บทที่ 21 ออกเดท ฟังดนตรี กินตุ๊กตาลูกกวาด
“ฆ่าเขา?” เหลิงอู่เหยียนส่ายหัวของนาง “ถ้าข้าอยากฆ่าเขาก็เพียงแค่ใช้ความคิด แล้วทำไมเจ้าต้องทำด้วย?”
หลี่หรานกล่าวว่า “นี่เป็นความรับผิดชอบของบุรุษ”
เหลิงอู่เหยียนยิ้ม “เอาล่ะ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”
“แค่นี้ยังไม่พอ มันต้องตาย” หลี่หรานตั้งใจจะฆ่านายน้อยหวังอย่างจริงจัง
เขาไม่เพียงดูถูกผู้นำนิกายของวิหารโหยวหลัวเท่านั้น แต่ยังดูถูกคนรักของเขาด้วย!
เหลิงอู่เหยียนยืนขึ้นและดึงเขากลับไปยังที่นั่ง นางพูดว่า “จริงๆแล้วเขาก็พูดถูก มีคนพูดลับหลังข้ามากมายทั่วโลก เจ้าสามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้จริงหรือ?”
หลี่หรานกัดฟันและพูดว่า “ถ้าเจอหนึ่งคนข้าก็จะฆ่าหนึ่งคน ถ้าเจอสองคนข้าจะฆ่าพวกมันทั้งคู่! มาดูกันว่าใครจะกล้าพูดเรื่องไร้สาระอีก!”
เหลิงอู่เหยียนตกตะลึง เมื่อมองไปที่ชายหนุ่มที่ดื้อรั้นตรงหน้านาง ร่องรอยของความอบอุ่นก็ฉายชัดอยู่ในดวงตาของนาง
“เมื่อเทียบกับระดับจักรพรรดิ พวกมันก็เป็นแค่มด เจ้าคิดว่าข้าสนใจในสิ่งที่มดคิดหรือไม่?”
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็เป็นมดเช่นกัน?” หลี่หรานเลิกคิ้วขึ้น
เหลิงอู่เหยียนหน้ามุ่ยและกลอกตาใส่เขา “นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าหมายถึง เจ้าเป็นคนรักของข้า!”
“ค่อยยังชั่วหน่อย” หลี่หรานเลิกคิ้วขึ้นและหายใจออก
ทั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้ม บรรยากาศค่อยๆสงบลง
หลี่หรานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อเขาได้ยินเสียงเอิกเกริกจากห้องข้างๆ “อึก... ข้าอยากจะฆ่ามันจริงๆ!”
“เอาหน่า วันนี้เป็นเดทแรกของเรา อย่าปล่อยให้คนอื่นทำลายมัน” เหลิงอู่เหยียนปลอบโยนเขา
เมื่อเห็นการแสดงออกที่สงบของนาง หัวใจของหลี่หรานก็สับสนเล็กน้อย
‘นางผ่านประสบการณ์อะไรมาบ้างในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา ทำให้นางไม่แยแสต่อคำวิจารณ์เช่นนี้?’
‘นางเป็นปีศาจ เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิ แต่ในขณะเดียวกันนางก็เป็นสตรี!’ เมื่อเขาคิดเช่นนี้ หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“ใครแก่และน่าเกลียดกัน? ไม่มีสตรีนางใดในโลกนี้ที่ดูดีไปกว่าท่านอาจารย์ของข้า!”
“เหตุผลที่ท่านอาจารย์อยู่ตัวคนเดียวมาหลายร้อยปีเป็นเพราะมนุษย์เหล่านั้นไม่สมควรที่จะยืนเคียงข้างท่าน!”
“พวกมันเป็นแค่คนงี่เง่า!” หลี่หรานขุ่นเคือง
เหลิงอู่เหยียนรู้สึกอายเล็กน้อย “ข้าไม่ได้ดีอย่างที่เจ้าพูด...”
“ไม่! ท่านอาจารย์เป็นสตรีที่น่ารักที่สุด งดงามที่สุด และอ่อนโยนที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเจอมา แม้แต่คำชมเชยที่ดีที่สุดก็ไม่สามารถอธิบายท่านได้” หลี่หรานปฏิญาณออกมา
แม้ว่านางจะเคยได้ยินคำพูดหวานๆของหลี่หรานมาหลายครั้ง แต่เหลิงอู่เหยียนก็ยังไม่สามารถต้านทานคำสารภาพที่โจ่งแจ้งเช่นนี้ได้
นางก้มศีรษะลงและฝังแก้มของนางไว้ในปกเสื้อคลุมขนสัตว์ นางพูดอย่างตะกุกตะกักว่า “ข้ารู้ ข้ารู้แล้ว ไม่ต้องพูดดังขนาดนั้นก็ได้”
ความหม่นหมองในใจนางจางหายไปอย่างเงียบๆ และดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยดาราพร่างพราว
‘ไม่ว่าโลกจะเป็นอย่างไร ตราบใดที่มีคนชอบเจ้าเช่นนี้ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว’
—
หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาก็ไม่มีอารมณ์จะฟังดนตรีอีกต่อไป
ทั้งสองเดินออกมาจากศาลาชมจันทร์และค่อยๆเดินไปตามทางของถนน
อากาศในคืนฤดูหนาวนั้นสดชื่นเป็นพิเศษ พื้นรองเท้าของพวกเขาส่งเสียงดังกรอบแกรบเล็กน้อยในทุกย่างก้าวที่เดินบนพื้นหิมะ
โคมไฟข้างถนนและเสียงโห่ร้องของพ่อค้าแม่ขายที่เข้ากับไอร้อน มีความสามารถที่จะทำให้จิตใจและวิญญาณสงบลงได้
ความวุ่นวายในโลกมนุษย์เป็นสิ่งปลอบประโลมที่ดีที่สุด ในขณะนั้นเอง หลี่หรานเห็นแผงขายของและดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น
“ท่านอาจารย์ เดี๋ยวข้ามา” หลังจากพูดเช่นนั้นเขาก็วิ่งเหยาะๆออกไป
“ฮะ?” เหลิงอู่เหยียนสับสนอยู่กับที่
หลังจากนั้นไม่นาน หลี่หรานก็กลับมาพร้อมกับตุ๊กตาลูกกวาดสีเหลืองอำพัน
(หมายเหตุ ‘ตุ๊กตาลูกกวาด’ คล้าย ‘มนุษย์ขนมปังขิง’ แต่ทำจากขนม)
“นี่ของท่าน!”
เหลิงอู่เหยียนเอื้อมมือออกไปและรับมัน
มันเป็นตุ๊กตาลูกกวาดรูปนางฟ้า แม้ว่าใบหน้าของมันจะไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่ชุดของมันกลับปลิวไสวในอากาศและให้เสน่ห์ที่โรแมนติก
หลี่หรานยิ้มและพูดว่า “ตอนที่ข้ายังเด็ก ข้าจะกินตุ๊กตาลูกกวาดทุกครั้งที่ออกไปเล่น ข้ามักจะเลือกกินวีรชน ข้าคิดว่าถ้าข้ากินมัน ข้าก็จะได้เป็นวีรชนเช่นกัน”
ฮิฮิ~
เหลิงอู่เหยียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “งั้นถ้ากินสิ่งนี้ข้าจะได้เป็นนางฟ้าหรือไม่?”
“ท่านเป็นนางฟ้าอยู่แล้ว”
“เจ้านี่ปากหวานจริงๆ”
“ฮี่ฮี่”
เหลิงอู่เหยียนเปิดริมฝีปากสีเชอร์รี่ของนางและกัดมัน
“มันอร่อยหรือเปล่า?” หลี่หรานถาม
เมื่อเห็นท่าทางที่อยากรู้อยากเห็นของเขา เหลิงอู่เหยียนก็มองไปและพูดว่า “เจ้าจะรู้ถ้าเจ้าลองชิมมัน”
หลี่หรานมองไปที่รอยประทับริมฝีปากสีแดงสดนั้นและตื่นตระหนก
“อา!” จากนั้นเหลิงอู่เหยียนก็รู้สึกตัวและพยายามรีบขยับลูกกวาดให้พ้นตัวหลี่หราน
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของหลี่หรานนั้นเร็วมาก เขากัดไปคำใหญ่ก่อนที่นางจะเอามันกลับไป
เขากัดส่วนที่เปื้อนสีแดงแล้วพูดอย่างมีเลศนัยว่า “หวานสุดๆ!”
เหลิงอู่เหยียนหันศีรษะของนางออก ขณะที่ใบหน้าของนางแดงก่ำ “มันคือตุ๊กตาลูกกวาด ถ้าไม่หวานสิถึงจะแปลก”
“มันต่างกัน ครั้งนี้ไม่เพียงแค่หวานเท่านั้น แต่ยังมีกลิ่นหอมของเครื่องประทินโฉมอีกด้วย” หลี่หรานยิ้มอย่างชั่วร้าย
“หน้าไม่อายจริงๆ! ข้าไม่คุยกับเจ้าแล้ว!” เหลิงอู่เหยียนกระทืบเท้าด้วยความเขินอายและเดินไปข้างหน้า
หลี่หรานรีบตามไป “ท่านอาจารย์ ขอข้าอีกคำหนึ่ง”
“ไม่ นี่เป็นของข้า!”
“แค่คำเดียวเอง”
“ไม่! เจ้ากัดส่วนหัวของนางฟ้าไปแล้ว!”
—
ดวงจันทร์ที่สว่างไสวสะท้อนภาพของคนทั้งสอง ร่างของพวกเขาบนหิมะค่อยๆยาวขึ้นและยาวขึ้น จนสุดท้ายมันก็หลอมรวมเข้าด้วยกัน
//////////