ตอนที่ 18-18 หญิงสาวผมแดง
บุรุษหนุ่มชุดดำผมม่วงมีสีหน้าเยือกเย็น เขากวาดมองห้องอาหาร จากนั้นจ่ายค่าบริการที่เคาน์เตอร์และเดินตามบริกรเข้าไปในห้องของเขา
“ชักจะน่าสนใจมากขึ้นทุกที” หน้าของลินลี่ย์ยิ้มตลอด เขารินเหล้าใส่แก้วและจิบเล็กน้อย “บีบี! ผลสิ้นหวังนี้ค่อนข้างจะล่อลวงผู้คน” ขณะที่คุยลินลี่ย์จงใจกางสนามพลังเทพป้องกันคนอื่นได้ยินการสนทนาระหว่างเขาเองกับบีบี
มิฉะนั้นคำพูดเหล่านี้จะทำให้คนอื่นหงุดหงิดแน่นอน
“ฝันของพวกเขาทุกคนก็คือเพิ่มพูนพลังได้ทันทีอยากได้สมบัติมหาเทพและกลายเป็นทูตมหาเทพ ข้าว่าอย่างนั้นนะ” บีบีแค่นเสียง “ข้าไม่เข้าใจเลย ผลสิ้นหวังนี่เป็นยังไงกันแน่? ทำไมถ้าท่านกินลงไปแล้วท่านจะมีพลังเพิ่มขึ้นอีกมาก และแม้กระทั่งได้รับคำชื่นชมจากมหาเทพและได้เป็นทูตหรือ? ข้าไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจเลยจริงๆ!”
“ข้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ แต่จากนั้นลินลี่ย์คิดอะไรบางอย่างได้ทันที...ศิลาดำของเขา!
ศิลาดำที่เขาได้รับในเทือกเขาอะเมทิสต์!
“ศิลาดำที่ทรงคุณค่าชิ้นเดียวทำให้พลังของข้าก้าวหน้าไปอย่างมาก ถ้าข้าไม่มีศิลาดำ เนื่องจากข้าเป็นเทพชั้นสูงคนหนึ่งที่หลอมรวมเคล็ดลึกลับได้สามเคล็ด ทั้งยังครอบครองแหวนมังกรขนดและมีทักษะเทพธรรมชาติมังกรคำราม ข้าก็คงเป็นแค่อสูรเจ็ดดาวระดับธรรมดา แต่ด้วยพลังศิลาดำ... ข้าจึงสามารถฆ่าอสูรเจ็ดดาวได้อย่างง่ายดาย”
ลินลี่ย์เริ่มสงสัยว่าผลสิ้นหวังจะเป็นของที่คล้ายกับศิลาดำของเขาหรือไม่
“มีทางเป็นไปได้มาก!”
“ในช่วงเวลาที่ผ่านมานานนับปีไม่ถ้วน มีผลสิ้นหวังปรากฏขึ้นเพียงสามผลเท่านั้น” ลินลี่ย์ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้
ลินลี่ย์และบีบีกินอาหารในร้านอาหารเสร็จ จากนั้นเดินเข้าไปในที่พักของตนเองเช่นกัน
ชีวิตในโรงแรมสงบสุขมาก ในพริบตาผ่านไปห้าวัน ในวันที่ห้าตอนเช้าตรู่ ลินลี่ย์กับบีบีเตรียมตัวเดินทางที่ยากลำบากไปที่ร้านอาหารและสั่งอาหารบางส่วนและเหล้าสองขวด ลินลี่ย์กับบีบีเดินหามุมว่างของร้านอาหารและนั่งลง จากนั้นสนทนาพลางกินไปพลางรอให้เวลากลางคืนมาถึง
“พี่ใหญ่!มีคนค่อนข้างมากอยู่ในห้อง” บีบีกวาดสายตามองในห้อง
“ทุกคนกำลังเตรียมตัวเข้าไปในภูเขาสิ้นหวัง ดังนั้นพวกเขาทุกคนจึงมากันวันนี้” ลินลี่ย์ยังคงสังเกตว่าหลายคนอยู่ในห้องในวันนี้มีจำนวนมากกว่าสามสิบคน นอกจากนี้ทุกคนที่อยู่ในที่นี้เป็นเทพชั้นสูง ขณะที่ระดับพลังของเทพชั้นสูงยากจะบอกได้ว่ามีระดับไหน
ลินลี่ย์ถอนหายใจด้วยความทึ่งผลสิ้นหวังช่างดึงดูดใจผู้คนนัก
“อย่างไรก็ตาม เราแตกต่างจากพวกเขา” ลินลี่ย์คุยทางใจ“เมื่อไปถึงยอดเขาสิ้นหวังการเข้าพบมหาเทพเป็นเป้าหมายของเรา” ผลสิ้นหวังน่ะหรือ?ไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับลินลี่ย์ แม้ว่านั่นคือสมบัติ แต่ก็มีคนพบเจอเพียงสามคนในช่วงเวลานานนับปีไม่ถ้วนทุกคนย่อมคิดได้ว่ายากเย็นแค่ไหน
“ครืด..” ที่นั่งที่อยู่ใกล้ถูกดึงออก และบุรุษหนุ่มผมม่วงชุดดำนั่งลง
ลินลี่ย์ชำเลืองมองบุรุษชุดดำผมม่วงผู้อยู่ห่างเขาไปสี่หรือห้าเมตร “เขาอีกแล้ว!”
บุรุษหนุ่มผู้นี้สั่งเหล้าและไม่ได้สั่งอย่างอื่น เขานั่งกับที่ตามลำพัง และดื่มเงียบๆแม้ว่าเขาจะนั่งนิ่งอยู่กับที่ แต่ลินลี่ย์มีความรู้สึกว่า.. แม้ว่าคนผู้นี้จะเป็นเหมือนกับธารน้ำแข็งถ้าใครทำให้เขาโกรธเขาคงระเบิดอารมณ์ราวกับภูเขาไฟ
“พี่สาว, เรามีอาคันตุกะคนหนึ่ง” เด็กหนุ่มชุดเขียววิ่งเข้ามา และด้านหลังเขาเป็นบุรุษร่างกำยำและมีตาเพียงตาเดียวเหมือนยักษ์ไซคลอป บุรุษหนุ่มร่างกำยำกำลังก้าวเดินเข้ามาและกวาดตามองดูกลุ่มผู้คนในห้องด้วยตาเดียวของเขา
แต่เมื่อเขาทำเช่นนั้น
“หือ?” หน้าของชายหนุ่มบึ้งตึงทันที และดาบยาวสองเมตรปรากฏอยู่ในมือของเขาทันทีและมีเปลวเพลิงลุกพรึ่บ
“ควั่บ!”
จากเคาน์เตอร์มาที่ห้องอาหารระยะห่างยี่สิบเมตร บุรุษหนุ่มตาเดียวเหลือแต่เพียงเงาเพลิงสีแดงขณะที่เขาพุ่งไปข้างหน้า ดาบในมือของเขาสับลงที่ศีรษะของบุรุษหนุ่มชุดดำผมม่วงโดยตรง ดาบตัดผ่านมิติฉีกขาดอย่างเห็นได้ชัด
การโจมตีทันทีครั้งนี้ทำให้ทุกคนในห้องอาหารรู้สึกสะดุ้งตกใจ
“ฮึ่ม!” บุรุษหนุ่มชุดดำที่กำลังดื่มเหล้าแค่นเสียงเบาๆ เขาซัดแก้วเหล้าในมือทันทีและแก้วเหล้าเล็กนั้นมีประกายไฟฟ้าคลุมส่งเสียงหวีดหวิวแหวกอากาศกระแทกเข้ากับคมดาบ เสียงต่ำสั่นสะท้านดังขึ้น...
แก้วเหล้ากลายเป็นผุยผง
ขณะนั้นบุรุษชุดดำหายไปกลายเป็นสายฟ้าถอยออกไปด้วยความเร็วสูง
“หยุดนะ!”หญิงสาวพนักงานที่เคาน์เตอร์ตวาดอย่างไม่พอใจ
แต่บุรุษตาเดียวไม่สนใจนางและยังคงไล่ตามโจมตีบุรุษหนุ่มผมม่วง เพราะเขาไวมาก รอยแยกของมิติจึงเริ่มปรากฏ และพื้นดินถึงกับสั่นสะเทือน ระลอกพลังเหล่านี้ทำให้โต๊ะ เก้าอี้แก้วเหล้าและจานภาชนะกลายเป็นผุยผง
“เจ้ากำลังหาที่ตาย!
เสียงทุ้มดังกึกก้องในร้านอาหารพร้อมกับประกายสายฟ้าวูบขึ้น
“ปัง!” เงาสีแดงและเงาสายฟ้าปะทะกันในร้านอาหาร
“ควั่บ!” เงาร่างทั้งสองเงาเกิดระเบิดถอยหลังทั้งคู่ทันที
ร่างสีแดงกำลังจะกระแทกกับเคาน์เตอร์ แต่สตรีชุดเขียวด้านหลังเคาน์เตอร์เหยียดมือขวาที่อ่อนนุ่มของนางทันที ทันใดนั้นทั้งแขนของนางเกลี่ยนเป็นสีเขียวเหมือนกับหยกใสมือหยกเขียวฟาดไปกลับไปที่ร่างเงาสีแดงเพลิง
“ปัง!”ร่างสีแดงถอยจากแรงระเบิดและหยุดชะงักเพราะพลังฝ่ามือตบนั้น
ขณะที่ร่างไฟฟ้านั้นเมื่อกระเด็นถอยหลัง เห็นได้ชัดว่ากระเด็นเข้าหาลินลี่ย์กับบีบีลินลี่ย์ขมวดคิ้ว เขายังคงรินเหล้าของเขาต่อ แต่รัศมีสีเหลืองธาตุดินเปล่งออกมาจากร่างเขาทันใดเป็นรูปลูกกลมขยายออกเท่าที่จำเป็นเพื่อป้องกันตัวเขาเองกับบีบี
สนามพลังศิลาดำ- พลังผลัก!
ร่างที่มีไฟฟ้าคลุมทันทีที่ตกเข้ามาในสนามพลังศิลาดำถูกผลักกลับไปด้วยพลังผลักรุนแรง ร่างของเขาเซไปเล็กน้อยจากนั้นเขาค่อยทรงตัวได้ บุรุษหนุ่มผมม่วงซึ่งมีไฟฟ้าคลุมทั้งร่างหันมามองลินลี่ย์ ดวงตาของเขาประหลาดใจและกระตือรือร้น
“ทรงพลังมาก!” ความต้องการต่อสู้ตื่นขึ้นในใจของบุรุษหนุ่มผมม่วงผู้นี้
“เจ้ากล้าสู้กันในโรงแรมสิ้นหวัง พวกเจ้าทั้งคู่ช่างบังอาจจริงๆ” เสียงตวาดด้วยความโกรธดังลั่นและหญิงสาวชุดเขียวเดินออกมาจากด้านหลังเคาน์เตอร์จ้องมองนักสู้ทั้งสองด้วยความโกรธ อย่างไรก็ตามนักสู้ทั้งสองกำลังจ้องมองกันเองไม่ให้ความสนใจสตรีชุดเขียวแต่อย่างใด”
“โบลน!”บุรุษหนุ่มตาเดียวถลึงตามองบุรุษหนุ่มผมม่วง “บังเอิญจริงที่เราพบกันที่นี่!”
“เจ้ายังอ่อนแอเกินไปค่อยมาหาข้าเมื่อเจ้าแข็งแกร่งขึ้น” บุรุษหนุ่มผมม่วงกล่าวเฉื่อยชา และจากนั้นบุรุษหนุ่มผมม่วงมองดูลินลี่ย์ที่อยู่ใกล้ๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาต้องการสู้อย่างแรงกล้า เห็นได้ชัดว่าบุรุษหนุ่มชุดดำสังเกตเห็นพลังของลินลี่ย์แล้วและต้องการท้าทายลินลี่ย์
สำหรับเทพชั้นสูงในร้านอาหารพวกเขาแค่มองเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างประหลาดใจ
“ช่างแข็งแกร่งทรงพลัง”คนเหล่านี้ตะลึงกันหมดทุกคน
บุรุษหนุ่มตาเดียวบุรุษหนุ่มผมม่วง สตรีชุดเขียว ลินลี่ย์ ในเสี้ยววินาทีทุกคนเผลอแสดงร่องรอยพลังของตนออกมา อย่างไรก็ตามร่องรอยพลังนั้นเพียงพอทำให้คนเหล่านี้ตกใจขวัญผวาได้
“พวกเจ้าทั้งสองคน!” หน้าของสตรีชุดเขียวดูเหมือนจะปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็ง “พวกเจ้าชักจะมากเกินไปแล้ว!”
“ควั่บ!”
สตรีผมเขียวปรี่เข้าหาบุรุษหนุ่มตาเดียว ขณะเดียวกันฝ่ามือเงาเขียวปรากฏคลุมไปทั้งท้องฟ้าแต่ละฝ่ามือดูเหมือนจะอ่อนหยุ่น บุรุษหนุ่มตาเดียวตวัดดาบฟันใส่สตรีชุดเขียวอย่างดุดันอำมหิต
“ปัง!” “ปัง!” “ปัง!”
เมื่อฝ่ามือเขียวเหล่านั้นปะทะกับดาบดาบซึ่งดูเหมือนมีพลังฉีกมิติได้ดูเหมือนถูกกักไว้รุมล้อมขณะที่เงาฝ่ามือกระแทกใส่อกของบุรุษหนุ่มตาเดียวจนยุบเขากระอักโลหิตคำโตขณะกระเด็นถอยหลัง
ภาพเช่นนี้ทำให้ทั่วทั้งร้านอาหารตกอยู่ในความเงียบ
“โอว!” ลินลี่ย์ตาเป็นประกาย “ยอดฝีมือธาตุน้ำ!”
สุภาพสตรีชุดเขียวผู้ทำหน้าที่เป็นพนักงานเก็บเงินให้โรงแรมสิ้นหวังเป็นยอดฝีมือที่มีพลังใกล้กับระดับอสูรเจ็ดดาว
“และเจ้า!” สตรีชุดเขียวหันไปมองบุรุษหนุ่มชุดดำ “ข้าขอให้เจ้าออกไปด้วยเหมือนกัน!” สตรีชุดเขียวสะบัดมือ แส้เขียวปรากฏขึ้นซึ่งแส้เขียวนั้นกลายเป็นเหมือนกิ่งหลิวนับไม่ถ้วนกวาดและม้วนใส่บุรุษหนุ่มชุดดำผมม่วง
บุรุษหนุ่มผมม่วงตาเป็นประกาย
“ยอดเยี่ยม!” เสียงตะโกนร้องดังขึ้น ตามมาด้วยแสงไฟฟ้าสีม่วงอ่อนแพรวพราว เงากระบี่ที่ร้ายกาจฟันใส่กิ่งหลิวนับไม่ถ้วนจากนั้นยังคงฟันใส่สตรีชุดเขียว
“ปัง!” แส้กิ่งหลิวของนางแตกกระจายจนสตรีชุดเขียวต้องถอยกลับ
“เจ้ายังไม่ใช่คู่มือของข้า” บุรุษหนุ่มชุดดำพูดด้วยความถือดี
“พี่ใหญ่! คนผู้นี้แข็งแกร่งทรงพลังมาก” บีบีคุยชื่นชมในใจ ขณะที่ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อยเช่นกัน “กระบี่สายฟ้าของเขาดูร้ายกาจ คล้ายๆกับกระบี่เลือดม่วงของข้า”
ขณะนั้นเอง....
“กึก กึก..”
เสียงฝีเท้าเดินลงบันไดดังขึ้น สตรีงามผมแดงถือคันเบ็ดและถังเดินลงบันไดคิ้วโก่งของนางขมวด สตรีผมแดงทำให้บุรุษหนุ่มผมม่วงชุดดำรู้สึกได้ถึงความเย็นชาของนาง “เกิดอะไรขึ้น?”
“หัวหน้า!” สตรีชุดเขียวคำนับเล็กน้อยทันที่ “บุรุษหนุ่มผมม่วงนี้และคนข้างนอกกำลังสู้กัน อย่างไรก็ตามบุรุษหนุ่มผมม่วงนี้แข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งกว่าข้าเล็กน้อย ข้าไม่สามารรับมือเขาได้”
“กึก กึก..”
หญิงงามผมแดงยังคงถือคันเบ็ดเดินตรงเข้าไปหาบุรุษหนุ่มผมม่วงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้านาง “เจ้ากล้าสู้กันในโรงแรมของข้าหรือ? เจ้ากล้าจริงๆ! ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าจ่ายค่าชดเชยค่าเสียหายเหล่านี้ แต่...ข้าจะต้องลงโทษเจ้าสักเล็กน้อย” สตรีงามกล่าวขณะที่บุรุษหนุ่มผมม่วงยิ้มเย็นชา
“ควั่บ!”
สตรีผมแดงตวัดคันเบ็ดของนางออกในทันทีเบ็ดแหวกอากาศเป็นแนวโค้งพุ่งเข้าหาบุรุษหนุ่มผมม่วง
“ฮึ่ม!”เสียงแค่นเย็นชา ร่างของบุรุษหนุ่มผมม่วงบุกเข้ามาข้างหน้า ขณะที่กระบี่สายฟ้าในมือของเขางอโค้งและแทงแหวกอากาศสร้างรอยแยกในมิติเล็กน้อย
“ครืน...” ในขณะที่กระบี่ยาวสายฟ้าและคันเบ็ดปะทะกัน กระบี่ยาวสายฟ้าเบี่ยงไปข้างหนึ่ง ขณะที่ร่างบุรุษหนุ่มผมม่วงถลาไปข้างหน้าอย่างไม่อาจควบคุมได้ อย่างไรก็ตามการเบี่ยงของกระบี่ยาวนี้ทำให้กระบี่ถูกปัดไปทางแขกที่กำลังดื่มกินและชมดูฉากภาพนี้
คนเหล่านี้หลบกันอย่างแตกตื่น แต่กระบี่ยาวมีความไวมากและด้วยแรงฟันนี้ทำให้ระลอกของพลังกวาดใส่แขกที่ดื่มกินอยู่ในระยะประมาณสิบเมตรรวมทั้งกลุ่มของลินลี่ย์ด้วย เทพชั้นสูงคนอื่นหลบกันหมดทุกคน แต่ลินลี่ย์ไม่หลบ เพราะ...
“แครก!”ฝ่ามือข้างหนึ่งยื่นออกและคีบจับตัวกระบี่สายฟ้าไว้
บุรุษหนุ่มผมม่วงตะลึง ขณะที่สตรีผมแดงมองดูด้วยความทึ่งเช่นกัน
บีบีคีบจับกระบี่ยาวไฟฟ้าอยู่ในมือข้างขวาและกล่าวอย่างไม่พอใจ “เฮ้,เราไม่ได้อยู่ในโรงแรมนี้เพื่อดูพวกเจ้าสู้กันนะ ถ้าพวกเจ้าต้องการสู้ ก็เชิญสู้กันไปแต่อย่ารบกวนเรา ข้ากับพี่ใหญ่จะดื่มเหล้า!” ขณะที่เขาพูด เขาเหวี่ยงกระบี่ยาวไฟฟ้าไปด้านหนึ่ง ฉากภาพเช่นนี้ทำให้ทุกคนในห้องตะลึง
ใช้มือเดียวจับกระบี่ของอสูรเจ็ดดาวที่กำลังโจมตีได้?
ลินลี่ย์แค่ส่ายศีรษะหัวเราะ แม้แต่ในร่างมังกรแปลง ถ้าเขาใช้มือเดียวคีบจับกระบี่ยาวดำ เขาอาจจะบาดเจ็บได้ เขาไม่สามารถทำแบบบีบีและมือของบีบีไม่ได้รับบาดเจ็บ
“โอว..น่ากลัวจริงๆ” สตรีงามผมแดงหัวเราะ “พูดได้ดี งั้นเราคงไม่รบกวนเจ้า”
ขณะที่นางพูดสตรีผมแดงเหวี่ยงคันเบ็ดของนางอีกครั้งพร้อมกันนั้นสายเบ็ดเต้นระริกอยู่ในกลางอากาศ เรื่องที่แปลกก็คือ..สายเบ็ดที่ตวัดแต่ละครั้งเหมือนกับจะปล่อยคลื่นพลังออกมาด้วยเป็นวังวนดึงดูดแปลกประหลาดล้อมบุรุษหนุ่มผมม่วงไว้
ลินลี่ย์และบีบีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
“ยอดฝีมือชั้นสูง! สุดยอดฝีมือธาตุน้ำ!” ลินลี่ย์ตะลึง
การหมุนวนของสายเบ็ดทำให้มิติก่อวังวนขึ้น ในทันใดนั้นลินลี่ย์รู้สึกได้ถึงรัศมีหมุนวนของมิติที่มองไม่เห็นนับไม่ถ้วนกำลังจะกลายเป็นวังวนราวกับตาข่ายที่หนาแน่นรายล้อมบุรุษหนุ่มผมม่วงไว้ บุรุษหนุ่มผมม่วงก็คือปลา!
แม้ว่าเขาจะดิ้นรนต่อสู้อย่างดุเดือด แต่พื้นที่มิติหมุนวนรอบตัวเขามีแต่มากขึ้นหนาแน่นขึ้น
และในพริบตาเดียว...
ข่ายดักปลาได้กักพันธนาการบุรุษหนุ่มผมม่วงไว้อย่างสิ้นเชิงและดูเหมือนจะเปล่งแสงสีเขียว บุรุษหนุ่มผมม่วงถูกตรึงไว้แน่นหนา และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจเขาจ้องมองสตรีงามผมแดงด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ “ท่าน? ท่านเป็นใคร?” พลังของบุรุษหนุ่มเทียบเท่าอสูรเจ็ดดาว แต่เมื่อเทียบกับสตรีงามผมแดงนี้ เขายังอ่อนแอกว่ามาก
“ไม่มีทาง,ท่านเป็นสมาชิกของปราสาทใบไม้เขียว ท่าน.ต้อง..เป็นหนึ่ง..ใน..เจ้าปราสาท..ใบไม้เขียว!” บุรุษหนุ่มผมม่วงรีบกล่าว