ตอนที่ 635 แผนของปิง
ปู้จื้อเฟยไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะต้องมากลายเป็นเชลยของอีกฝ่ายหนึ่ง หลังจากผ่านไปสามวันในที่สุดเขาก็รู้สึกตัวเขาตกอยู่ในความกลัว
‘พวกเขาจะฆ่าข้า? หรือว่าจะทรมานข้า?’
เมื่อเขาตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นจริงๆ เขาตระหนักได้ว่าเขาไม่มีความกล้าที่จะคิดเช่นนั้น
“นายท่านต้องการพบเจ้า” ทหารที่รับผิดชอบในการเฝ้าดูเขาเปิดประตู
แสงอาทิตย์สาดส่องไปทั้งห้องและส่องลงที่ใบหน้าของเขาเขารู้สึกไม่สบายใจหลังจากถูกกักอยู่ในห้องสองสามวันที่ผ่านมา แต่ขณะนั้น ความกลัวในตัวเขาค่อยๆ หายไปและความสงบนิ่งเริ่มเข้ามาเต็มในตัวเขา
‘พวกเขากำลังจะตัดสินพิพากษาอย่างนั้นหรือ?’
เขารู้สึกสงบมาก เขาไม่รู้สึกทุกข์ใจเรื่องความพ่ายแพ้ เพราะคู่ต่อสู้แข็งแกร่งมากกว่าเขาห่างไกล ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งโดยรวม หรือว่าความแข็งแกร่งส่วนบุคคล เขาสูญเสียความได้เปรียบมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นก็คือพวกเขาตกอยู่ในการจัดการของฝ่ายตรงข้าม ผู้บัญชาการของฝ่ายตรงข้ามมีความสามารถในการสั่งการระดับที่สูงมากกว่าเขา
เขายอมรับความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง และเต็มไปด้วยความสงสัยเกี่ยวกับผู้บัญชาการผู้ลึกลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้ยินว่าผู้บัญชาการเป็นคู่หูวิญญาณเขาก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น
เมื่อปู้จื้อเฟยพบปิง เขาประหลาดใจจริงๆ คู่หูวิญญาณสูบบุหรี่....
ปิงดูเหมือนจะไม่ทันสังเกตเขาพ่นควันบุหรี่เป็นวงและพูดตามปกติ “เชิญนั่ง ข้าสงสัยว่าท่านปู้เป็นยังไงบ้างเมื่อผ่านไปแล้วสองวัน?”
“ก็ไม่เลว” ปู้จื้อเฟยพูดอย่างใจเย็น “แม้แต่ข้าก็ต้องปรับตัว”
“ท่านปู้มีแผนการในอนาคตยังไงบ้าง?” ปิงพ่นควันอีกวงหนึ่งและถามตามปกติ
ปู้จื้อเฟยใจสั่นสะท้าน เขารู้ว่ากำหนดเวลาชะตากรรมของเขามาถึงแล้ว เขาอาจตาย เขาอาจมีชีวิต แม้ว่าเขาจะสงบใจลงได้ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา แต่ความคิดนี้ก็ทำให้เขากลัว เขาพยายามทำใจตัวเอง “ขุนพลผู้พ่ายแพ้ไม่มีสิทธิ์เลือก”
“ดูเหมือนว่าท่านปู้จะไม่คิดถึงมันมาก” ปิงคิดอยู่ชั่วครู่ “ข้าคิดว่า ข้าพอจะมีวาสนาได้ร่วมงานกับท่านปู้ ท่านปู้จะรับงานเป็นเจ้าหน้าที่ทหารของข้าได้หรือไม่?”
ปู้จื้อเฟยลอบถอนหายใจ ‘ดูเหมือนว่าเรายังรักษาชีวิตไว้ได้’ แต่หลังจากนั้นก็มีอารมณ์ซับซ้อนมากขึ้น ‘ข้าจะต้องเป็นผู้ช่วยของคู่หูวิญญาณจริงๆหรือนี่’ เขาหัวเราะ
มักจะเป็นฝ่ายคู่หูวิญญาณที่เป็นผู้ช่วยมนุษย์ ‘แต่ข้าอาจไม่ใช่ผู้ช่วยคนแรกก็ได้แต่ข้าอาจเป็นผู้บัญชาการระดับเงินที่เป็นผู้ช่วย’
ตาทั้งคู่ที่อยู่เบื้องหลังควันบุหรี่ดูเหมือนจะมองเห็นความคิดของปู้จื้อเฟย ปิงกล่าวอย่างเฉยเมย “แต่ไหนแต่ไรมา ผู้แพ้ก็ต้องยอมรับผู้ชนะ ข้าเอาชนะเจ้าได้ ข้าก็แข็งแกร่งกว่าเจ้า เจ้าต้องเป็นฝ่ายรับใช้ข้า นั่นไม่ถูกหรือ?”
ปู้จื้อเฟยใจสะท้าน และดูเหมือนเขาจะรู้ตัวมากขึ้น‘ถูกแล้ว ข้าพ่ายแพ้เขา ความเย่อหยิ่งและภูมิใจยังจะมีความหมายอะไรอีก?’ เมื่อตรองดูอย่างชัดเจนสายตาของเขากระจ่าง “ข้าน้อยเต็มใจ!”
เมื่อพูดอย่างนั้นแล้ว เขารู้สึกว่าตัวของเขาผ่อนคลายเหมือนกับว่าเขารู้สึกถึงความคาดหวังที่อธิบายได้ในอนาคต
เขาสงสัยใคร่รู้ทุกอย่างภายในฐาน ป้อมปราการที่แปลกประหลาด นักสู้ที่แข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดและทุกอย่างภายใน ทุกอย่างถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้บรรลุผลภายใต้เงื้อมมือของหัวหน้าของเขา เขาไม่เคยได้ยินเรื่องคู่หูวิญญาณจะมีอิสระในการรับผิดชอบ
“เจ้าเลือกถูกแล้ว” ปิงกล่าว “งานของเจ้าตอนนี้คือไปแนะนำพวกที่เหลือให้ยอมแพ้”
“ขอรับ!” ปู้จื้อเฟยรับปฏิบัติตาม เมื่อยอมรับความเป็นจริงเขาไม่มีความคิดไขว้เขวใดๆ อีก “ถ้าพวกเขาไม่ต้องการยอมแพ้จะให้ข้าจัดการพวกเขาอย่างไร? พวกเขามีกันหลายคน และครอบครัวของพวกเขาส่วนใหญ่อยู่ในทวีปฝานซิงโจว”
“ถ้าพวกเขาไม่ยอมแพ้ ก็ขังพวกเขาไว้, เจ้าสามารถให้พวกเขาทำงานเป็นกรรมกรได้” ปิงคิดอยู่ชั่วขณะ “อย่าเพิ่งแนะนำให้พวกมีครอบครัวยอมแพ้เลย รอสักระยะ จากนั้นค่อยส่งคนไปทวีปฝานซิงโจวและรับครอบครัวพวกเขามา”
ปู้จื้อเฟยลังเลชั่วขณะ จากนั้นกล่าว “เราจะไม่เตรียมป้องกันการโจมตีของทวีปฝานซิงโจวหรือ? พวกเขาจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ”
“ไม่,ยังไม่ต้อง” ปิงแค่นเสียง “ข่าวว่าสามกองพลของทวีปฝานซิงโจวถูกทำลายกระจายไปทั่วทวีปอื่นแล้ว ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาควรจะกังวลก็คือจะรักษาพื้นที่ของพวกเขาไว้ได้หรือไม่และคงไม่มาหาเรื่องกับเรา โอว ไม่สิ่งที่พวกเขาน่าจะกังวลก็คือ เราจะสร้างความลำบากให้พวกเขาได้หรือไม่”
ปู้จื้อเฟยใจสั่นสะท้าน ‘เขาวางแผนมานานแล้ว’
‘เขามีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน แต่ทวีปฝานซิงโจวกลับไม่มี อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราแพ้’ แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกตกใจก็คือปิงมั่นใจขนาดที่ว่าพวกเขาสามารถเอาชนะทวีปฝานซิงโจวที่แข็งแกร่งได้หรือ?
คนแบบนั้นสมควรเป็นเทพเหนือธรรมชาติเสียมากกว่า!
‘เดี๋ยวก่อน... นายท่านพูดว่า นำปัญหามาให้กับทวีปฝานซิงโจว?’
ปู้จื้อเฟยตกตะลึง ‘หรือว่าเรายังมีกองทัพอื่นอีก?’
กองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านเป่ากวงทำได้แต่เพียงตั้งรับและไม่สามารถบุกโจมตีได้แน่นอน และบวกกับนักสู้ที่ทรงพลังอีกสามคนที่ต้องคอยสนับสนุนฐานมีข้อจำกัดในการต่อสู้ พวกเขาไม่สามารถเปิดการโจมตีได้
ปิงพ่นควันเป็นวงตาของเขาเต็มไปด้วยแววเย็นชา
“ได้เวลาเริ่มกันแล้ว”
*******
ภายในโลกน้ำเงิน
ดีดิสันดูรายงานสงครามและเกาศีรษะทำหน้าแปลกประหลาด “เขาชนะได้จริงๆ”
“แน่นอน!” บาร์บาร่าพูดด้วยความภูมิใจ “สหายในตำนานของเราก็คือตำนานแน่นอน เมื่อเราตายเราจะเป็นตำนานเช่นกัน”
ดูเหมือนดีดิสันก็ได้รับการกระตุ้น ในที่สุดเขาก็นับถือขุนพลแห่งป้อมไพรกระบี่อย่างหมดใจ
เขาได้รับความเชื่อมั่นจากบาร์บาร่าจนได้ ทั้งสองคนคิดหาวิธีรวบรวมทหารคนแคระน้ำเงินที่ตื่นแล้ว บาร์บาร่าตื่นเต้นและส่งจดหมายไปยังป้อมไพรกระบี่ทันที แต่จดหมายตอบกลับทำให้ทั้งสองคนตกตะลึง ปิงปฏิเสธข้อเสนอของเขาที่จะส่งกำลังเสริมเข้ามา แต่ขอให้เขาใช้เวลาฝึกอย่างชาญฉลาดและให้คำสั่งลับพวกเขา
ให้หาเส้นทางไปยังสะพานลอยในทะเลแสงและรอคำสั่งอยู่ที่นั่น
เมื่อดีดิสันได้รับคำสั่งเขาคิดว่าสมองของผู้บัญชาการป้อมไพรกระบี่คงมีปัญหา ‘หรือว่าเขาคิดว่าเขาสามารถอาศัยกองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านต่อสู้กับกองทัพระดับเงินได้?’ ดีดิสันคือคนแคระน้ำเงินที่ได้รับการศึกษาทางทหารและรู้ความต่างชั้นกันของกองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านและกองทัพระดับเงิน
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาแนะนำการฝึกให้คนแคระน้ำเงิน ในสายตาดีดิสันเขาคงคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนเขลาและไร้ความสามารถ
คนแคระน้ำเงินตัวเตี้ยและมีกำลังอ่อนแอทั้งไม่มีคุณสมบัติใดๆ ในการใช้พลังงาน แต่พวกเขามีความรวดเร็วมาก หลังจากฝึกฝนแล้วความเร็วของพวกเขายิ่งเร็วมากขึ้น พวกเขาเก่งในเรื่องการขว้างหอกและหลาวอย่างแม่นยำและที่แปลกก็คือหอกและหลาวทั้งหมดที่สร้างขึ้นในโลกน้ำเงินล้วนทรงพลัง
ดีดิสันสามารถมองเห็นได้อีกฝ่ายหนึ่งอ้างอิงถึงกองทหารม้าเบาของมนุษย์ แต่เขาต้องยอมรับ เพราะมันคือทางที่ดีที่สุดที่คนแคระน้ำเงินจะขยายออกไปได้
ดีดิสันยังคงฝึกหน่วยทหารตามคำแนะนำของปิง ในโลกน้ำเงินไม่เคยมีการฝึกอย่างนั้นสำหรับหน่วยทหาร กลศึกของคนแคระน้ำเงินถือว่าธรรมดาและนอกจากกลยุทธที่จำนวนแล้ว พวกเขาไม่มีอะไรน่ายกย่อง
ยุทธวิธีการรบแบบใหม่ทำให้คนแคระน้ำเงินที่ตื่นขึ้นแล้วทุกคนตื่นเต้น กำลังใจพวกเขาสูงเทียมฟ้า จะมีอะไรตื่นเต้นมากกว่าเป็นผู้บุกเบิก? โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนแคระน้ำเงินที่ตื่นแล้วและเป็นขบถ
และดีดิสันจึงตระหนักได้ว่าป้อมไพรกระบี่เชื่อถือในพวกเขานานแล้ว และงานที่มอบให้คนแคระน้ำเงินก็คือผลเก็บเกี่ยวจากชัยชนะ
“กองทัพทั้งหมดรวมพล เตรียมจัดขบวน!”
ศึกแรกกำลังจะเริ่มขึ้น และดีดิสันตื่นเต้น
****************
หยางจื่อชิงรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังฝันเพราะสองสามวันก่อน รายงานสงครามเป็นเหมือนฝันร้ายส่งเข้ามาอีกฉบับ เขาไม่เคยคิดเลยว่ากองพลที่เจ็ดของปู้จื้อเฟยจะพ่ายแพ้ ความพ่ายแพ้ของซุนเจี๋ยอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาประมาทศัตรู แต่ปู้จื้อเฟยเป็นคนที่ระมัดระวังตัวก็ยังพ่ายแพ้ นั่นไม่ใช่สิ่งที่สามารถอธิบายได้ว่าประเมินศัตรูต่ำไป
คู่ต่อสู้ของพวกเขาทรงพลังมากทรงพลังมากกว่าที่พวกเขาจะคาดคิด!
“อะไรนะ? ทวีปอื่นได้รับข้อมูลแล้วหรือ?” เสียงของหยางจื่อชิงสั่น
“ถูกแล้ว”บริวารของเขากลืนน้ำลายและกล่าว “เราส่งคนสอดแนมไปสองสามคน ทวีปฉิน ทวีปสือฮัวทวีปหลี่และทวีปเมิ่งล้วนทราบข่าวแล้ว”
หยางจื่อชิงเหมือนกับถูกหมัดทุบที่สมองจนตะลึง ทวีปทั้งหมดที่ได้รับรายงานล้วนเป็นทวีปที่อยู่เพื่อนบ้านของทวีปฝานซิงโจว เขาตั้งหลักได้หลังจากผ่านไปนาน ทวีปทั้งหมดส่งคนออกไปก็หมายความว่าพวกเขาได้รับข้อมูลเร็วกว่าเขา เขาได้รับเพียงแต่รายงานสงครามเมื่อสามวันที่แล้วและเขาจึงได้ตระหนัก
‘ศัตรูเตรียมการเรื่องนี้ไว้นานแล้ว!’
‘พวกเขารู้ด้วยว่าพวกเขาจะชนะ!’
ความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องของกองทัพระดับเงินถึงสองกองทำให้ทวีปฝานซิงโจวตกอยู่ในสถานะอันตราย และเมื่อทวีปอื่นได้ทีนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของความตกต่ำ
ทันใดนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งลนลานวิ่งเข้ามา
หยางจื่อชิงมีลางสังหรณ์ทันที ‘หรือว่าเป็นข่าวร้ายเพิ่มอีก...’
“นายท่าน, สะพานลอยฟ้าในทะเลแสงถูกคลื่นน้ำเงินลอบโจมตีกองพลที่ยี่สิบสองบาดเจ็บกันมากมาย!”
หยางจื่อชิงหน้ามืด เขาแทบจะล้มทันที
จากนั้นชั่วครู่เขาค่อยเรียกความรู้สึกกลับมาและถาม “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆ ถึงมีคลื่นน้ำเงินได้?”
สะพานลอยฟ้ายังคงมีคนแคระน้ำเงิน แต่ยังมีขนาดเล็กมาก ตราบใดที่พวกเขามีสมาชิกไม่กี่คน คนแคระน้ำเงินก็ยังจะอ่อนแอ นั่นคือสาเหตุที่กองทัพส่งเพียงกองกำลังธรรมดาไปปกป้องสะพานลอยฟ้า
“รายงานนายท่าน มันไม่ใช่คลื่นน้ำเงิน มีคนแคระน้ำเงินเพียงพันคน แต่พวกมันเจ้าเล่ห์มาก พวกมันวิ่งออกมาจากทะเลแสงและขว้างหอกของพวกมัน กองพลที่ยี่สิบสองไม่มีเวลาป้องกันจึงประสบความสูญเสียอย่างหนัก หลังจากทำอย่างนั้นแล้ว คนแคระน้ำเงินก็หายไป”
ขณะนั้นบริวารอีกคนหนึ่งก็แตกตื่นวิ่งเข้ามา “นายท่าน แย่แล้ว! สะพานลอยฟ้าในทะเลแสงถูกโจมตีมีอยู่เจ็ดจุดที่ถูกทำลาย”
ทันใดนั้นหยางจื่อชิงรู้สึกได้ว่าไม่มั่นคง
เขาบังคับตนเองให้สงบลง “เป็นการโจมตีที่คำนวณไว้แล้ว
ความคิดแรกของเขาก็คือป้อมไพรกระบี่ เขาสามารถมองเห็นเครือข่าวที่ซับซ้อนอย่างเลือนรางเครือข่ายที่มองไม่เห็นและมีขนาดใหญ่
‘ถ้า....ถ้าทุกอย่างถูกวางแผนไว้เป็นอย่างดีด้วยฝีมือของป้อมไพรกระบี่....’
หยางจื่อชิงสะท้าน
เขาตั้งใจและกล่าว “ข้าอยากไปชมป้อมไพรกระบี่”
ทุกคนสะดุ้งตื่นเต้นทันที
“นายท่าน ไม่นะ!”
“นายท่าน, มันเป็นกับดัก!”
หยางจื่อชิงใจเย็นลงและมีท่าทางมุ่งมั่น “ข้าต้องไป!”
เขารู้ว่าทวีปฝานซิงโจวตกอยู่ในวิกฤติอันตรายที่สุดและถ้าทวีปอื่นยืนยันความพ่ายแพ้ของทวีปฝานซิงโจวอย่างนั้นสิ่งรอทวีปฝานซิงโจวอยู่ก็คือการคุกคามจากทวีปต่างๆ ถึงตอนนั้นด้วยป้อมไพรกระบี่หนุนหลังพวกเขาอยู่ ทวีปฝานซิงโจวคงล่มสลายแน่นอน
“ป้อมไพรกระบี่....”
หยางจื่อชิงพึมพำ ความรู้สึกสงสัยเต็มอยู่ในดวงตาของเขา