ตอนที่ 632 คำสาปกล่องปีศาจ
ซีควงฟงและหนานเซี่ยตี๋ไล่กวดฮุยไท่หลางที่วิ่งวนเป็นวงกว้าง
พวกเขารู้ว่าจะฆ่ามันให้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อสูรที่จงรักภักดีของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ไม่ใช่อสูรธรรมดาทั่วไปมันคือหมาป่าปีศาจผลาญโลก มันยังไม่เติบโตเต็มที่ ถ้ามันเติบโตเต็มที่มันสามารถกัดนักสู้ปราณฟ้าได้ราวกับกัดหัวกะหล่ำปลี นี่คือเหตุผลที่หนานเซี่ยตี๋และซีควงฟงมุ่งมั่นจะฆ่ามันให้ได้ในตอนนี้ การฆ่าอสูรนี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้ความสามารถของคุณชายสามตระกูลเย่ว์อ่อนลง
“เมี้ยววว!”ฮุยไท่หลางฉลาดพอจะรู้ว่าทั้งสองคนนี้จะฆ่ามันและบินอย่างพลางตัวถ่วงเวลาแทนที่จะเผชิญหน้าพวกเขา
ยิ่งทอดเวลานาน มันก็ยิ่งได้เปรียบ
หนานเซี่ยตี๋และซีควงฟงไล่ตามหลังอย่างสุดความสามารถพวกเขาตั้งใจจะทุ่มเทพลังแทงและตัดหัวเจ้าอสูรตนนี้ให้ได้
ครืนน
เนื่องจากมีเหตุการณ์คาดไม่ถึงบางอย่าง การต่อสู้ได้ชะงักเล็กน้อย แต่แล้วก็เริ่มต้นอีกครั้งทันที
เย่คงและเจ้าอ้วนไห่สามารถเอาชนะศัตรูหลังจากได้รับพลังสนับสนุนจากวิชาพยุหะมหาโทเทมทำให้พลังของพวกเขาเพิ่มขึ้น เมื่อเห็นเหตุการณ์โชคร้ายที่เกิดขึ้นไป๋หวินเฟยควักกล่องดำปีศาจ กล่องระดับศักดิ์สิทธิ์นี้เต็มไปด้วยคำสาปและความจริงเป็นดาบสองคม เมื่อเปิดออกศัตรูของผู้ใช้จะต้องคำสาป อย่างไรก็ตามมีทางเป็นไปได้ว่าคำสาปนั้นอาจส่งผลกระทบต่อเจ้าของด้วยคำสาปที่ร้ายแรง นักรบปกติจะไม่ใช้มันเพราะแต่ละครั้งที่กล่องเปิดออก โอกาสที่คำสาปจะส่งผลย้อนกลับและโชคดีอาจจะไม่อยู่กับเจ้าของในการต่อสู้ครั้งหน้า
อย่างไรก็ตามไป๋หวินเฟยไม่กังวลแม้แต่น้อย จากสถานที่ของจ้าวปีศาจดึกดำบรรพ์เขาได้รับวิธีเร้นลับให้มีภูมิคุ้มกันจากคำสาป
นี่หมายความว่าคำสาปเพียงแต่โจมตีศัตรูของเขาเมื่อเขาเปิดกล่องออก
ไม่มีทางสำหรับเขา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้รับผลสะท้อนกลับ
“กล่องปีศาจ เปิด”
ไป๋หวินเฟยค่อยๆ เปิดกล่องออกปล่อยแสงสีดำชั่วร้ายภายในออกมา
แสงสีดำค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปปีศาจตนหนึ่ง และกระโจนไปทางเสวี่ยทันหลาง เสวี่ยทันหลางพยายามหลบ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เนื่องจากคำสาปส่งผลแล้ว เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นองค์ชายเทียนหลัววิ่งเข้ามาหาเสวี่ยทันหลางและผลักเขาออกไป ใช้ร่างตนเองขวางปีศาจไว้ ด้วยพลังทั้งหมดของเขาองค์ชายเทียนหลัวสร้างโล่เทพอัคคีและป้องกันไป๋หวินเฟยที่กำลังโจมตีมาจากด้านบน
เสวี่ยทันหลางโกรธ เขามีสีหน้าที่เย็นชาถลึงตามอง
เขาไล่ตามหลังไป๋หวินเฟยและใช้พลังโจมตีหนักหน่วง
กระแทกเขาลง
น่าแปลกประหลาดที่พลังโจมตีรุนแรงที่ไป๋หวินเฟยได้รับไม่มีผลใดต่อเขา ตรงกันข้ามองค์ชายเทียนหลัวกระอักโลหิตทันทีและมีรอยยุบบนเกราะของเขาอย่างเห็นได้ชัดจากนั้นร่างของเขาค่อยๆเป็นน้ำแข็ง
เสวี่ยทันหลางตะลึงเมื่อเห็นเช่นนั้น พลังโจมตีของเขากลับทำร้ายสหายของเขาแทน
“นี่คือคำสาปตัวแทน” ไป๋หวินเฟยหัวเราะอย่างภูมิใจ “โอว, เสวี่ยทันหลาง รู้ไหมทำไมข้าไม่หลบเมื่อเจ้าโจมตี? ความจริงข้าต้องการให้เจ้าโจมตีข้าหนักๆมันสบายตัวยิ่งนัก ... ถ้าเพียงแต่เจ้าซัดให้หนักขึ้น ยิ่งหนักก็ยิ่งสบาย เป็นไงเล่า? ฮ่าฮ่า ต้องการรู้ไหมทำไมข้าไม่กลัวคำสาปกล่องปีศาจ? นั่นเป็นเพราะข้ามีคำสาปอยู่ในตัวข้าเองอยู่แล้วและตราบใดที่คำสาปเล็กน้อยนี้ยังคงอยู่ กล่องปีศาจก็จะไม่ปล่อยคำสาปใส่ข้า นอกจากนี้ตราบใดที่ข้ายังถือกล่องปีศาจ พวกเจ้าทุกคนจะต้องพบจุดจบอย่างน่าสมเพช”
“.....” เสวี่ยทันหลางอุ้มองค์ชายเทียนหลัวที่ร่างสั่นสะท้านและเงยหน้าขึ้นจ้องไป๋หวินเฟยด้วยสายตาที่เกลียดและโกรธ
“ไม่เป็นไร, ข้าไม่เป็นไร” องค์ชายเทียนหลัวยังคงมีเลือดไหลจากปาก เขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจะยืน แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากอาการบาดเจ็บของเขาสาหัสมาก
ถ้าเสวี่ยทันหลางโจมตีธรรมดา ภายใต้เงื่อนไขธรรมดาองค์ชายเทียนหลัวจะสามารถต้านทานด้วยพลังต้านทานของเขาได้ อย่างไรก็ตาม คำสาปตัวแทนนี้ทำให้เขาไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย แค่โจมตีครั้งเดียวก็ทำให้อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างหนัก เหตุที่แท้จริงที่ทำให้องค์ชายเทียนหลัวบาดเจ็บหนักก็คือนอกจากทำให้เขาป้องกันตัวไม่ได้แล้ว คำสาปยังทำให้พลังเยือกแข็งของเสวี่ยทันหลางซึมซาบลึกเข้าไปถึงอวัยวะภายในขององค์ชายเทียนหลัว
ไป๋หวินเฟยไม่พอใจที่เสวี่ยทันหลางจ้องหน้าเขาอย่างนั้นอย่างไม่พอใจและโกรธ เขารู้สึกว่าในฐานะผู้ชนะเขาไม่ควรจะถูกจ้องมองอย่างนั้น
เขาต่อยใส่อกตัวเองอย่างแรง
ทำร้ายตนเอง?
