ตอนที่แล้วบทที่ 4 หนึ่งมีดสังหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 6 ปล้นคะแนน

บทที่ 5 โลกแห่งความเป็นจริง


บทที่ 5 โลกแห่งความเป็นจริง

.

ซูฉางซิงไม่ได้นอนหลับลึกเกินไป แต่อยู่ในสภาวะงีบหลับ ในสถานะนี้ เขาสามารถรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆได้ แม้จะไม่ชัดเจนนักก็ตาม

นี่เป็นทักษะที่ซูฉางซิงฝึกฝนได้โดยไม่รู้ตัว ในเวลานั้นเขารู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะหลับนอน จึงมักจะหลับในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น

ในตอนที่ซูฉางซิงยังเด็กมาก พ่อแม่ของเขาหายตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยทิ้งไว้เพียงทรัพย์สินจำนวนไม่น้อย เขาจึงถูกรับเลี้่ยงโดยลูกพี่ลูกน้องที่ไม่คุ้นเคย

ตอนแรกครอบครัวก็ปฏิบัติต่อซูฉางซิงน้อยค่อนข้างดีเนื่องจากผลประโยชน์ด้านทรัพย์สิน ต่อมาไม่นานนัก เขาก็รู้สึกว่าครอบครัวมองเขาแปลกๆ และไม่ค่อยจะให้ความสนใจเขามากนัก

ซูฉางซิงฉลาดมากมาตั้งแต่เด็ก เขารู้ว่าไม่มีใครแปลกใจถ้าหากผู้ป่วยระยะสุดท้ายจะเสียชีวิต และเป็นธรรมดาที่ทรัพย์สินที่มีจะตกเข้ากระเป๋าของผู้รับเลี้ยง

……

ทันใดนั้น ซูฉางซิงก็ลืมตาตื่นขึ้นจากการนอน มีเสียงฝีเท้าเดินไปมาอยู่ตรงทางเดินนอกประตู

มันเป็นฝีเท้าที่เดินไปมาอย่างหนักหน่วง

นี่น่าจะเป็นซอมบี้ ดูเหมือนว่ามันน่าจะรับรู้ถึงการมีอยู่ของซูฉางซิง และกำลังมองหาที่อยู่ของเขา

ซูฉางซิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาอย่างเงียบๆ

4.50 น.

ยังไม่สว่าง

เขาเปิดฝาขวดดื่มน้ำอึกใหญ่ ความรู้สึกเย็นสดชื่นแผ่ซ่านไปทั่วลำคอ สมองค่อยๆ ตื่นขึ้น

ซูฉางซิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูจำนวนผู้รอดชีวิต

[จำนวนผู้รอดชีวิต: 9 พันล้านคน]

แน่นอนว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 500 ล้านคน แต่อัตราการเสียชีวิตไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน 500 ล้านคนแรกเสียชีวิตภายในไม่กี่ชั่วโมงแรก และอีก 500 ล้านคนต่อมาเสียชีวิตภายในชั่วข้ามคืน

ยกเว้นคนที่โชคดีแล้ว กลุ่มคนที่เสียชีวิตในช่วงแรกๆ ได้แก่ คนแก่ เด็ก คนพิการ และคนที่ไม่สามารถปรับตัวให้กับโลกโลกาวินาศนี้ได้ …

เดิมทีซูฉางซิงจัดอยู่ในกลุ่มคนประเภทนี้ แต่เขารอดชีวิตมาได้

ตอนนี้ยังไม่สว่าง ซอมบี้อาจยังอยู่ในสภาพที่มีความเร็วเพิ่มขึ้นอยู่ เพื่อความปลอดภัย ซูฉางซิงตัดสินใจจะรอจนกว่าดวงอาทิตย์ขึ้นเต็มที่ก่อนจะออกไป

ซูฉางซิงเปิดฟอรั่ม และโพสต์ยอดนิยมก็ดึงดูดความสนใจของเขา

สายลมรุ่งอรุณคืนข้างแรม: เมื่อคืนฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นร้านลึกลับเปิดไฟสว่างอยู่ชั้นล่าง ฉันสาบานว่าไม่เคยเห็นร้านนี้มาก่อน แล้วมันก็หายไปในตอนเช้า

ตอบกลับ 1: เจ้าของโพสต์ป่วยเป็นโรควิตกจริตหรือเปล่า จะมีร้านค้าที่เปิดไฟสว่างได้ยังไง? ตอนกลางคืนที่นี่ฉันไม่เห็นแสงไฟอะไรแม้แต่น้อย

ตอบกลับ 2: น่ากลัวจัง น่าจะเจอผีหรืออะไรซักอย่างนะ

ตอบกลับ 3: ต่อให้มันเป็นเรื่องจริง ฉันก็ไม่แปลกใจเลย เพราะมันไม่มีเหตุผลที่เราถูกจับมาวางไว้ที่นี่

ตอบกลับ 4: อันที่จริง ดูเหมือนฉันก็เห็นเหมือนกันนะ ไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่เดียวกับเจ้าของโพสต์หรือเปล่า ตอนแรกนึกว่าเห็นภาพหลอนซะอีก

ตอบกลับ 5: บังเอิญเห็นเหมือนกัน

……

จากการตอบกลับโพสต์ ซูฉางซิงเรียนรู้ว่าหลายคนเห็นร้านลึกลับที่ไม่เข้าสภาพแวดล้อมโดยรอบ และสามารถตัดออกไปได้ว่าพวกเขาอยู่ในที่เดียวกันและเห็นร้านเดียวกัน

แสดงว่าสิ่งนี้ไม่ใช่กรณีพิเศษ แต่เป็นสถานการณ์ทั่วไป

หรือว่าจะเป็นเหมือนร้านค้าคะแนนส่วนลด หรือว่ามันคือร้านค้าคะแนน? ในเมื่อมีร้านค้าคะแนนส่วนลด การที่จะมีร้านค้าคะแนนปกติ มันก็สมเหตุสมผลมาก

จนถึงตอนนี้ซูฉางซิงยังไม่ได้ยินว่าใครในฟอรั่มเคยเข้าไปในร้านค้าเลย แต่เขาแน่ใจว่ามีคนเคยเข้าไปแล้ว เพียงแต่พวกเขาไม่ได้พูดออกมาเท่านั้น

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาของซูฉางซิง ไม่มีใครรู้รายละเอียดจนกว่าจะเห็นด้วยตัวเองเท่านั้น

นอกประตูยังมีเสียงฝีเท้าเดินไปมาดังก้องอยู่

เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น เมืองที่ทรุดโทรมก็ค่อยๆสว่างขึ้น แสงริบหรี่ส่องผ่านรอยแยกของประตูบานเล็ก

ซอมบี้ชายในชุดเสื้อแจ็คเก็ตสีแดงขาดรุ่งริ่งเดินไปมาอยู่ตรงทางเดินเหมือนกำลังตามหาอะไรบางอย่าง

“เคร้ง~”

ประตูที่อยู่ด้านหลังของซอมบี้ถูกเปิดออกอย่างแรง

ซูฉางซิงปรากฏตัวขึ้นด้านหลังซอมบี้พร้อมกับมีดเหล็กในมือ ก่อนที่ซอมบี้จะทันได้หันกลับมา มีดเหล็กก็ถูกจ้วงแทงลงไป

เลือดกระเซ็น มีดเหล็กจมลึกเข้าไปในกะโหลก ซอมบี้ถูกซูฉางซิงสังหาร

[ฆ่าซอมบี้ รับ 10 คะแนน]

“เป็นความแข็งแกร่งที่ทรงพลังจริงๆ”

ซูฉางซิงฆ่าซอมบี้ตัวนี้ได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก พลังของความแข็งแกร่ง 4 เกินกว่าที่เขาจินตนาการ มันเทียบได้กับนักกีฬาที่มีพละกำลังที่สุดบางคน

สิ่งที่เขาขาดในตอนนี้ก็คือทักษะการต่อสู้ อย่างไรก็ตามการจัดการซอมบี้เหล่านี้สามารถใช้วิธีที่ตรงไปตรงมาได้ แค่การจ้วงแทงธรรมดาๆก็เพียงพอแล้ว

หลังจากนั้น ซูฉางซิงก็เริ่มต้นการค้นหาเสบียงบนชั้นนี้ และดูว่ายังมีอะไรที่เป็นประโยชน์อยู่บ้าง แม้ว่าเขาจะไม่ใช้มัน แต่ก็สามารถนำไปขายแลกเปลี่ยนกับคะแนนได้

ทุกห้องรก ลิ้นชักตู้และโต๊ะถูกเปิดออก ดูเหมือนว่าจะเคยถูกใครบางคนค้นมาก่อน

ภายในลิ้นชักที่ถูกเปิดออก บนแก้วที่มีฝุ่นจับมีตัวการ์ตูนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

เมื่อลองค้นหาในลิ้นชักที่ถูกเปิดออกดูอีกครั้ง ก็พบสมุดบันทึก ที่ดูเหมือนจะเป็นรายงานบันทึกการปฏิบัติงาน ซึ่งกระดาษเป็นสีเหลืองแล้วอยู่ หลายร้อยหน้ากระดาษอัดแน่นไปด้วยรายงานที่เขียนด้วยลายมือ

……

หลังจากค้นมาได้สองห้อง ซูฉางซิงก็ยังไม่พบอะไรที่เป็นประโยชน์ แต่เขาก็ยังคงเดินไปยังห้องถัดไป และค้นหาไปทีละห้องพยายามหาสิ่งที่เป็นประโยชน์

ที่มุมใต้โต๊ะตัวหนึ่ง ซูฉางซิงพบโทรศัพท์มือถือที่ไม่เสียหายเครื่องหนึ่ง มันไม่มีไฟแล้ว แต่ยี่ห้อของโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

นอกจากนี้ยังพบไดอารีส่วนตัวอยู่ในตู้เก็บเอกสารที่ยังปิดอยู่เล่มหนึ่งด้วย

4 เมษายน

ประสิทธิภาพของบริษัทแย่ลงเรื่อยๆ สงสัยว่าจะเจ๊ง ฮิฮิ ทำไมถึงดีใจ มันต้องเศร้าสิ ถ้าบริษัทล้มละลาย ฉันจะกลายเป็นคนเร่ร่อนไม่มีงานทำไม่ใช่เหรอ?

12 เมษายน

เจ้านายได้มอบยาเม็ดที่ไม่มีใครรู้จักให้ บอกว่ามันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และทำให้ทำงานได้ยาวนานขึ้น

ฉันจะไปกินของแปลกๆแบบนี้ได้อย่างไร

15 เมษายน

เพื่อนร่วมงานรอบตัวที่กินยาลงไป กลายเป็นเหมือนหุ่นยนต์ และเริ่มทำงานล่วงเวลา นี่เป็นจุดเริ่มต้นของ ‘007’ ใช่ไหม?

น่าขันจริงๆ ฉันพนันได้เลยว่าโลกกำลังจะถึงจุดจบ

16 เมษายน

ฉันถูกไล่ออกเพราะไม่ยอมกินยา แต่ก็รู้สึกดีนะ อย่างน้อยก็ผ่อนคลาย บางทีการไม่ต้องทำงานและเป็นคนไร้บ้านก็เป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน

……

ไดอารี่จบลงตรงนี้ ไม่มีการระบุปี มีแต่วันที่กับเดือน ดูเหมือนว่าเจ้าของไดอารี่จะไม่ได้มีนิสัยชอบเขียนไดอารี่เลย เพียงแค่เขียนไปตามความรู้สึกเท่านั้น

ซูฉางซิงรู้สึกได้ว่าโลกนี้อยู่ในสภาวะตกต่ำอย่างมากก่อนวันโลกาวินาศจะมาถึง พนักงานบริษัทต้องเสพยาในการทำงานเพื่อให้บริษัทก้าวทันกระแสสังคม

และในสังคมก็มีคนไร้บ้านอยู่เป็นจำนวนมาก

นี่เป็นโลกวันโลกาวินาศ หรือว่าวันโลกาวินาศเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว

ในโลกที่จากมาก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นเช่นนี้เหมือนกัน ซูฉางซิงตัดสินได้จากรายละเอียดต่างๆ

นอกจากนี้เขายังโชคดีที่พบบิสกิตช็อกโกแลตที่น่าจะหมดอายุแล้วสองถุง

อายุการเก็บรักษา: 2 ปี

วันหมดอายุ: 3 มีนาคม 2980

เพราะไม่รู้วันเวลาปัจจุบันของโลกนี้ เขาจึงไม่สามารถตัดสินได้ว่าบิสกิตสองถุงนี้หมดอายุแล้วหรือยัง

