ตอนที่แล้วตอนที่ 628 กองกำลังเผด็จการทวีปชิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 630 ฝันป่าเถื่อนของเหออิง

ตอนที่ 629 หอกเผด็จศึกฟ้าเขียว


ถ้าเจ้าต้องการกอดโลก  เจ้าไม่อาจลืมดวงดาวได้

หิ่งห้อยแดงนำเอาความรับรู้ที่แปลกประหลาดทว่าสงบกระจายไปทั่วทุกที่    บ้านที่อยู่ตามแนวถนนเริ่มเกิดรูและโดยรวดเร็วกลุ่มรูพรุนเริ่มมากขึ้นจนดูเหมือนรังผึ้ง

ถ้าใครตกไปอยู่ในคลื่นทะเลสีแดง  เขาจะพบตัวเองหลงและถูกกลืนหายไป

ภายในทะเลหิ่งห้อยที่กว้างใหญ่นี้ ใบหน้าของบุรุษหนุ่มสะท้อนกับหิ่งห้อยและทะเลแสงร่างของเขาเคลื่อนไหวเป็นแนวตรงเหมือนกับหอก ดวงตาที่สงบของเขาดูเหมือนมองผ่านทะเลที่ไร้ขอบเขตได้

หิ่งห้อยนับไม่ถ้วนเริ่มพลุ่งพล่าน  กองกำลังเผด็จการทวีปชิงพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วราวสายฟ้า  พื้นใต้เท้าพวกเขาสั่นสะเทือนสิ่งก่อสร้างที่เต็มไปด้วยรูเริ่มพังทลาย

แสงที่ฉายออกมาทำให้หิ่งห้อยไม่สามารถเคลื่อนขึ้นหน้าไปได้แม้แต่นิ้วเดียว

เหมือนกับสัตว์ป่าที่เผชิญกับคลื่นขนาดใหญ่  ทั้งสองไม่ขยับเคลื่อนหน้าเลยสักนิด   เป็นการโจมตีเพียงครั้งเดียวแต่กองกำลังเผด็จการทวีปชิงก็ทำให้ถังเทียนรู้ว่าพวกเขามีความสามารถจะเขย่าโลกได้  และชื่อกองกำลังเผด็จการของพวกเขามิใช่ได้มาโดยไม่มีอะไร!

แต่ละวิธีการโจมตีของกองกำลังเผด็จการจะระเบิดพลังกดขี่รุนแรงและสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือต่อให้โจมตีโดยวู่วามการผสานพลังงานของพวกเขาก็ยังไร้เทียมทาน

รัศมีแสงผุดขึ้นมาเรื่อยๆ เป็นแสงสีเขียว

เป็นวิชาเฉพาะของกองกำลังเผด็จการทวีปชิง“เพลิงเขียวสวรรค์”

อาซังยิ้มอย่างเห็นได้ชัดและสงบเย็นและประกายตาของเขาฉายแสงเจิดจ้า เพลิงเขียวที่รุนแรงที่สุดของเขาตามมาด้วยเพลิงเขียวอื่นๆ ที่เขาเรียกออกมา

ร่างของเขาโค้งงอเหมือนคันธนู  ก้าวตรงเข้าหาถังเทียน

มือที่ว่างของเขาเหมือนกับพลังวังวนแสงสีเขียวทะลักเข้าหามือของเขาอย่างบ้าคลั่ง ซี่... กระแสพลังงานปลดปล่อยเสียงเหมือนคมมีดกรีดผ่านน้ำ  แสงสีเขียวของกลุ่มเขาสีเข้มทันที

หอกแสงสีเขียวแฝงด้วยปราณสะกดข่มกวาดใส่ทุกอย่างเหมือนคลื่นกระแทก

เผียะ เผียะ เผียะ!

หิ่งห้อยโดยรอบเริ่มปะทุเหมือนกับพลุไฟ

หอกเผด็จศึกฟ้าเขียว เริ่มขยายยาวถึงสิบเมตร

ถังเทียนยืนอยู่ด้านหลังหิ่งห้อย  นัยน์ตาของเขาปล่อยประกายเยือกเย็นปราณที่น่ากลัวต่อหน้าเขา พลันฉีกขาดไม่สม่ำเสมอ ปราณที่รุนแรงพลันถูกเก็บไว้ทันที ในพริบตา ผมขนทุกเส้นบนตัวถังเทียนก็ตั้งชัน  หิ่งห้อยที่ขยายอยู่ด้านหน้าเขากลายเป็นเหมือนอสูรร้ายโบราณที่หมอบรออย่างเงียบงัน

ความรู้สึกที่รุนแรงและปราณมรณะล้อมรอบถังเทียน  และสัญชาตญาณมีชีวิตรอดได้รับการกระตุ้นถังเทียนไม่ได้คิดอะไร ปล่อยให้สัญชาตญาณควบคุมสำนึก

ขาของเขาถ่างกว้าง ย่อเอวเพลิงสุญญตาเริ่มขยายอย่างเงียบงัน

เพลิงสุญญตาเริ่มหมุนโคจรอย่างรวดเร็ว

หิ่งห้อยที่ลอยอยู่รอบๆทั้งหมดเข้าไปในเพลิงสุญญตา และในเวลาอันรวดเร็วเพลิงสุญญตาสีเทาก็เริ่มกัดกร่อนหิ่งห้อย หิ่งห้อยมากขึ้นเริ่มถูกดึงดูดเข้ามาและถ้ามองลงมาจากภาพมุมสูง เมฆเพลิงทั้งหมดกำลังทะลักตรงเข้าหาถังเทียนเหมือนกับว่ามีหลุมขนาดใหญ่อยู่ที่นั่น

หิ่งห้อยนับไม่ถ้วนสร้างเปลวเพลิงที่งดงามเพลิงครอบคลุมหมัดของถังเทียน เหมือนกับวังวนที่หมุนเป็นเกลียวหางเพลิงที่ลากตามหลังขยายระยะขนาดเป็นยี่สิบเมตรเป็นภาพที่งดงามเหมือนกับภาพหางเพลิงของนกฟีนิกซ์และในท่ามกลางเปลวเพลิงที่งดงามผสมเครื่องหมายสีเทาที่ยากจะตรวจพบ

พลังงานเกลียว!

ใช้พลังงานเกลียว เขาผสานเพลิงสุญญตาและทะเลหิ่งห้อยเข้าเป็นวิชาไม้ตาย

ถ้าเป็นเซียนคนอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกัน พวกเขาจะยอมยกเลิกวิชาระดับต่ำอย่างพลังงานเกลียว  แต่สำหรับถังเทียนเขาไม่เคยสนใจว่าจะเป็นวิทยายุทธลึกซึ้งหรือตื้นเขิน  เขาเพียงแต่สนใจว่าเหมาะสมหรือไม่  อาจเป็นเพราะนิสัยที่ฝึกฝนวิทยายุทธพื้นฐานมาหลายปีก็ได้

แตกต่างจากเขาอย่างสิ้นเชิงก็คือจิ่งหาวที่มุ่งแสดงมรรคาที่แตกต่างสิ่งที่เขาไขว่คว้าก็คือความเข้าใจกฎฟ้าและดิน เขาไล่ตามหากฎธรรมชาติพื้นฐานที่สุดของโลก

หิ่งห้อยนับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้นในกระแสเปลวเพลิงแดงม้วนตัวเป็นเกลียวในลักษณะที่ไม่เสถียร

หอกแสงเขียวกระแทกใส่ใจกลางของหิ่งห้อยอย่างรุนแรงทันที

ไม่มีเสียงใดๆ เสียงหวีดหวิวผ่านอากาศมีแต่ความเงียบอย่างสิ้นเชิง เหมือนสัตว์ป่าสีเขียวที่ลอบกระโจนใส่เหยื่อของมันรัศมีทั้งหมดยังคงอยู่ข้างใน หอกเผด็จฟ้าเขียวของอาซังมาจากความสำเร็จของวิชาเพลิงที่สมบูรณ์แบบของเขา  ไม่มีพลังงานที่รั่วออกมาแสดงให้เห็นถึงการควบคุมได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ตาของถังเทียนเทียนหรี่แคบจนเท่าเข็ม

แต่หน้าของเขาไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย การสู้รบนับครั้งไม่ถ้วนขัดเกลาสภาพจิตใจของเขาให้แข็งแกร่งอดทน และนิสัยชมชอบชิงชัยทำให้เขาเต็มด้วยความตั้งใจต่อสู้ เหมือนกับเปลวเพลิงที่กระพือโหมรุนแรง

เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ในอากาศ  แต่กลับดูเหมือนว่าเขาก้าวเดินอยู่บนผิวกระแสพลังงานจากขาของเขาขึ้นมาถึงเอวและเคลื่อนไปข้างหน้า  ร่างของถังเทียนเป็นเหมือนแส้กระด้างแข็ง  หมัดของเขาเป็นเหมือนปลายแส้  เมื่อพลังมาถึงที่หมัดของเขา ก็แตกออกเหมือนสภาพทรงพลังในปัจจุบัน

ไม่มีการเคลื่อนไหวที่ลึกซึ้งเป็นหมัดธรรมดาทั่วไป เมื่อเขาปล่อยหมัดออกไป ระลอกพลังไร้ลักษณ์ก็ระเบิดออก

ระลอกพลังทำให้อากาศบิดเบี้ยว  พลังของหมัดคือสิ่งที่ทำให้พื้นที่สั่นสะเทือน

ระลอกใสก่อตัวเป็นชั้นเยื่อบางคลุมหมัดและเพลิงสีแดงของถังเทียน ทุกครั้งที่เพลิงยาวเคลื่อนไหวเป็นหางเพลิงยาว  ปราณซ่อนเร้นจะถูกปล่อยออกมาเงียบๆ  และหิ่งห้อยก็จะหรี่แสงลง

หอกแสงเขียวปะทะกับหมัดของถังเทียนโดยตรง

ปราณที่กักไว้ภายในหอกเผด็จศึกฟ้าเขียวระเบิดออกทันใด

ปัง!

แสงแพรวพราวระเบิดอยู่ต่อหน้าถังเทียนเหมือนสัตว์ร้ายที่ย่องเงียบเข้าหาเหยื่อและช่วงสุดท้ายก็ระเบิดพลังแยกเขี้ยวกางเล็บที่คมเป็นวิธีการที่มีไหวพริบแต่ทรงประสิทธิภาพ

จากท้ายของหอก มีการระเบิดพลังต่อเนื่องและทุกๆ การระเบิดก็จะเพิ่มระดับพลังด้วย เมื่อหัวหอกระเบิด พลังของหอกก็จะถึงจุดสูงสุด แสงสีเขียวบรรจุปราณ เหมือนกับค้อนหนักกระหน่ำใส่ถังเทียนโดยตรง

อาซังแสยะยิ้ม ไม่ได้เผชิญพลังของหอกเผด็จศึกฟ้าเขียวด้วยตนเองก็ไม่มีใครสามารถรู้พลังที่แท้จริงของมันได้ เหมิ่งหนานรับพลังโจมตีโดยตรง และจากที่เห็น ก็เป็นเหมือนกับเขาทิ้งชีวิตไปแล้ว

เพลิงเขียวฟ้าโดยตัวมันเองก็ทรงพลังอยู่แล้วเหมือนกับสัตว์ร้าย และหลังจากใช้วิชาเฉพาะทาง ก็ทำให้ผสานเข้ากับหอกเพลิงฟ้า เหมือนกับฝูงสัตว์ที่มีตาข่ายป้องกันไม่ให้พวกมันเคลื่อนไหว  พอเมื่อข่ายถูกทำลายฝูงสัตว์ก็ยิ่งแตกตื่นทันที

นอกจากนี้หลังจากการระเบิดรุนแรงทุกครั้งจากหอก ก็จะมีการเผาผลาญมากขึ้น

นี่คือพลังที่แท้จริงของหอกเผด็จศึกฟ้าเขียว  ความทนทานและความร้ายกาจของมันไม่สามารถหยุดไว้ได้

ถ้ามีการปะทะตรงก็มีแต่ยืนยันศักดิ์ศรีของมัน!

แต่ขณะนั้นเอง  อาการแสยะยิ้มของเขาค้างทันใด

พลังของหอกเผด็จศึกฟ้าเขียวแข็งแกร่งมากกว่าที่ถังเทียนคาดไว้  พลังรุกที่เพิ่มขึ้นฉับพลันทำให้ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังเผชิญฝูงสัตว์ร้าย  ภายใต้แรงกดดันที่รุนแรง  สภาพใจของถังเทียน ยังคงสงบนิ่ง  และเขาคำราม

“ทำลาย!”

เพลิงเกลียวสีแดงรอบหมัดของถังเทียนเริ่มเปลี่ยนไปไม่แน่นอน  เหมือนกับร่มแดง มันเริ่มกางออก!

เปลวเพลิงยาวขยายออก ก่อเป็นฉากแดง

แสงเขียวเข้าไปในม่านเพลิงซึ่งเริ่มยุ่งเหยิงเหมือนชุดแดงคลุมบอลแสงสีเขียว

บอลแสงเขียวดูเหมือนกำลังจะระเบิดเมื่อสายสีเทาข้างในเปลวเพลิงเริ่มสว่าง เหมือนกับตาข่ายสีเทามันเริ่มรัดบอลแสงเขียวไว้อย่างหนาแน่น

แต่พลังของหอกเผด็จศึกฟ้าเขียวที่ถูกเพลิงของถังเทียนห่อคลุมไว้ยังกระแทกใส่ถังเทียน

แย่แล้ว!

ถังเทียนตระหนักว่าเขายังคงประเมินพลังของหอกเผด็จศึกฟ้าเขียวต่ำเกินไป  มันกระแทกเข้าหาร่างกายเขาทันทีในช่วงตื่นตระหนกนั้นเอง เขาไม่สนใจทุกอย่างและรั้งหมัดขวากลับมาจากนั้นใช้ฝ่ามือซ้ายตบ  ปัง,เขาป้องกันเปลวเพลิงได้และยืมแรงเหวี่ยง มือขวาเปลี่ยนจากหมัดเป็นฝ่ามือและคว้าบอลเพลิงเอาไว้

พลังงานของสายม่านเพลิงสีเทาหมดเกลี้ยงทำให้ถังเทียนสีหน้าเปลี่ยนขณะที่เขาเริ่มหลั่งเหงื่อเยียบเย็น

แสงมาจากพลังงานที่ผันผวน  ถังเทียนรู้ว่าถ้าบอลแสงระเบิดเขามีหวังนิ่งสนิทแน่นอน ข่ายม่านเพลิงเทาอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพลังข่มของหอกเผด็จศึกฟ้าเขียว และนอกจากนั้น หลังปล่อยหมัดออกไป เขาไม่เหลือพลังอยู่ในตัวอีกเลย  ขณะที่เขาใช้พลังทั้งหมดที่เหลืออยู่เขาก็ยังไม่ฟื้นฟูพลังใดๆ

แย่แล้ว

ถังเทียนไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกหนาวยะเยือกที่แล่นมาจากสันหลัง  เขาเป็นเหมือนแมวที่ตกใจเพราะถูกเหยียบหาง  ความรู้สึกของเขาตึงเครียด

ม่านเพลิงหรี่ลงอย่างรวดเร็ว พลังงานผันผวนภายในเริ่มคลุ้มคลั่งมากขึ้นทุกที เหมือนกับว่าถังเทียนกำลังกอดลูกระเบิดที่สามารถระเบิดได้ทุกเมื่อ

“อ๊าหหหห์...”

เขาคำรามโดยไม่รู้ตัว  ทุ่มเทกระตุ้นพลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ในตัวกล้ามเนื้อที่ผ่อนคลายตอนแรกเริ่มตึงเครียดอีกครั้ง พลัง  ข้าต้องการพลัง!

ถังเทียนไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนใกล้ชิดความตายมาก เขารู้สึกเหมือนว่าเห็นหน้ามัจจุราช

เผียะ เผียะ เผียะ!

เสียงแตกดังออกมาจากภายในร่างของถังเทียนเหมือนกับข้าวตอกแตก  ถังเทียนรู้สึกว่ากล้ามเนื้อทุกนิ้วกระดูกทุกชิ้น และเส้นเอ็นทุกเส้นกำลังจะระเบิดทั้งหมด

การระเบิดทุกครั้งจะมีกระแสพลังอบอุ่นไหลเวียน เสียงแตกระเบิดติดต่อกันทำให้กระแสความอุ่นคลุมไปทั้งร่างถังเทียน

ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับเป็นทะเลทรายที่ได้พบกับฝนในที่สุดจึงดูดซับกระแสความอุ่นไว้อย่างบ้าคลั่ง

พลัง!  ร่างของข้าเต็มไปด้วยพลัง!

ถังเทียนไม่รู้ว่าพลังนั้นมาจากไหน  แต่ตอนนั้นเขาจะมัวสนใจได้ยังไง?

“อ๊าหหหห์...”

เขาใช้พลังของเขาทั้งหมดและค่อยๆ ผลัก ‘ระเบิด’ ออกไป ปัง ปัง ปังขาของเขากำลังเตะอย่างบ้าคลั่ง แผ่นสุญญากาศพลังงานที่เท้าของเขาแตกในระดับที่เร็วเขาเหมือนกับกระทิงคลั่งใช้พลังทั้งหมดผลักระเบิดออกไปด้านหน้า

ถังเทียนยังคงเพิ่มความเร็วหลังจากผลักออกไปสองสามเมตรแล้ว  เขารวมพลังที่เหลือผลักพลังงานระเบิดนี้ตรงไปหากองกำลังเผด็จการทวีปชิง!

ระเบิดพุ่งเข้าไปในทะเลหิ่งห้อย

หอกเผด็จศึกฟ้าเขียวไม่ได้ระเบิดทำให้อาซังประหลาดใจ แต่สิ่งที่ทำให้เขายังใจเย็นก็คือแรงกดดันบนหอกเผด็จศึกฟ้าเขียวอ่อนลงมาก  เขาไม่มีพลังเหลืออยู่มากนักเนื่องจากหอกกินพลังงานจนเกือบหมด

เหมิ่งหนานร้ายกาจมากจริงๆ!

ปริมาณของเมฆเพลิงเพิ่มขึ้นในระดับที่น่าประหลาดนั่นคือเหตุผลที่อาซังยินดีจ่ายให้เหมิ่งหนานมากขึ้นหวังว่าเขาจะถอนตัวจากการสู้รบ  แต่น่าเสียดายที่แผนติดสินบนของเขาล้มเหลว และเมื่อรู้ว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับเหมิ่งหนาน  อาซังแสดงฝีมืออย่างเด็ดขาด  เผชิญหน้ากับนักสู้แข็งแกร่งอย่างเหมิ่งหนาน  เขารู้ว่าจะไว้ไมตรีไม่ได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเมฆเพลิงเริ่มปรากฏ ภาพที่น่ากลัวทำให้อาซังต้องใช้ไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดโดยไม่ลังเล!

ผู้ที่อยู่ภายในเมฆเพลิงจะแย่สำหรับพวกเขา  ชีวิตของกงเฉินก็เป็นเครื่องพิสูจน์

แทงเพียงหนึ่งหอก  เรามีโอกาสครั้งนี้

อาซังมั่นใจในหอกของเขามากที่สุด!

เขาเชื่อเต็มเปี่ยมว่าแม้แต่เหมิ่งหนานผู้ร้ายกาจจะไม่สามารถป้องกันหอกเผด็จศึกฟ้าเขียวได้!

แต่เขาไม่เคยคาดเลยว่าถังเทียนจะสามารถข่มมันได้จริงทำให้หน้าของเขาเขียวคล้ำ

เสียงคำรามของถังเทียนดังมาจากภายในทะเลหิ่งห้อย  หน้าของอาซังเปลี่ยนเป็นหน้าเกลียดยิ่งขึ้น เขารู้สึกว่าหอกเผด็จศึกฟ้าเขียวกำลังหันเข้าใส่พวกเขา

“หนี...”

ก่อนที่คำพูดของอาซังจะจบ  ในสายตาของเขากลุ่มเพลิงลอยออกมาจากทะเลหิ่งห้อย

เขาถลึงตา หน้าซีดขาว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด