ตอนที่ 18-14 เซยาท์
นักรบหัวล้านเกราะดำชำเลืองมองจอร์จ จากนั้นไปพัก เขาพอใจกับการแสดงออกของจอร์จในฐานะพ่อบ้าน ที่สำคัญที่สุดจอร์จเป็นเทียมเทพและไม่มีท่าทีคุกคามต่อเขา ประการที่สองจอร์จมีพรสวรรค์แน่นอนและเหมาะกับการจัดกองกำลังทั่วทั้งขุนเขา ตอนนี้เชื่อว่าการตัดสินใจของเขาในอดีตที่ไม่ฆ่าจอร์จเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุด
ครั้งนี้บาดเจ็บล้มตายกันมากดังนั้นจอร์จจัดการเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว
ยามราตรีภายในปราสาทบนภูเขา จอร์จยืนอยู่ที่หน้าต่างมองดูพระจันทร์โค้งสีเลือด พระจันทร์สีเลือดนี้เตือนใจเขาว่า.. ที่นี่คือยมโลก! ไม่ใช่ทวีปยูลานบ้านเกิดของเขา
“จะต้องใช้ชีวิตอย่างนี้ไปอีกนานเท่าใด?” จอร์จขำตนเอง “ข้าสงสัยจริงว่าเกิดอะไรขึ้นในทวีปยูลานในช่วงพันปีที่ผ่านมา ด้วยการกระทำที่โหดร้ายของโอดินนั้นเป็นไปได้มากว่าพี่ใหญ่เยลและแม้แต่ปราสาทเลือดมังกรคงจะลำบากอย่างหนัก”
จอร์จเป็นคนที่มีความสงบเยือกเย็นมากอยู่แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมใดที่เขาเผชิญเขาจะปรับตัวเข้าได้อย่างรวดเร็ว
ในยมโลกมีบางอย่างที่ทุกคนรู้ -ภูตผีจะไม่มีความทรงจำของชีวิตในอดีต หลังจากที่พวกเขาพัฒนาและกลายเป็นเทพวิญญาณของพวกเขาจะถูกชำระด้วยกฎธรรมชาติและในขณะนั้นเศษเสี้ยวความทรงจำของชีวิตในอดีตจะได้รับการฟื้นฟูเช่นกัน
เมื่อจอร์จตาย เขากลายเป็นเซียนอยู่แล้ว
เมื่อวิญญาณของเขาถูกดูดไปยมโลมและถูกเปลี่ยนเป็นภูตผี พลังของเขาจะถูกกำหนดโดยพลังวิญญาณ วิญญาณของจอร์จอยู่ในระดับเซียนดังนั้นเมื่อเขากลายเป็นภูตผี เขาจึงกลายเป็นภูตผีระดับเซียน เมื่อจอร์จเป็นภูตผีระดับเซียน จอร์จยังไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับชีวิตในอดีต ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือฆ่าภูตผีอื่นเพื่อกลืนกินวิญญาณของพวกเขามาเสริมพลังให้ตัวเอง!
ขณะที่เขาเสริมพลังให้ตนเอง วิญญาณของเขามีพลังเพิ่มขึ้น และจากนั้นเขาจึงได้รับการรู้แจ้งช้าๆและต่อเนื่อง... และในทันทีเขาก็บรรลุระดับใหม่กลายเป็นเทพ!
ในทันทีที่กลายเป็นเทพแล้ว จอร์จได้ความทรงจำของเขาทั้งหมดกลับคืนมา
เขารู้ว่าในอดีตเขาเคยชื่อ...จอร์จ
ในฐานะมหาเสนาบดีของอดีตจักรวรรดิยูลาน ทักษะทางการทูตและมนุษยสัมพันธ์ของเขายังเหนือกว่าลินลี่ย์มากมาย เมื่อลินลี่ย์ยังเด็กและเรียนอยู่ที่สถานบันเอินส์ จอร์จทำตัวกับสหายตามสบาย และในการปกครองจักรวรรดิยูลาน เขาอยู่ที่บ้านเหมือนกับปลารักน้ำ
ตอนนี้เขาอยู่ในฐานทัพโจร
บางทีพวกเขาก็มีพรสวรรค์ในการฝึกและการรบ แต่ในเรื่องเกี่ยวกับการจัดการ พวกเขายังด้อยกว่าจอร์จห่างไกล ดังนั้นทุกคนยอมรับพรสวรรค์ของจอร์จให้รับตำแหน่งพ่อบ้านอย่างเต็มใจ
“ตอนนี้เป้าหมายแรกของข้าก็คือเก็บเงินให้พอซื้อบ้านในเมือง” จอร์จวางแผนให้กับตนเองแล้ว “ที่สำคัญข้าจะฝึกฝนอยู่ภายในเมืองอย่างปลอดภัย ตอนนั้นข้าจะไม่ต้องใช้พลังมาก” ในฐานะพ่อบ้านสำหรับภูเขานี้ สถานะของจอร์จนับว่าสูงมาก เป็นรองเพียงหัวหน้าของโจรภูเขา เขาสามารถรับประกายเทพแท้และหลอมรวมได้ง่าย แต่เขาไม่ต้องการทำ
เขาต้องการกลายเป็นเทพด้วยตนเอง!
ดังนั้น แม้ว่าเขาไม่กล้ายักยอกเงินโดยเปิดเผย เนื่องจากความสามารถของเขาถ้าเขาแอบรวบรวมสมบัติไว้ในแหวนเก็บของของเขาเอง คนอื่นจะค้นพบได้อย่างไร?
ถ้าบางคนมีเงินพอ ทำไมพวกเขาถึงต้องมาอยู่ในรังโจรด้วยเล่า?
“น่าเสียดาย น้องสามอยู่ในแดนนรก เป็นเรื่องยากมากที่จะได้พบกับเขาอีก” จอร์จถอนหายใจรำพึง
แคว้นนอร์ทบอนกว้างใหญ่ไพศาลจริง อสูรโลหะที่ลินลี่ย์โดยสารบินไปเป็นเวลาหลายเดือนก่อนจะมาถึงทุ่งหญ้านอกเมืองไฮด์
“คฤหาสน์ของเจ้าแคว้นนอร์ทบอนให้ความรู้สึกเหมือนกับเมือง” บีบีจ้องดูผ่านหน้าต่างและพูดชื่นชม “กองกำลังประจำการอยู่ที่นี่มีสถานีเป็นร้อยเป็นพันและมีบ้านเรียงรายเป็นแถว บ้านเหล่านั้นน่าดูจริงๆ และมีปราสาทสูงอยู่ตรงกลาง..ซึ่งต้องเป็นที่อยู่ของเจ้าแคว้น”
ลินลี่ย์ชะเง้อมองเช่นกัน ปราสาทสูงนั้นสูงเกินร้อยเมตร และมีสีขาวดังงาช้าง
“ข้าหวังว่าท่านเจ้าแคว้นจะอยู่ที่บ้าน ”ลินลี่ย์ถอนหายใจกับตัวเอง “ถ้าท่านเจ้าแคว้นนี้ไม่อยู่เที่ยวนี้เราคงเดินทางมาเปล่าประโยชน์” ลินลี่ย์เก็บอสูรโลหะของเขาทันที และจากนั้นเขากับบีบีบินตรงไปที่พักที่อยู่ไกลๆ
คฤหาสน์ของเจ้าแคว้นนอร์ทบอนอยู่ภายใต้การคุ้มกันแน่นหนาและมีทหารลาดตระเวนอยู่หลายคน
“ใครอยู่ตรงนั้น!” ทหารที่อยู่ไกลตะโกนมาแต่ไกล ก่อนที่ลินลี่ย์จะเข้ามาใกล้
แต่ลินลี่ย์และบีบียังคงบินเข้าไปหา ทหารประจำแคว้นสิบกว่าคนบินออกมาข้างหน้าทันทีมีหัวหน้าหน่วยทหารผู้มีเขางอกที่หน้าผาก ผู้นำตะคอก “ที่นี่คือจวนเจ้าแคว้น คนภายนอกไม่อนุญาตให้มาที่นี่ตามอำเภอใจ พวกเจ้าทั้งสองคนจากไปตอนนี้เป็นดีที่สุด”