เขาไม่กล้ากินบิสกิตช็อกโกแลตสองถุงนี้ หากกินลงไปแล้วเกิดท้องเสียขึ้นมา ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้มันจะอันตรายมาก และเขาก็มีร้านค้าคะแนนส่วนลด ภายในระยะเวลาอันสั้น เขาไม่ควรจะขาดแคลนอาหาร

ดังนั้นซูฉางซิงจึงโพสต์ขาย ‘ของที่ระลึก’ สองถุงนี้เพื่อแลกกับคะแนนในฟอรั่ม

เด็กโชคดี: บิสกิตช็อกโกแลต 2 ถุง ถุงละ 50 คะแนน มาก่อนได้ก่อน

[รูปภาพ]

ในช่วงเวลานี้ทุกคนขาดแคลนอาหาร โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครเอาอาหารออกมาขาย ไม่ต้องพูดถึงการนำอาหารมาแลกกับคะแนนที่ยังไม่มีประโยชน์ชั่วคราวนี้

ทันทีที่โพสต์ออกไปก็ได้รับการตอบกลับมากมาย

ทะเลดาว: สุดยอดเลยเถ้าแก่ น่าแปลกใจมากที่มีอาหารมาขาย แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ฉันมีเพียง 20 คะแนนเท่านั้น

ทำอะไรไม่ได้เลย: โปรดแลกเปลี่ยน ฉันมี 100 คะแนน

คนฉลาด: คะแนนมากมายแบบนี้คุณได้มาจากไหน ฉันมีแค่ 10 คะแนนเท่านั้น

มันเทศหัวใหญ่ 24 กก.: เตือนความจำอย่างเป็นมิตร ฆ่าซอมบี้ได้ตัวละ 10 คะแนน

……

ซูฉางซิงทำการแลกเปลี่ยนบิสกิตช็อกโกแลตสองถุงกับคะแนน 100 คะแนนของทำอะไรไม่ได้เลย

ทำอะไรไม่ได้เลยขอบคุณอย่างกระตือรือร้นสำหรับความเอื้อเฟื้อและความเมตตาของซูฉางซิง ราวกับสวรรค์มาโปรด จนทำให้ซูฉางซิงรู้สึกอายเล็กน้อย เพราะเขารู้ตัวว่าตนเองเอาเปรียบผู้อื่นจริงๆ

ซูฉางซิงลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเตือนว่า: บิสกิตสองถุงนี้มีโอกาสมากที่จะหมดอายุมานานแล้ว ดังนั้นจึงมีโอกาสมากที่จะกินแล้วท้องเสีย ระวังตัวด้วยนะสหาย

ทำอะไรไม่ได้เลย: ขอบคุณที่เตือน แต่จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย ท้องเสียยังดีกว่าอดตาย

หลังจากเสร็จสิ้นการค้นหา ซูฉางซิงก็พร้อมจะออกไปจากที่นี่ แม้ว่าในชั่วระยะเวลาสั้นๆ ที่นี่จะปลอดภัยก็ตาม แต่มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาวอย่างแน่นอน

เนื่องจากไม่มีกระเป๋าเป้ ซูฉางซิงจึงดื่มน้ำที่เหลือในขวดภายในอึกเดียว จนรู้สึกว่าท้องพองขึ้นเล็กน้อย และรู้สึกจุกเหมือนกินอาหารจนอิ่มแล้วไม่ได้เดินย่อยอาหารอะไรแบบนั้น

ซูฉางซิงถือมีดเหล็กเดินไปตามทางเดิน เขากำลังจะเคลียร์ไปทีละชั้นอย่างมั่นใจ ตราบเท่าที่มีซอมบี้ไม่เกินสองตัวในเวลาเดียวกัน ก็จะไม่มีปัญหาใหญ่

ในขณะที่กำลังเข้าใกล้ชั้นถัดไป ซูฉางซิงก็ได้ยินเสียงคำรามโดยไม่รู้ตัวของซอมบี้แล้ว มันเป็นเสียงต่ำๆที่แหบแห้งราวกับเจ็บปวดอย่างมาก

ตามที่คาด ชั้นนี้ก็มีซอมบี้อยู่

  

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด