ตอนที่แล้วตอนที่ 636 ถนนทอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 638 สู้ระยะประชิด

ตอนที่ 637 ลอบทำร้าย


“ตรงไปทางนั้นเบิกทางไปเลย”

“ระมัดระวังอย่าทำลายม่านพลัง  ตั้งปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งเอาออกมาจากโกดังและสร้างแนวป้องกันไว้”

“เสริมกำลัง!  เสริมกำลังเพิ่มอีก!”

……

เซี่ยอวี่อันเดินขึ้นเดินลงและออกคำสั่งดังลั่น  หน้าของเขาไม่แสดงอาการตื่นตกใจแม้แต่น้อย  เขากำลังจะได้ต่อสู้กับกองทัพระดับเงิน  นั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่หรือ?

บางทีเมื่อเป็นการต่อสู้นอกเมืองหรือเมื่อสั่งการและนำกองกำลังเข้าสู้รบ เซี่ยอวี่อันอาจไม่ใช่คู่ต่อกรของเหออิง แต่ในเรื่องวางกำลังป้องกัน  เขามีความเชื่อมั่นในตนเอง  ในโรงเรียนงานวิชาการของเขาครองอันดับหนึ่งถึงสามปีเต็ม และจนถึงบัดนี้ วิทยานิพนธ์ของเขาทั้งหมดยังเป็นกรณีศึกษา

ด้วยแหล่งทรัพยากรและกำลังพลสนับสนุนเพียงพอพื้นที่ซับซ้อน เขาได้เงื่อนไขที่สมบูรณ์แบบ

‘มาเลย’

ความตั้งใจสู้ของเซี่ยอวี่อันมีเต็มเปี่ยม  เขาวิ่งไปวิ่งมาทุกที่โดยไม่รู้จักเหนื่อยล้าและตะโกนสั่งการลั่น

ถังโฉ่วไม่รบกวนเขา การจัดการและจัดรูปขบวนของเซี่ยอวี่อันค่อนข้างโดดเด่นและรัดกุม  มีที่สองสามแห่งที่เขาไม่เข้าใจ ซึ่งมีแนวโน้มว่าเป็นระบบที่แตกต่างกัน สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกยกย่องก็คือเซี่ยอวี่อันไม่ได้แสดงความกลัวต่อการเผชิญหน้ากับสงครามใหญ่  แต่กลับมีความมุ่งมั่นมากขึ้นเป็นเรื่องยากที่จะหาคนที่มีคุณสมบัติเช่นนั้น และนั่นเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุด

ก็หมายความว่าเซี่ยอวี่อันมีคุณสมบัติจะกลายเป็นผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียง

สงครามไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้และมีปัจจัยหลายอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้ และแม่ทัพผู้กล้าหาญซึ่งทำหน้าที่นำทหารมีแนวโน้มว่าจะโชคดีและได้รับความชื่นชมจากคนอื่น  และผู้นำทหารที่มีขวัญกำลังใจระหว่างสู้รบสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น  ทำให้พวกเขาหลักแหลมมากขึ้นมีความมุ่งมั่นและกล้าหาญมากขึ้น

คุณภาพดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่หาได้จากการฝึกฝน  และไม่เกี่ยวข้องกับการฝึกตนและกลยุทธ์สงคราม ผู้นำทหารเช่นนั้นจะได้รับความเชื่อถือและศรัทธามากขึ้น

ในการทดสอบครั้งล่าสุด เซี่ยอวี่อันแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติดังกล่าว  แต่แรงใจของเขาก็มีมากขึ้น  มีแรงใจและความกล้าหาญ  แม้แต่ความสำเร็จก็โดดเด่น  อนาคตของเขามีแต่จะสดใส

ถังโฉ่วไม่เข้าไปก้าวก่าย พรสวรรค์และคุณภาพของเซี่ยอวี่อันโดดเด่นแล้ว  แต่ถ้าเขาต้องการความสำเร็จในระดับผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียง เขาจำเป็นต้องขัดเกลาในการสู้รบจริงมากขึ้น และการสู้รบที่จะมาถึงถือว่าเป็นสถานที่ดีสำหรับขัดเกลาตนเองอย่างไม่ต้องสงสัย

คนที่ถังโฉ่วต้องแนะนำก็คือหน่วยกะโหลก  พวกเขารวบรวมอุปกรณ์มาเป็นจำนวนมาก อุปกรณ์ที่พวกเขารวบรวมมาอย่างน้อยอยู่ได้ถึงสองสัปดาห์  แต่สำหรับอายะและพวกการสู้รบที่จะมาถึงเป็นเป็นพื้นที่แปลกถิ่น เฉพาะกองทัพแท้ๆเท่านั้นจึงจะมีส่วนร่วมในขบวนป้องกันและเกี่ยวข้องกับการฝึกฝน

แต่ถังโฉ่วไม่เห็นด้วยกับแนวทางนั้น

หน่วยกะโหลกชำนาญในการผสานพลังขนาดเล็กมากกว่า  เมื่อเข้าสู่การสู้รบก็จะดุเดือดเลือดพล่านอย่างรวดเร็ว ถึงเวลานั้น พลังของหน่วยกะโหลกจึงจะแสดงออกมาได้

ทันใดนั้นเสียงต่อสู้รุนแรงได้ยินดังมาจากร้านแห่งหนึ่ง

สายตาของถังโฉ่วเย็นชา ‘ผู้บุกรุก’

เขาสามารถพบศัตรูได้อย่างรวดเร็ว ร่างดำสองสามคนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วมีเงาลวงตาตามหลังเหมือนกับภูตพรายแทรกซึมเข้ามาในขบวนเนื่องจากพวกเขาอยู่ใกล้เกินไป ทหารกองกำลังนางแอ่นไม่รู้ว่าจะทำยังไง เงาร่างดำทั้งหมดแข็งแกร่งกันทั้งนั้นและสองสามคนก็ล้มลงไปแล้ว

‘ยอดฝีมือ!’

‘ในที่สุดพวกเขาก็มาที่นี่หรือ?’

*********

ถังเทียนอยู่ในช่วงเรียนรู้เรื่องเรือรบ  เขาชื่นชอบเรือรบ  และสมาชิกของหน่วยกะโหลกผู้มีความเชี่ยวชาญในการควบคุมเรือรบมากที่สุดถูกดึงมาอยู่ข้างตัวเขา

มีถังโฉ่วอยู่รอบๆเขาไม่ต้องห่วงกังวลเรื่องการป้องกัน เนื่องจากถังเทียนไม่รู้ถนัดในการจัดการสงครามขนาดใหญ่

สุภาพสตรีคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาอย่างกังวล  “ท่านเหมิ่ง แม่นางอวี่หรันรู้สึกไม่ค่อยดี ท่านไปดูได้ไหม?”

‘ฉินอวี่หรันรู้สึกไม่ค่อยดี?’

ถังเทียนตกใจ จากนั้นยืนขึ้น  “ก็ได้”

ถังเทียนติดตามสุภาพสตรีนั้นไปทันใดนั้นความรู้สึกถึงอันตรายผุดขึ้นมาทันที ความรู้สึกถึงอันตรายนี้เกิดขึ้นมาฉับพลัน ไม่มีลางสังหรณ์ใดๆและดูเหมือนจะผุดวับขึ้นมา แต่ถังเทียนผ่านพบมาเป็นร้อยศึก และเขาเชื่อมั่นในสัญชาตญาณตนเองมากกว่าสิ่งอื่นใด

ในขณะนั้น เขาลอบระมัดระวัง

“ท่านเหมิ่งโปรดตามข้ามา!”

สุภาพสตรีผู้เดินนำทำท่าเหมือนปะทะอะไรสักอย่างและหมุนตัวกลายสภาพเป็นร่างเลือนราง

ตาของถังเทียนแสดงความตื่นตระหนกในช่วงที่เงาร่างจางหายไปนั้น นิ้วที่เรียวงามเริ่มเปล่งแสงสว่างเป็นรัศมีสีขาวมันพร่าเลือนปราศจากร่องรอยของปราณ

ดูเหมือนนั่นคือความรู้สึกถึงอันตรายที่เพิ่มขึ้นจนถึงระดับสูงสุดทันใดทำให้ผมขนบนตัวถังเทียนลุกชูชัน นิ้วที่เรียวงามและขาวยังคงสะสมพลังทำลายล้าง

ถังเทียนปล่อยหมัดขวาออกไปโดยไม่ต้องคิดเพลิงสุญญตาส่งเสียงหวีดหวิวออกไปพร้อมกับหมัด

ชี่!

ไม่มีการระเบิดที่รุนแรง ถังเทียนเพียงแต่รู้สึกเจ็บปวดที่หมัดของเขา  พลังดรรชนี้ทะลวงผ่านเพลิงสุญญตาได้อย่างง่ายทำให้หมัดของถังเทียนหลั่งโลหิต

ถังเทียนตกตะลึงตั้งแต่เขาเรียนรู้วิชาเพลิงสุญญตาได้ ดูเหมือนแทบจะไร้เทียมทานแล้วลักษณะของมันคือการทำลายพลังงาน ทำให้เพลิงสุญญตากลายเป็นวิชาไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของถังเทียน

ในท่ามกลางความตื่นเต้น  ขาซ้ายของถังเทียนเตะที่พื้นทันทีและปลดปล่อยพลังจากร่างกายทันที

คาดไม่ถึงว่าคู่ต่อสู้ของเขายังไวกว่าเขา  ภาพที่อยู่ต่อหน้าเขาเป็นภาพที่น่าตระหนกพลังดรรชนีสายหนึ่งถูกยิงมาข้างหน้าเขาอย่างรวดเร็ว

‘แย่แล้ว!’

ปราณที่น่ากลัวพุ่งใส่ระหว่างคิ้วของถังเทียน เขาลอบคร่ำครวญ  ร่างของเขาหมุนในท่าแปลกประหลาด  ย่อตัวทันทีและบิดตัวตวัดขาขวาเหวี่ยงเหมือนกับใบมีด

เมื่อชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย ถังเทียนไม่มีกักพลังแต่อย่างใดและทุ่มพลังในขาของเขาทั้งหมด

คู่ต่อสู้สามารถเห็นได้ว่ามันทรงพลัง  จึงไม่กล้าต้านรับเอาไว้ ร่างของฝ่ายตรงข้ามวูบวาบและยิงดรรชนีใส่ขาของเขา

ปัง!

ทั้งสองฝ่ายกระเด็นไปในตำแหน่งตรงข้าม

ขาของถังเทียนมีรูแผลซึ่งมีเลือดไหลโกรก  เขาทำเป็นลืมมันและจ้องมองฝ่ายตรงข้ามและกล่าว“ทวีปกวงหมิง!”

“สายตาดีนี่”  สุภาพสตรีนั้นประหลาดใจ  “สามารถจำได้ว่าข้ามาจากทวีปกวงหมิง ดูเหมือนว่าเบื้องหลังเหมิ่งหนานเจ้าจะไม่ธรรมดาแล้ว”

ถังเทียนไม่เคยคาดเลยว่าก่อนที่เขาจะไปหาทวีปกวงหมิง  พวกเขากลับมาหาเขาก่อน

สตรีที่อยู่ต่อหน้าเขาแข็งแกร่งมากและพลังดรรชนีแปลกประหลาดก็คือวิชาจิตวิญญาณ และถังเทียนรู้สึกได้ถึงปราณที่คุ้นเคยที่เป็นของวิหารเซียนสมาพันธ์ชาวยุทธ แต่พลังของมันยังเหนือกว่าวิชาวิญญาณของวิหารเซียนมาก

หนึ่งในพวกเขาปนอยู่กับพวกสุภาพสตรี

“เจ้าเป็นคนของท่านหญิงโหรว”  ถังเทียนเข้าใจทันที

“ข่าวลือบอกไว้ว่าท่านเหมิ่งหนานไร้เดียงสาและโง่งม  แต่ดูเหมือนว่าข่าวลือจะไม่จริงเสียแล้ว”  สตรีผู้นั้นกล่าว