“โปรดรายงานท่านเจ้าแคว้นว่าผู้อาวุโสลินลี่ย์แห่งตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ต้องการเยี่ยมคารวะเขา” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
“และเราจะเชื่อว่าเจ้าเป็นผู้อาวุโสของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เพียงเพราะแค่เจ้าพูดให้ฟังหรือ?” หัวหน้าหน่วยทหารแค่นเสียง
ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น รัศมีแสงสีเหลืองเข้มแผ่ออกจากร่างของเขากักทหารเหล่านั้นไว้ภายในพวกเขายังไม่ทันระวังตัว ร่างของพวกเขาสั่นเทิ้มและพวกเขาร่วงลงพื้น พวกเขาพยายามกัดฟันและลุกขึ้นยืน
“ทีนี้เจ้าเชื่อข้าได้หรือยัง?” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น ขณะเดียวกันก็ถอนพลังแสงธาตุดิน
“ข้าเชื่อท่านแล้ว ข้าเชื่อท่านแล้ว” ทหารรีบกล่าว
เขาตะลึงอย่างสิ้นเชิง พลังของสนามพลังโน้มถ่วงทำให้เขามั่นใจว่าคนผู้อยู่ข้างหน้าเขานี้มีพลังระดับอสูรเจ็ดดาวแน่นอน “พวกท่านทั้งสองคนโปรดรออยู่ที่นี่สักครู่...ข้าจะไปรายงานก่อน” นายทหารเขาเดียวกล่าวและจากนั้นรีบหมุนตัวและบินไปที่ปราสาทสูงทันที
“ท่านเจ้าแคว้นจะอยู่ไหม?” ลินลี่ย์ถามทหารอื่น
ทหารเหล่านี้ทุกคนเข้าใจว่าสองคนที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดาทหารคนหนึ่งผู้มีเคราดกหัวเราะตอบ “ใต้เท้า! เราเป็นแค่ทหารธรรมดาถ้าหากเจ้าแคว้นออกไป บางทีเราก็อาจไม่ทราบเหมือนกัน อีกไม่นานเมื่อนายกองกลับมาเราจะรู้กัน”
ลินลี่ย์ได้แต่รออยู่เงียบๆ ขณะที่บีบีบ่นอุบ “ข้าหวังว่าท่านเจ้าแคว้นคงไม่ออกไปไหน”
ครู่ต่อมา...
“ลอร์ดลินลี่ย์, ลอร์ดลินลี่ย์” ทหารผู้ทำรายงานตะโกนเข้ามาแต่ไกลขณะที่เขาบินกลับมา เขาเคลื่อนไหวราวกับประกายไฟใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เมื่อท่านเจ้าแคว้นได้รับทราบว่าท่านมาถึงใต้เท้า, เขามีความสุขมาก เขาสั่งให้มีการเตรียมงานจัดเลี้ยงเพื่อต้อนรับท่าน ลอร์ดลินลี่ย์!โปรดตามข้ามาทางนี้ เชิญตามข้ามาทางนี้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลินลี่ย์กับบีบีอดมองหน้ากันเองไม่ได้
“มีมิตรภาพมาก?” บีบีบ่น
“นั่นก็ดีแล้ว” ลินลี่ย์หัวเราะ จากนั้นบินไปข้างหน้า “เชิญนำทาง!”
ขณะที่รีบมาที่ปราสาทบีบีถามผ่านสำนึกเทพด้วยอาการสงสัย “พี่ใหญ่, ดูเหมือนว่าเจ้าแคว้นนอร์ทบอนจะสุภาพมากเมื่อรู้ว่าท่านอยู่ที่นี่เป็นไปได้หรือว่าเขาเคยได้ยินชื่อท่านมาก่อนหรือ? เป็นไปได้หรือว่าชื่อเสียงของพี่ใหญ่จะแพร่กระจายจากแดนนรกมายังยมโลก?”
“เราจะรู้กันเมื่อเราไปพบเขา” ตอนนี้ลินลี่ย์รู้สึกดีใจ “นอกจากนี้, เมื่อเราพบกับท่านเจ้าแคว้น อย่าสร้างปัญหาใดๆ อย่าลืมว่าเรามาขอความช่วยเหลือจากเขา”
“ข้ารู้ ถ้าไม่จำเป็น ข้าก็แค่อยู่อย่างเงียบๆ” บีบีลูบจมูก
ลินลี่ย์อดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ การเดินทางเข้ายมโลกครั้งนี้ดูเหมือนจะค่อนข้างราบรื่น เขาสามารถพบกับเจ้าแคว้นนอร์ทบอนได้ง่าย
“ลอร์ดลินลี่ย์ เรามาถึงแล้ว” ทหารยืนอยู่นอกประตูปราสาท
ลินลี่ย์สามารถเห็นสาวรับใช้ค่อนข้างมากเคลื่อนไหวลำเลียงถาดอาหารลินลี่ย์กับบีบีเข้าไปในปราสาทนี้ทันที
ห่างจากปราสาทของเจ้าแคว้นไปไม่กี่ร้อยเมตร ยังมีปราสาทขนาดเล็กอีกหลังหนึ่ง ขณะนี้เองบุรุษคนหนึ่งอยู่ในชุดยาวสีเทายืนอยู่บนระเบียงเพลิดเพลินกับฉากภาพโดยไม่ตั้งใจ ถ้าลินลี่ย์เห็นคนผู้นี้ ลินลี่ย์คงจำเขาได้ นี่คือคนที่เขาฝันว่าจะต้องฆ่าให้ได้...ราชันย์โฉดจากพิภพจองจำเกบาโดส ‘โอดิน’
เมื่อโอดินมาถึงในยมโลก เขาถูกส่งมาที่นี่โดยกองทหารภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์
ดังนั้นจุดหยุดพักแรกของเขาคือไปแคว้นนอร์ทบอน ขณะที่เดินทางผ่านแคว้นนอร์ทบอน เขาเข้าใจโดยเร็วว่าเนื่องจากระดับพลังปัจจุบันของเขาต่อให้เขาถือว่าเป็นยอดฝีมือในยมโลก เขาก็ยังไม่ถึงระดับพลังที่สุดยอดอย่างแท้จริง ยังไม่มีทางเทียบได้กับเจ้าแคว้นของยมโลกได้ และขณะที่เดินทางเขาได้พบกับเจ้าแคว้นนอร์ทบอน
หลังจากซ้อมฝีมือกับเจ้าแคว้นหลายครั้ง เขายอมรับพลังอีกฝ่ายหมดใจ ดังนั้นเขากลายเป็นบริวารของเจ้าแคว้นกลายเป็นทูตอันดับสามที่ควบคุมโดยเจ้าแคว้นนอร์ทบอน
“เอ๊?” โอดินมองดูจากระยะไกลด้วยความประหลาดใจ
เขาเห็นคนสองคนถูกพาตัวไปที่ปราสาทเจ้าแคว้น
“พวกมันนั่นเอง!” ม่านตาของโอดินหรี่แคบ และหน้าของเขาเปลี่ยนไปมาก “เจ้าลินลี่ย์มายังยมโลกได้ยังไง?” โอดินจะลืมความอัปยศความทุกข์ทรมานใจที่ร่างแยกธาตุลมของเขาได้รับเมื่อตอนที่อยู่ในทวีปยูลานได้อย่างไร? ต่อให้ความอับอายแบบนั้นที่ทำกับเขาเป็นเรื่องระดับพื้นๆ ก็ตาม.....
แต่สำหรับโอดิน มันคือความอัปยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาได้รับ!
เขาเกลียดลินลี่ย์!
ตอนนั้นเขาขู่ลินลี่ย์อย่างดุดัน กล่าวท้าทายให้ลินลี่ย์มาหาเขาที่ยมโลก
แต่ใครจะคิดกันเล่าว่าลินลี่ย์กลับมาที่ยมโลกจริงๆ! “ดูเหมือนว่าเขาจะติดตามมาฆ่าข้า” สายตาของโอดินเย็นชา “เขายังกล้ามาพบกับเจ้าแคว้น ลินลี่ย์รู้ว่าข้าอยู่ที่นี่หรือว่าเขามาที่นี่ด้วยธุระอื่น?” โอดินยังคงสงสัยว่าลินลี่ย์รู้ว่าเขาอยู่ที่นี่หรือไม่
ถ้าเขารู้ ลินลี่ย์จะกล้ามาพบกับเจ้าแคว้นอย่างเปิดเผยหรือ?
ต้องเข้าใจก่อนว่าโอดินเป็นบริวารของเจ้าแคว้น
“ข้าก็ต้องแค่ปล่อยเลยตามเลย ใครจะคิดกันว่าเจ้าจะไล่ตามข้าเข้ามาในยมโลก?ฮึ่ม” โอดินโกรธจัด เขาเคลื่อนไหวทันทีเขาบินออกจากปราสาทตนเองเข้าไปที่ปราสาทของเจ้าแคว้น
ร่างแยกธาตุลมส่งความรู้สึกถึงพลังของลินลี่ย์มาให้เขาอย่างสมบูรณ์แบบ โอดินเข้าใจว่า..ในแง่พลังโจมตีวัตถุลินลี่ย์เหนือเขามาก ต่อให้เป็นพลังโจมตีวิญญาณ...ลินลี่ย์ก็มีพลังพอเล่นงานเขาโอดินให้ตกอยู่ในสภาพมึนงงและสูญเสียสัมปชัญญะได้ ด้วยการกระทำนี้โอดินแน่ใจว่า...
ลินลี่ย์ไม่ได้อ่อนแอมากกว่าเขาในแง่พลังโจมตีวิญญาณเช่นกัน!
“จะฆ่าลินลี่ย์ด้วยมือข้าเอง..ข้าคงไม่อาจทำได้ ข้าจะต้องขอให้ท่านเจ้าแคว้นช่วย” โอดินบินไปตามประตูด้านข้างทันที และเข้าไปในปราสาทเจ้าแคว้น ทหารทุกคนรู้ว่าโอดินเป็นใครดังนั้นจึงไม่ขัดขวางเขา
ภายในห้องจัดเลี้ยงอาคันตุกะ
บนโต๊ะยาวเต็มไปด้วยอาหารเลิศรสต่างๆและเหล้าชั้นดีถูกจัดเรียงไว้อย่างดี ลินลี่ย์และบีบีนั่งอยู่ทางด้านหนึ่งขณะที่ด้านหน้าของพวกเขาเป็นสตรีผู้สง่างามในชุดสีฟ้า ในที่นั่งเจ้าภาพมีบุรุษวัยกลางคนผู้สง่างามอยู่ในชุดขาวเคราขาวกำลังยิ้มแย้มแจ่มใส
บุรุษวัยกลางคนผู้นี้คือเจ้าแคว้นนอร์ทบอน
“ลินลี่ย์, แม้ว่าข้าจะอยู่ในยมโลก แต่ว่าข้าได้ยินชื่อเสียงของผู้อาวุโสลินลี่ย์แห่งเผ่ามังกรฟ้ามาแล้ว เนื่องจากเจ้ามาเยี่ยมเยียนข้าในวันนี้ลินลี่ย์ นับเป็นโอกาสที่ดีจริงๆ” บุรุษวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ข้าขอแนะนำก่อน นี่คืออานิตาภรรยาของข้า! โอ.. ข้าลืมแนะนำตนเอง ข้าชื่อเซยาท์
“ท่านเซยาท์ท่านหญิงอานิตา” ลินลี่ย์ยิ้ม “นี่คือสหายของข้า บีบี” บีบีฉีกยิ้มทันที
ลินลี่ย์มีความพอใจมาก เนื่องจากการสนองตอบของเจ้าแคว้นน่าจะทำให้เจรจากับเขาได้ง่าย
“ข้าเพิ่งได้ยินเรื่องของเจ้ามายังไม่นานนัก ลอร์ดลินลี่ย์ครั้งนี้เจ้าเดินทางมาที่แคว้นข้า นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีระคนประหลาดใจจริงๆ ลอร์ดลินลี่ย์!ข้าขอถามได้ไหม? มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษที่เจ้ามาที่นี่?” เซยาท์ยิ้ม นัยน์ตาของเขาเป็นประกาย “ถ้ามีอะไรที่เจ้าต้องการ เชิญพูดได้, ข้า เซยาท์ถ้าช่วยได้ ก็ยินดีช่วย”
ลินลี่ย์รู้สึกโล่งใจ และบีบีที่อยู่ใกล้ๆหัวเราะทันที “ท่านสามารถช่วยได้แน่นอนที่สำคัญท่านเป็นทูตมหาเทพ”
เซยาท์สะดุ้ง จากนั้นจากนั้นหัวเราะและพยักหน้า
“ท่านเซยาท์ ปัญหาใหญ่ที่ข้ามีเป็นธุระที่สำคัญมาก ดังนั้นข้าจำเป็นต้องพบกับมหาเทพยมโลก เพียงแต่..ข้าไม่รู้ว่าพวกท่านอยู่ที่ใด ข้าอยากจะถามท่านเซยาท์ พอจะให้คำแนะนำได้ไหมว่าข้าจะไปพบมหาเทพยมโลกได้ที่ใด ไม่จำเป็นต้องเป็นคนใดโดยเฉพาะเจาะจง เป็นคนใดก็ได้ในเจ็ดมหาเทพ” ลินลี่ย์รีบบอก
“เจ้าต้องการพบกับมหเทพ?” เซยาท์ตกใจ และภรรยาของเขาที่อยู่ใกล้ๆจ้องมองลินลี่ย์และบีบีด้วยความประหลาดใจ
“เจ้าบอกข้าได้ไหมทำไมเจ้าถึงต้องการไปพบกับมหาเทพยมโลก?” เซยาท์ถาม
ลินลี่ย์ลังเลเล็กน้อย
เซยาท์หัวเราะทันที “ข้าก็แค่ถามดูเท่านั้น ได้..ถ้าเจ้าต้องการพบกับมหาเทพ นี่ค่อนข้างจะยุ่งยาก ข้ารู้ว่ามหาเทพยมโลกอาศัยอยู่ที่ใด แต่ต่อให้เจ้าไปถึงที่นั่น ถ้ามหาเทพไม่ต้องการพบเจ้าการเดินทางของเจ้าก็สูญเปล่า มหาเทพมีความภูมิใจและศักดิ์ศรีเป็นของตนเอง”
ลินลี่ย์รู้สึกดีใจ อย่างนั้นเซยาท์ก็รู้แน่นอน!
“ท่านเซยาท์โปรดบอกสถานที่พำนักของมหาเทพแก่ข้าด้วยเถิด ไม่ว่ามหาเทพจะยินดีให้ข้าเข้าพบหรือไม่นั่นคงจะขึ้นอยู่กับโชคของข้า” ลินลี่ย์รีบกล่าว
เซยาท์ลังเลเล็กน้อย จากนั้นพยักหน้าเล็กน้อย
ขณะนั้นเอง...
“ท่านเจ้าแคว้น!” เสียงๆ หนึ่งดังก้องในใจของเซยาท์ เซยาท์อดหงุดหงิดไม่ได้ จากนั้นส่งสำนึกเทพตอบ “โอดิน, มีอะไร?”