องค์ชายเทียนหลัวกระตุกทั้งตัวและกระอักโลหิตออกมาทางปากเห็นได้ชัดว่าอกของไป๋หวินเฟยไม่เป็นอะไร แต่รอยกระแทกปรากฏอยู่ที่อกขององค์ชายเทียนหลัว ภายใต้พลังคำสาปตัวแทนซี่โครงของเขาหักสามซี่ ขณะนี้หมัดฮิปโปดาวตกและเสาโทเทมระเบิดได้หยุดอยู่ที่หน้าผากของเขา
ตอนนี้ทุกคนเข้าใจเหตุผลที่กล่องคำสาปปีศาจเป็นสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์ กลับกลายเป็นว่าคำสาปนั้นมีผลอยู่เรื่อยๆ
มันไม่จำกัดเฉพาะใช้งานครั้งเดียว
คำสาปตัวแทนบนร่างขององค์ชายเทียนหลัวยังคงส่งผลอยู่เรื่อย
ก่อนที่คำสาปตัวแทนจะถูกขับไล่ อาการบาดเจ็บของไป๋หวินเฟยจะถูกส่งไปที่องค์ชายเทียนหลัว
นี่คือด้านที่น่ากลัวที่สุดของคำสาป...
เจ้าอ้วนไห่และเย่คงที่โกรธจัดจนปอดแทบระเบิดออกต่างก็หยุดโจมตีเพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้ไม่เลินเล่อใช้พลังทำร้ายสหายพวกเขาจนตาย
ทุกคนหยุดมือ แต่เซี่ยเชียนเริ่นไม่หยุด
เขาใช้กรงเล็บฟันใส่หลังเย่คงและเจ้าอ้วนไห่จนเป็นแผล เนื้อและเลือดกระเด็นไปทั่ว...เย่คงและเจ้าอ้วนไห่ต้องการจะโต้ตอบในตอนแรก แต่ไป๋หวินเฟยชูหมัดทันทีและเตรียมกระแทกหัวทันที เสวี่ยทันหลางคำรามด้วยความเศร้าใจและพาองค์ชายเทียนหลัวหนีห่างไปร้อยเมตรเตรียมหลบหนี อย่างไรก็ตามไป๋หวินเฟยมาปรากฏอยู่หน้าพวกเขาและจ้องมองเสวี่ยทันหลางอย่างเจ้าเล่ห์ “คุกเข่าลงไม่อย่างนั้นองค์ชายเทียนหลัวจะต้องตายทันที! หนีไปก็ไร้ประโยชน์คำสาปนี้มีผลในรัศมีหลายร้อยเมตร เจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีไปได้ไกลเพียงไหน? ถ้าเจ้าไม่ต้องการเห็นสหายล้มลงกระดูกแตกหัก จงคุกเข่าต่อหน้าข้าเดี๋ยวนี้”
“เป็นไปไม่ได้, ข้ายอมตายดีกว่า! องค์ชายเทียนหลัวดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด
“เผียะ!” ไป๋หวินเฟยตบหน้าตนเองเต็มแรง “หุบปาก ไม่ใช่คราวเจ้าพูด! ตอนนี้ข้าเป็นเจ้าคำพูดข้าเป็นนาย!”
ไป๋หวินเฟยต้องการจะตบองค์ชายเทียนหลัวเป็นครั้งที่สอง แต่เสวี่ยทันหลงหยุดเขาด้วยความโกรธและผลักร่างไป๋หวินเฟยลงกับพื้นทั้งตัว เขาเงื้อหมัดขึ้นและเกือบจะทุบหัวของไป๋หวินเฟยให้แตกเหมือนแตงโมแล้ว
เย่คงและเจ้าอ้วนไห่ยื้อหมัดของเสวี่ยทันหลางสุดกำลัง “ต้องมีทางถอนคำสาป ต้องมี! อย่าใจร้อน! เราค่อยคิดกัน ต้องมีทางไล่ไอ้คำสาปบ้านี่!ปล่อยไอ้สวะไป๋หวินเฟยนี่มีชีวิตไปก่อน เจ้าอดกลั้นตัวเองสักพัก ข้าจะคิดหาทางเร็วๆ...” ขณะที่เย่คงและเจ้าอ้วนไห่แนะนำเสวี่ยทันหลาง ไป๋หวินเฟยค่อยๆ ลุกขึ้นยืน หน้าของเขาเต็มไปด้วยความผยองลำพอง เขาปัดฝุ่นที่เสื้อผ้า แสดงความใจเย็น เซี่ยเชียนเริ่นเซี่ยเชียนชิวและไป๋หวินเฟยเริ่มโจมตีองค์ชายเทียนหลัวอย่างบ้าคลั่ง
เสวี่ยทันหลางเย่คงและเจ้าอ้วนไห่ใช้ร่างปกป้ององค์ชายเทียนหลัวที่หมดสติไปแล้ว พวกเขาไม่เคลื่อนไหวภายใต้การโจมตีของศัตรู
เมื่อพี่น้องตระกูลหลี่เข้ามาร่วมสู้ไป๋หวินเฟยเปิดกล่องปีศาจอีกครั้งหนึ่ง
เป็นครั้งที่สองที่เขาใช้มัน
พี่น้องตระกูลหลี่ตาบอดทันทีทำให้เซี่ยเชียนเริ่นโต้ตอบได้อย่างหนักเตะเขาจนปลิวกลับไปทันที
“ข้าจะไปเอง!” หลิวเย่ไม่รู้ว่าทักษะชำระใจจะสามารถขับไล่คำสาปของสมบัติศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่ แต่ไม่มีทางที่นางจะทำอะไรได้และดูสหายถูกศัตรูทุบตี
“หนีไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!” เสวี่ยทันหลางมีใบหน้าโชกเลือดจับมือเซี่ยเชียเริ่นและโยนเขาออกไป เย่คงและเจ้าอ้วนไห่ร่วมมือกันทันทีเตะเซี่ยเชียนเริ่นและตรึงไป๋หวินเฟย พวกเขาเข้าใจว่าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะไป๋หวินเฟยผู้ถือสมบัติศักดิ์สิทธิ์ด้วยวิธีธรรมดา นี่ไม่เพียงแต่เป็นคำสาปของสิ่งประดิษฐ์ชั้นศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเป็นแผนของจ้าวปีศาจดึกดำบรรพ์
จ้าวปีศาจดึกดำบรรพ์ได้คาดการณ์ผลเช่นนี้ไว้ก่อนแล้ว เว้นแต่เย่ว์หยางจะอยู่ที่นี่ พวกเขาจะไม่สามารถทำลายแผนการของศัตรูได้
ตอนนี้ ถ้าพวกเขายังคงสู้ต่อไป พวกเขามีแต่จะเร่งความตายให้กับองค์ชายเทียนหลัว
ดังนั้นพวกเขาเลือกได้แต่เพียงหลบหนี
เซี่ยเชียนเริ่นโกรธจัด เมื่อเขาแค่คิดแต่จะทุบตีพี่น้องตระกูลหลี่ ฟ่านหลุนเถี่ยและคนอื่นๆ ในตอนนี้ เสวี่ยทันหลางใช้น้ำแข็งผนึกการโจมตีไว้ อีกด้านหนึ่งเซี่ยเชียนชิวที่บุกใส่หลิงเย่โชคร้ายยิ่งกว่า ด้วยทักษาชำระใจเขาเริ่มส่งเสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด เขารีบหนีออกมาจากหลิวเย่ขณะที่ร่างของเขาเริ่มมีควันลุกไหม้
เพียงเท่านั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าหลิวเย่ไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาจะสามารถทำอะไรตามต้องการได้
ฟ่านหลุนเถี่ยเป็นนักรบเผ่าทอเรนที่ไม่เคยถอยในเวลาปกติ อย่างไรก็ตามวันนี้นางเป็นคนแรกที่ยืนยันให้ทำเช่นนี้ ขณะที่นางเข้าไปสนับสนุนพี่น้องตระกูลหลี่ “ไป ไปกันเถอะ!”
พวกขุนพลปีศาจที่อยู่ในตำแหน่งเสียเปรียบเริ่มตีวงล้อมพวกเขาอีกครั้ง
คิดจะหนี?
ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก!
ในสถานการณ์ที่การสู้หรือการหนีเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาเป่าเอ๋อผู้ไม่ได้ต่อสู้อะไรเลยตั้งแต่ต้น ยืนขึ้นและพูดอย่างละอายใจเล็กน้อย “ทำไมข้าไม่พยายามทำอะไรเลย! ข้าไม่รู้ว่านี่จะใช้ได้หรือเปล่า แต่พี่เย่ว์หยางบอกว่าข้าคือดาวแห่งโชค ลองดูก็ได้ ถ้าไม่ได้ผล อย่ามาว่าข้าก็แล้วกัน!
คำพูดของนางเป็นเหมือนแสงสว่างยามเที่ยงวัน ทำให้หัวใจทุกคนสว่างไสวทันที
เจ้าอ้วนไห่น้ำตาเริ่มร่วง “เจ้าแม่สุดที่รัก!ทำไมเจ้าไม่พูดให้เร็วกว่านี้? เจ้าทำเอาข้าตกใจแทบตาย! เร็วๆ เข้า ช่วยสหายผู้นี้ด้วย จนตอนนี้จำนวนคนที่ยินดีเรียกข้าว่าพี่ใหญ่ลดน้อยทุกทีแล้ว ดังนั้นเจ้าช่วยกู้หน้าข้าที ถ้าสหายผู้นี้ตายอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าได้ฉีกกระดูกข้าเป็นแน่ และข้าจะไม่มีทางได้ยืมหนังสือโป๊จากเขาอีกต่อไป!”
เสวี่ยทันหลางมาปรากฏตัวข้างเป่าเอ๋อทันที มือของเขาหยุดหมัดของไป๋หวินเฟยที่เตรียมกระแทกเป่าเอ๋อและกล่าว “หนี้ของเจ้า ข้าจะจดบัญชีไว้ใช้คืนในอนาคต! ไป!”
ทันทีที่เขาพลิกมือไป๋หวินเฟยนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสามกระเด็นไกลไปในท้องฟ้า
ไป๋หวินเฟยร่วงลงพื้น ตกใจจนพูดไม่ออก
เสวี่ยทันหลางมีพลังเท่าเขาแล้วตอนนี้เขาแข็งแกร่งขึ้นมากได้ยังไง?
หรือนี่เป็นพลังยามที่เขาโกรธ? หรือว่าศักยภาพปราณก่อกำเนิดในตัวของเสวี่ยทันหลางยังไม่ได้ปล่อยออกมา
เป่าเอ๋อรีบเรียกคัมภีร์อัญเชิญและเรียกอสูรพิทักษ์ของนางออกมา‘ภูตบุปผาน้อย’ภูตบุปผาน้อยตรงเข้าหาองค์ชายเทียนหลัวที่ไม่ได้สติและบินอยู่รอบตัวเขา เพียงภูตน้อยสะบัดมือแสงสีรุ้งก็เข้าไปในร่างขององค์ชายเทียนหลัว
ทันใดนั้นเงาปีศาจกระโดดออกมาจากร่างขององค์ชายเทียนหลัวเหมือนกับว่าไม่สามารถทนอยู่ภายในได้อีกต่อไป
โดยไม่ให้โอกาสได้หลบหนี ภูตบุปผาน้อยคลุมม่านคล้ายลูกโป่งใสกักมันไว้ทันที
ร่างเงาปีศาจดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แต่ไม่สามารถหนีไปได้
เป่าเอ๋อตะโกนอย่างตกใจ “อย่างนี้ก็แย่น่ะสิ! ภูตบุปผาน้อยของเขาไม่สามารถขับคำสาปได้ ข้าได้แต่ทำให้มันอ่อนแอ เราต้องหาคนที่ทนต่อคำสาป ข้าไม่สามารถไล่คำสาปได้หมด”
ฮ่าฮ่าฮ่า!
ไป๋หวินเฟยมีสีหน้าน่าเกลียดมากในตอนแรก แต่หลังจากได้ยินเช่นนี้เขาคิดว่าเด็กสาวเอลฟ์ทองเป็นเหมือนแค่ฝนตกฟ้าร้องเท่านั้น
ไป๋หวินเฟยเซี่ยเชียนเริ่นและเซี่ยเชียนชิวหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ยินดีกับตนเอง
เนื่องจากพวกเขาต้องหารคนที่ทนรับคำสาปตัวแทน พวกเขาจะต้องทนถูกพวกเขาบีบคั้นต่อไป องค์ชายเทียนหลัวบาดเจ็บสาหัส นั่นเป็นสถานการณ์ที่เหมาะจะเปลี่ยนเป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่หรือ? ไป๋หวินเฟยหัวเราะอย่างมีความสุข เซี่ยเชียนเริ่นหัวเราะลั่น ดีใจกับตนเองเซี่ยเชียนชิวหัวเราะอย่างน่าสังเวช การหัวเราะของเขาน่ารังเกียจจนทุกคนอยากใช้มีดแล่เนื้อเลาะกระดูกเขายิ่งนัก
ฮ่าฮ่าฮ่า!
ทันใดนั้น เย่คงยังคงหัวเราะ เขาหัวเราะเหมือนกับคนบ้า
จากนั้นเจ้าอ้วนไห่ก็เริ่มหัวเราะเช่นกัน ในทันทีหลังจากนั้นเสวี่ยทันหลางที่ปกติไม่เคยหัวเราะก็เริ่มหัวเราะ แม้แต่พี่น้องตระกูลหลี่ที่ปกติไม่ค่อยพูดสักคำแม้จะถูกทุบตีก็ตามก็เริ่มหัวเราะ ทุกคนเริ่มหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง หัวเราะจนน้ำตาคลอเบ้า
การที่ทุกคนหัวเราะกันหมดทำให้ไป๋หวินเฟยและพวกตกตะลึง พวกเขาจ้องมองศัตรูที่ดูเหมือนเป็นบ้าไปแล้วอย่างว่างเปล่า
มันเรื่องบ้าอะไรกัน?
คนเหล่านี้เป็นบ้าไปเพราะพวกเขาไม่สามารถทนความเจ็บปวดหลังจากโดนทุบตีอย่างหนักหรือ? เซี่ยเชียนชิวโกรธและร้องออกมาอย่างโมโหด้วยเสียงที่เหมือนอีกา “อย่าหัวเราะ!นี่มันตลกตรงไหนกันวะ? หุบปากเลยทุกคน! พวกเจ้ากำลังจะตายทุกคน มีอะไรที่ขำกันนักหนา? หุบปาก! พวกเจ้าโง่กันทุกคนใครจะเข้าใจกันว่าชีวิตของพวกเจ้าจบแล้ว เจ้าพวกโง่!”
“เสียใจด้วยจริงๆ แต่ตอนนี้ข้าคิดว่ามันน่าตลกมาก” เย่คงไม่สนใจเซี่ยเชียนชิว เขาหันไปขออภัยเป่าเอ๋อ จากนั้นลูบศีรษะนางช้าๆ “รีบใส่คำสาปมาในร่างข้า ข้ารอไม่ไหวแล้ว ข้าอยากรู้ผลของคำสาปนี้ ตอนนี้เจ้าเอาคำสาปตาบอดที่ตัวพี่น้องตระกูลหลี่มาไว้ในตัวข้าได้ไหม? ใช่ยิ่งเจ้าเอาคำสาปมาใส่ในตัวข้าทั้งหมดก็ยิ่งดี โปรดย้ายคำสาปมาไว้ในตัวข้า!”
“ยิ่งเจ้ามีคำสาปมากก็ยิ่งดีงั้นหรือ?” ไป๋หวินเฟยตกตะลึง เป็นไปได้ไหมว่าเย่คงมีทักษะแฝงเร้นที่ทำให้เขามีภูมิต้านทานคำสาป?