ตอนที่แล้วตอนที่ 18-21 งูเขียว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18-23 สถานการณ์ประหลาด

ตอนที่ 18-22 เขตหมอกเทา - แดนสังหาร!


เขตหมอกขาวและเขตหมอกเทามีพื้นที่ว่างระหว่างกันซึ่งล้อมรอบภูเขา  ลินลี่ย์และบีบีไม่รีบร้อนเข้าไปในเขตหมอกเทา พวกเขายังคงอยู่ข้างนอกและฟังเสียงที่ดังออกมาจากภายในอย่างระมัดระวัง

“พวกมนุษย์ตะโกนด้วยความโกรธ”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว

“เกิดอะไรขึ้นภายในหมอกเทานี้?”  บีบีสงสัยเหมือนกัน

แม้ว่าหมอกเทาจะแฝงอันตรายอยู่ภายใน  แต่ก็มีคนเพียงไม่กี่คนที่เข้าไปในนั้น  นอกจากนี้คนพวกนั้นน่าจะอยู่กระจายทั่วพื้นที่  “ต่อให้พวกเขากำลังสู้  การต่อสู้ก็ไม่ควรจะหยุด ทำไมเสียงตะโกนโกรธเกรี้ยวเหล่านั้นจึงดังออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า?  และเราอยู่ที่แดนรอยต่อ  แต่ก็ยังได้ยินพวกเขา!”  ลินลี่ย์ย่นหน้าผาก

เขตหมอกเทามีขนาดพอๆกับเขตหมอกขาว

เนื่องจากกินพื้นที่กว้างใหญ่  การต่อสู้ที่ดำเนินภายในจากระยะไกลไม่ควรที่ลินลี่ย์กับบีบีซึ่งอยู่แดนรอยต่อจะได้ยินได้

“เอ๊ะ?” ลินลี่ย์หันศีรษะไปดูทันที

ในระไกลเขตหมอกขาวร่างบุรุษสองคนโผล่ออกมาทันที  บุรุษทั้งสองนี้สวมเกราะสีฟ้าบนร่างของพวกเขา และเมื่อพวกเขาโผล่ออกมา  พวกเขามองดูลินลี่ย์และบีบีอย่างกระตือรือร้น เมื่อเห็นลินลี่ย์กับบีบีพวกเขาผ่อนคลายเล็กน้อย  “ฮ่าฮ่า,ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าจะวิ่งมาเจอพวกเจ้าทั้งสองคนที่นี่  ดูเหมือนว่าเราสองตั้งใจมาพบเจอพวกเจ้า”

คนที่พูดเป็นบุรุษร่างผอมที่มีรอยยิ้มบนใบหน้า อีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างเขาค่อนข้างกำยำมีเคราขึ้นเหรอมแหรม

“ก็จริงนะ” ลินลี่ย์กล่าว “ข้าชื่อลินลี่ย์และนี่คือน้องข้าบีบี พวกท่านเป็นใคร??”

“แล็ช!”  บุรุษร่างผอมหัวเราะ

“วอลเล็ท!”   บุรุษผู้มีเคราตอบเฉื่อยชา

“แล็ช, วอลเล็ท,เรามาจากแดนนรกและไม่รู้เรื่องภูเขาสิ้นหวังเท่าใดนักฟังสิ..มีเสียงตะโกนคำรามโกรธเกรี้ยวดังมาจากเขตหมอกเทา  ท่านรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น?”  ลินลี่ย์ถามทันที  เหตุที่เขาสนทนากับสองคนนี้ก็เพื่อต้องการทราบข้อมูล

แล็ชและวอลเล็ททั้งคู่ฟังอย่างระมัดระวังหน้าของเขาขมวดคิ้ว

“เอ...นั่นมันแปลกอยู่นะ”  แล็ชพูดพลางขมวดคิ้ว “มีคนอยู่หลายสิบคนที่เข้ามาภูเขาในครั้งนี้  และน่าจะมีคนไม่ถึงสิบคนที่สามารถเข้าไปในเขตหมอกเทาที่อยู่ข้างหน้าเราได้    พื้นที่ใหญ่โตขนาดนั้น...ถ้าคนสิบคนเข้าไป พวกเขาก็น่าจะเหมือนหยดน้ำในทะเล เป็นไปได้ยังไงที่เสียงตะโกนด้วยความโกรธและการต่อสู้จะดังออกมาไม่หยุด?”

บีบีพูดอย่างจนใจ  “พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือ?”

“ไม่รู้เหมือนกันเหตุเกิดในภูเขาสิ้นหวังเป็นเรื่องลึกลับมาก” แล็ชอธิบาย “โลกภายนอกมีข่าวลือบางอย่าง อย่างน้อยเขตหมอกขาว แต่ไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับเขตหมอกเทา หรือเขตหมอกม่วง  เป็นไปได้ว่าแม้ว่าบางคนจะรู้อะไรบางอย่าง  แต่พวกเขาคงไม่บอกอะไรกับใครๆ  พวกเจ้าทั้งสองตั้งใจจะทำยังไง?”

ลินลี่ย์และบีบีมองหน้ากันเอง

“รอ!”  ลินลี่ย์กล่าว

“ตัดสินใจได้เหมือนกับเราสองพี่น้อง”  แล็ชหัวเราะเบาๆ  “เป็นไปได้ว่าคนที่เข้าไปข้างในจะกลับออกมาที่นี่เนื่องจากไม่รู้สึกถึงตำแหน่งภายใน  เมื่อพวกเขาโผล่ออกมา  เราจะถามพวกเขา  จะได้เตรียมตัวให้ดีขึ้น”

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย

แล็ชหัวเราะ  “อย่างนั้นเราสองพี่น้องจะไปตรงภูเขาด้านนั้น  เจ้าสองคนสามารถไปที่นั่นได้  วิธีนั้นเจ้าสองคนจะสามารถจับตาดูพื้นที่ได้ร้อยกิโลเมตร  เราจะได้เห็นคนที่โผล่ออกมาได้ง่ายๆ”

“ก็ดีเหมือนกัน”  ลินลี่ย์พยักหน้า

และเมื่อลินลี่ย์และบีบีเริ่มรีบไปที่จุดโค้งบนภูเขา  พวกเขายืนอยู่ที่นั่นสามารถเห็นพื้นที่ได้ไกล

“พี่ใหญ่!  เราจะแค่รอตรงนี้หรือ?”  บีบีค่อนข้างใจร้อน

ลินลี่ย์กวาดตามองเขตหมอกเทา  จากนั้นส่ายศีรษะและกล่าว  “รอดูสักครึ่งวัน  ถ้าเราไม่พบใครในเวลาครั้งวัน  เราจะเข้าไป!  เขตหมอกขาวที่เราเพิ่งผ่านมาได้ค่อนข้างอันตรายทีเดียว  เขตหมอกเทานี้เป็นไปได้ว่ามีความยากลำบากมากกว่า  ถ้าจะให้ดีที่สุดเราเข้าไปหลังจากพบว่าสถานการณ์ภายในเป็นอย่างไร!”

พวกเขารีบก็ใช้เวลาสามสิบปีแล้วกว่าจะมาถึงที่นี่ ลินลี่ย์มีความอดกลั้นรออยู่ที่นี่ครึ่งวัน เร่งรีบเข้าไปข้างในอาจส่งผลให้พวกเขาต้องทุกข์ทรมานด้วย

พวกเขารอคอยอย่างเงียบงัน

ระยะระหว่างกลุ่มของลินลี่ย์และกลุ่มของแล็ชห่างกันสิบกิโลเมตร  แต่เพราะไม่มีหมอกที่นี่  พวกเขายังสามารถมองเห็นกันและกันได้  ครึ่งชั่วโมงผ่านไปขณะรอเงียบๆ  และผลก็คือกลุ่มของลินลี่ย์เริ่มแข็งแรงมากขึ้น!

มีอีกคนหนึ่งเดินออกมาจากเขตหมอกขาวนั่นคือบุรุษผมขาวที่ดูคล้ายสตรี

บุรุษที่ดูคล้ายสตรีก็อดทนเช่นกัน  เขาไม่รีบร้อนเข้าไป และเริ่มรอคอยเงียบๆ

เวลาผ่านไปนาน...

“เอ๊ะ?” ลินลี่ย์ที่นั่งอยู่บนหินในท่านั่งสมาธิและหลับตากลับลืมตาทันทีและหันไปมองระยะไกล  บุรุษหนุ่มผมม่วงชุดดำโผล่ออกมาจากหมอกเทา  ดูเหมือนบุรุษหนุ่มชุดดำผมม่วงเตรียมจะกลับเข้าไปในเขตหมอกดำ  ลินลี่ย์ร้องเรียกทันที “โบลน!”

ระหว่างต่อสู้ในโรงแรมลินลี่ย์ได้ยินชื่อของบุรุษผมม่วงถูกร้องเรียก

“ควั่บ” ลินลี่ย์กับบีบีบินเข้าไปหาทันทีขณะที่อยู่ห่างมากกว่าสิบกิโลเมตร เทพอีกสามคนเห็นเช่นนั้นก็บินตามมาสมทบด้วย

“เอ๋?” โบลนบุรุษผมม่วงหันมามอง

“สวัสดีโบลน”  ลินลี่ย์ทักทายเขา

“โอว..เจ้าต้องการอะไรหรือ?”  ไม่มีสีหน้าอารมณ์ใดๆปรากฏบนใบหน้าของโบลน ขณะเดียวกันเขาสังเกตว่าอีกสามคนกำลังเร่งรีบมาทางนี้เช่นกัน  แล็ชหัวเราะและพูด  “เป็นโบลนนั่นเอง  ข้ารู้ว่าด้วยพลังของเจ้า โบลนสามารถออกมาจากเขตหมอกขาวได้อย่างง่ายดาย  จริงสิ โบลนสหายข้า, เราไม่คุ้นเคยเขตหมอกเทา  เจ้าสามารถบอกเราสักหน่อยได้ไหม?”

โบลนบุรุษหนุ่มผมม่วงชำเลืองมองพวกเขา ดูเหมือนจะค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับลินลี่ย์และบีบี  เขายังพูดอย่างเยือกเย็น  “ข้าสามารถบอกพวกเจ้าได้ แต่มีเงื่อนไขแลกเปลี่ยน!”

“ว่าไปเลย” แล็ชหัวเราะ

“ในเขตหมอกเทา ข้าจะเดินทางร่วมกับพวกเจ้าสองคน!”  โบลนบุรุษหนุ่มผมม่วงมองลินลี่ย์กับบีบี...

ลินลี่ย์ได้ยินเช่นนี้ก็เลิกคิ้ว  เที่ยวไปกับพวกเขางั้นหรือ?  แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับบุรุษหนุ่มผมม่วงเท่าใดนัก  แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขารู้จักกันและกัน ลินลี่ย์เข้าใจว่าโบลนผู้นี้เป็นคนหยิ่งยโสเย็นชา  แต่..โบลนขอเที่ยวไปกับลินลี่ย์  เห็นได้ชัดว่าเขตหมอกเทาอันตรายมาก!

แล็ชและอีกสองคนมองดูลินลี่ย์กับบีบีทันที

“ก็ได้” ลินลี่ย์พยักหน้า

บุรุษผมม่วงพูดอย่างใจเย็น“หมอกในเขตหมอกเทาเป็นพลังงานที่ไม่ธรรมดาเลย ถ้าวิญญาณของเจ้าอ่อนแอ  เขตหมอกเทาจะสร้างภาพลวงตาให้กับพวกเจ้าไม่มีที่สิ้นสุด..และเพราะอย่างนั้นเจ้าจะไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรูและเจ้าจะต้องฆ่ากันเจ้าอย่างต่อเนื่อง... เจ้าจะไม่มีทางหลุดออกมาจากเขตหมอกเทาได้!  และจะติดอยู่ในภาพลวงตาตลอดไป!”

ทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้รู้สึกใจสะท้านเทือน

ติดอยู่ในภาพลวงตาตลอดไป?

