ตอนที่ 18-22 เขตหมอกเทา - แดนสังหาร!
เขตหมอกขาวและเขตหมอกเทามีพื้นที่ว่างระหว่างกันซึ่งล้อมรอบภูเขา ลินลี่ย์และบีบีไม่รีบร้อนเข้าไปในเขตหมอกเทา พวกเขายังคงอยู่ข้างนอกและฟังเสียงที่ดังออกมาจากภายในอย่างระมัดระวัง
“พวกมนุษย์ตะโกนด้วยความโกรธ” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
“เกิดอะไรขึ้นภายในหมอกเทานี้?” บีบีสงสัยเหมือนกัน
แม้ว่าหมอกเทาจะแฝงอันตรายอยู่ภายใน แต่ก็มีคนเพียงไม่กี่คนที่เข้าไปในนั้น นอกจากนี้คนพวกนั้นน่าจะอยู่กระจายทั่วพื้นที่ “ต่อให้พวกเขากำลังสู้ การต่อสู้ก็ไม่ควรจะหยุด ทำไมเสียงตะโกนโกรธเกรี้ยวเหล่านั้นจึงดังออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า? และเราอยู่ที่แดนรอยต่อ แต่ก็ยังได้ยินพวกเขา!” ลินลี่ย์ย่นหน้าผาก
เขตหมอกเทามีขนาดพอๆกับเขตหมอกขาว
เนื่องจากกินพื้นที่กว้างใหญ่ การต่อสู้ที่ดำเนินภายในจากระยะไกลไม่ควรที่ลินลี่ย์กับบีบีซึ่งอยู่แดนรอยต่อจะได้ยินได้
“เอ๊ะ?” ลินลี่ย์หันศีรษะไปดูทันที
ในระไกลเขตหมอกขาวร่างบุรุษสองคนโผล่ออกมาทันที บุรุษทั้งสองนี้สวมเกราะสีฟ้าบนร่างของพวกเขา และเมื่อพวกเขาโผล่ออกมา พวกเขามองดูลินลี่ย์และบีบีอย่างกระตือรือร้น เมื่อเห็นลินลี่ย์กับบีบีพวกเขาผ่อนคลายเล็กน้อย “ฮ่าฮ่า,ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าจะวิ่งมาเจอพวกเจ้าทั้งสองคนที่นี่ ดูเหมือนว่าเราสองตั้งใจมาพบเจอพวกเจ้า”
คนที่พูดเป็นบุรุษร่างผอมที่มีรอยยิ้มบนใบหน้า อีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างเขาค่อนข้างกำยำมีเคราขึ้นเหรอมแหรม
“ก็จริงนะ” ลินลี่ย์กล่าว “ข้าชื่อลินลี่ย์และนี่คือน้องข้าบีบี พวกท่านเป็นใคร??”
“แล็ช!” บุรุษร่างผอมหัวเราะ
“วอลเล็ท!” บุรุษผู้มีเคราตอบเฉื่อยชา
“แล็ช, วอลเล็ท,เรามาจากแดนนรกและไม่รู้เรื่องภูเขาสิ้นหวังเท่าใดนักฟังสิ..มีเสียงตะโกนคำรามโกรธเกรี้ยวดังมาจากเขตหมอกเทา ท่านรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น?” ลินลี่ย์ถามทันที เหตุที่เขาสนทนากับสองคนนี้ก็เพื่อต้องการทราบข้อมูล
แล็ชและวอลเล็ททั้งคู่ฟังอย่างระมัดระวังหน้าของเขาขมวดคิ้ว
“เอ...นั่นมันแปลกอยู่นะ” แล็ชพูดพลางขมวดคิ้ว “มีคนอยู่หลายสิบคนที่เข้ามาภูเขาในครั้งนี้ และน่าจะมีคนไม่ถึงสิบคนที่สามารถเข้าไปในเขตหมอกเทาที่อยู่ข้างหน้าเราได้ พื้นที่ใหญ่โตขนาดนั้น...ถ้าคนสิบคนเข้าไป พวกเขาก็น่าจะเหมือนหยดน้ำในทะเล เป็นไปได้ยังไงที่เสียงตะโกนด้วยความโกรธและการต่อสู้จะดังออกมาไม่หยุด?”
บีบีพูดอย่างจนใจ “พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือ?”
“ไม่รู้เหมือนกันเหตุเกิดในภูเขาสิ้นหวังเป็นเรื่องลึกลับมาก” แล็ชอธิบาย “โลกภายนอกมีข่าวลือบางอย่าง อย่างน้อยเขตหมอกขาว แต่ไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับเขตหมอกเทา หรือเขตหมอกม่วง เป็นไปได้ว่าแม้ว่าบางคนจะรู้อะไรบางอย่าง แต่พวกเขาคงไม่บอกอะไรกับใครๆ พวกเจ้าทั้งสองตั้งใจจะทำยังไง?”
ลินลี่ย์และบีบีมองหน้ากันเอง
“รอ!” ลินลี่ย์กล่าว
“ตัดสินใจได้เหมือนกับเราสองพี่น้อง” แล็ชหัวเราะเบาๆ “เป็นไปได้ว่าคนที่เข้าไปข้างในจะกลับออกมาที่นี่เนื่องจากไม่รู้สึกถึงตำแหน่งภายใน เมื่อพวกเขาโผล่ออกมา เราจะถามพวกเขา จะได้เตรียมตัวให้ดีขึ้น”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
แล็ชหัวเราะ “อย่างนั้นเราสองพี่น้องจะไปตรงภูเขาด้านนั้น เจ้าสองคนสามารถไปที่นั่นได้ วิธีนั้นเจ้าสองคนจะสามารถจับตาดูพื้นที่ได้ร้อยกิโลเมตร เราจะได้เห็นคนที่โผล่ออกมาได้ง่ายๆ”
“ก็ดีเหมือนกัน” ลินลี่ย์พยักหน้า
และเมื่อลินลี่ย์และบีบีเริ่มรีบไปที่จุดโค้งบนภูเขา พวกเขายืนอยู่ที่นั่นสามารถเห็นพื้นที่ได้ไกล
“พี่ใหญ่! เราจะแค่รอตรงนี้หรือ?” บีบีค่อนข้างใจร้อน
ลินลี่ย์กวาดตามองเขตหมอกเทา จากนั้นส่ายศีรษะและกล่าว “รอดูสักครึ่งวัน ถ้าเราไม่พบใครในเวลาครั้งวัน เราจะเข้าไป! เขตหมอกขาวที่เราเพิ่งผ่านมาได้ค่อนข้างอันตรายทีเดียว เขตหมอกเทานี้เป็นไปได้ว่ามีความยากลำบากมากกว่า ถ้าจะให้ดีที่สุดเราเข้าไปหลังจากพบว่าสถานการณ์ภายในเป็นอย่างไร!”
พวกเขารีบก็ใช้เวลาสามสิบปีแล้วกว่าจะมาถึงที่นี่ ลินลี่ย์มีความอดกลั้นรออยู่ที่นี่ครึ่งวัน เร่งรีบเข้าไปข้างในอาจส่งผลให้พวกเขาต้องทุกข์ทรมานด้วย
พวกเขารอคอยอย่างเงียบงัน
ระยะระหว่างกลุ่มของลินลี่ย์และกลุ่มของแล็ชห่างกันสิบกิโลเมตร แต่เพราะไม่มีหมอกที่นี่ พวกเขายังสามารถมองเห็นกันและกันได้ ครึ่งชั่วโมงผ่านไปขณะรอเงียบๆ และผลก็คือกลุ่มของลินลี่ย์เริ่มแข็งแรงมากขึ้น!
มีอีกคนหนึ่งเดินออกมาจากเขตหมอกขาวนั่นคือบุรุษผมขาวที่ดูคล้ายสตรี
บุรุษที่ดูคล้ายสตรีก็อดทนเช่นกัน เขาไม่รีบร้อนเข้าไป และเริ่มรอคอยเงียบๆ
เวลาผ่านไปนาน...
“เอ๊ะ?” ลินลี่ย์ที่นั่งอยู่บนหินในท่านั่งสมาธิและหลับตากลับลืมตาทันทีและหันไปมองระยะไกล บุรุษหนุ่มผมม่วงชุดดำโผล่ออกมาจากหมอกเทา ดูเหมือนบุรุษหนุ่มชุดดำผมม่วงเตรียมจะกลับเข้าไปในเขตหมอกดำ ลินลี่ย์ร้องเรียกทันที “โบลน!”
ระหว่างต่อสู้ในโรงแรมลินลี่ย์ได้ยินชื่อของบุรุษผมม่วงถูกร้องเรียก
“ควั่บ” ลินลี่ย์กับบีบีบินเข้าไปหาทันทีขณะที่อยู่ห่างมากกว่าสิบกิโลเมตร เทพอีกสามคนเห็นเช่นนั้นก็บินตามมาสมทบด้วย
“เอ๋?” โบลนบุรุษผมม่วงหันมามอง
“สวัสดีโบลน” ลินลี่ย์ทักทายเขา
“โอว..เจ้าต้องการอะไรหรือ?” ไม่มีสีหน้าอารมณ์ใดๆปรากฏบนใบหน้าของโบลน ขณะเดียวกันเขาสังเกตว่าอีกสามคนกำลังเร่งรีบมาทางนี้เช่นกัน แล็ชหัวเราะและพูด “เป็นโบลนนั่นเอง ข้ารู้ว่าด้วยพลังของเจ้า โบลนสามารถออกมาจากเขตหมอกขาวได้อย่างง่ายดาย จริงสิ โบลนสหายข้า, เราไม่คุ้นเคยเขตหมอกเทา เจ้าสามารถบอกเราสักหน่อยได้ไหม?”
โบลนบุรุษหนุ่มผมม่วงชำเลืองมองพวกเขา ดูเหมือนจะค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับลินลี่ย์และบีบี เขายังพูดอย่างเยือกเย็น “ข้าสามารถบอกพวกเจ้าได้ แต่มีเงื่อนไขแลกเปลี่ยน!”
“ว่าไปเลย” แล็ชหัวเราะ
“ในเขตหมอกเทา ข้าจะเดินทางร่วมกับพวกเจ้าสองคน!” โบลนบุรุษหนุ่มผมม่วงมองลินลี่ย์กับบีบี...
ลินลี่ย์ได้ยินเช่นนี้ก็เลิกคิ้ว เที่ยวไปกับพวกเขางั้นหรือ? แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับบุรุษหนุ่มผมม่วงเท่าใดนัก แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขารู้จักกันและกัน ลินลี่ย์เข้าใจว่าโบลนผู้นี้เป็นคนหยิ่งยโสเย็นชา แต่..โบลนขอเที่ยวไปกับลินลี่ย์ เห็นได้ชัดว่าเขตหมอกเทาอันตรายมาก!
แล็ชและอีกสองคนมองดูลินลี่ย์กับบีบีทันที
“ก็ได้” ลินลี่ย์พยักหน้า
บุรุษผมม่วงพูดอย่างใจเย็น“หมอกในเขตหมอกเทาเป็นพลังงานที่ไม่ธรรมดาเลย ถ้าวิญญาณของเจ้าอ่อนแอ เขตหมอกเทาจะสร้างภาพลวงตาให้กับพวกเจ้าไม่มีที่สิ้นสุด..และเพราะอย่างนั้นเจ้าจะไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรูและเจ้าจะต้องฆ่ากันเจ้าอย่างต่อเนื่อง... เจ้าจะไม่มีทางหลุดออกมาจากเขตหมอกเทาได้! และจะติดอยู่ในภาพลวงตาตลอดไป!”
ทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้รู้สึกใจสะท้านเทือน
ติดอยู่ในภาพลวงตาตลอดไป?
พวกเขามีชีวิตอมตะ แต่ถ้าพวกเขาติดอยู่ในภาพลวงตาตลอดไป นั่นทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตาย
“มีเทพชั้นสูงมากมายอยู่ข้างใน!” โบลนบุรุษหนุ่มผมม่วงพูดเฉื่อยชา “แน่นอนว่าในช่วงเวลานับปีไม่ถ้วน ข้าคิดว่าในการเดินทางแต่ละครั้งจะมีเทพชั้นสูงผู้ติดอยู่ในเขตหมอกเทา เพราะเทพชั้นสูง จะไม่มีการอดตายทางเป็นไปได้ประการเดียวที่จะตายก็คือในการต่อสู้ ดังนั้นในช่วงเวลานานนับปีไม่ถ้วนจำนวนเทพชั้นสูงที่สะสมอยู่ในพื้นที่นี้จึงมีมากมายอย่างน่าประหลาด เมื่อเผชิญกับเทพชั้นสูงเหล่านั้นที่ติดอยู่ในภาพลวงตา พวกเขาจะคิดว่าเราเป็นศัตรูตัวฉกาจและจะสู้กับเราทันที”
หน้าของลินลี่ย์และคนอื่นน่าเกลียด
“ในคืนพระจันทร์เต็มดวงแต่ละครั้งคนกลุ่มหนึ่งจะเข้าไป” แล็ชพูดพลางขมวดคิ้ว “ภูเขาสิ้นหวังนี้ตั้งอยู่มานานไม่รู้กี่ปี...จะมีเทพชั้นสูงอยู่ในเขตหมอกเทาอยู่เท่าใดกันแน่?”
ลินลี่ย์อดมองไปที่เขตหมอกเทาไม่ได้เช่นกัน
เสียงตะโกนด้วยความโกรธเสียงของการเข่นฆ่า เสียงคำราม เสียงนั้นยังดังออกมาจากข้างในไม่หยุด ตอนนี้กลุ่มของลินลี่ย์เข้าใจเหตุผลที่เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวเหล่านี้ดังออกมาไม่มีหยุดเป็นเพราะจำนวนของเทพชั้นสูงภายในนั้นมีมากเกินไป!
“ข้าอยากเตือนอะไรบางอย่างกับพวกเจ้า อย่าประมาทเทพชั้นสูงที่ติดอยู่ในภาพลวงตา” โบลนพูดพลางหัวเราะเย็นชา “ในการฝึกฝน มีทั้งคนที่เชี่ยวชาญในพลังวิญญาณและผู้คนที่เชี่ยวชาญพลังโจมตีวัตถุ คนที่ติดอยู่ในภาพลวงตาแค่มีพลังวิญญาณอ่อนแอไปบ้าง แต่พลังโจมตีวัตถุของพวกเขายังอาจแข็งแกร่งน่ากลัวและอาจจะเป็นระดับภูตเจ็ดดาวก็ได้”
ลินลี่ย์อดสูดหายใจลึกมิได้
“นอกจากนี้การเข่นฆ่ายังคงดำเนินต่อไปไม่มีหยุดภายในพื้นที่แห่งนี้ ในช่วงเวลาหลายปีนับไม่ถ้วนนี้ส่งผลให้มีเทพชั้นสูงตายไปมากมาย แต่ผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่จะมีพลังโจมตีวัตถุมหาศาล” โบลนพูดอย่างเคร่งขรึม “อย่างเมื่อครู่นี้เมื่อข้าเข้าไป ถ้าไม่ใช่เพราะข้ารวดเร็ว บางทีข้าอาจจะ...”
แล็ชและอีกสองคนมีสีหน้าบิดเบี้ยวทันที
พวกเขารู้ว่าโบลนแข็งแกร่งเพียงไหน ภูตเจ็ดดาว! แต่เขาก็ยังเกือบถูกทำลายเช่นกัน
“อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องเป็นห่วงพวกที่ติดอยู่ภายในและยังรอดชีวิตอยู่ที่มีพลังระดับภูตหกดาวก็มีเหมือนกัน ภูตเจ็ดดาวพบเจอได้ยาก” โบลนกล่าว
ลินลี่ย์กับบีบีมองหน้ากันเอง
“พี่ใหญ่! ยอดฝีมือภายในเขตหมอกเทามีทางเป็นไปได้ว่ามีจำนวนมากกว่าชาวเผ่าสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์” บีบีกล่าว
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย ใครจะบอกกันได้เล่าว่ามียอดฝีมือเท่าใดติดอยู่ในภูเขาสิ้นหวังในช่วงเวลาที่ผ่านมานานนับปีไม่ถ้วน?
บีบีคุยทางใจ“มิน่าเล่า เขาถึงต้องการไปกับเรา”
ลินลี่ย์กวาดสายตามองดูคนอื่นซึ่งทุกคนรู้สึกกดดัน “ทุกคน, เตรียมตัวเข้าไปกันเถอะ คนที่จะเข้าก็ควรเข้าไปด้วยกัน ถ้าพวกท่านรู้สึกว่าพวกท่านไม่มีพลังพอก็ขอให้รออยู่ข้างนอก”
“ข้าจะไป” บุรุษที่คล้ายหญิงพูดเป็นคนแรก
“ข้าด้วย” วอลเล็ทพยักหน้า
“งั้น..ข้า..จะเข้าไปด้วย” แล็ชลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น
“พี่ใหญ่” วอลเล็ทตะคอกทันที “ท่านไม่ต้องเข้าไปจะดีที่สุด พลังวิญญาณของท่าน...” แล็ชส่ายศีรษะและกล่าว “ไม่ต้องห่วง แม้ว่าข้าค่อนข้างอ่อนแอกว่าเจ้าในเรื่องของพลังวิญญาณ แต่ข้าก็ไม่อ่อนแอนักหรอก ข้าน่าจะรับมือได้อยู่!”
ลินลี่ย์มองแล็ชอย่างใจเย็น
“เข้าไปกันเถอะ” ลินลี่ย์พูดอย่างเยือกเย็น
กลุ่มนี้ยอมรับให้ลินลี่ย์และบีบีกลายเป็นผู้นำไปโดยปริยาย ในสถานการณ์อันตรายทุกคนไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเทพจะติดตามรายล้อมอยู่ใกล้ผู้ทรงพลังที่สุด
ทันทีที่เขาเข้ามาในเขตหมอกเทาลินลี่ย์รู้สึกว่าศีรษะมึนงงเล็กน้อย ขณะเดียวกันลินลี่ย์สังเกตว่า...ชั้นพลังงานหมอกสีเทาเริ่มสะสมอยู่บนเยื่อพลังใสของสมบัติมหาเทพปกป้องวิญญาณของเขา พลังงานหมอกเทาในตอนนี้พยายามบุกรุกเข้าไปในวิญญาณของเขา แต่ลินลี่ย์สามารถต้านทานมันได้
“หยุด!” ลินลี่ย์ตวาด
หลังจากเพิ่งเข้ามาในเขตหมอกเทา ทุกคนในตอนนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของหมอกเทา บีบีมีสมบัติป้องกันวิญญาณดังนั้นจึงสามารถต้านทานอยู่ได้ ขณะที่บุรุษหนุ่มผมม่วงมีประสบการณ์มาแล้ว บุรุษที่คล้ายหญิงขมวดคิ้ว แต่ยังคงความมีสติอยู่ได้ วอลเล็ทก็ยังรักษาความมีสติอยู่ได้ แต่แล็ช...
หน้าของแล็ชเริ่มเปลี่ยน และร่างของเขากำลังสั่น
“อ๊า....!” ทันใดนั้นเสียงโกรธเกรี้ยวคำรามดังขึ้น ดาบศึกปรากฏอยู่ในมือของเขาและเขาฟันใส่วอลเล็ทที่อยู่ใกล้ๆ อย่างดุดัน วอลเล็ทอยู่ใกล้เขาเกินไป ไม่มีเวลาพอหลบได้
“ปัง!”
แสงฟ้าทองวาบผ่านและแล็ชถูกหวดร่างกระเด็นถอยหลังออกนอกเขตหมอกเทา
“เอ๊ะ?”บุรุษผมม่วงและคนอื่นอดมองที่หางมังกรของลินลี่ย์ที่เปล่งประกายสีทองฟ้าไม่ได้ ในขณะนั้นเองลินลี่ย์ใช้หางมังกรของเขาฟาดแล็ชจนกระเด็นออกนอกเขตหมอก
“พี่ใหญ่, ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า?” วอลเล็ทพูดอย่างแตกตื่น
เมื่อออกมาจากเขตหมอกสีเทาสภาพจิตใจแล็ชกลับเป็นปกติ อกของเขายุบและเลือดเปรอะเสื้อผ้าแต่เขาร้องบอกทันที “ข้าไม่เป็นไรแล้ว,ท่านลินลี่ย์, ขอบคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้!” ถ้าไม่ใช่เพราะลินลี่ย์ เขาอาจฆ่าวอลเล็ทและติดอยู่ที่นี่ตลอดไป?
“เจ้าควรรู้ขีดจำกัดตนเอง” บุรุษคล้ายสตรีหัวเราะเบาๆ
“ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์พูดอย่างใจเย็น
“วอลเล็ท ระวังตัวด้วยข้าเข้าไปข้างในกับเจ้าไม่ได้” แล็ชร้องบอกจากด้านข้าง
“เข้าใจแล้ว” วอลเล็ทอำลาพี่ชายของเขาทันที จากนั้นเดินตามลินลี่ย์และคนอื่นเข้าไปในเขตหมอกเทาอย่างแท้จริง
ภายในเขตหมอกเทากลุ่มของลินลี่ย์เดินขึ้นหน้าด้วยความระมัดระวังและใส่ใจกับพื้นที่รอบตัว เสียงการต่อสู้และเข่นฆ่าตะโกนกราดเกรี้ยวยังดังเข้าหูพวกเขาไม่มีหยุด ทันใดนั้นลินลี่ย์เห็นจากมุมสายตาว่ามีรังสีแสงสีดำพุ่งตรงมาทางพวกเขา
“ควั่บ!”
แสงสีดำยิงตรงมาที่บีบีซึ่งดูเหมือนจะอ่อนแอกว่า
“แครก...” จุดที่แสงสีดำพุ่งผ่านปรากฏเป็นพื้นที่มิติแยก ภาพนี้ทำให้โบลนอดทึ่งมิได้ บีบีแค่หัวเราะและพุ่งเข้าหา บีบีใช้มือซ้ายป้องกันและใช้ดาบสั้นในมือขวาแทงสวนออกไป...
“แคล้ง!” รังสีดำฟันลงที่อกของบีบี แต่บีบีคว้าจับศัตรูไว้ได้และใช้มีดสั้นในมือขวาแทงศีรษะศัตรู
คนผู้นั้นตายแม้ในเวลาตายเขาก็ยังคลั่งดวงตาแดงฉาน..แต่จากนั้นดวงตาของเขาหมองลงและไร้ประกายชีวิต
“คนบ้าชัดๆ” บุรุษที่คล้ายสตรีพูดเบาๆ
คนบ้าจะไม่สนใจการโจมตีของศัตรูมุ่งแต่จะฆ่าศัตรู นี่เป็นการกระทำของคนบ้า แต่บีบีทำได้ และทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ...เพราะบีบีไม่มีแม้แต่ร่องรอยบาดแผลบนร่างกาย
“พี่ใหญ่! ท่านคิดว่ายังไง?” บีบีมองดูลินลี่ย์อย่างกระตือรือร้น
“รีบไปกันเถอะ!” บุรุษผมม่วงตะโกนบอกทันที
“เอ๋?” บีบีและวอลเล็ทอดมองเขาไม่ได้ ในทำนองเดียวกันแววสงสัยที่ปรากฏอยู่ที่ใบหน้าของลินลี่ย์เปลี่ยนไป เพราะเขารู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนมากมายที่มาจากพื้นที่โดยรอบ เห็นได้ชัดว่ามีคนมากมายกำลังเร่งรีบมาทางด้านพวกเขา ลินลี่ย์ไม่เข้าใจว่าทำไมเทพชั้นสูงเหล่านี้จึงติดอยู่ในภาพลวงตาแต่ยังมีประสาทสัมผัสที่ไวรู้สึกได้ถึงการปรากฏตัวของพวกเขา
แต่....
พวกเขากำลังโจมตี!
“หนี!”
ไม่มีใครรู้ว่ามีเทพชั้นสูงติดอยู่ในเขตหมอกเทาอยู่เท่าใด กลุ่มของลินลี่ย์หนีทันที แต่สิ่งที่พวกเขาไม่ตระหนักก็คือบนยอดไม้ของต้นไม้ต้นหนึ่งมีงูเขียวกำลังจ้องมองพวกเขา
งูเขียวผสานเข้ากับใบไม้และหายไป