บทที่ 25 พูดถึงเรื่องความรัก
วันนี้เขาประสบกับหลายสิ่งหลายอย่างมากเกินไป และอุณหภูมิของน้ำในอ่างไม้ก็พอเหมาะพอเจาะเหลือเกิน มันทำให้หลี่หรานเผลอตัว
และผลลัพธ์คือเขาเผลอหลุดปากออกไปจริงๆ!
“ท่านบอกว่าท่านไปเดทกับผู้นำนิกาย?” ใบหน้าของอาฉินเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามอย่างไม่รู้จบ ขณะที่นางสงสัยว่าตัวนางได้ยินผิดไป
“อา นี่...” ดวงตาของหลี่หรานล่อกแล่กไปมา “ข้าหมายความว่าผู้นำนิกายเรียกข้าไปเข้าพบหรือเรียกสั้นๆว่าเดท มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด”
เขาเช็ดเหงื่อเย็นที่ไหลออกมา
คำอธิบายนี้ห่างไกลจากความเป็นจริงมากและคงไม่มีใครเชื่อ
อย่างไรก็ตาม อาฉินกลับเชื่อเขาและจู่ๆนางก็พูดขึ้นว่า “มันเป็นเช่นนั้นเอง! ท่านเซิงจื่อทำให้ข้ากลัวจริงๆ ข้าคิดว่ามันเป็นการออกเดทระหว่างบุรุษและสตรีเสียอีก”
“......”
หลี่หรานตอบอย่างเก้ๆกังๆ “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง...”
“ท่านผู้นำนิกายรักษาระยะห่างจากบุรุษมาหลายร้อยปีแล้ว และห้ามไม่ให้ศิษย์ของนางมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกัน นางจะไปเดทกับลูกศิษย์ได้อย่างไร? อย่างที่คาดไว้ ข้าคิดมากไปเอง” อาฉินแตะศีรษะของนาง
นางไม่เพียงเชื่อเขา แต่นางยังช่วยเขาหาข้อแก้ตัวอีกด้วย
มุมปากของหลี่หรานกระตุก “ใช่แล้ว... ฮ่าฮ่า...”
นอกจากอาฉินแล้ว คงไม่มีใครเชื่อเหตุผลไร้สาระเช่นนี้...
หลี่หรานรู้ว่าแม้เขาจะบอกนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางก็จะไม่แพร่งพรายออกไป
แต่เขายังต้องเก็บไว้เป็นความลับ เพราะนี่เป็นข้อตกลงระหว่างเขากับเหลิงอู่เหยียน
“ข้าต้องระวังให้มากขึ้นในอนาคต ถ้าคนอื่นได้ยินเข้ามันคงไม่ง่ายที่จะอธิบาย”
—
ยอดเขาปีศาจ
ผู้ดูแลหวางหายใจเข้าลึกๆเมื่อมาถึงหน้าห้องพักผ่อนของผู้นำนิกาย
“แปลกมาก ทำไมท่านผู้นำนิกายจึงเรียกข้ามากลางดึก? ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดเมื่อเร็วๆนี้ใช่ไหม?” นางเดินไปที่ประตูและเปิดออกด้วยความประหม่า
แอ๊ด...
ประตูถูกเปิดออก เผยให้เห็นช่องว่าง
ผู้ดูแลหวางหายใจเข้าลึกๆแล้วผลักประตูเบาๆ เหลิงอู่เหยียนกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ มือขวาของนางประคองคางเอาไว้ ดวงตาของนางเหม่อลอยราวกับตกอยู่ในความงุนงง
เรือนผมที่ห้อยลงมาจากหูของนางปิดกั้นรูปร่างที่สวยงามและบอบบางของนางไว้
ผู้ดูแลหวางอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
‘ท่านผู้นำนิกายช่างงดงามจริงๆ!’
“น่าเสียดายที่ความงามอันไร้ที่เปรียบนี้ไม่สนใจบุรุษ...” ผู้ดูแลหวางถอนหายใจอยู่ภายใน
“ข้าน้อยคนนี้มาหาท่านผู้นำนิกายแล้ว ข้าขอถามเหตุผลที่ท่านผู้นำนิกายเรียกข้าตอนดึกได้หรือไม่เจ้าคะ?” นางพูดด้วยความเคารพ
เหลิงอู่เหยียนกลับมามีสติอีกครั้งและพูดว่า “เมื่อเร็วๆนี้ข้าประสบกับปัญหาคอขวดในการบ่มเพาะ ข้าคิดว่าเป็นเพราะข้าไม่เข้าใจเรื่องทางโลกมากพอ เพื่อที่จะปรับปรุงความเข้าใจในเต๋าของข้า มีคำถามเล็กๆน้อยๆสองสามข้อที่ข้าอยากจะถามเจ้า ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถตอบพวกมันอย่างตรงไปตรงมาได้”
ผู้ดูแลหวางรีบพูดว่า “ถ้าเป็นเรื่องการบ่มเพาะของท่านผู้นำนิกาย ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยท่าน!”
“ดีมาก” เหลิงอู่เหยียนพยักหน้า “เจ้าจำสิ่งที่ข้าถามครั้งล่าสุดได้หรือไม่?”
ผู้ดูแลหวางคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เรื่องความรักใช่หรือไม่เจ้าคะ?”
“แค่ก แค่ก ไม่ มันเกี่ยวกับมุมมองในโลกปุถุชน!” เหลิงอู่เหยียนแก้ไขคำพูด
“ครั้งที่แล้วเจ้าพูดว่าออกเดท ฟังดนตรี กินตุ๊กตาลูกกวาด... แล้วนอกจากนั้นล่ะ? คนสองคนที่มีความสัมพันธ์กันจะทำอะไรได้อีก?”
“นอนด้วยกันเจ้าค่ะ” ผู้ดูแลหวางให้คำตอบตามมาตรฐาน
เหลิงอู่เหยียนจ้องมองนาง “ข้าไม่ได้พูดถึงความสัมพันธ์ทางกามารมณ์ มันเกี่ยวกับวิธีที่จะเพิ่มพูนอารมณ์ความรู้สึกระหว่างคนทั้งสองให้สามารถก้าวหน้าและยกระดับความสัมพันธ์ต่อไปได้”
“ก็ยังเป็นการนอนด้วยกันเจ้าค่ะ” ผู้ดูแลหวางตอบอย่างมั่นใจ “การโต้ตอบแบบนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มพูนความรู้สึกของคนทั้งสอง”
“......”
“มีอะไรนอกเหนือจากนี้อีกหรือไม่?” เหลิงอู่เหยียนกำลังจะระเบิดอารมณ์ออกมา
ผู้ดูแลหวางคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ท่านผู้นำนิกายหมายถึงว่าพวกเขาเดทกันแล้วและความสัมพันธ์ก็แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่พวกเขายังไม่ถึงขั้นหลับนอนด้วยกันใช่หรือไม่?”
“นั่นคือสิ่งที่ข้าหมายถึง” เหลิงอู่เหยียนพยักหน้า
“พวกเขาควรเริ่มต้นด้วยการจับมือกัน” ผู้ดูแลหวางตอบ
“จับมือ?”
“เจ้าค่ะ สถานการณ์นี้หมายความว่าพวกเขาควรจะมีการสัมผัสกันได้แล้ว เริ่มด้วยการจับมือ กอด จากนั้นก็จูบ มันแสดงให้เห็นถึงความรักในแต่ละขั้นตอน”
เหลิงอู่เหยียนหน้าแดง
นางกับหลี่หรานกินตุ๊กตาลูกกวาดตัวเดียวกัน นั่นนับเป็นการจูบทางอ้อม...?
“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าไปพักผ่อนเถอะ”
“ทราบแล้วเจ้าค่ะท่านผู้นำนิกาย ข้าหวังว่าท่านจะสามารถทำลายคอขวดได้โดยเร็ว” ผู้ดูแลหวางถอยกลับ
นางเดินออกจากห้องนอนและเกาศีรษะด้วยความสับสน
เมื่อเร็วๆนี้นางรู้สึกว่าผู้นำนิกายเริ่มแปลกมากขึ้นเรื่อยๆ ‘มันเป็นปัญหาเรื่องการบ่มเพาะจริงๆหรือ?’
“เป็นไปได้ไหมว่า...”
“ผู้นำนิกายกำลังตรวจสอบเรื่องความสัมพันธ์เพื่อระบุตัวศิษย์ที่มีส่วนร่วมในเรื่องรักๆใคร่ๆ?”
“มันต้องเป็นเช่นนั้นแน่ๆ!” ผู้ดูแลหวางสรุปออกมา
“เฮ้อ ดูเหมือนว่าข้าจะแอบมองเซิงจื่อไม่ได้แล้ว...” นางเดินลงจากภูเขาด้วยความอาการคอตก
ในความคิดของนาง เหลิงอู่เหยียนนั้นโดดเดี่ยวอย่างยิ่งในเรื่องของความสัมพันธ์ ดังนั้นนางจึงไม่ได้คิดไปในทิศทางนั้นเลยแม้แต่น้อย
—
ในห้อง เหลิงอู่เหยียนหยิบสมุดบันทึกออกมาและจดสิ่งที่ผู้ดูแลหวางพูดอย่างจริงจัง
ในหัวข้อเดียวกับ ‘ออกเดท ฟังดนตรี กินตุ๊กตาลูกกวาด’ นางยังคงเขียนเพิ่มว่า ‘จับมือ กอด จูบ’
‘เราควรเริ่มต้นด้วยการจับมือกันใช่ไหม?’
‘แต่ข้าควรทำอย่างไร?’
‘ถ้าข้าเป็นฝ่ายริเริ่ม มันจะดูโจ่งแจ้งเกินไป...’
ภายใต้แสงเทียนที่ส่องประกาย ใบหน้าสวยของนางแดงระเรื่อราวกับผลแอปเปิ้ล
//////////