พวกเขามีชีวิตอมตะ  แต่ถ้าพวกเขาติดอยู่ในภาพลวงตาตลอดไป  นั่นทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตาย

“มีเทพชั้นสูงมากมายอยู่ข้างใน!”  โบลนบุรุษหนุ่มผมม่วงพูดเฉื่อยชา  “แน่นอนว่าในช่วงเวลานับปีไม่ถ้วน  ข้าคิดว่าในการเดินทางแต่ละครั้งจะมีเทพชั้นสูงผู้ติดอยู่ในเขตหมอกเทา เพราะเทพชั้นสูง  จะไม่มีการอดตายทางเป็นไปได้ประการเดียวที่จะตายก็คือในการต่อสู้ ดังนั้นในช่วงเวลานานนับปีไม่ถ้วนจำนวนเทพชั้นสูงที่สะสมอยู่ในพื้นที่นี้จึงมีมากมายอย่างน่าประหลาด เมื่อเผชิญกับเทพชั้นสูงเหล่านั้นที่ติดอยู่ในภาพลวงตา พวกเขาจะคิดว่าเราเป็นศัตรูตัวฉกาจและจะสู้กับเราทันที”

หน้าของลินลี่ย์และคนอื่นน่าเกลียด

“ในคืนพระจันทร์เต็มดวงแต่ละครั้งคนกลุ่มหนึ่งจะเข้าไป”  แล็ชพูดพลางขมวดคิ้ว  “ภูเขาสิ้นหวังนี้ตั้งอยู่มานานไม่รู้กี่ปี...จะมีเทพชั้นสูงอยู่ในเขตหมอกเทาอยู่เท่าใดกันแน่?”

ลินลี่ย์อดมองไปที่เขตหมอกเทาไม่ได้เช่นกัน

เสียงตะโกนด้วยความโกรธเสียงของการเข่นฆ่า เสียงคำราม เสียงนั้นยังดังออกมาจากข้างในไม่หยุด ตอนนี้กลุ่มของลินลี่ย์เข้าใจเหตุผลที่เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวเหล่านี้ดังออกมาไม่มีหยุดเป็นเพราะจำนวนของเทพชั้นสูงภายในนั้นมีมากเกินไป!

“ข้าอยากเตือนอะไรบางอย่างกับพวกเจ้า อย่าประมาทเทพชั้นสูงที่ติดอยู่ในภาพลวงตา”  โบลนพูดพลางหัวเราะเย็นชา  “ในการฝึกฝน มีทั้งคนที่เชี่ยวชาญในพลังวิญญาณและผู้คนที่เชี่ยวชาญพลังโจมตีวัตถุ คนที่ติดอยู่ในภาพลวงตาแค่มีพลังวิญญาณอ่อนแอไปบ้าง แต่พลังโจมตีวัตถุของพวกเขายังอาจแข็งแกร่งน่ากลัวและอาจจะเป็นระดับภูตเจ็ดดาวก็ได้”

ลินลี่ย์อดสูดหายใจลึกมิได้

“นอกจากนี้การเข่นฆ่ายังคงดำเนินต่อไปไม่มีหยุดภายในพื้นที่แห่งนี้  ในช่วงเวลาหลายปีนับไม่ถ้วนนี้ส่งผลให้มีเทพชั้นสูงตายไปมากมาย  แต่ผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่จะมีพลังโจมตีวัตถุมหาศาล”  โบลนพูดอย่างเคร่งขรึม  “อย่างเมื่อครู่นี้เมื่อข้าเข้าไป  ถ้าไม่ใช่เพราะข้ารวดเร็ว  บางทีข้าอาจจะ...”

แล็ชและอีกสองคนมีสีหน้าบิดเบี้ยวทันที

พวกเขารู้ว่าโบลนแข็งแกร่งเพียงไหน  ภูตเจ็ดดาว!  แต่เขาก็ยังเกือบถูกทำลายเช่นกัน

“อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องเป็นห่วงพวกที่ติดอยู่ภายในและยังรอดชีวิตอยู่ที่มีพลังระดับภูตหกดาวก็มีเหมือนกัน  ภูตเจ็ดดาวพบเจอได้ยาก”  โบลนกล่าว

ลินลี่ย์กับบีบีมองหน้ากันเอง

“พี่ใหญ่! ยอดฝีมือภายในเขตหมอกเทามีทางเป็นไปได้ว่ามีจำนวนมากกว่าชาวเผ่าสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์”  บีบีกล่าว

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย  ใครจะบอกกันได้เล่าว่ามียอดฝีมือเท่าใดติดอยู่ในภูเขาสิ้นหวังในช่วงเวลาที่ผ่านมานานนับปีไม่ถ้วน?

บีบีคุยทางใจ“มิน่าเล่า เขาถึงต้องการไปกับเรา”

ลินลี่ย์กวาดสายตามองดูคนอื่นซึ่งทุกคนรู้สึกกดดัน  “ทุกคน, เตรียมตัวเข้าไปกันเถอะ  คนที่จะเข้าก็ควรเข้าไปด้วยกัน  ถ้าพวกท่านรู้สึกว่าพวกท่านไม่มีพลังพอก็ขอให้รออยู่ข้างนอก”

“ข้าจะไป” บุรุษที่คล้ายหญิงพูดเป็นคนแรก

“ข้าด้วย” วอลเล็ทพยักหน้า

“งั้น..ข้า..จะเข้าไปด้วย”  แล็ชลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น

“พี่ใหญ่” วอลเล็ทตะคอกทันที  “ท่านไม่ต้องเข้าไปจะดีที่สุด  พลังวิญญาณของท่าน...”  แล็ชส่ายศีรษะและกล่าว  “ไม่ต้องห่วง แม้ว่าข้าค่อนข้างอ่อนแอกว่าเจ้าในเรื่องของพลังวิญญาณ  แต่ข้าก็ไม่อ่อนแอนักหรอก  ข้าน่าจะรับมือได้อยู่!”

ลินลี่ย์มองแล็ชอย่างใจเย็น

“เข้าไปกันเถอะ”  ลินลี่ย์พูดอย่างเยือกเย็น

กลุ่มนี้ยอมรับให้ลินลี่ย์และบีบีกลายเป็นผู้นำไปโดยปริยาย  ในสถานการณ์อันตรายทุกคนไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเทพจะติดตามรายล้อมอยู่ใกล้ผู้ทรงพลังที่สุด

ทันทีที่เขาเข้ามาในเขตหมอกเทาลินลี่ย์รู้สึกว่าศีรษะมึนงงเล็กน้อย  ขณะเดียวกันลินลี่ย์สังเกตว่า...ชั้นพลังงานหมอกสีเทาเริ่มสะสมอยู่บนเยื่อพลังใสของสมบัติมหาเทพปกป้องวิญญาณของเขา พลังงานหมอกเทาในตอนนี้พยายามบุกรุกเข้าไปในวิญญาณของเขา  แต่ลินลี่ย์สามารถต้านทานมันได้

“หยุด!”  ลินลี่ย์ตวาด

หลังจากเพิ่งเข้ามาในเขตหมอกเทา  ทุกคนในตอนนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของหมอกเทา  บีบีมีสมบัติป้องกันวิญญาณดังนั้นจึงสามารถต้านทานอยู่ได้  ขณะที่บุรุษหนุ่มผมม่วงมีประสบการณ์มาแล้ว  บุรุษที่คล้ายหญิงขมวดคิ้ว  แต่ยังคงความมีสติอยู่ได้  วอลเล็ทก็ยังรักษาความมีสติอยู่ได้ แต่แล็ช...

หน้าของแล็ชเริ่มเปลี่ยน  และร่างของเขากำลังสั่น

“อ๊า....!”  ทันใดนั้นเสียงโกรธเกรี้ยวคำรามดังขึ้น  ดาบศึกปรากฏอยู่ในมือของเขาและเขาฟันใส่วอลเล็ทที่อยู่ใกล้ๆ อย่างดุดัน วอลเล็ทอยู่ใกล้เขาเกินไป ไม่มีเวลาพอหลบได้

“ปัง!”

แสงฟ้าทองวาบผ่านและแล็ชถูกหวดร่างกระเด็นถอยหลังออกนอกเขตหมอกเทา

“เอ๊ะ?”บุรุษผมม่วงและคนอื่นอดมองที่หางมังกรของลินลี่ย์ที่เปล่งประกายสีทองฟ้าไม่ได้  ในขณะนั้นเองลินลี่ย์ใช้หางมังกรของเขาฟาดแล็ชจนกระเด็นออกนอกเขตหมอก

“พี่ใหญ่, ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า?”  วอลเล็ทพูดอย่างแตกตื่น

เมื่อออกมาจากเขตหมอกสีเทาสภาพจิตใจแล็ชกลับเป็นปกติ  อกของเขายุบและเลือดเปรอะเสื้อผ้าแต่เขาร้องบอกทันที  “ข้าไม่เป็นไรแล้ว,ท่านลินลี่ย์, ขอบคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้!”  ถ้าไม่ใช่เพราะลินลี่ย์  เขาอาจฆ่าวอลเล็ทและติดอยู่ที่นี่ตลอดไป?

“เจ้าควรรู้ขีดจำกัดตนเอง”  บุรุษคล้ายสตรีหัวเราะเบาๆ

“ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์พูดอย่างใจเย็น

“วอลเล็ท ระวังตัวด้วยข้าเข้าไปข้างในกับเจ้าไม่ได้” แล็ชร้องบอกจากด้านข้าง

“เข้าใจแล้ว” วอลเล็ทอำลาพี่ชายของเขาทันที จากนั้นเดินตามลินลี่ย์และคนอื่นเข้าไปในเขตหมอกเทาอย่างแท้จริง

ภายในเขตหมอกเทากลุ่มของลินลี่ย์เดินขึ้นหน้าด้วยความระมัดระวังและใส่ใจกับพื้นที่รอบตัว เสียงการต่อสู้และเข่นฆ่าตะโกนกราดเกรี้ยวยังดังเข้าหูพวกเขาไม่มีหยุด  ทันใดนั้นลินลี่ย์เห็นจากมุมสายตาว่ามีรังสีแสงสีดำพุ่งตรงมาทางพวกเขา

“ควั่บ!”

แสงสีดำยิงตรงมาที่บีบีซึ่งดูเหมือนจะอ่อนแอกว่า

“แครก...” จุดที่แสงสีดำพุ่งผ่านปรากฏเป็นพื้นที่มิติแยก  ภาพนี้ทำให้โบลนอดทึ่งมิได้  บีบีแค่หัวเราะและพุ่งเข้าหา บีบีใช้มือซ้ายป้องกันและใช้ดาบสั้นในมือขวาแทงสวนออกไป...

“แคล้ง!”  รังสีดำฟันลงที่อกของบีบี แต่บีบีคว้าจับศัตรูไว้ได้และใช้มีดสั้นในมือขวาแทงศีรษะศัตรู

คนผู้นั้นตายแม้ในเวลาตายเขาก็ยังคลั่งดวงตาแดงฉาน..แต่จากนั้นดวงตาของเขาหมองลงและไร้ประกายชีวิต

“คนบ้าชัดๆ” บุรุษที่คล้ายสตรีพูดเบาๆ

คนบ้าจะไม่สนใจการโจมตีของศัตรูมุ่งแต่จะฆ่าศัตรู นี่เป็นการกระทำของคนบ้า แต่บีบีทำได้ และทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ...เพราะบีบีไม่มีแม้แต่ร่องรอยบาดแผลบนร่างกาย

“พี่ใหญ่!  ท่านคิดว่ายังไง?”  บีบีมองดูลินลี่ย์อย่างกระตือรือร้น

“รีบไปกันเถอะ!”  บุรุษผมม่วงตะโกนบอกทันที

“เอ๋?” บีบีและวอลเล็ทอดมองเขาไม่ได้ ในทำนองเดียวกันแววสงสัยที่ปรากฏอยู่ที่ใบหน้าของลินลี่ย์เปลี่ยนไป เพราะเขารู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนมากมายที่มาจากพื้นที่โดยรอบ เห็นได้ชัดว่ามีคนมากมายกำลังเร่งรีบมาทางด้านพวกเขา ลินลี่ย์ไม่เข้าใจว่าทำไมเทพชั้นสูงเหล่านี้จึงติดอยู่ในภาพลวงตาแต่ยังมีประสาทสัมผัสที่ไวรู้สึกได้ถึงการปรากฏตัวของพวกเขา

แต่....

พวกเขากำลังโจมตี!

“หนี!”

ไม่มีใครรู้ว่ามีเทพชั้นสูงติดอยู่ในเขตหมอกเทาอยู่เท่าใด  กลุ่มของลินลี่ย์หนีทันที แต่สิ่งที่พวกเขาไม่ตระหนักก็คือบนยอดไม้ของต้นไม้ต้นหนึ่งมีงูเขียวกำลังจ้องมองพวกเขา

งูเขียวผสานเข้ากับใบไม้และหายไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด