป๋าเช็ดเลือดบนมีดเหล็ก เขาไม่ชอบให้มีเลือดกลิ่นเหม็นเน่าติดอยู่บนอาวุธ
เขาเป็นคนรักความสะอาด