ถังเทียนใจตกวูบ  ท่านหญิงโหรววางคนจับตาไว้ในคฤหาสน์จันทรา  และเป็นการวางแผนไว้ก่อนแล้ว สุภาพสตรีที่อยู่ต่อหน้าเขาแข็งแกร่งมากและเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ถังเทียนเคยพบมานับตั้งแต่เข้าดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์และยังแข็งแกร่งมากกว่าเฉียวอี้อันเสียอีก

เขาไม่รู้ว่าสตรีนางนั้นยิ่งประหลาดใจมากกว่าเขา

เซี่ยเฟยเป็นหนึ่งในไม้ตายลับของกองกำลังเงาทวีปกวงหมิงและมีแต่ภารกิจที่สำคัญยิ่งยวด ท่านหญิงโหรวจึงจะส่งเซี่ยเฟยออกไป

เมื่อมีแสงสว่างก็ย่อมมีเงา และกองกำลังเงาก็คือกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของทวีปกวงหมิง สมาชิกปกติจะถูกส่งออกไปเป็นนักลอบสังหารมืออาชีพ  และมีสตรีอยู่ในพวกเขาด้วย  ทำให้พวกเขาคลุมเครือมากขึ้น  ถ้าไม่ใช่เพราะความล้มเหลวของเหออิงไม่ว่าภารกิจจะสำเร็จหรือล้มเหลว เซี่ยเฟยคงไม่ต้องการลงมือ

เซี่ยเฟยถูกความตกใจครอบงำ  การลอบโจมตีของนางล้มเหลวจริงๆ

เป็นครั้งแรกที่นางเผชิญสถานการณ์เช่นนั้น

ทหารของทวีปกวงหมิงไม่จำเป็นต้องมีกองทัพที่แข็งแกร่ง แต่การพัฒนาระบบของพวกเขาไปไกลเกินกว่าทวีปอื่น  ทวีปหมิงกวง (ทวีปเกียรติยศชาวยุทธ)เป็นสถานที่เดียวที่มีวิชาจิตวิญญาณ และมีระบบฝึกฝนที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง  พลังของมันแข็งแกร่งมากกว่าที่อื่น เซี่ยเฟยเชื่อว่านักสู้ผู้แข็งแกร่งในกองกำลังเงาแข็งแกร่งมากกว่านักสู้ผู้ทรงพลังของทวีปอื่นรวมกันเสียอีก

ท่านหญิงโหรววางคนปนเปอยู่ในกลุ่มสุภาพสตรี  แต่นางค่อนข้างไม่เห็นด้วย

สำหรับนาง เหออิงไม่มีเหตุผลใดที่ต้องล้มเหลวและการจัดการของท่านหญิงโหรวก็ยังไม่จำเป็น แต่นางยังคงปฏิบัติตาม พวกเขาทุกคนคุ้นเคยกับเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย  การผนวกเอาดินแดนทวีปอื่นในภูมิภาคตะวันตกของทวีปกวงหมิงส่วนใหญ่มาจากผลงานของกองกำลังเงา

เมื่อเหออิงปรากฏตัวอยู่ข้างนอกคฤหาสน์จันทรานางคิดว่าจบแล้ว แต่ใครจะรู้กันว่าเหมิ่งหนานปรากฏตัวขึ้นกะทันหันและเกือบคร่าชีวิตของเหออิง  แต่สิ่งที่ทำให้นางสั่นสะท้านก็คือความแม่นยำและฝีมือฆ่าของหน่วยกะโหลกนั่นคือฉากภาพที่ครอบงำนาง

เทียบกับความสำเร็จของกองกำลังเงาแล้ว  กองทัพของกวงหมิงยังต้องพิสูจน์ตัวเอง

เซี่ยเฟยอยู่อันดับที่ 23 ในกองกำลังเงา  และไม่เคยทำภารกิจล้มเหลวมาก่อน

เมื่อเซี่ยเฟยรับคำสั่งให้ฆ่าเหมิ่งหนาน  นางไม่ลังเลแม้แต่น้อย  จากสิ่งที่นางเห็น เหมิ่งหนานมีศักยภาพที่จะกลายเป็นศัตรูของทวีปกวงหมิง  นางเตรียมตัวพร้อมสำหรับภารกิจอย่างเหลือเฟือและไม่ได้ประมาทเป้าหมายของนาง

เมฆเพลิงในท้องฟ้าที่งานเลี้ยงยังคงทิ้งความประทับใจให้กับนาง  ดังนั้นนางเลือกจะสู้ในระยะประชิดแทน  เพื่อที่นางจะได้ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับเมฆเพลิง

สำหรับนาง ควรจะเป็นการลอบโจมตีอย่างสมบูรณ์แบบ  นางไม่ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย  แต่นางเพียงแต่ทำให้เขาบาดเจ็บได้เล็กน้อย  นางเองก็มีประสบการณ์ต่อสู้มาเช่นกัน และรู้ว่าแม้ว่าอาการบาดเจ็บบนตัวเขาจะดูน่ากลัว  แต่ในความจริง ยังไม่ถือว่ามาก

‘และ..เพลิงเทาที่เพิ่งเจอมานั้นแปลกประหลาด...’

เสียงต่อสู้ดังมาจากด้านบนพวกเขา

“ทหารฝีมือดีของท่านเหมิ่งกำลังจะถูกฆ่าทั้งหมด”  เซี่ยเฟยหัวเราะ  “ข้าไม่ได้มาคนเดียว”

หัวใจถังเทียนตึงเครียด  แต่เวลาเดียวกันนั้น ร่างเซี่ยเฟยก็หายไป

รังสีแสงสางเป็นประกายเหมือนดวงดาวปะทุทันที

ถังเทียนหัวเราะทันที  “โง่จริงๆ!”

เขาไม่หลบแม้แต่น้อย และต้านรับพลังดรรชนีแสงกระแทกหมัดใส่อย่างรุนแรง

หมัดแล้วหมัดเล่า!

ภาพหมัดสีเทาปรากฏเหมือนกับฝนกระแทกใส่ดรรชนีแสง

เซี่ยเฟยคิดไม่ถึงเลยว่าถังเทียนจะเลือกปะทะตรงๆโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตนเอง และไม่มีเวลาตั้งตัว ถังเทียนปล่อยหมัดสองสามหมัดออกมาแล้ว นางรู้ว่านางก็ถอยไม่ได้ ถ้าใครถอยระหว่างปะทะกัน พวกเขาจะอยู่ในอันตรายมากขึ้น

เมื่อเผชิญหน้ากันตรงๆ มีแต่ความกล้าที่จะชนะ

นางใช้พลังทั้งหมดในร่าง  นิ้วเรียวยาวระเบิดพลังแสงออกมาอีก

ชี่ ชี่ ชี่!

เลือดกระเซ็นไปทั่ว  ถังเทียนไม่รู้สึกอะไรและกระแทกใส่พลังดรรชนีของเซี่ยเฟยอย่างบ้าคลั่ง

ร่างของเซี่ยเฟยสะท้านพลังงานที่ปลายเล็บที่แหลมคมไม่เหลือและระเบิดอีกต่อไปนางกระอักโลหิตมาเต็มคำและกระเด็นออกไป

ถังเทียนสูดลมหายใจ หมัดของเขาโชกไปด้วยเลือด  แผลของเขาเป็นรอยขาดวิ่นเลือดไหลหยดลงบนพื้น เพลิงสีเทาที่คลุมหมัดของเขาหมองลงมาก หน้าของเขาดูน่ากลัว รังสีที่นิ้วของเซี่ยเฟยเข้าไปในร่างของเขาและทำร้ายร่างกายเขา

แต่เซี่ยเฟยก็ไม่ดีกว่ากัน

ความสามารถในการทำลายล้างของเพลิงสุญญตา...

ถังเทียนแค่นเสียง มองดูกระหายเลือด  แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บขึ้นมาบ้าง  แต่ความมั่นใจของเขาสูงเทียมฟ้า

ความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของคู่ต่อสู้ก็คือเลือกจะสู้ระยะประชิด!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด