ตอนที่ 626 เสียสละแท้จริง, ควบคุมหัวใจ
ทวีปมังกรทะยาน ณ ยอดเขาไร้กังวล
บนเขาหินมียอดแหลมมากมายคล้ายกระบี่สูงเสียดฟ้ายังมีร่างเงาร่างหนึ่งในชุดคลุมยืนอย่างสงบ
เขาทนยืนอยู่กับที่ถึงสามชั่วโมงโดยไม่ได้ขยับอะไรเลยสำหรับเขาแล้วเหมือนกับว่าไม่มีอะไรในโลกที่สำคัญอีกแล้ว ถ้าความอดทนสามารถประเมินเป็นทรัพย์สินความมั่งคั่งเขาก็เป็นเหมือนกับมหาเศรษฐีที่ไม่มีวันขาดแคลนเงินแม้แต่น้อย ราชาเฮยอวี้พลางตัวซ่อนอยู่และสังเกตมาตลอดสามชั่วโมงแล้วในที่สุดเมื่อมั่นใจว่าไม่มีอันตรายจึงลอยตัวห่างอีกฝ่ายหนึ่งประมาณกิโลเมตร
“เฮยอวี้,เจ้าเปลี่ยนไปนะ” เงาร่างนี้คาดเดาได้ถูกว่าเป็นราชาเฮยอวี้
“เจ้าเป็นใคร?”ราชาเฮยอวี้ประหลาดใจเล็กน้อย เขาเองไม่รู้จักคนผู้นี้ แต่คนผู้นี้กลับรู้จักตัวเขา นอกจากนี้ดูเหมือนจะคุ้นเคยมากอีกด้วย
ราชาเฮยอวี้ไม่ชอบความรู้สึกเช่นนี้เป็นอย่างมากเขาไม่สามารถเข้าใจอีกฝ่ายหนึ่งได้เลย ตัวอย่างเช่นเย่ว์หยางเขาไม่เข้าใจอย่างสิ้นเชิง เพราะการโผล่ออกมาของเย่ว์หยางเจ้าเด็กเหลือเชื่อนั่นและเฮยอวี้ไม่สามารถกำจัดเขาได้เย่ว์หยางเหมือนกับก้างปลาติดคอ ไม่ขยับขึ้นหรือลง สร้างความอึดอัดเป็นพิเศษ
เงาร่างนี้ทำให้ราชาเฮยอวี้รู้สึกจากก้นบึ้งหัวใจว่าไม่ใช่รับมือง่ายๆ
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น เขาจะส่งจดหมายมาเพื่ออะไร
ราชาเฮยอวี้ไม่ต้องการให้มารสัมฤทธิ์ฟ้าหาโอกาสโจมตีเขาเพื่อให้ได้ยกระดับและเข้าสู่ขอบเขตนักสู้ปราณฟ้า มารสัมฤทธิ์ฟ้าเตรียมฆ่าเขาเพื่อลับเขี้ยวเล็บพลังของเขาและยกระดับ ราชาเฮยอวี้จะไม่ยอมเปิดโอกาสให้เขาแน่นอน ก่อนที่ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเขาไม่กลัวมารสัมฤทธิ์ฟ้า แต่ร่างกายของเขายังไม่ฟื้นฟูเต็มที่เป็นผลให้เขาต้องลงมือด้วยความระมัดระวัง
อย่างไรก็ตามจดหมายแปลกประหลาดเกินไปมีข้อมูลลับเกี่ยวกับตัวของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกได้แต่ต้องมา
ร่างนั้นไม่ตอบเขา เขาหันหลังให้กับราชาเฮยอวี้และยังไม่หันกลับมา เขากล่าว “เจ้ารู้ไหมทำไมข้าถึงขอให้เจ้ามาพบข้า? เป็นเพราะข้าเห็นว่าเจ้ามีคุณค่าอยู่บ้าง... เฮยอวี้,เจ้าทำให้ข้าผิดหวังมาก เมื่อเจ้ากลับมาจากความล้มเหลวในสมรภูมิมรณะ เจ้าสูญเสียความกล้าเผชิญหน้ากับเย่ว์หยางไปแล้ว แม้แต่มาพบข้าเจ้าก็ยังยืนอยู่ที่ชายขอบ เจ้าต้องคอยแอบไปรอบๆ เหมือนกับสาวน้อย! เจ้าสูญเสียความสามารถในการต่อสู้กับเขาไปเสียแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้และในอนาคตก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เจ้าสูญเสียคุณค่าของตนเองไปแล้ว!”
ราชาเฮยอวี้ยิ่งสงสัยมากขึ้นเมื่อเขารู้สึกคุ้นเคยกับเสียงของร่างนั้น
เขาตื่นตัวมากขึ้นและเยาะเย้ย “เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ถ้าเจ้ามีความสามารถจะฆ่าได้ ทำไมต้องเปลืองคำพูด? นอกจากจื้อจุน,แม้แต่เย่ว์หยางก็ยังไม่คิดจะฆ่าข้า!”
ร่างนั้นไม่ปฏิเสธเขา ตรงกันข้าม เขายอมรับ “นั่นก็จริง ทักษะแฝงเร้นทรยศใช้งานได้ดีก็จริง แต่ก็ยังมีจุดอ่อนที่ร้ายแรง”
“จุดอ่อน?” ราชาเฮยอวี้รู้จุดอ่อนของทักษะแฝงเร้นของตัวเขาเอง แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะมีคนอื่นรู้ด้วย
แม้ว่าพวกเขารู้ แต่พวกเขาจะไม่สามารถฉวยโอกาสเอาเปรียบได้
หากใช้ประโยชน์ได้,คุณชายสามตระกูลเย่ว์คงจะใช้ไปแล้ว ทำไมต้องรอจนกระทั่งตอนนี้ด้วยเล่า? นี่คือเหตุผลที่เขามาพบครั้งนี้ เหตุผลใหญ่ๆ อื่นเป็นเพราะเขาแน่ใจว่าเขาสามารถรอดชีวิตไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย ด้วยทักษะแฝงเร้นทรยศของเขา ไม่มีใครสามารถฆ่าเขาได้นอกจากจักรพรรดิอวี้หรือจื้อจุน และนั่นก็เพียงถ้านางกวัดแกว่งควงอาวุธเทพของจักรพรรดิอวี้ ต่อให้เย่ว์หยางใช้เพลิงอมฤตและวงจักรล้างโลกก็ยังไม่สามารถฆ่าเขาได้!
ร่างนั้นวาดมือเบาๆ ในอากาศ
ด้วยการเคลื่อนไหวที่สง่างาม คัมภีร์อัญเชิญระดับเทพลอยออกมา เปล่งแสงงดงามน่าอัศจรรย์
หัวใจของราชาเฮยอวี้เต้นแรง สัญชาตญาณนักสู้ปราณฟ้าของเขาเตือนว่าคนที่อยู่ต่อหน้าเขานั้นอันตรายเพียงไหน สิ่งที่แปลกที่สุดก็คือคนที่อยู่ต่อหน้าเขาไม่ได้ปลดปล่อยรังสีอำมหิตแม้แต่น้อย ราชาเฮยอวี้ยังคงงงกับเรื่องนี้ หรือว่าคนผู้นี้แค่มาอวดโอ่?
“ทักษะแฝงเร้นทรยศของเจ้าถูกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ดังนั้นเจ้าควรจะเข้าใจว่าทักษะแฝงเร้นสามารถเปลี่ยนไปได้ การยกระดับทักษะแฝงเร้นก็เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบหนึ่ง แต่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ เมื่อร่าง ความคิดพลังงานและระดับของนักรบเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง อย่างนั้นทักษะแฝงเร้นก็สามารถเปลี่ยนได้ ก็เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า” ร่างนั้นค่อยๆ ยกคัมภีร์ด้วยมือขวา มือของเขาดูเยาว์วัยและนิ้วเรียวยาวทั้งห้าเปี่ยมไปด้วยพลัง เต็มไปด้วยพลังและความปรารถนา ร่างนั้นไม่ได้หันกลับมา และเพียงแต่ชี้มาที่ราชาเฮยอวี้ “เจ้าอาจไม่รู้ว่าทักษะแฝงเร้นของข้าคืออะไร แต่ข้าจะบอกเจ้าก็ได้ ทักษะแฝงเร้นของข้าก็คือ กลายสภาพ! ด้วยทักษะแฝงเร้นของข้าสามารถแปลงรูปคน วัตถุชีวิต พลัง ใดๆ ก็ได้และแม้กระทั่งทักษะแฝงเร้นของข้าก็ตาม”
“อะไรนะ?” ในที่สุดราชาเฮยอวี้ก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายความว่ายังไง คนผู้นี้สามารถใช้ทักษะแฝงเร้นของเขาเปลี่ยนทักษะแฝงเร้นทรยศของเขาได้
“ตั้งแต่นี้ไปร่างของเจ้าและทักษะแฝงเร้นมีโอกาสเปลี่ยนไปดีขึ้นหรือแย่ลง 50% เท่ากัน” แสงสีเงินยิงออกมาจากนิ้วชี้และกระทบระหว่างคิ้วของราชาเฮยอวี้อย่างรวดเร็ว
หัวใจของราชาเฮยอวี้สะท้าน
เขาไม่อาจเชื่อในอาการสนองตอบของเขาเอง เขาเตรียมพร้อมสถานการณ์ทุกอย่างไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว แต่เขาไม่สามารถหาทางหลบหนีได้ยังไง?
อะไรคือสาเหตุในเรื่องนี้? เป็นเพราะศัตรูแข็งแกร่งเกินไปหรือ? ไม่เลย! ไม่เหมือนอย่างนั้น... เป็นเพราะสิ่งประดิษฐ์ของศัตรู?ความสามารถหรือสนามพลังพิเศษ? ไม่,นั่นไม่ใช่เลย... หลอกลวง เป็นเรื่องหลอกลวงทั้งเพ ฝ่ายตรงข้ามไม่มีรังสีฆ่าฟันในการกระทำของเขา ดังนั้นเขาจึงสามารถหลอกลวงสัญชาตญาณของเขาเอง หลอกลวงจิตใต้สำนึกของเขา นอกจากนี้แสงสีเงินที่ยิงมาจากทักษะแฝงเร้นของเขาไวเกินกว่าเขาจะทันตั้งตัว
กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ เขาถูกหลอกโดยทักษะที่ง่ายที่สุด
ภายใต้เงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกหลอกลวง เขากลับถูกฝ่ายตรงข้ามเขาหลอกลวงได้ง่ายๆ...ผิวของราชาเฮยอวี้พลันเขียวคล้ำและเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
“ร่างของเจ้าอ่อนแอ แต่ทักษะแฝงเร้นกลับแข็งแกร่ง อาจเป็นเรื่องดี อาจเป็นเรื่องแย่ก็ได้ ฮ่าฮ่า ข้าขอให้เจ้าโชคดี” ร่างนั้นโบกมือและเตรียมหายตัว
“เดี๋ยวก่อน เจ้าเป็นใคร?” ราชาเฮยอวี้มุ่งมั่นจะฆ่าคนลึกลับผู้นี้
“ความจริง,ข้าไม่จำเป็นต้องบอกเจ้า เพราะเจ้าใกล้ตายอยู่แล้ว บอกเจ้าไปก็เปลืองคำพูดเปล่าๆ แต่ข้าต้องการเห็นสีหน้าประหลาดใจของเจ้า เจ้าต้องการรู้ว่าข้าเป็นใครใช่ไหม? มาสิ, เจ้ามาดูเองเลย...” ร่างนั้นปรากฏตัวอยู่หน้าราชาเฮยอวี้ หน้าของเขาห่างจากเขาแค่สามนิ้ว
“หือ? เป็นเจ้า? ไม่ เจ้าไม่ใช่เขา โอวพระเจ้า, ใช่ด้วย เป็นเจ้าจริงๆ!” ราชาเฮยอวี้เหมือนกับว่าเจอผีขณะที่หน้าของเขาเต็มไปด้วยความกลัว
“เจ้าเดาถูก เป็นข้าเอง!” ร่างนั้นพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย หน้าของราชาเฮยอวี้เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อและมือของเขาสั่น
“เจ้า เจ้า เจ้าควรจะไปตามหาเย่ว์หยาง ไม่ใช่ข้า!” ราชาเฮยอวี้กำหมัดแน่น
“ข้าจะกลับไปหาเขาแน่ แต่ข้าไม่รับรองว่าข้าสามารถฆ่าเขาได้ เขาแข็งแกร่งและเจ้าเล่ห์มาก การฆ่าเขาในตอนนี้เป็นไปไม่ได้สำหรับข้าดังนั้นข้าจึงใช้เจ้าและราชันย์พันปีศาจสร้างความยุ่งยากให้กับเขา ช่วยข้ายื้อเวลาให้มากขึ้น ข้าก็เหมือนกับเจ้าเด็กนั่น เราทั้งสองต้องการเวลามากขึ้น เฮยอวี้ เดิมทีข้าชื่นชมความฉลาดของเจ้าแต่น่าเสียดายที่เจ้ากลัวจักรพรรดิอวี้และแม้กระทั่งเย่ว์หยาง เป็นไปไม่ได้ที่คนผู้เดียวจะมีโอกาสไม่มีที่สิ้นสุด ข้าสามารถปล่อยเจ้าไปได้ แต่ข้าเชื่อว่าคนอื่นอีกหลายคนคงไม่เห็นด้วย เฮยอวี้..ขอให้โชคดี” ร่างนั้นตบไหล่ของราชาเฮยอวี้เหมือนกับว่ากล่าวอำลาสหายเก่าและหายไปในอากาศเบาบาง
“....” ราชาเฮยอวี้เงียบสนิทและจากนั้นพึมพำด้วยความเกลียด “ทำไม? ทำไมข้าถึงได้ตกเป็นเบี้ยล่างคนอื่น?”
“นั่นเป็นเพราะเจ้าไม่สมควรจะอยู่เหนือคนอื่นๆ”
บุรุษคนหนึ่งที่ตลอดทั้งร่างกระพริบประกายแสงสีม่วงปรากฏตัวอยู่ในท้องฟ้าระยะห่างไกลและเดินลงมาทีละก้าวๆ
บุรุษผู้นั้นเป็นเหมือนทหารที่สง่างาม เขามีผมดำปลายชี้ขึ้นเหมือนกับดาบ ตาของเขาลึกเหมือนกับหลุมดำไม่มีอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ราวกับตาของพระยามัจจุราชที่สามารถสูบวิญญาณผู้คนได้ เขาสวมเสื้อที่พอดีตัว แขนเสื้อขนาดยาวพอดีแต่ยาวแค่ครึ่งแขน
เขาสวมกางเกงสีดำปักลายมังกรเงินสองตัว
มังกรลักษณะนี้คือมังกรขนาดใหญ่ที่มีปีกและทั้งสองก็คือมังกรฟ้าแห่งเผ่าภูตบูรพา
สิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คืออาวุธแปลกประหลาดที่เอวของเขา อาวุธจะมีผ้าสีม่วงห่อไว้ รูปร่างเหมือนกับดาบ แต่ไม่ใช่ดาบคล้ายกระบี่แต่มิใช่กระบี่
แค่ลักษณะของเขาคนส่วนใหญ่ในหอทงเทียนจะไม่รู้จักเขา อย่างไรก็ตาม ทุกคนรู้จักชื่อของเขา เขาคือบุคคลหมายเลขหนึ่งของกลุ่มมารฟ้า ผู้นำของวังมารที่แม้แต่มารกฎฟ้าที่เป็นสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดก็ยังไม่เหนือกว่า เขาคือมารสัมฤทธิ์ฟ้า!
“เป็นเจ้านั่นเอง!” ราชาเฮยอวี้ผงกศีรษะ “ทั่วทั้งหอทงเทียนมีแต่เจ้านั่นแหละที่เร่งรีบต้องการฆ่าข้า”
“ถูกแล้วข้าไม่ยอมให้เย่ว์หยางได้โอกาสฆ่าเจ้า... ถ้าเขาฆ่าเจ้า ก็คงไม่มีโภคผลกำไรตกมาถึงข้า มีแต่จะลดโอกาสเลื่อนระดับของข้า นอกจากเป็นนักสู้ปราณฟ้าแล้ว เขายังไล่ทันข้าในทุกด้านแล้ว ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาแซงข้าแน่นอน ตำแหน่งอันดับหนึ่งในวังมารต้องเป็นของข้า มารหมาป่าฟ้าอาจมีจุดหมายที่เกินกว่าข้าในอนาคต แต่ไม่ใช่วันนี้” มารสัมฤทธิ์ฟ้าเดินเข้าหาราชาเฮยอวี้และจ้องมองเขา “ได้เวลาพูดสั่งเสียของเจ้าแล้ว ข้าสัญญาว่าจะฆ่าเจ้าก่อนเย่ว์หยางจะมาถึง!”
“เจ้า...ดูเหมือนว่าเจ้าเพิ่งจะบรรลุระดับสุดยอดปราณก่อกำเนิดสินะ มิน่าเล่าเจ้าถึงมั่นใจว่าจะฆ่าข้าได้” สายตาของราชาเฮยอวี้เย็นชาขึ้นและพยักหน้า “ถ้าข้าได้รู้แจ้งอย่างเดียวกับเมื่อในอดีตคนที่ตายจะต้องเป็นเจ้า แต่น่าเสียดาย”
“ถ้าข้าไม่โง่เกินไปเชื่อถือสหายในอดีตจนเกินไป ข้าคงไม่มีชีวิตมาจนถึงวันนี้” เต่ามังกรชราก็เพิ่งมาถึงและควงไม้เท้าเทพจักรพรรดิอวี้ในมือ เขาเปลี่ยนร่างเป็นชายชราที่ดูแก่ อย่างไรก็ตามเทียบกับเมื่อตอนที่เขาพบเย่ว์หยาง สภาพที่อ่อนแอของเขาดูเหมือนจะดีขึ้น เหตุผลที่เขาสามารถฟื้นคืนความแข็งแรงบางทีอาจเนื่องมาจากไม้เท้าเทพจักรพรรดิอวี้ แม้ว่าเขาจะไม่อยู่ในสภาพสุดยอด แต่เขาก็สามารถสู้เสมอกับราชาเฮยอวี้ได้ ต้องขอบคุณไม้เท้าเทพจักรพรรดิอวี้
“หยวนหลง,เจ้ามาสายจริงๆ นะ” ราชาเฮยอวี้ไม่เห็นว่าเป็นเรื่องแปลกที่เต่ามังกรชราปรากฏตัวขึ้น
“ไม่มีปัญหาไม่ว่าจะเป็นมารสัมฤทธิ์ฟ้า, เย่ว์หยางหรือข้าเป็นผู้ฆ่าเจ้าผลก็เหมือนกันอยู่ดี” เต่ามังกรชราพูดอย่างเฉยเมย “ตราบใดที่เจ้าตาย ข้าไม่สนใจกระบวนการ”
“น่าเสียดายที่คุณชายสามไม่อยู่ที่นี่ มิฉะนั้นข้าจะเอาหนึ่งในพวกเจ้าไปส่งข้าด้วย” ราชาเฮยอวี้หัวเราะทันที
“เนื่องจากคุณชายสามไม่อยู่ที่นี่ อย่างนั้นให้ข้าส่งเจ้าจะเป็นไรไป?”
เสียงของเย่ว์ซานดังก้องที่เชิงเขา ราชาเฮยอวี้มีอาการสนองตอบทันทีที่ได้ยิน
หน้าของเขาดูน่าเกลียดมาก
ผู้เฒ่าหนานกงประคองเย่ว์ซานและบินขึ้นไปที่ยอดเขา
ผู้เฒ่าหนานกงถามเย่ว์ซานอย่างเป็นกันเอง เย่ว์ซานคำนับด้วยความเคารพ “ผู้เฒ่าหนานกง ขอบคุณท่านมาก นี่คือทางเลือกของข้า ข้าไม่มีความเสียใจ” เขาหันไปยิ้มให้ราชาเฮยอวี้ขณะประสานมือ “ราชาเฮยอวี้นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้พบท่าน แต่นั่นไม่สำคัญเลย ข้าคิดว่าเราก็เหมือนกับคนรู้จักกันดี มิฉะนั้นเจ้าคงไม่มีทางเลือกข้าเป็นบริวารท่าน! เหตุผลที่ข้ามาที่นี่ไม่มีอะไรมากข้าแค่ต้องการเสนอร่างกายนี้กับเจ้า... ทักษะแฝงเร้นทรยศสามารถทรยศอะไรก็ได้ แต่ไม่น่าจะสามารถทรยศผู้เสนอได้...การเสนอตัวเป็นสิ่งที่เสียสละ เจ้าสามารถทรยศคนอื่นได้กระทั่งตัวเอง แต่เจ้าไม่สามารถทรยศความเสียสละที่แท้จริง”
ราชาเฮยอวี้ต้องการจะฆ่าเย่ว์ซานทันที แต่เขาไม่สามารถขยับได้
