ตอนที่ 631 เจ้าตายแล้ว!
ดินแดนรกร้าง การต่อสู้ทวีความรุนแรงขึ้น
จ้าวมังกรทองดิ่งลงมาที่พื้นขณะที่พ่นไฟมังกรที่สามารถละลายพื้นได้
องค์ชายเทียนหลัวต้องรีบถอยอย่างรวดเร็ว มังกรปีศาจอีกตัวหนึ่งร่วมมือกับจ้าวมังกรทองพ่นไฟปีศาจและพิษกัดกร่อน พิษที่มีอุณหภูมิสูงเดือดเป็นไอมีคุณสมบัติกัดกร่อนที่รุนแรง ฟ่านหลุนเถี่ยใช้ขวานขว้างใส่มังกรปีศาจ ขณะที่อยู่ในอากาศขวานถูกพิษฉีดจนหลอมละลายเหลือแต่ของเหลวสาดกระเซ็นลงพื้น
มนุษย์เผ่าวัวเลโอและฟ่านหลุนเถี่ยไม่สามารถปลีกตัวไปช่วยองค์ชายเทียนหลัวสู้กับมังกรได้ เนื่องจากพวกเขาตกอยู่ในวงล้อมของหมีปีศาจห้าตัวและปีศาจแดนอเวจีอีกสองตัว
ถ้าไม่ใช่เพราะเอลฟ์ทองลีน, แอนนาและเป่าเอ๋อช่วยทั้งสองอาจตกอยู่ในอันตราย
“พลังชำระใจ!” ทักษะแฝงเร้นชำระใจของหลิวเย่ไม่มีประโยชน์กับคนธรรมดา อย่างไรก็ตาม กับขุนพลปีศาจแดนนรกมันกลับทรงพลัง แม้ว่าปีศาจพวกนั้นจะถึงระดับปราณก่อกำเนิดแล้วก็ตาม
“มนุษย์บัดซบ,ทักษะแฝงเร้นระยำ!”
ขุนพลปีศาจซึ่งแข็งแกร่งมากกว่าหลิวเย่หลบหนีแสงสีขาวที่หลิวเย่ปล่อยออกมาด้วยความตกใจกลัว
เขาวิ่งหนี แต่ก็ยังไม่วายทิ้งคำสบถด่า และแสดงความเกลียดชังออกมาจากตัวเขา
มันต้องการใช้ขวานโลหิตของมันฟันใส่หลิวเย่ให้ขาดเป็นสองท่อนในการฟันครั้งดียว แต่ในไม่ช้ามันก็พบว่าต่อให้มันแข็งแกร่งมากกว่าสามเท่า ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้น เด็กผู้หญิงตัวเล็กไม่มีอันตรายได้รับการปกป้องโดยอสูรพิทักษ์ตัวหนึ่งกวางทะลุมิติ กวางตัวนี้ไม่มีพลังโจมตี แต่มันสามารถเคลื่อนที่ผ่านอุปสรรคขัดขวางทางได้แน่นอน ควบคู่กับการเคลื่อนไหวที่ประสานเข้ากับเจ้านาย ทั้งสองมีทักษะหลบหนีที่ไม่ธรรมดา
การโจมตีไม่สามารถทำอะไรนางได้
ที่แย่ที่สุดก็คือ ไม่มีทางที่ความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามจะหลบหนีพ้นการไล่ตามของนาง
กวางทะลุมิติและสาวน้อยนี้แทบจะมาถึงพร้อมกัน ไม่ว่าเมื่อใดที่พวกเขาตามฝ่ายตรงข้ามทัน คู่ต่อสู้ของพวกเขาก็จะสิ้นหวัง นอกจากนี้สาวน้อยที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอนี้ยังปล่อยแสงที่นุ่มนวลซึ่งส่งผลทำร้ายร่างกายปีศาจ แม้แต่พลังป้องกันของร่างกายนักสู้ปราณก่อกำเนิดก็ยังไม่พอต้าน..
ขุนพลปีศาจมั่นใจว่าสาวน้อยนี้คือนักรบมนุษย์ นางไม่สามารถเอาชนะนักสู้ระดับหกด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ถ้านางสู้กับพวกเขา นางสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด และเล่นงานเขาย่ำแย่ นับว่าน่ากลัวอย่างแท้จริง
“หยุดนิ่ง, ชำระใจ!” หลิวเย่ไม่เคยสู้กับศัตรูตามลำพัง นี่แตกต่างจากการปฏิบัติตามปกติของพวกเขาตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามทุ่มชีวิตสู้ สำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์การต่อสู้อย่างแท้จริง หลิวเย่รู้สึกหงุดหงิด แต่ในฐานะศิษย์ที่ว่าง่ายของเย่ว์หยาง นางมักจะจำสิ่งที่เขาสอนนางไว้เสมอ และนั่นเป็นกลยุทธ์ที่เขาพัฒนาขึ้นมาเพื่อนาง นางใช้ออกอย่างพีถีพิถัน...แต่นางยังใหม่ต่อสนามรบ ด้วยกลยุทธนี้ บางทีแทบทำให้นางเป็นผู้เชี่ยวชาญไปเลย
กลยุทธที่เย่ว์หยางพัฒนาขึ้นมีรายละเอียดมากจนทำให้พวกศัตรูสิ้นหวังเกินกว่าจะตอบโต้
หลิวเย่เลือกศัตรูที่มีปราณปีศาจแน่นที่สุด เย่ว์หยางบอกนางไว้ก่อนว่าศัตรูแบบนี้นางจะฆ่าได้ง่ายที่สุด เว้นแต่คู่ต่อสู้เป็นระดับสูงกว่าปราณก่อกำเนิดระดับหกนางที่มีทักษะแฝงเร้นชำระใจ นางไม่จำเป็นต้องกลัวศัตรูที่มีปราณปีศาจหนาแน่น
ทักษะแฝงเร้นชำระใจเป็นดาวข่มปราณปีศาจ,พิษและวิญญาณปีศาจทุกชนิด
เมื่อใช้คู่กับกวางทะลุมิติในการเคลื่อนที่ ทันทีที่พลังงานบริสุทธิ์ของนางสัมผัสกับศัตรูก็จะทิ้งพลังอยู่ในร่างพวกเขาทันที
หลิวเย่ไม่จำเป็นต้องหาจุดอ่อนของพวกเขา ทั้งหมดที่นางจำเป็นต้องทำคือโจมตีต่อไป....ถ้าศัตรูใช้พลังของพวกเขาเต็มที่ กวางทะลุมิติจะวิ่งตรงเข้าใส่พวกเขาและตราบใดที่นางก้าวเข้าไปกับกวาง นางจะไม่มีทางได้รับอันตราย สำหรับหลิวเย่ ถ้านางยังคงตั้งใจผสานการโจมตีจากเย่คง เจ้าอ้วนไห่และพี่น้องตระกูลหลี่ นางจะสามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัย อย่างน้อยครึ่งชั่วโมงโดยไม่ต้องมีการป้องกัน
ในตอนนี้นางไม่สามารถเทเลพอร์ตไปพร้อมกับใครได้
ถ้าหลิวเย่นำสหายนางเข้าโจมตีพร้อมกับนางในการสู้ ศัตรูเป็นต้องน้ำตาร่วงทุกครั้ง
“ไสหัวไป! ข้าไม่อยากสู้กับเจ้า!” ขุนพลปีศาจรู้สึกกดดันจนอยากจะฆ่าตัวตาย มันถูกโดนโจมตีไปมากกว่ายี่สิบครั้งและไม่สามารถแตะต้องศัตรูได้เลยแม้แต่น้อย
“ชำระใจ,หัวใจและความคิดข้าสะอาด ข้าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ข้าแค่ตั้งสมาธิ” หลิวเย่ยังพึมพำกับตนเองอย่างงงงวย เย่ว์หยางบอกนางไว้ก่อน ไม่จะเจอภาษาที่สกปรกหยาบคายที่ศัตรูยั่วยุนางเพียงใด นางต้องรักษาใจให้สะอาด เมื่อนางเผชิญหน้ากับศัตรู ก็พร้อมที่จะฆ่านางไม่อาจจะสูญเสียสมาธิได้ นี่เป็นครั้งแรกที่นางเผชิญกับศัตรูตามลำพัง นางจำเป็นต้องเตือนตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ให้สนใจจากภาษาสกปรกหยาบคายที่ศัตรูล่อลวงนาง
“อุ๊ฟฟฟ” ขุนพลปีศาจได้รับบาดเจ็บก็โกรธ มันขว้างเลือดใส่
“ไสหัวไป เจ้ามดชั้นต่ำ ไปตายซะ!” ในสนามต่อสู้อีกด้านหนึ่ง พวกเขาสู้กับเซี่ยเชียนชิวที่มีร่างเต็มไปด้วยหนอนนั่นทำให้เขาไม่กลัวการโจมตีใดๆ
ทุกครั้งที่พี่น้องตระกูลหลี่สามารถสร้างรูในตัวของเซี่ยเชียนชิว เซี่ยเชียนชิวก็จะมีหนวดสัตว์งอกขึ้นมาปิดรูเหล่านี้
ตรงกันข้ามหนวดสัตว์บนร่างของเขาจะหวดเข้าใส่พี่น้องตระกูลหลี่อย่างดุร้ายจนพวกเขากระเด็นไปในอากาศ
ถ้าไม่ใช่เพราะพลังป้องกันของมดทหารทองทั้งสองคนคงถูกกระแทกเละไปแล้ว
เซี่ยเชียนชิวเป็นเหมือนหนอนตะกละตะกลาม เขาไล่โจมตีพี่น้องตระกูลหลี่อย่างดุร้ายพลางหัวเราะขณะโจมตี “ไอ้พวกโง่ ข้าคงกระพันเว้ย, คนอ่อนแออย่างพวกเจ้าไม่มีทางเข้าใจพลังของข้า ข้าเป็นอมตะ เจ้าไม่สามารถฆ่าข้าได้ มาเลย มาฆ่าข้า!ใช้อาวุธของเจ้าแทงใส่ร่างข้าเลย ข้าจะตั้งท่าเท่ๆ ให้พวกเจ้าฆ่าเลยดูความไร้สามารถของตัวพวกเจ้าแล้ว น่าสมเพช ช่างเป็นโศกนาฎกรรมที่ยิ่งใหญ่ของโลก ฮ่าฮ่าฮ่า สนุกจริงโว้ย!”
บึ้ม!
เมฆคะนองแผ่มาจากด้านบนเผาหนวดสัตว์ดำของเซี่ยเชียนชิวจนเป็นเถ้าถ่าน
เหยียนพั่วจวินบินตรงมาทางพวกเขาและตะโกนบอกพี่น้องตระกูลหลี่ “เปลี่ยนคู่ต่อสู้กัน,ให้ข้าฆ่าเซี่ยเชียนชิวเอง!”
เซี่ยเชียนชิวหงุดหงิดมากและพูดด้วยเสียงเยือกเย็น “เป็นเจ้า, เหยียนพั่วจวินหรือ? เจ้างี่เง่าที่หยิ่งยโสโอหัง เจ้าคิดว่าข้าจะเป็นอันตรายเพราะเพลิงเหล่านี้? ข้ามีร่างอมตะที่จ้าวปีศาจให้เป็นของขวัญข้า แค่ไฟเล็กน้อยจากราชสีห์เพลิงของเจ้าเจ้าคิดว่าจะฆ่าข้าได้หรือ?”
“ความจริง, เจ้าตายไปแล้ว...ตัวเจ้าในตอนนี้เป็นแค่เศษเนื้อเคลื่อนที่ได้เท่านั้น!” เหยียนพั่วจวินแสดงความรังเกียจอยู่ในสีหน้าเขาขณะที่เขาพูดเช่นนี้ “คุณชายสามตระกูลเย่ว์ฆ่าเจ้าไปแล้ว เซี่ยเชียนชิวไม่ได้อยู่ในโลกนี้อีกต่อไปแล้ว เจ้า เจ้ามันก็แค่ชิ้นเนื้อเน่าๆที่เต็มไปด้วยหนอน จ้าวปีศาจดึกดำบรรพ์อาจจะบอกเจ้าว่าเจ้าเหมือนเดิม แต่เจ้าก็แค่เด็กไร้เดียงสา ยังคิดว่าเจ้ายังเป็นเซี่ยเชียนชิวคนเก่าอีกหรือ ถ้าเจ้ายังเป็นเซี่ยเชียนชิวเจ้ายังจำได้ไหมใครเป็นคู่หมั้นของเจ้า?”
“ข้า,ข้ามีคู่หมั้นด้วยหรือ? ใช่แล้วต้องเป็นนาง, ข้ามั่นใจว่าต้องเป็นนาง” เซี่ยเชียนชิวเงยหน้ามองฟ้าไปที่หลิวเย่ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ เขาเรียกความรู้สึกกลับมาและชี้ไปที่หลิวเย่ตอบเย้ยหยันเหยียนพั่วจวิน “เหยียนพั่วจวิน, เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถโจมตีข้าให้รู้สึกตกต่ำด้วยคำพูดไม่กี่คำของเจ้าหรือ? ข้าไม่ปฏิเสธว่าเมื่อข้าถือกำเนิดใหม่ ข้าสูญเสียความทรงจำในอดีตบางส่วน แต่ข้าก็คือข้าเซี่ยเชียนชิว...เจ้าคิดว่าแค่คำพูดไม่กี่คำนี้ของเจ้า จะสามารถสร้างความแตกร้าวระหว่างข้ากับฝ่าบาทจ้าวปีศาจหรือ? เข้าจะเป็นผู้ภักดีต่อฝ่าบาทตลอดไป ไม่ว่าเจ้าจะพูดยังไงก็เปล่าประโยชน์!”
“ช่างโง่เสียจริง ข้าไม่ได้บอกอะไรเจ้าเลยแม้แต่น้อย เจ้าไม่เข้าใจหรือเซี่ยเชียนชิว? เจ้า เซี่ยเชียนชิวและแม้แต่ไป๋หวินเฟยล้วนแต่เป็นกาฝากทั้งนั้น พวกเจ้าตายกันหมดแล้วและกลายเป็นของเล่นให้จ้าวปีศาจเชิดเล่น!” เหยียนพั่วจวินไม่สนใจเซี่ยเชียนชิวอีกเขารั้งสายตากลับมาที่การสู้ระหว่างเย่คง เจ้าอ้วนไห่และเซี่ยเชียนเริ่น
“...ไม่ต้องพูดอีกต่อไปแล้ว ข้าจะไม่มีทางเชื่อเจ้า เหยียนพั่วจวิน, เก็บอุบายของเจ้าไปซะ!” เซี่ยเชียนเริ่นสีหน้ากลายเป็นน่าเกลียดทันที
“น่าสงสารก็แค่ร่างกาฝาก!” เย่คงโบกมือให้เจ้าอ้วนไห่ “ข้าจัดการเจ้านี่ตามลำพังได้”
“เจ้าลิงผอม,อย่าตายซะล่ะ!”
เจ้าอ้วนไห่ออกจากที่ต่อสู้พร้อมกับนางนวลสายลมของเขาเขามองดูพื้นที่ต่อสู้ที่ตึงเครียดและนั่นเป็นการต่อสู้ของมนุษย์เผ่าหัววัวเลโอและฟ่านหลุนเถี่ย
เซี่ยเชียนเริ่นสั่นด้วยความโกรธและตะโกนบอกเซี่ยเชียนชิว “โจมตี, ใช้วิชาทะเลหนอนของเจ้าซะอย่าปล่อยให้เหยียนพั่วจวินใช้คำพูดหลอกล่อ ฆ่าเขาซะ!” แทบจะทันทีที่เขาพูดก็มีเสียงกึกก้องดังจากท้องฟ้าฟงชิซาป้องกันศัตรูของเขาและมาถึงข้างตัวเหยียนพั่วจวินขณะที่มองดูเย่คงและกล่าว “เราใช้พยุหะมหาโทเทมกันเถอะ”
พี่น้องตระกูลหลี่ในท้องฟ้าตอนนี้ตีลังกาลงกลับมายืนที่พื้น มีเสาเหล็กอุกกาบาตเพิ่มขึ้นมาในซากหักพัง
สนามพลังเหมือนพลังงานพุ่งขึ้นมาจากพื้นและครอบคลุมเต็มสนามรบ
นอกจากการต่อสู้ของไป๋หวินเฟยและเสวี่ยทันหลางในท้องฟ้า คนอื่นทุกคนจะได้ผลจากวิชาพยุหะมหาโทเทมและพลังงานของมัน ปีศาจไป๋หวินเฟยบินรอบเสวี่ยทันหลางอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้ขี่จ้าวมังกรทองเนื่องจากต้องการเน้นที่ความเร็ว
เสวี่ยทันหลางเป็นคู่ต่อสู้พิเศษเฉพาะ
เขาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงขณะที่ความเชี่ยวชาญในการแช่แข็งคู่ต่อสู้ของเขา ทำให้ปฏิกิริยาของพวกเขาลดลงมากมาย
พายุยักษ์ผสานเข้ากับเสวี่ยทันหลางทำให้เขาควบคุมอากาศโดยรอบขณะที่สร้างพายุหิมะในอากาศจนเกิดเป็นพายุหมุนขนาดยักษ์... แม้ว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมสายฟ้าได้ แต่เขาก็สามารถใช้พายุควบคุมสายฟ้า.. ด้วยการเพิ่มพลังพายุเขาทำให้จ้าวมังกรทองซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่เป็นน้ำแข็ง ไป๋หวินเฟยถูกหมัดยะเยือกโจมตีทำให้ร่างกายครึ่งล่างเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง ถ้าไม่ใช่เพราะไฟปีศาจที่ยังคงไหม้อยู่ เขาคงตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบไปแล้ว
ในที่สุดไป๋หวินเฟยก็เข้าใจแล้วว่าเสวี่ยทันหลางไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง
อัจฉริยะที่ไม่ธรรมดา
แม้ว่าเขาจะไม่น่ากลัวเท่ากับคุณชายสามตระกูลเย่ว์ แต่เสวี่ยทันหลางก็ไม่ใช่ธรรมดา...โชคดีที่ไป๋หวินเฟยไวกว่า
ความเร็วคือเคล็ดในการเอาชนะศึกนี้!
“ตาย!” ไป๋หวินเฟยเคลื่อนที่ไวราวกับสายฟ้าและผ่านเสวี่ยทันหลางหลบหมัดยะเยือกที่มาถึงกดกรงเล็บที่ร้อนแรงใส่อกของเสวี่ยทันหลางและสร้างระเบิดเพลิงปีศาจ
“นี่คือพลังสุดยอดของนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสามหรือ” เสวี่ยทันหลางมีโลหิตไหลออกทางมุมปากเขาเช็ดออกก่อนจะมองดูที่อกซึ่งมีรอยไหม้ของกรงเล็บ จากนั้นเป่าลมหายใจและเพลิงปีศาจกลายเป็นเยือกแข็ง
ไป๋หวินเฟยคิดว่าการลอบโจมตีแบบนี้จะทำให้เขาได้เปรียบ แต่ในขณะที่เขาฉลองชัยให้ตัวเอง เขาตระหนักว่าการโจมตีของเขาพลาดท่าอย่างรวดเร็ว
เขารู้สึกว่าความเจ็บปวดเล็ดรอดออกมาจากฝ่ามือของเขา
เขาค่อยๆรู้ว่าเพลิงปีศาจในมือของเขาเริ่มหรี่ลงและชั้นน้ำแข็งถูกสร้างอยู่บนมือของเขาและค่อยสลายลงช้าๆ
ไป๋หวินเฟยสูดหายใจลึกและระบายลมหายใจออก “เจ้าพัฒนาก้าวหน้าอย่างแท้จริง เสวี่ยทันหลาง ดีมาก เจ้าคู่ควรจะได้เห็นพลังเต็มพิกัดของข้า!”
ทันใดนั้น,เสวี่ยทันหลางหายไปและเมื่อเขาปรากฏอีกครั้ง เขาลงมายืนอยู่บนศีรษะของจ้าวมังกรทอง เขาวางมือที่หัวอสูรนั่น ด้วยพลังกดที่รุนแรงหนักหน่วงมังกรทองร่วงลงพื้น... ไป๋หวินเฟยพยายามจะช่วยมังกรแต่องค์ชายเทียนหลัวกางโล่เพลิงป้องกันและหยุดไป๋หวินเฟยที่เพิ่งเตรียมพร้อมกับการตอบโต้ “ไม่ใช่ว่าข้าไม่สามารถเอาชนะมังกรของเจ้าได้นะ แต่ข้าสัญญาไว้แล้วว่าข้าจะปล่อยเจ้าสามครั้ง สามครั้งเพื่อตอบแทนความโปรดปรานที่บรรพบุรุษข้ามีต่อมังกรทอง! ตอนนี้ข้าชำระหนี้ทั้งหมดให้เจ้าแล้ว!”
พลังขององค์ชายเทียนหลัวยังเป็นรองไป๋หวินเฟยแน่นอน
ปัง เสียงกระแทกกับพื้นดังขึ้น
ขณะเดียวกันกับที่ไป๋หวินเฟยโจมตี เขาพุ่งขึ้นสูงขึ้นไปหามังกรปีศาจเหมือนกับดาวตก มังกรอ้าปากใหญ่ของมันกว้างและกลืนองค์ชายเทียนหลัวในคำเดียว แต่องค์ชายเทียนหลัวเรียกดาวตกเพลิงฟ้า มันค่อยๆร่วงมาจากเบื้องบนจากช้ากลายเป็นเร็วดุจสายฟ้าและพุ่งกระแทกหลังของมังกรปีศาจทำให้มันร้องโหยหวนเจ็บปวด จากนั้นก็ร่วงลงพื้น...
“ใช้สมบัติของเจ้า!” เสียงของไป๋หวินเฟยหมองลงทันที เขาชูมือถือกล่องดำระดับศักดิ์สิทธิ์ที่มีปราณปีศาจปกคลุม
กรงเล็บเพลิงปีศาจของเซี่ยเชียนเริ่นเป็นพลังระดับทอง
และเซี่ยเชียนชิวยื่นปากออกมาและกินไข่มุกปีศาจสีเขียว
อ๊า..... ขณะที่แสงสีดำเป็นประกายรอบตัวพวกเขา ขุนพลปีศาจที่หลิวเย่สู้ด้วยก็บาดเจ็บหนักร่วงลงพื้นการได้รับบาดเจ็บหนักทำให้มันยื่นมือไปทางเซี่ยเชียนชิวและกล่าว “ช่วยข้าด้วย!” เซี่ยเชียนชิวยิ้มน่ากลัวตานับไม่ถ้วนปรากฏอยู่บนร่างของเขาและฉายแสงชั่วร้าย ทันใดนั้นหนวดที่งอกจากร่างก็พุ่งเข้าหาขุนพลปีศาจและแทงร่างของมันชิงเอาเลือดเนื้อและพลังดูดเอาร่างทั้งหมดของเขาเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขา
วิธีกินเลือดเช่นนี้ถูกใช้ออกอย่างน่ารังเกียจ
หลิวเย่แทบอาเจียน
แต่นางยั้งไว้ได้
ขณะที่นางเตรียมเริ่มการต่อสู้ เย่คงโบกมือให้นางแล้วบอก “ให้ข้าลองก่อน คนชั่วร้ายแบบนี้ เหมาะสมจะให้ข้าสู้ด้วยที่สุด!”