บทที่ 5 จักรพรรดิมังกรแห่งจักรราศีและการอัญเชิญแบบสุ่มทั้งหกครั้ง
เวลาผ่านไป 6 ปี
ฝูซู เติบโตจากทารกเป็นเด็กน้อย
ในช่วง6ปีที่ผ่านมา มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นกับฝูซู เขาได้ทำภารกิจที่ระบบมอบให้มาสำเร็จ และได้รับคะแนนการอัญเชิญ
ซึ่งฝูซูได้สะสมมาเรื่อยๆจนกว่าคะแนนการอัญเชิญ จะเพียงพอต่อการอัญเชิญการ์ดระดับเพชรและเรียกตัวละครที่มีชื่อในประวัติศาสตร์ออกมา
ในสวนของพระราชวังเสียนหยาง
มีเด็กอายุราวๆ 6ขวบกำลังถือดาบไม้ยาวอยู่ในมือ กำลังเหวี่ยงไปมาอย่างต่อเนื่อง
ข้างๆเด็กน้อยมีบุคคลสองคนอยู่ คนหนึ่งสวมเกราะเอามือไพล่หลัง มีง้ววสั้นคู่ห้อยลงมาจากเอวใบหน้ามีหนวดเครา ดูเคร่งขึม
ส่วนอีกคนดูเป็นบัณฑิตสวมผ้าสไบ เสื้อคลุมสีเขียวและมีมงกุฏสีม่วงทองอยู่บนศึรษะของเขา ที่เอวของเขามีดาบสำริดโบราณเสียบอยู่ในฝัก
เมื่อใครมองก็รู้สึกว่าบันฑิตผู้นี้ เป็นมากกว่าผู้ใฝ่รู้
สองคนนี้คือ เตียนอุย องครักษ์มือหนึ่งและชีซี เสนาธิการแห่งวุยก๊ก ที่ถูกอัญเชิญมาโดยฝูซู
ด้านหลังทั้งสองคน มีศาลาซึ่งมีรูปทรงเป็นรูปหกเหลี่ยมล้อมรอบด้วยพุ่มไม้และดอกไม้ที่บานสะพรั่ง
และในศาลามีหญิงงามรูปหนึ่งนั่งอยู่ ข้างหลังเธอมีนางสนมสองคนยืนอยู่ข้างๆ เบื้องหน้าของหญิงงามมีโต๊ะหินซึ่งเต็มไปด้วยชุดน้ำชาและผลไม้
ในเวลานี้ หญิงงามกำลังมองดูเด็กน้อยในสวนอย่างอ่อนโยนด้วยใบหน้าที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข
และหญิงงามผู้นี้ก็คือ ผู้เป็นพระมารดาและผู้ให้กำเนิดของฝูซู —พระมเหสีเจิ้ง
ฝูซูหลับตาลง ดาบไม้ยาวในมือกำลังปล่อยปราณรูปร่างคล้ายมังกรจะพุ่งทะยานออกมา
แต่ในเวลานี้ฝูซูยังเด็กเกินไป ถือจะถือดาบจริงได้ ดังนั้นเขาจึงต้องฝึกด้วยดาบไม้ไปก่อน
“ซูเอ๋อ มาพักก่อนไหมจ้ะ” หญิงงามกล่าวอย่างอ่อนโยน เมื่อเห็นเด็กน้อยกำลังมีเหงื่อเม็ดเล็กๆผุดบนหน้าผาก
“ท่านแม่ ข้ายังสบายดีอยู่ขอรับ” ฝูซูปาดเหงื่อบนหน้าผากออก และส่งยิ้มให่
วันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว หกปีเหมือนกระพริบตา
ซึ่งตอนนี้ฝูซูจะอายุ 6ขวบแล้ว เขายังคงกังวลทุกครั้งที่คิดถึงชะตากรรมที่เขาต้องเจอในอนาคต
แม้ในช่วงหกปีที่ผ่านมา ฝูซูตั้งแต่ใจทำตัวให้มันเป็นที่โดดเด่นในสายตาผู้คน
แต่เขาก็ไม่คิดว่า ตัวเขากลับโดดเด่นในสายตาผู้คนและถูกเรียกว่า“องค์ชายอัจฉริยะ” สิ่งนี้ทำให้เขาเข้าใจสำนวน ที่ว่ามังกร อยู่ที่ไหนก็เป็นมังกรอยู่วันยันค่ำ
ในช่วง 6ปีที่ผ่านมา ฝูซู ได้มีน้องชายต่างแม่มีนามว่า หูไห่
ใช่แล้วเด็กคนนี้แหละที่ในอนาคตจะมาฆ่าเขาและแย่งตำแหน่งจักรพรรดิองค์ต่อไปจากเขา
ดังนั้นฝูซูจึงรู้สึกเป็นศัตรูและไม่สนใจที่ยุ่งเกี่ยวกับน้องชายของเขา
ในพระราชวังนอกจากมารดาของเขา พระมเหสีเจิ้งแล้ว ฝูซู ยังได้พบกับอีกคนหนึ่ง
นั้นคือ จ้าวจี ผู้มีศักดิ์เป็นพระมารดาผู้ให้กำเนิดฉินหวังเจิ้งและเป็นย่าของฝูซู
และเป็นเพราะ ฝูซูเป็นหลานชายคนโต จ้าวจีจึงเอ็นดูและรักใคร่ฝูซูมาก
เธอมักจะแวะมาหา อุ้มฝูซูเข้าไปในวังของเธอและมอบขนมแสนอร่อยให้แก่เขาเสมอ
สำหรับฉินหวังเจิ้ง ฝูซูไม่ค่อยได้พบกับเขามากนัก
เนื่องจากฉินหวังเจิ้งยุ่งอยู่กับการปกครองบ้านเมือง เขาต้องจัดการอนุสรณ์สถานจำนวนมากทุกวัน และเขาทำงานเอกสารต่อจนดึก
ฉินหวังเจิ้ง มีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่คือเขาต้องการที่จะรวมทุกรัฐและแคว้นเป็นปึกแผ่นและกลายเป็นกษัตริย์องค์เดียวในทวีปนี้ ดังนั้นเขาจึงทุ่มเทเวลาและจิตวิญญาณของเขากับสิ่งนี้
ในช่วงหกปีนั้น ฝูซู ได้โอกาสหกครั้งในการอัญเชิญแบบสุ่ม
ฝูซูก็ใช้โอกาสเหล่านี้และใช้เพื่อการพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น
ฝูซูยังจำสุ่มครั้งแรกได้ เขาได้รับวรยุทร์ที่ทรงพลังและแข็งแกร่งมาก —จักรพรรดิมังกรแห่งจักรราศี นอกจากจะเป็นวรยุทธ์ที่ทรงพลังอย่างมาก โดยไม่มีขีดจำกัด เมื่อบรรลุขั้นสูงสุด มีคำกล่าวว่า ผู้ใช้จะกลายเป็นจักรพรรดิของโลก
วรยุทธ์จักรพรรดิมังกรแห่งจักรราศี เป็นวรยุทธ์ที่มีราชวงศ์เท่านั้นที่สามารถฝึกฝนได้ โดยมันจะดูดซับวิญญาณของจักรพรรดิ ทำให้ผู้ใช้แข็งแกร่งขึ้น
ฝูซู เป็นบุตรชายของฉินหวังเจิ้ง จึงมีคุณสมบัติพอในการเรียนรู้วรยุทธ์นี้
ดังนั้นหลังจากการอัญเชิญแบบสุ่มครั้งแรก ฝูซูเริ่มฝึกฝนวรยุทธ์จักรพรรดิมังกรแห่งราศีทั้งกลางวันและกลางคืน
ในการอัญเชิญแบบสุ่มครั้งที่สอง เขาไม่ได้รับศิลปะการต่อสู้ที่เขาหวังไว้ แต่เขาได้สำเนาทักษะการแพทย์ชุดหนึ่ง มันคือ “ตำราแพทย์เล่มแรกของโลก หวงตี้เน่ยจิ้ง” ที่เหล่าแพทย์ใฝ่ฝัน
เมื่อเขาเห็นตำรานี้ ดวงตาของฝูซูเบิกกว้าง เมื่อนึกถึงการจะมีชีวิตรอดในโลกนี้ของเขา เขาจะต้องฝ่าฝันอุปสรรคมากมาย
แม้ตอนนี้เขาจะมีวรยุทจักรพรรดิมังกรแห่งจักรราศีที่ทรงพลัง แต่ก็เป็นวรยุทธ์ที่ยากและใช้ความเข้าใจในการจะบรรลุขั้นสูงสุด
ฝูซูจึงต้องการศิลปะการต่อสู้มาช่วยเสริมความแข็งแกร่งของเขา ณ ตอนนี้เขาเน้นไปที่การฝึกวรยุทธ์จักรพรรดิมังกรแห่งจักรราศี
แต่เมื่อเขาใช้วรยุกทธ์รวมกับปราณในตัวของเขา จะทำให้เขาสามารถเข้าถึงพลังงานที่แท้จริงของโลกมากขึ้นและสามารถควบคุมแก่นแท้ปราณได้อย่างสมบูรณ์
ในการอัญเชิญสุ่มครั้งที่สาม ฝูซุ โชคดีมาก ศิลปะการต่อสู้ที่เขาใฝ่ฝัน มันคือ วิชาหมัดห้าจักรพรรดิ วิชาดาบสามจักรพรรดิ และวิชาง้าวทำลายปฐพี
ตอนนี้เขาได้ศิลปะการต่อสู้ที่เขาหวังมาช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาแล้ว
ในการอัญเชิญสุ่มครั้งที่สี่ รู้สึกสุขและทุกข์มากในเวลาเดียวกัน เขาได้รับแพคเกจเริ่มต้นที่เขาได้รับในตอนแรก
ดังนั้นในปีถัดมา ฝูซูทุ่มเทไปกับการบ่มเพาะพลังของเขา
ในการอัญเชิญสุ่มครั้งที่ห้า เราได้อาวุธประจำกายง้ววคู่กระหายเลือดของเตียนอุย ฝูซูจึงส่งมอบให้เตียนอุยโดยไม่ลังเลเลย
และในการอัญเชิญแบบสุ่มครั้งที่หก ฝูซูได้ตำรา 36กลยุทธ์ แต่ฝูซูรู้สึกว่าเขาคงยังไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ใช้มันหรือไม่
“ซูเอ๋อ มาพักดื่มชาก่อนเถอะ” พระมเหสีเจิ้งมองลูกชายด้วยรอยยิ้มและเทน้ำชาใส่แก้วบนโต๊ะหิน แล้วยื่นให้ฝูซู
“ขอบคุณขอรับ” ฝูซูรับแก้วและดื่มชาในถ้วย
“ค่อยๆดื่มนะจ้ะ” พระมเหสีเจิ้งพูดและหยิบผ้าเช็ดหน้าที่เธอพกติดตัวเสมอออกมา และเช็กมุมปากของเธออย่างลวกๆ
“ช่วงนี้ย่าของลูก บ่นคิดถึงอยากเจอลูกมาสองวันแล้ว หลังจากลูกฝึกเสร็จอย่าลืมแวะไปเยี่ยมท่านย่าเขาด้วยละ” พระมเหสีเจิ้งตรัสกับฝูซู
“ขอรับท่านแม่” ฝูซูพยักหน้า