ในที่สุด เขาค่อยๆ อ้าปากเอ่ย “เจ้าต้องการทำเช่นนี้จริงๆ หรือ? เจ้าได้อะไรจากการทำเช่นนี้? เจ้าคิดว่าเย่ว์หยางจะขอบคุณเจ้างั้นหรือ? ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นได้ เจ้าไม่มีทางเปลี่ยนมาให้เขาประทับใจเจ้าได้ เพราะเจ้าไม่ใช่คนดี เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว ความทะเยอทะยานของเจ้าไม่ด้อยไปกว่าข้าเลย ความไม่เต็มใจของเจ้าไม่ด้อยไปกว่าของข้าเลย ทำไมเราไม่ร่วมมือกัน? เย่ว์ซาน ตราบใดที่เจ้ายินดี เรามาเริ่มใหม่ได้ ตราบใดที่เราควบคุมร่างกายของเราได้และมีชีวิตจนถึงที่สุดการเอาชนะเย่ว์หยางมิใช่เป็นไปไม่ได้”
เย่ว์ซานตอบ “ถ้าข้าไม่ใช่พ่อคน ข้าอาจเห็นดีด้วย เจ้าไม่ใช่พ่อของลูกดังนั้นเจ้าไม่มีทางเข้าใจความหมายของการกระทำของข้า
เขาดึงมีดออกมาเล่มเหนึ่งและแทงลึกลงไปในอก
เขาเปิดแผลแสดงให้เห็นถึงอวัยวะภายใน เลือดฉีดพุ่งในอากาศเหมือนกับฝน...เย่ว์ซานยิ้มเหมือนกับว่าเขาไม่รู้สึกเจ็บ เขาตัดหัวใจและถือไว้ในมือของเขา จากนั้นเขาหมดแรง จึงได้พูดแต่คำสุดท้าย “นี่สำหรับเจ้า”
ราชาเฮยอวี้หลับตาอย่างเจ็บปวด
ในทางตรงกันข้ามเย่ว์ซานยังคงค้างอยู่ในท่าเดิมจนกระทั่งลมภูเขาพัดกระโชกแรงใส่เขา เพียงเท่านี้เขาร่วงลงไปในเหวทันที
“ด้วยบัญชาของสัมฤทธิ์ฟ้าผู้ตัดสินความชั่วทั้งมวล ควบคุมหัวใจ!” มารสัมฤทธิ์ฟ้าชูมือขวาและบีบช้าๆ
หัวใจในมือของเย่ว์ซานยังคงเต้นและหัวใจที่เต้นอยู่ในอกของราชาเฮยอวี้พลันแตกพร้อมกัน...ทักษะแฝงเร้นทรยศสูญเสียประสิทธิภาพเนื่องจากการเสียสละของเย่ว์ซาน ราชาเฮยอวี้พูดขณะที่เลือดกลบปากของเขา “ทักษะแฝงเร้นกลายสภาพ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง เขาคือคนที่ฆ่าข้า ไม่ใช่พวกเจ้า แต่เป็นเขา...”
ราชาเฮยอวี้ปาดเลือดที่พุ่งออกมาจากปาก
ตลอดทั้งร่างของเขามีพลังที่ยกระดับขึ้นไปเป็นสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสองทันที
เขาโบกมือและปรากฏเกราะทมิฬศักดิ์สิทธิ์ เขาชูดาบทมิฬศักดิ์สิทธิ์และชี้มาที่มารสัมฤทธิ์ฟ้า “เมื่อเป็นเช่นนี้เรามาดวลกันเป็นครั้งสุดท้ายกัน, มารสัมฤทธิ์ฟ้า! ขอข้าดูหน่อยว่าพลังของเจ้าจะดีกว่าข้าแค่ไหน!”
ผู้เฒ่าหนานกงไม่ดูผลการต่อสู้ที่เด็ดขาด เขาเหาะลงไปนำร่างเย่ว์ซานที่ตายพร้อมกับรอยยิ้มของผู้ชนะ เขาพยักหน้ากล่าว “ผู้ชนะแท้จริงก็คือเจ้า!”