CD บทที่ 307 การแก้แค้นอย่างเฉพาะเจาะจง
“ฮึ่ม! ฉันมันโง่เองที่คิดจริงจังเรื่องเดิมพัน รู้งี้ฉันทำเป็นหูทวนลมซะดีกว่า ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อน ไปล่ะ!!”
เหมี่ยวอิงต้องการออกไป แต่จ้าวหยู่รีบดึงมือเธอไว้
“หัวหน้าทีมเหมี่ยว เรามาพูดเรื่องนี้อย่างจริงจังกันดีกว่า ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำตัวเป็นทำตัวรุ่มร่ามกับคุณ ตกลงมั้ย?”
“จริงจัง? ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คุณคิดจริงจัง?” เหมี่ยวอิงตอบกลับ แต่เธอไม่ได้พยายามสลัดมือออกจากมือจ้าวหยู่
“พวกเราต่างก็เป็นนักสืบ ดังนั้นอย่าพยายามเก็บซ่อนอะไรไว้ใต้พรมจะดีกว่า เพราะสุดท้ายพวกเราก็มองออกอยู่ดี” จ้าวหยู่พูดอย่างตรงไปตรงมา “บอกฉันที ทำไมวันนี้คุณทำตัวผิดปกติจัง?”
“ผิดปกติ?” เหมี่ยวอิงรู้สึกสับสน
"ฮิฮิ อย่าบอกนะว่าไม่มีอะไรระหว่างคุณกับเหลยปิ่น ฉันคือเชอร์ล็อก โฮล์มส์นะ บอกฉันมาสิ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?"
สิ่งที่จ้าวหยู่พูดทำให้เหมี่ยวอิงดูกระอักกระอ่วนทันที
“หัวหน้าทีมเหมี่ยว!” จ้าวหยู่ลูบไล้มือของเหมี่ยวอิงแล้วพูดว่า "เรื่องบางเรื่องเก็บมันไว้ข้างในก็ไม่ดี บางครั้งปล่อยมันออกไปเลยดีกว่า บอกฉันมาสิ..."
"เฮ้อ! ฉันคงซ่อนมันจากคุณไม่ได้สินะ" เหมี่ยวอิงได้ตอบกลับ "เมื่อฉันเห็นเหลยปิ่นวันนี้ ฉันตั้งใจจะเดินออกไป ฉันอยากไปพ้น ๆ หน้าเขา! แต่ทว่าดันเกิดเรื่องขึ้นซะก่อน ฉันจึงไปไหนไม่ได้ โชคดีที่คุณอยู่ที่นั่น!"
เหมี่ยวอิงถอนหายใจอีกครั้งก่อนที่จะเดินทางไปตามเส้นทางแห่งความทรงจำ
"ตอนนั้นฉันอายุประมาณ 13 ปี เหลยปิ่นเป็นรุ่นพี่ของฉัน ตอนที่เราฝึกเทควันโด เขาอายุมากกว่าฉัน 4 ปี ฉันต้องยอมรับว่าเขาหน้าตาดีมาก เด็กผู้หญิงทุกคนที่เล่นเทควันโดต่างสนใจในตัวเขา รวมทั้งตัวฉันเองด้วย...”
“เมื่อฉันหลงใหลในตัวเขา ฉันจึงไม่มีสมาธิทุกครั้งที่ต่อสู้กับเขา ฉันจึงแพ้ถึง 9 ครั้ง ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงเอาชนะเขาไม่ได้ หรือเป็นเพราะฉันกำลังชื่นชอบเขาอยู่”
“อืม…” จ้าวหยู่ถาม “แล้วเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้นรึเปล่า?”
"ต่อจากนั้น?" เหมี่ยวอิงกล่าวว่า "ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่รู้สึกเหมือนแผลเก่าได้ถูกเปิดขึ้นมา เมื่อฉันเห็นเขาก่อนหน้านี้ มันทำให้ฉันนึกถึงตัวเองในตอนเด็ก อันที่จริง ฉันอยากจะต่อสู้กับเขาอีกครั้งจริง ๆ แต่ในหัวของฉันเต็มไปด้วยเรื่องต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามากังวลและทำให้ฟุ้งซ่านมากเกินไป!"
"แล้วมีอะไรอีกรึเปล่า!?" จ้าวหยู่รู้สึกทนไม่ไหว เขาจึงโพล่งขึ้นมาว่า "พวกคุณสองคนคงไม่ได้ทำเรื่องบางอย่างจนเกินเลย แล้วทำให้ต้องจบเรื่องด้วยการต่อสู้ใช่มั้ย?"
“ไม่มีทาง สำหรับผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ การมีสิ่งกีดขวางทางจิตใจเป็นเรื่องที่รับไม่ได้! นั่นเป็นเรื่องน่าอับอายมาก!” ทันใดนั้น เหมี่ยวอิงก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้และถามว่า "อย่าบอกนะว่าคุณกำลังคิดเรื่องลามกอยู่ จิตใจของคุณช่างสกปรกจริง ๆ!"
“ปะเปล่านะ ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย” จ้าวหยู่หัวเราะ "คุณไม่ต้องกังวลไป ถึงมีเรื่องอย่างว่าจริง ๆ ฉันก็พร้อมให้อภัยคุณเสมอ ฉันไม่สนใจอดีตของคุณ ฉันสนใจแต่ร่างกายของคุณ เงินของคุณ และรถหรูของคุณ! ตอนที่เราคบกัน ฉันขอขับรถได้ไหม?"
"เฮ้อ! ไหงเรื่องถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้?“เหมี่ยวอิงหงุดหงิด”สงสัยหัวของคุณคงจะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง!"
"บาดแผลแค่นี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก" จ้าวหยู่หัวเราะเบา ๆ และยังคงจับมือของเหมี่ยวอิงไว้แน่น “ไม่ว่ามันจะเป็นบาดแผลแบบไหน ฉันก็ยินดีรับมันแทนคุณ เอาล่ะ ตอนนี้คุณควรจะขอบคุณฉันสำหรับเรื่องนั้นนะ?”
"ขอบคุณคุณ?" เหมี่ยวอิงส่ายหัวของเธอ "แทนที่จะขอบคุณ ฉันอยากไขคดีให้เร็วที่สุดมากกว่า ถ้าเราไม่รีบลงมือ บางทีอาจมีเหยื่อรายใหม่ หากคนทั่วไปรับรู้สิ่งที่ฆาตกรทำ มันจะส่งผลกระทบในวงกว้าง เราต้องทุ่มทุกอย่างที่มีสำหรับคดีนี้ ไม่ว่าจุดประสงค์จะเพื่อส่วนรวมหรือส่วนตัวก็ตาม!"
"อืม..." จ้าวหยู่ปล่อยมือจากเหมี่ยวอิง จากนั้น เขาก็พูดถึงคดีนี้ "ถ้าเป็นเช่นนั้น เราต้องไปคุยกับแผนกคนหายก่อน เพื่อให้พวกเขาเร่งตรวจสอบคนที่หายไปเมื่อเร็ว ๆ นี้อย่างใกล้ชิด"
"ฉันแจ้งพวกเขาเรียบร้อยแล้ว!" เหมี่ยวอิงมองเขาและพูดอย่างเคร่งขรึม "เกี่ยวกับคดีนี้ ถ้าคุณมีนึกอะไรขึ้นมาได้ คุณช่วยรีบมาบอกฉันทันที เข้าใจมั้ย?”
"ฮิฮิฮิ! สิ่งที่ฉันคิดมันสำคัญมากขนาดนั้นเลยเหรอ?"
"สำคัญหรือไม่นั้นฉันไม่รู้! แต่มีคดีไหนบ้างในสถานีหรงหยางที่คุณไขไม่ได้" เหมี่ยวอิงตอบ "อย่างที่ฉันเคยพูด ถึงฉันไม่ชอบคุณ แต่ฉันชื่นชมในความสามารถของคุณ!"
"ถ้าคุณอยากรู้ล่ะก็ ตามฉันมาที่บ้าน เดี๋ยวฉันจะบอกคุณทุกอย่างเอง!" จ้าวหยู่ตอบอย่างขี้เล่น
เหมี่ยวอิงที่ทนไม่ไหว เธอรีบคว้าหูของเขา จากนั้นเขาก็รีบพูดว่า
"ใจเย็น ๆ อย่างเพิ่งใจร้อน! ฉันกำลังจะบอกคุณแล้ว!”
“อะแฮ่ม… สิ่งที่ฉันคิดคือ…” จ้าวหยู่จัดความคิดของเขาใหม่ในขณะที่เขาพูดว่า "สิ่งเดียวที่ฉันไม่เข้าใจคือแรงจูงใจ ทำไมฆาตกรถึงทำให้พวกเหยื่ออดตาย ถ้านี่เป็นการแก้แค้นแบบทั่ว ๆ ไปคงไม่มีใครใช้วิธีการแบบนี้!"
เหมี่ยวอิงฟังอย่างระมัดระวัง จ้าวหยู่สามารถค้นหามุมมองที่แตกต่างได้ทุกครั้ง
"การทำให้ใครบางคนอดอาหารจนตาย ปิดผนึกด้วยถุงสุญญากาศแล้วใส่ไว้ในธนาคาร" จ้าวหยู่วิเคราะห์ "มันเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนแถมกินเวลานาน ฆาตกรต้องมีอดทนมาก แถมเขายังต้องการสถานที่ที่ห่างไกลจากผู้คนด้วย นอกจากนี้ เขายังจ่ายค่าเช่ากล่องนิรภัยล่วงหน้าเป็น 10 ปี ดังนั้น เขาต้องรวยมากแน่ ๆ!”
"คนที่ร่ำรวย มีอิสระสูง และมีนิสัยแปลกประหลาดที่ทำให้คนอดอาหารจนตาย!" จ้าวหยู่ถามเหมี่ยวอิงว่า "คุณคิดว่ามันสมเหตุสมผลไหม?"
“จากการตรวจสอบในฐานข้อมูล” เหมี่ยวอิงกล่าว "อย่างน้อยในฉินซาน ไม่เคยมีใครพยายามทำให้คนอื่นอดตายสักครั้ง!"
"แน่นอน! ทำไมคุณถึงต้องการทำให้ใครบางคนอดตาย?" จ้าวหยู่ เริ่มคาดเดา “บางทีฆาตกรอาจเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับอาหารมาก เขาไม่ชอบเห็นใครทิ้งอาหาร ดังนั้นเขาจึงอดอาหารคนเหล่านั้น”
"ฉันก็เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเหมือนกัน!" เหมี่ยวอิงกล่าว "แต่กงซิวเจิ่นและสามีของเธอต่างก็เป็นภารโรง พวกเขาสองคนใช้ชีวิตอย่างสมถะและเรียบง่าย พวกเขาควรอยู่อย่างประหยัด และไม่มีทางกินทิ้งกินขว้างแน่นอน!"
"นั่นก็จริง" จ้าวหยู่เห็นด้วย “ถ้าอย่างนั้น เหยื่อน่าจะเป็นคนอ้วน แต่ถ้าฆาตกรไม่ได้มุ่งเป้าไปที่คนประเภทใดประเภทหนึ่ง นั่นหมายความว่าเขากำลังทำการแก้แค้น!”
“แก้แค้น?” เหมี่ยวอิงสงสัย "แต่คุณไม่ได้พูดเองเหรอว่า ไม่มีใครแก้แค้นแบบนี้"
"ใช่ ปกติไม่มี แต่... มันก็มีบางคนที่เลือกจะแก้แค้นโดยใช้วิธีการเฉพาะเจาะจงอย่างนี้!" จ้าวหยู่กล่าว
“การแก้แค้นแบบเฉพาะเจาะจง?” เหมี่ยวอิงรู้สึกสับสน
"ใช่!" จ้าวหยู่เดาว่า "ตัวอย่างเช่น บางทีฆาตกรอาจเคยถูกจับเป็นเชลยมาก่อนและเกือบตายเพราะอดอาหาร ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจแก้แค้นด้วยการอดอาหาร"
“ไม่มีทาง” เหมี่ยวอิงส่ายหัว “เราไม่พบความคล้ายคลึงกันระหว่างเหยื่อทั้งหกคนเลย แล้วพวกเขาไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ!”
"ขบวนการค้ามนุษย์!" จู่ ๆ จ้าวหยู่ก็โพล่งขึ้น “แล้วถ้าเป็นขบวนการค้ามนุษย์ล่ะ? ถ้าพวกเขาทั้งหกเป็นผู้ค้ามนุษย์ พวกเขาไม่ได้ให้อาหารฆาตกรเลย เมื่อเขาหนีออกมาได้ เขาจึงกลับมาแก้แค้น”
"เฮ้อ! ฉันล่ะปวดหัวจริง ๆ" เหมี่ยวอิงส่ายหัวของเธอ “ตอนที่เราเริ่มทำการสอบสวน เราได้ตรวจสอบประวัติของเหยื่ออย่างละเอียดแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่รู้ว่าผู้ต้องสงสัยหรือเหยื่อเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ ถงหยุนยังถูกฆ่าตายเมื่อเธออายุได้ 23 ปี ถ้าฆาตกรตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์จริง ๆ มันต้องเกิดขึ้นมานานแล้ว และถงหยุนในตอนนั้นก็คงเป็นเด็กด้วย!"
“ถ้าอย่างนั้น ก็ต้องเป็นลูกของฆาตกรที่ตกเป็นเหยื่อ และคนเหล่านี้ทำให้เขาอดอาหารตาย ดังนั้นฆาตกรจึงทำการแก้แค้น!” จ้าวหยู่คาดเดาอีกครั้ง
"อย่างที่ฉันบอก เหยื่อไม่ใช่ผู้ค้ามนุษย์! กงซิวเจิ่นและสามีของเธอเป็นภารโรงที่ซื่อสัตย์ พวกเขาเป็นผู้ค้ามนุษย์ได้อย่างไร?" เหมี่ยวอิงคัดค้าน “ลองคิดดูอีกที อาจมีเหตุผลอื่นอีกไหม? ฉันคิดว่าการเดาของคุณน่าจะใกล้เคียงความจริงแล้ว ถ้าฆาตกรไม่ได้สุ่มฆ่า เราอาจพบตัวเขา!”
"ใช่แล้ว! ลองคิดอีกที... ลองคิดอีกที..." จ้าวหยู่ก็คิดแบบเดียวกับเหมี่ยวอิง
ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิด ก็มีลมโชยมาจากหน้าต่างและเขาก็จาม
"ฮัดชิ่ว..."
หลังจากจาม ระบบปาฏิหาริย์ก็เปิดใช้งานและคำทำนายของวันนี้ได้ปรากฏขึ้นมา...